SL Ginga : ชวนนั่งรถจักรไอน้ำขบวนเก่า ที่ได้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมรถไฟสายทางช้างเผือก
สารบัญ
やっほー! SL 銀河
LET’S TAKE THE SL GINGA, RAILWAY TO THE STARS
เราไปญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง เมืองท่องเที่ยวดังๆ อย่างโตเกียว โอซาก้า ก็ไปมาจนครบหมด แต่คราวนี้เรามีจุดหมายในใจ จุดหมายที่หากพูดไปแล้วหลายคนอาจจะเกิดคำถามว่าอยู่ที่ไหนหรือไปทำไม แต่ก็ขอทำตามใจเรียกร้องเพราะเราอยากไปนั่ง SL Ginga รถจักรไอน้ำโบราณที่ยังใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน ปิดท้ายด้วยการเดินเล่นสำรวจเมืองคามาอิชิแบบง่ายๆ พบว่ามีโลเคชั่นที่ถูกจริตเราอยู่พอสมควร และถือเป็นวันเดย์ทริปที่ผ่อนคลายกำลังดี
Made in Tohoku
SL Ginga รถไฟสไตล์รถจักรไอน้ำที่ถูกปรับปรุงจากขบวน C58239 เป็นผลผลิตจากความตั้งใจด้วยความหวังว่าจะนำความแข็งแรงทั้งกายและใจ นำวันใหม่มาสู่ภูมิภาคโทโฮคุที่ทรุดโทรมจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 2011 ความพิเศษของรถไฟขบวนนี้คือการออกแบบและตกแต่งโดยได้แรงบันดาลใจจากรถไฟในวรรณกรรมเรื่อง “รถไฟสายทางช้างเผือก” ของมิยาซาวะ เคนจิ (Kenji Miyazawa) ซึ่งเมืองฮามานากิ จังหวัดอิวาเตะเป็นบ้านเกิดของเขา ระหว่างทางที่รถไฟแล่นผ่านจะเห็นชาวบ้านหลากวัยทั้งเด็กน้อยผู้ใหญ่ ไปจนถึงคนเฒ่าคนแก่ บ้างโผล่หน้าจากหน้าต่างบ้าน บ้างยืนคอยเพื่อส่งยิ้มและโบกมือให้เราตลอดทางชวนให้รู้สึกอบอุ่นใจ เราว่า SL Ginga ไม่เพียงแต่เชื่อมต่อสถานที่ แต่ยังเชื่อมต่อกับหัวใจของผู้คนเอาไว้ทุกยุคสมัยด้วย
ขบวน SL Ginga เป็นรถไฟท่องเที่ยว Joyful Train ของบริษัท JR East ในเส้นทางระหว่างสถานีฮานามากิ (Hanamaki) กับสถานีคามาอิชิ (Kamaishi) จังหวัดอิวาเตะ หากนั่งจากต้นทางจนสุดปลายทางจะใช้เวลาราว 4 ชั่วโมง โดยจะเปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ที่นั่งก็มีจำกัดจึงมักถูกจับจองจากทั้งคนญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้านานๆ จะอุ่นใจกว่า สำหรับทริปนี้เราซื้อบัตรโดยสาร JR East Pass Tohoku Area ซึ่งใช้สำรองที่นั่งได้ฟรีด้วยล่ะ
ขบวน SL Ginga เป็นรถไฟท่องเที่ยว Joyful Train ของบริษัท JR East ในเส้นทางระหว่างสถานีฮานามากิ (Hanamaki) กับสถานีคามาอิชิ (Kamaishi) จังหวัดอิวาเตะ หากนั่งจากต้นทางจนสุดปลายทางจะใช้เวลาราว 4 ชั่วโมง โดยจะเปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ที่นั่งก็มีจำกัดจึงมักถูกจับจองจากทั้งคนญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้านานๆ จะอุ่นใจกว่า สำหรับทริปนี้เราซื้อบัตรโดยสาร JR East Pass Tohoku Area ซึ่งใช้สำรองที่นั่งได้ฟรีด้วยล่ะ
เครื่องเหล็กนัมบุ ของขึ้นชื่อจังหวัดอาคิตะ ก็มีจัดแสดงอยู่ภายในขบวนรถไฟด้วย ว่ากันว่ากาต้มน้ำนี้จะช่วยทำให้น้ำเดือดเร็ว ขจัดกลิ่น และน้ำมีรสชาติอร่อยขึ้น
