กว่าจะมาเป็นกระเป๋า “เบาเบา” ของเราเรากันนั้น
BAO BAO
หมิวเชื่อสุดใจขาดดิ้นค่ะว่า สาวๆ หนุ่มๆ ที่ชื่นชอบแฟชั่น หรือเพียงแค่รู้จักประเทศญี่ปุ่น กว่า 80% ทุกคนต้องรู้จักกับกระเป๋าสะพาย ลายตารางขีดไปมา วัสดุพลาสติก ที่มีความพับๆ เปิดๆ ปรับเปลี่ยนทรงได้ตามใจ มองเผินๆ เอ๊ะ! เหมือนของเล่น ดูไปดูมาก็ถือโอกาสไปจับจองเป็นเจ้าของโดยไม่รู้ตัว
กระเป๋าที่ว่านี้ ก็คือ BAO BAO ISSEY MIYAKE นั่นเองจะใครเล่า เจ้ากระเป๋าสุดเก๋ใบนี้ ที่แท้แล้วมีต้นกำเนิดมาจากส่วนหนึ่งเล็กๆ ใต้แบรนด์ PLEATS PLEASE ของ ISSEY MIYAKE ในอดีตสมัยปี 2000 เคยมีชื่อว่า BILBAO จนกระทั่งถึงคอลเล็กชันฤดูหนาวปี 2010 จึงแยกตัวกำเนิดเป็นแบรนด์ใหม่ ชื่อว่า BAO BAO อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน
ที่มาที่ไปของ BAO BAO นอกจากจะแค่เป็นกระเป๋าถือให้ดูเก๋ไก๋นั้น แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เกิดดีไซน์สุดล้ำนี้ มาจากการเห็นแผ่นเหล็กที่เชื่อมต่อกันของสถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์ Guggenheim Museum Bilbao ในประเทศสเปน ซึ่งลักษณะของตัวอาคารจะไม่มีส่วนใดที่เรียบตรง เต็มไปด้วยความเว้าโค้งมีชีวิตชีวา เสมือนกับว่าตัวอาคารเป็นสิ่งมีชีวิตเลยก็ว่าได้
ณ ตอนนั้น ดีไซเนอร์ฮิคารุ มัตสึมุระ (Hikaru Matsumura) เห็นถึงความงดงามนี้ จึงได้คิดหาวิธีในการออกแบบ ที่จะทำให้กระเป๋าใบใหม่ของ PLEATS PLEASE ไม่เหมือนกับที่ตลาดเคยมีมา มีรูปทรงที่แตกต่าง จนสุดท้าย ได้สร้างมิติในการออกแบบด้วยการนำเอาลูกเล่นสามเหลี่ยมทั้งหลายมาต่อตัวกันบนผ้า Mesh หรือผ้าตาข่ายในลักษณะแนวราบหรือ 2D แต่เมื่อนำสิ่งของมาใส่ลงไปในกระเป๋า เจ้ากระเป๋าน้อยๆ นี้ ก็จะให้กำเนิดรูปแบบใหม่ ซึ่งทำให้เกิดความสวยงามแบบคาดไม่ถึง ทั้งดูน่าสนุกและชวนน่าสงสัย แถมรูปทรงจะปรับเปลี่ยนไปตามวัตถุสิ่งของที่อยู่ด้านใน ถึงแม้ว่าเราจะเดินสวนกับคนที่ใช้กระเป๋ารุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน เพียงแค่บรรจุสิ่งของคนละแบบ ก็จะได้รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันแล้ว นอกจากนั้น ตัวกระเป๋ายังใช้งานได้จริง แถมถึกทนมากๆ อีกด้วย ต้องนับถือแบรนด์แม่อย่าง ISSEY MIYAKE จริงๆ ที่สร้างสรรค์เครื่องใช้ที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและฟังก์ชั่นไปพร้อมๆ กัน
แต่แค่ความสร้างสรรค์ คงไม่เพียงพอที่จะทำให้กระเป๋ารูปทรงประหลาดในตอนนั้น เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก เพราะในช่วงแรกที่กระเป๋า BAOBAO นี้เปิดตัว เรียกได้ว่าเจ้าของโปรเจกต์ต้องกุมขมับหนัก
เพราะใครจะมาเข้าใจในความแปลกใหม่นี้ จนกระทั่งพิพิธภัณฑ์ศิลปะชื่อดังแห่งมหานครนิวยอร์กอย่าง MoMA (Museum of Modern Art) ได้ลงเนื้อหาของกระเป๋า BAOBAO ลงในแคตตาล็อก เพื่อให้ลูกค้าสั่งซื้อ เท่านั้นแหละค่ะ โลกทั้งโลกก็หันมาจับตามองแบบไม่กะพริบ และเป็นต้นเหตุให้กระเป๋า BAOBAO เป็นที่ต้องการกันล้นหลามมาจนถึงปัจจุบัน จนต้องเปิดเป็นแบรนด์ต่างหากอย่างที่บอกไว้ในช่วงต้น
พอรู้ความเป็นมาของกระเป๋าเก๋ๆ ใบนี้แล้ว ก็ประทับใจในความสร้างสรรค์ของนักออกแบบนะคะ ที่ทั้งกล้าหลุดออกจากกรอบคำว่ากระเป๋า Hi-end แบบเดิมๆ ที่ยึดติดกับการใช้วัสดุประเภทหนังซึ่งดูแลรักษายาก แถมไม่ถึกทน เขากล้าที่จะออกมาสร้างโลกใบใหม่ ให้คนมาหลงใหลในดีไซน์ที่แตกต่าง หมิวเองพอได้รู้แล้วก็ยิ่งประทับใจคูณสามคูณสี่ ภาคภูมิใจแทนคนญี่ปุ่นจริงๆ ค่ะ ที่มีสินค้าดีๆ แบบนี้ เห็นแล้วก็อยากเห็นวันที่แบรนด์กระเป๋าหรือข้าวของเครื่องใช้ของคนไทยเป็นที่นิยมไปทั่วโลก จนมีนักท่องเที่ยวมายืนต่อแถวจองซื้อบ้างจริงๆ แค่นึกก็อดยิ้มดีใจไม่ได้ คุณผู้อ่านคิดเห็นว่ายังไงกันบ้างคะ ถ้าคิดแบบหมิว เราลองมาช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้ประเทศเรากันนะคะ ^^ แล้วพบกันในเดือนหน้านะคะ ที่ KIJI กับคอลัมน์ Fashion Geek ค่ะ ^^