Why Do I Love SEMBOKU : “เซมโบกุ” เมืองสุดผ่อนคลายในอาคิตะที่ใครๆ ต่างก็เทใจให้
สารบัญ
- 01 หมู่บ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ | Kakunodate Samurai District
- 02 หุบเขาดาคิกาเอริ | Dakigaeri Gorge
- 03 ทางรถไฟสายอาคิตะไนริคุ | Akita Nairiku Line
- 04 เวิร์คช็อปทำกระดาษญี่ปุ่น | Making Japanese Paper
- 05 หมู่บ้านศิลปะอาคิตะ | Akita Art Village
- 06 เวิร์คช็อปทำคิริทัมโปะ | Making Kiritanpo
- 07 ทะเลสาบทาซาวะ | Lake Tazawa
- 08 นิวโตออนเซ็น | Nyuto Onsen
- 09 เจ้าแม่กวนอิมคอนจิกิไดคันนอน | Tazawa-ko Kon-jiki Daikannon
- 10 ร้านน้ำผึ้งฮาจิมิทสึ | Yama no Hachimitsuya
- การเดินทางไป เซมโบกุ
- วิธีขึ้นบัส Ugo Kotsu
- แผนที่เที่ยว เซมโบกุ
เข้าสู่ช่วงเหนื่อยล้าจากงานทีไร ฮอร์โมนความอยากเที่ยวของเราก็มักจะพลุ่งพล่าน จนต้องเปิดกูเกิลค้นหาจุดหมายปลายทางที่ยังไม่เคยไป แต่ก็แอบตั้งโจทย์ง่ายๆ ให้กับตัวเองว่า สถานที่นั้นต้องทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ได้ปล่อยให้ใจล้าๆ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรมท้องถิ่น และที่สำคัญอาหารการกินต้องอร่อย จุดหมายไปตกอยู่ที่ “เซมโบกุ (Semboku)” เมืองน่ารักอบอุ่นสุดผ่อนคลายในจังหวัดอาคิตะ
เซมโบกุ อาจไม่ใช่ชื่อเมืองที่คนคุ้นเคยหากได้อ่านหรือได้ยินครั้งแรก แต่ถ้าเอ่ยชื่อสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ในเมือง เซมโบกุ ขึ้นมาสักชื่อสองชื่อ เชื่อว่าหลายคนจะต้องร้องอ๋อขึ้นมาบ้างล่ะ ยกตัวอย่างเล็กน้อย เช่น หมู่บ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ ทะเลสาบทาซาวะ นิวโตออนเซ็น เป็นต้น การเดินทางในเมือง เซมโบกุ ส่วนตัวเราคิดว่าเช่ารถขับจะประหยัดกว่า หรือใช้บริการแท็กซี่ก็สะดวก แต่ถ้าไม่ได้รีบร้อนอะไรจะใช้บริการรถบัสสาธารณะก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่ข้อควรระวังคือมีรอบการเดินรถค่อนข้างน้อยมาก
เราว่าเมือง เซมโบกุ เป็นเหมือนประตูบ้านของจังหวัดอาคิตะ เพราะหากเดินทางมาจากโตเกียว เซนได หรือโมริโอกะ จะพบ เซมโบกุ ยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตรอยู่เป็นเมืองแรกเลย ถ้าวางแพลนไว้ว่าจะเที่ยวในเส้นทางภูมิภาคโทโฮคุ เราแนะนำให้ซื้อบัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) เพราะช่วยประหยัดเงินได้เยอะมาก เราเดินทางจากโตเกียวโดย Akita Shinkansen มาลงที่สถานีคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Station) หรือจะลงที่สถานีทาซาวาโกะ (Tazawako Station) ก็ได้เช่นกัน
จะว่าไปแล้วนี่เป็นครั้งแรกของเราในจังหวัดอาคิตะ 3 วัน 2 คืนในเมือง เซมโบกุ ของเราก็ดีมาก จนอยากแชร์และอยากชวนทุกคนไปเที่ยวด้วยกัน
เพิ่มเติมอีกหน่อยถ้ามาถึงแล้วแนะนำให้เดินเข้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Tourist Information) เมือง เซมโบกุ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ 2 แห่ง คือ ศูนย์บริการนักทักท่องเที่ยวคาคุโนะดาเตะที่อยู่ด้านหน้าสถานี และอีกแห่งที่จะอยู่ภายในสถานีรถไฟทาซาวาโกะ สามารถมาหยิบจับโบรชัวร์ท่องเที่ยว ขอคำแนะนำการเดินทาง และฝากกระเป๋าเดินทางได้
Info
Kakunodate Ekimae Kura
Hours: 9:00-18:00 น. (ต.ค.-กลางเดือนเม.ย. ปิด 17:30 น. )
Holiday: 31 ธันวาคม
Tazawako Tourist Information Center (Folake)
Hours: จ.-ศ. 08:30-17:15 น.