วันหยุดสุดสัปดาห์ในฮานามากิผู้คนบางตา จุดที่คนพลุกพล่านที่สุดในเวลานั้นคงเป็นสถานีรถไฟ มีความหวังที่สถานีรถไฟ มีความเศร้าที่สถานีรถไฟ มีความอบอุ่นที่สถานีรถไฟ รถไฟคงไม่ต่างอะไรกับพระอาทิตย์ รถไฟแล่นเข้าชานชาลาถึงเวลาก็แล่นผ่านไป สำหรับเราการนั่งรถไฟก็เป็นความโรแมนติกรูปแบบหนึ่งที่เราชอบมากเลย
เวลาขึ้นและลงรถไฟจะมีเหล่าสตาฟวัยเก๋าใส่ชุดยูกาตะและเสื้อฮัปปิยืนถือป้ายผ้าต้อนรับเราอยู่ทุกสถานี
ชื่อสถานีต่างๆ จะมีชื่อเป็นภาษาเอสเปรันโต เนื่องจากบทกวีส่วนหนึ่งของมิยาซาวะใช้ภาษาเอสเปรันโต โดยชื่อสถานีจะมีความหมายเข้ากับภาพที่อยู่บนป้าย เช่น สถานีฮานามากิมีชื่อภาษาเอสเปรันโตว่า Cielarko แปลว่าสายรุ้ง เป็นต้น
Compartment | ตู้โดยสารรถไฟ
ภายใน 4 ตู้โดยสารรถไฟเต็มไปด้วยผลงานของมิยาซาวะ มีการจำลองฉากและบรรยากาศเหมือนกับรถไฟในยุคของมิยาซาวะ ไม่ว่าจะเป็นไฟตะเกียง บานกระจกสเตนกลาสสีสวย การเลือกใช้ไม้เป็นวัสดุหลักและมีโทนสีแดงเป็นหลักจากด้านในมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของโทโฮคุผ่านบานหน้าต่างโบราณราวกับได้ย้อนเวลากลับไปสู่อดีต นอกจากนี้ภายในตู้โดยสารยังมีจุดจำหน่ายของที่ระลึก ห้องจัดแสดงผลงานของมิยาซาวะ ท้องฟ้าจำลอง รวมไปถึงศิลปหัตถกรรมท้องถิ่นตามแบบฉบับของโทโฮคุ
ตู้โดยสารที่ 1
ตู้ที่รวมฉากประทับใจที่ปรากฎในวรรณกรรมติดอยู่ตามผนัง เชื่อว่าคนที่เคยอ่านน่าจะรู้สึกราวกับว่ารถไฟกำลังแล่นเข้าสู่ทางช้างเผือก มีที่นั่งประมาณครึ่งตู้ และอีกครึ่งเป็นไฮไลท์คือมีท้องฟ้าจำลองห้องเล็กๆ อยู่ด้วย
ภาพ: East Japan Railway Company
ตู้โดยสารที่ 2
บอกเล่าเมืองในอุดมคติของมิยาซาวะที่ชื่อ Ihatov ผ่านบทกวีของเขาที่กล่าวเกี่ยวกับดวงดาว ภายในยังมีชั้นหนังสือ แกลเลอรี่เล็กๆ ที่นั่งโดยสาร และนี่เป็นเพียงตู้เดียวที่มีห้องน้ำให้บริการ
ตู้โดยสารที่ 3
จัดแสดงต้นฉบับหนังสือเรื่องรถไฟสายทางช้างเผือกที่จำลองขึ้นมาเหมือนของจริงมาก รวมทั้งของใช้ต่างๆ ที่ปรากฏในเรื่อง อีกทั้งตู้นี้เต็มไปด้วยที่นั่งโดยสาร
ตู้โดยสารที่ 4
จำลองบรรยากาศรถไฟจักรไอน้ำโบราณรุ่น C58239 เป็นที่จำหน่ายของกินมื้อหนัก ขนมกินเล่นเบาๆ สินค้าที่ระลึกลิมิเต็ด และอย่าลืมแวะประทับตราด้วยเครื่องปั๊มโบราณที่ตู้โดยสารนี้ด้วยล่ะ
บานกระจกสเตนกลาสหลากสีสัน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณกรรมของมิยาซาวะ
To Do List | ทำอะไรบนรถไฟได้บ้าง
ราว 4 ชั่วโมงบนรถไฟของเราไม่มีช่วงเวลาไหนที่น่าเบื่อเลย เพราะรถไฟขบวนนี้เป็นมากกว่ารถไฟ มีกิจกรรมน่าสนใจให้ผู้โดยสารได้ร่วมสนุกอยู่มาก ถ้ากลัวจะไม่มีอะไรทำ ลองดูลิสต์ต่อไปนี้แล้วอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้
เพลินกับท้องฟ้าจำลองบนขบวนรถไฟ
ใครจะไปคิดว่าบนรถไฟขบวนเล็กๆ นี้จะมี Planetarium หรือท้องฟ้าจำลองอยู่ด้วย ซึ่งห้องนี้จะอยู่บริเวณตู้โดยสารที่ 1 ภายในฉายภาพดวงดาวที่ช่างเข้ากับคอนเซ็ปต์ของขบวน อีกทั้ง SL Ginga ยังเป็นรถไฟขบวนแรกที่มีท้องฟ้าจำลองอยู่บนขบวนด้วย
