Biei Day Trip : รวมจุดชมธรรมชาติที่สวยไม่เบาในเมืองแห่งเนินเขาบิเอ

ถ้าความสุขเล็กๆ ของคุณคือการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เมืองบิเอ (Biei) บนเกาะฮอกไกโดที่เราจะบอกเล่าต่อไปนี้ ก็เป็นสถานที่ที่ควรไปเยือนสักครั้ง เมืองนี้มีเสน่ห์มากเรื่องแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทุ่งดอกไม้สวยบนเนินเขา น้ำตกและสระน้ำธรรมชาติสีฟ้าใส ทัศนียภาพธรรมชาติมากมายที่เห็นเมื่อไรหัวใจก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมา หากไม่รู้จะปักหมุดเริ่มจากตรงไหน ก็แนะนำว่าให้ไปตั้งต้นที่สถานีรถไฟบิเอ (Biei Station)

01 Shirahige Waterfall

น้ำตกชิราฮิเกะ เป็นน้ำตกสวยสูงราว 30 เมตร ที่เกิดจากน้ำใต้ชั้นดินของเทือกเขาโทคาจิ (Tokachi Mountains) ตกกระจายลงมาจากหินลาวาแลดูคล้ายกับเป็นหนวดสีขาว จึงมีอีกชื่อเรียกว่า “น้ำตกหนวดขาว” ก่อนจะไหลไปตามแม่น้ำ 

น้ำตกนี้ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของหมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนชิโรกาเนะออนเซ็น (Shirogane Onsen) มีทิวทัศน์โดยรอบเป็นป่าไม้ที่จะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล ช่วงหน้าร้อนมีใบไม้เขียวชอุ่ม ฤดูใบไม้ร่วงห้อมล้อมด้วยใบไม้แดง ฤดูหนาวกับทิวทัศน์ที่ปกคลุมด้วยหิมะ หากใครมีโอกาสมาเที่ยวพักผ่อนที่หมู่บ้านแห่งนี้ ก็อย่าพลาดแวะเช็คอินที่น้ำตกชิราฮิเกะด้วยล่ะ 

ในช่วงที่อากาศหนาวจัดละอองน้ำที่กระเซ็นจากน้ำตกก็จะไปเกาะกับต้นไม้เกิดเป็นวิวน้ำค้างแข็ง แต่น้ำในแม้น้ำจะไม่กลายเป็นน้ำแข็ง เกิดเป็นภาพแม่น้ำสีฟ้าใสตัดกับสีขาวของหิมะโดยรอบ รับรองว่าสวยจนอดยิ้มไม่ได้ มุมถ่ายภาพแนะนำคือจากบนสะพาน Blue River Bridge ตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟไลท์อัพสร้างบรรยากาศในอีกรูปแบบหนึ่งด้วย

02 Shirogane Blue Pond

สระน้ำสีฟ้าชิโรกาเนะ อยู่ไม่ไกลจากน้ำตกชิราฮิเกะมากนัก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังระดับที่บริษัท Apple ได้นำภาพของสระน้ำแห่งนี้ไปใช้เป็นวอลเปเปอร์ในระบบ iOS

ลักษณะเด่นคือ น้ำในสระมีสีฟ้าสวยมาก ประกอบกันต้นคารามัตสึที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำสร้างบรรยากาศให้ดูสวยแปลกตา มีหลายแหล่งข้อมูลที่ระบุว่าช่วงที่เรามองเห็นน้ำเป็นสีฟ้ามากที่สุดก็ต้องช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนมิถุนายน

เราสามารถไปเที่ยวสีฟ้าชิโรกาเนะได้ตลอดทั้งปี ในฤดูร้อนน้ำในสระจะส่องประกายเป็นสีฟ้าชัดเจน ช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้รอบสระค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีโทนร้อนที่งดงาม แต่ในฤดูหนาวก็มีการจัดแสงไฟประดับในยามค่ำคืนที่สวยจับใจไปอีกแบบ หากสนใจไปเที่ยวในช่วงที่มีการจัดแสดงไฟประดับ แนะนำให้ใช้บริการ BIYU Bus Light-Up Course ที่จัดโดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบิเอ จะได้ชมและรับฟังข้อมูลแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