Holiday: วันเสาร์-วันอาทิตย์
01 หมู่บ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ | Kakunodate Samurai District
รถไฟแล่นเข้าจอดอย่างนุ่มนวลที่ชานชาลา จากนั้นเราพุ่งตัวไปด้านหน้าสถานีเพราะโรงแรม Tamachi Bukeyashiki Hotel ที่จองไว้มีรถรับ-ส่งจากสถานีไปยังโรงแรมด้วยล่ะ เก็บสัมภาระเรียบร้อย ออกสำรวจได้!
ภาพ: ©Michael Martin
เดินจากสถานีโรงแรมมาไม่ไกลจะพบกับถนนบุเคะยาชิกิ (Bukeyashiki Street) ตลอดเส้นถนนเป็นย่านหมู่บ้านซามูไรอายุหลายร้อยปีที่ถูกอนุรักษ์และยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายประวัติศาสตร์ ปัจจุบันบ้านซามูไรในคาคุโนะดาเตะบางหลังยังมีเชื้อสายซามูไรรุ่นหลังอาศัยอยู่ มีจำนวน 6 หลังที่เปิดให้เข้าชม ภายในจัดแสดงวิถีชีวิตของซามูไรในสมัยก่อน วัตถุโบราณ อาทิ ชุดเกราะซามูไร ดาบที่อนุญาตให้เราลองสัมผัสหรือยกได้ และสวนญี่ปุ่นงามๆ บางแห่งยังเปิดเป็นคาเฟ่ในบ้านซามูไรอีกด้วย
เที่ยวชมย่านโบราณทั้งที เราตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะใส่ชุดยูกาตะและนั่งรถลากถ่ายรูปเล่นสักหน่อย เราเช่าชุดที่ร้านทาเท็ตสึยะ (Tatetsuya) ด้านหน้าจะเป็นมุมขายของฝาก ด้านในมีบริการให้เช่าชุดยูกาตะ ซึ่งทางร้านจะให้เราเลือกลายผ้า กระเป๋า และเกี๊ยะที่ชอบ พร้อมทำผมให้เราเสร็จสรรพในราคา 4,000 เยน ความดีงามคือเช่าแล้วสามารถใส่ได้ทั้งวัน จากนั้นเราก็เดินไปเช่ารถลากนั่งให้เข้ากับบรรยากาศ ในคาคุโนะดาเตะมีรถลาก 3 บริษัทที่ให้บริการ สามารถจองได้ที่บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์เดงโชคัง (Denshokan Museum)
เราชอบที่ตลอดสองข้างถนนเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ที่จะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล ช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีส้มแดง ส่วนฤดูใบไม้ผลิได้ยินมาว่าเหล่าต้นซากุระก็จะเบ่งบานต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างงดงาม อีกทั้งปัจจุบันมีคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายของฝากคอยให้บริการด้วย
ปิดท้ายด้วยโลเคชั่นที่อยากแนะนำสำหรับคนที่อยากเจออาคิตะอินุ สุนัขสายพันธุ์น่ารักมีต้นกำเนิดที่จังหวัดอาคิตะ เราเจอเอนิชิ (Enishi) เกสต์เฮาส์ขนาดกะทัดรัดในย่านคาคุโนะดาเตะที่เปิดให้เข้าไปเล่นกับอาคิตะอินุหนุ่มสาวชื่อว่า “เจ้าสุจัง” กับ “เจ้าฟุจิโกะ” ที่เจ้าของเลี้ยงไว้ได้ แต่จำเป็นต้องซื้อโปสการ์ดน้องหมาเพียง 100 เยน ก็ได้สัมผัสอาคิตะอินุตัวเป็นๆ แถมไม่จำกัดเวลา