กินข้าวกล่องรถไฟ
ถ้าใครแพลนนั่งรถไฟยาวๆ ก็เหมาะกับการซื้อข้าวกล่องรถไฟ (Ekiben) รวมถึงขนมอื่นๆ ขึ้นมาตุนระหว่างนั่งด้วย แต่เราแนะนำข้าวกล่องสุดลิมิเต็ดที่ถูกรังสรรค์จากวัตถุดิบขึ้นชื่อของอิวาเตะ ซึ่งถูกดีไซน์ให้มีรูปขบวนรถไฟอยู่ในมื้ออาหารด้วย น่ารักมาก
ช็อปของที่ระลึกลิมิเต็ดอิดิชั่น
บนตู้โดยสารที่ 4 ยังมีจุดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเฉพาะรถไฟ SL Gingaเท่านั้น อาทิ พวงกุญแจ ผ้าเช็ดหน้า เข็มกลัด ปากกา กระดาษโน้ต ขนมเซมเบ้ ฯลฯ จะซื้อกลับไปไว้เป็นที่ระลึกหรือซื้อฝากคนที่บ้านก็เหมาะสมที่สุด
ประทับโปสการ์ดด้วยตราปั๊มโบราณ
ขณะที่เรานั่งบนขบวนจะมีพนักงานเดินแจกโปสการ์ด ความพิเศษจะอยู่ที่ด้านหลังจะเป็นช่องว่างให้เราสามารถใช้กับตราปั๊มโบราณ ซึ่งเป็นลายพิเศษที่ทำขึ้นสำหรับผู้โดยสารรถไฟขบวนนี้เท่านั้น
ชมพิพิธภัณฑ์
นอกจากการเป็นยานพาหนะ บนขบวนรถไฟยังถูกดีไซน์ให้คล้ายกับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่แต่ละตู้โดยสารล้วนแต่มีโซนที่จัดแสดงผลงานของมิยาซาวะ อย่างฉากประทับใจหรือสิ่งของต่างๆ จากในวรรณกรรมต้นฉบับ ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าหลุดเข้าไปในหนังสือ
Photo Spot | จุดถ่ายภาพที่สายแชะห้ามพลาด
อีกหนึ่งเป้าหมายของทุกคนที่อยากนั่ง SL Ginga คือการถ่ายรูปขบวนรถไฟยามที่แล่นอยู่ รถไฟโบราณแล่นผ่านวิวธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของภูมิโทโฮคุ กับจุดถ่ายรูประหว่างทางต่อไปนี้ที่เราอยากแนะนำ
01 Rikuchu Ohashi Station
Rikuchu Bridge
รถไฟสีดำน้ำเงินเมื่อแล่นผ่านสะพานสีแดงสดคงเป็นภาพที่สวยงามน่าดู แอบเห็นว่ามีช่างภาพญี่ปุ่นแอบมาตั้งกล้องรอกันด้วยล่ะ จุดถ่ายรูปนี้อยู่ไม่ไกลจากสถานี Rikuchu Ohashi สามารถเดินเท้าจากสถานีมาราว 350 เมตรเท่านั้น
Tunnel
ที่สถานีเดียวกันเมื่อรถไฟแล่นผ่านสะพานมาแล้วสักพักจะแล่นเข้าสู่อุโมงค์ก่อนจะถึงตัวสถานี ยามที่รถไฟแล่นออกจากอุโมงค์ ก็เป็นจุดถ่ายรูปที่หลายคนตั้งตารอ
02 Miyamori Station
จุดถ่ายรูปรถไฟแล่นเนิบๆ ข้ามสะพานยอดฮิตที่เห็นบ่อยๆ ตามรีวิวนี้คือสะพาน Miyamorigawa ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟมิยาโมริ คนส่วนใหญ่เรียกที่นี่ว่าสะพานแว่นตา จุดนี้สามารถเดินเท้าไปได้จากสถานีประมาณ 500 เมตร แต่ถ้าไม่ได้แวะ จากบนรถไฟก็จะเห็นภาพผู้คนต่างวัยโบกมืออยู่ด้านล่างสะพานอย่างน่ารัก
03 Tono Station
ด้วยความที่เป็นรถไฟไอน้ำโบราณ ใช้ถ่านในการขับเคลื่อน ทำให้รถไฟขบวนนี้ต้องหยุดพักเครื่องเติมถ่านด้วย ซึ่งจะจอดที่สถานีโทโนราวหนึ่งชั่วโมง แนะนำให้ลงไปถ่ายภาพยามที่เหล่าพนักงานลงไปเติมถ่านกันอย่างแข็งขัน หรือตอนที่รถไฟจอดก็นับว่าเป็นภาพที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ
04 บนรถไฟ