03 Hokusei-no-oka Observatory Park

โฮคุเซ โนะ โอกะ สวนสาธารณะชมวิวบนเนินเขาเล็กๆ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 พระเอกของที่นี่คือ “หอสังเกตการณ์รูปทรงพีระมิด” จากด้านบนนี้จะมองเห็นทัศนียภาพสวนดอกลาเวนเดอร์และดอกทานตะวันด้านล่างที่จะบานสะพรั่งในฤดูร้อน พร้อมฉากหลังเป็นเทือกเขาไดเซ็ตสึซัง (Daisetsuzan) 

ภาพ: www.mybiei.jp/article/biei_flower_fields/

นอกจากนี้ ในบริเวณพื้นที่เดียวกันยังมีจุดให้บริการข้อมูลการท่องเที่ยว ห้องน้ำสาธารณะ ร้านค้าต่างๆ และแกลเลอรี่ เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินเล่นชมสิ่งต่างๆ ได้ตามความสนใจ  

04 Ken and Mary Tree

ห่างออกไปจากสวนโฮคุเซ โนะ โอกะประมาณ 800 เมตร มีต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่บนเนินเขาชื่อว่า “เคนแอนด์แมรี่” โด่งดังขนาดที่เคยออกทีวีมาแล้วจากฉากต้นไม้ในโฆษณารถยนต์ Nissan Skyline ซึ่งออกอากาศในญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 1976 ชื่อของต้นไม้ก็มีที่มาจากตัวละครในโฆษณานั่นเอง

ภาพ: www.good-hokkaido.info/en/ken-mary-tree-biei/

ใกล้ๆ กันนี้มีคาเฟ่ TREE TERRACE จำหน่ายทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งอยู่ภายในโรงแรมเล็กๆ ชื่อ Pension Ken and Mary นั่งกินไปพร้อมชมวิวไปเพลินสุดๆ จากคาเฟ่ก็สามารถมองเห็นวิวต้นไม้สวย แต่จุดถ่ายภาพต้นไม้ที่คนญี่ปุ่นบอกต่อกันว่าดีที่สุดคือบริเวณหอชมวิวของ Zerubu Hill 

05 Shikisai-no-oka Flower Garden

สวนดอกไม้ชิกิไซโนะโอกะ มีอีกชื่อเรียกว่า “เนินสีสันสี่ฤดู” เป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปที่สวยงามมากแห่งหนึ่งบนเกาะฮอกไกโด ใครเป็นสายทุ่งดอกไม้ บอกเลยว่าควรมาที่นี่! เพราะมีดอกไม้ให้ชมได้ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิยาวถึงฤดูใบไม้ร่วง บนพื้นที่กว้างใหญ่กับฉากหลังเป็นทิวทัศน์เนินเขา เกิดเป็นทัศนียภาพที่ดูโดดเด่นทอดสายตาไปตรงไหนก็สวยสบายตา

ถ้าอยากชมลาเวนเดอร์ก็ต้องมาตอนกรกฎาคม ถ้าอยากถ่ายรูปกับดอกไม้สีสดๆ อย่างดอกซัลเวียก็ต้องมาตอนสิงหาคม โดยเฉพาะยิ่งถ้าเป็นช่วงกรกฎาคมถึงกันยายนวิวดอกไม้ก็จะเห็นเหมือนเป็นพรมดอกไม้ไล่สีกันอย่างงดงาม แต่ถ้าอยากเห็นเทือกเขาแปลงโฉมเป็นป่าใบไม้แดงก็ต้องมาตอนช่วงเดือนกันยายน 

ภายในเขตอุทยานพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มียานพาหนะอำนวยความสะดวกหลายอย่างให้เราได้เลือกใช่บริการ ไม่ว่าจะเป็นรถกอล์ฟ รถบัคกี้ ฯลฯ แต่เราอยากแนะนำให้ลองนั่ง “Shikisai Norokko” รถแทรกเตอร์พ่วงที่นั่งด้านหลังยาวเหมือนรถไฟเล็กๆ ชมทุ่งดอกไม้ก็สนุกไปอีกแบบ นอกจากนี้ภายในสวนยังมีโซนฟาร์มอัลปาก้าอยู่ด้วย แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

อ่านบทความท่องเที่ยวฮอกไกโดทั้งหมดได้ที่นี่

• แจกพิกัด 85 ร้านราเมนเด็ดที่ควรลองในฮอกไกโด
• Hakodate in 3 days เติมรอยยิ้มแต้มความสดใสไปกับหิมะขาวที่ฮาโกดาเตะ
• Hamanaka Lupin เมืองแห่งจอมโจรลูแปงในฮอกไกโด

ที่มา: www.facebook.com/visithokkaido.th/