สุดท้ายที่ไม่แนะนำไม่ได้เลยคือ การเซลฟี่ตัวเองไม่ก็ไหว้วานเพื่อนร่วมทางช่วยถ่ายรูปบนขบวน เพราะบรรยากาศบนรถไฟเก๋และชวนประทับใจเอามากๆ
Tourist Attractions | นั่งขบวนนี้ไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง
- Morioka City
ลองนั่งรถไฟท้องถิ่นต่ออีกหน่อยไปแวะเที่ยวที่เมืองโมริโอกะ ไม่ว่าจะชอบเรื่องราวในประวัติศาสตร์ สัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด หรือเป็นสายฮิปที่มีความสุขกับงานแฮนด์เมด ที่โมริโอกะก็มีที่เที่ยวครบหมด!
อ่านฉบับเต็ม: www.kiji.life/morioka-in-2-days/
Morioka Kippushi แหล่งพักผ่อนหย่อนใจใกล้ริมแม่น้ำคิตะคามิ รวบรวมร้านอาหาร ร้านกาแฟ และคาเฟ่ที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์เอาไว้มากมาย
Morioka Castle Site Park สวนสาธารณะกว้าง อดีตเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทโมริโอกะเก่า
Morioka Handi-Works Square หมู่บ้านรวมงานคราฟต์สุดคิวท์ มีทั้งเวิร์คช็อปและร้านจำหน่ายสินค้า
- Kamaishi City
อย่างที่ได้เล่าไปตอนต้นว่าจังหวัดอิวาเตะเคยประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี 2011 จนเสียหายอย่างหนักแต่ก็ได้ค่อยๆ สร้างเมืองขึ้นมาใหม่อีกครั้งอย่างตั้งใจ หนึ่งในนั้นคือเมืองคามาอิชิ รถไฟแล่นเข้าเทียบท่าที่สถานีปลายทางคามาอิชิถ้าไม่ได้รีบไปไหนเราขอชวนไปสำรวจในเมืองเงียบๆ แต่น่ารักแห่งนี้ด้วยกันนะ
อ่านฉบับเต็ม: www.kiji.life/kamaishi-iwate/
Kamaishi Daikannon Temple รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมใหญ่สูง 48.5 เมตร ประดิษฐานอยู่ริมชายฝั่งซันริกุ ภายในตัวเจ้าแม่กวนอิมถูกออกแบบให้สามารถเดินขึ้นไปได้ถึง 12 ชั้น ด้านบนนี้ยังเป็นจุดชมวิวทะเลงามด้วย
Sun Fish Kamaishi ตลาดจำหน่ายอาหารทะเลสดๆ ให้เลือกซื้อหลากหลายชนิด อีกทั้งมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่รสชาติดีให้เลือกฝากท้องด้วย
ไปญี่ปุ่นทีไรก็อยากใช้แต่ Wise Pocket Wifi
จะว่าไปทุกครั้งที่ไปญี่ปุ่นส่วนตัวเราชอบใช้พ็อกเก็ตไวไฟ อาจเพราะถ้าไปกับก๊วนเพื่อน การใช้พ็อกเก็ตไวไฟจะช่วยประหยัดได้มากกว่า Wise ถือเป็นแบรนด์ที่เราใช้บ่อยๆ จองเพียงหนึ่งเครื่องก็แชร์กันได้ถึง 10 คน คิดเป็นเงินก็ตกคนละไม่กี่สิบบาท ทำให้เราสามารถถ่ายรูปแล้วอัพโหลดในโซเชียลได้ในความเร็วไม่จำกัด บอกเลยญี่ปุ่นคราวนี้ Wise ได้ใจเราไปเต็มๆ แต่ถ้าไม่อยากพกตัวเครื่องก็มีจำหน่ายซิมการ์ดอินเตอร์เน็ตที่ราคาถูกที่สุดในไทย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line ID: @wisepocketwifi (คลิก)
- ใช้งานได้ไม่จำกัด (Unlimited)
- ความเร็วสูงสุด 187.5 Mbps
- ครอบคลุมทั่วประเทศญี่ปุ่น
- ชาร์จเต็มใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมง
- จองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์
- แชร์ได้สูงสุด 10 เครื่อง
- มีบริการรับที่สนามบิน สำนักงาน และไปรษณีย์
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
Info
Wise Pocket Wifi
Price: 150 บาท/วัน
Website: www.wiseworldwifi.com
Must Know | เรื่องต้องรู้ก่อนขึ้น SL Ginga
- เส้นทางให้บริการ
ระหว่างสถานีฮานามากิ (Hanamaki Station) กับสถานีคามาอิชิ (Kamaishi Station) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
- วันให้บริการ
ส่วนใหญ่รถไฟจะวิ่งวันละ 1 เที่ยว แต่ส่วนใหญ่วันเสาร์จะมีทั้งขาไปและขากลับ ส่วนวันอาทิตย์จะมีเฉพาะเที่ยวขากลับเท่านั้น ก่อนสำรองที่นั่งแนะนำให้ตรวจสอบวันเดินทางก่อนที่เว็บไซต์ www.jreast.co.jp
- ตารางเวลา
สถานี / เวลา | ขาไป (Hanamaki – Kamaishi Station) | ขากลับ (Kamaishi – Hanamaki Station) |
Hanamaki | 10:37 (ออก) | 15:19 (จอด) |
Shin-Hanamaki | 10:48 (จอด) 10:50 (ออก) | 15:08 (ออก) 15:06 (จอด) |
Tsuchizawa | 11:00 (จอด) 11:03 (ออก) | 14:56 (ออก) 14:53 (จอด) |
Miyamori | 11:26 (จอด) 11:40 (ออก) | 14:33 (ออก) 14:26 (จอด) |
Tono | 12:13 (จอด) 13:31 (ออก) | 13:53 (ออก) 12:44 (จอด) |
Kami-Arisu | 14:15 (จอด) 14:17 (ออก) | 12:02 (ออก) 11:57 (จอด) |
Rikuchu-Ohashi | 14:32 (จอด) 14:40 (ออก) | 11:39 (ออก) 11:30 (จอด) |
Kamaishi | 15:08 (จอด) | 10:58 (ออก) |
- วิธีสำรองที่นั่ง
ที่นั่งทั้งหมดบนรถไฟขบวนนี้ต้องสำรองที่นั่งเท่านั้น หากมีบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถสำรองที่นั่งออนไลน์ล่วงหน้าฟรีได้ทางเว็บไซต์ eki-net.com ก่อนไป 1 เดือน หรือที่ห้องจำหน่ายตั๋ว JR EAST Travel Service Center สีเขียวบริเวณสถานีใหญ่ๆ ที่ญี่ปุ่น เช่น สถานี Tokyo, Shinjuku, Shibuya, Ueno, Sendai, Shin-Aomori, Morioka, Koriyama ฯลฯ
หมายเหตุ:
ขณะนี้ SL Ginga งดให้บริการ และจะกลับมาให้บริการฤดูร้อน ค.ศ. 2021
Route Map | แผนที่
ชมวิดีโอ SL Ginga
Wendy Tour
JR East Pass Tohoku Area บัตรโดยสารสุดคุ้มที่ใช้โดยสารรถไฟในโซนโทโฮคุ ทั้งรถไฟโลคอล ชินคันเซ็น แม้แต่ขบวนท่องเที่ยวสุดพิเศษ SL Ginga ก็นั่งฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมถึงสามารถใช้นั่งรถไฟ Narita Express จากสนามบินนาริตะ หรือ Tokyo Monorail จากสนามบินฮาเนดะได้ฟรีหมด อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับบัตรโดยสาร JR East Pass เพิ่มเติมได้ที่ Wendytour-th.com
หากยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อดีไหม เราแนะนำให้ลองปรึกษา Wendy Tour ซึ่งจะช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหรือบัตรโดยสารที่เหมาะสมให้เข้ากับแพลนของเราด้วย สามารถซื้อ JR East Pass Tohoku Area ได้ในราคาพิเศษสำหรับผู้อ่านคิจิเท่านั้น ราคาปกติผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) 19,350 เยน, เด็ก (อายุ 6-11 ปี) 9,670 เยน