เราขอพูดถึงที่พักที่จองไว้เพิ่มเติม Tamachi Bukeyashiki เป็นโรงแรมสไตล์ตะวันตกในบรรยากาศญี่ปุ่น เราเลือกพักที่นี่เพราะมีแพ็คเกจดีๆ เสิร์ฟทั้งอาหารเช้าและอาหารเย็นที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่นของอาคิตะรวมในราคาห้องพัก รสชาติถูกปาก ราคาถูกใจมาก ข้อควรระวังคือทางโรงแรมไม่มีลิฟต์ให้บริการนะ
Info
Kakunodate
Bus Stop: Kakunodate Ekimae 角館駅前
Train Station: Kakunodate Station
โรงแรมทามาจิ บุเคะยาชิกิ | Tamachi Bukeyashiki Hotel
Website: www.bukeyashiki.jp/en/ (ภาษาญี่ปุ่น)
เช่าชุดยูกาตะ | Tatetsuya
Hours: ทุกวัน ร้านค้า 9:00-18:00 น., เช่ากิโมโน 10:00-16:00 น.
Price: 4,000 เยน
Website: www12.plala.or.jp/kabasen/tatetsu.html
รถลาก | Rickshaw
Price: 3,000 เยน (15 นาที), 5,000 เยน (30 นาที), 9,000 เยน (60 นาที)
Advance Reservation: +81 90-2970-2324, +81 90-4888-0790 และ +81 90-2994-2722 (ภาษาญี่ปุ่น)
Location: บริเวณ Denshokan Museum
Website: http://kakunodate-kanko.jp/rickshaw.html (ภาษาญี่ปุ่น)
บ้านซามูไร | Samurai House
Price: แต่ละหลังค่าเข้าแตกต่างกัน
Hours: 9:00-17:00 น. (โดยประมาณ)
Website: www.kakunodate-kanko.jp/language/en/samurai/
02 หุบเขาดาคิกาเอริ | Dakigaeri Gorge
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของเมืองเซมโบกุ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักชมใบไม้เปลี่ยนสี เพราะเอกลักษณ์ของที่นี่คือแม่น้ำทามะ (Tama River) ที่ไหลผ่านช่องเขาจะเป็นสีฟ้าสด ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงสีของน้ำกับแมกไม้จะตัดกันอย่างงดงาม หรือหากเดินทางมาในฤดูร้อนสีเขียวของเหล่าพรรณไม้ที่แตกยอดอ่อนก็ให้ความรู้สึกสดชื่นมาก
ภาพ: ©Michael Martin
จุดสังเกตคือ หากมองเห็นสะพานคามิโนะอิวะฮาชิ (Kami no Iwahashi) สีแดงสดก็หมายความว่าเราเดินทางมาถึงหุบเขาดาคิกาเอริแล้ว ถ้าอยากได้รูปหุบเขาแบบเต็มๆ ก็แนะนำให้ถ่ายจากบนสะพานนี่ล่ะ
ภาพ: ©Michael Martin
เดินลึกเข้าไปเส้นทางเดินธรรมชาติยาว 1.5 กิโลเมตรลัดเลาะป่า อุโมงค์หินเหมือนในการ์ตูนของสตูดิโอจิบลิ เมื่อผ่านพ้นอุโมงค์ก็จะพบกับน้ำตกมิคาเอริ (Mikaeri no Taki)* อยู่ทางด้านขวามือพอดิบพอดี ขอยืนยันว่าสวยงามทั้งยามที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยใบไม้หลากสีของฤดูใบไม้ร่วงหรือความเขียวขจีในฤดูร้อน คนในพื้นที่บอกกับเราว่ามาเดินเล่นต้องระวังตัวด้วย เพราะที่หุบเขานี้หมีเยอะ
ภาพ: ©Michael Martin
Info
Dakigaeri Gorge
Entrance Fee: เข้าฟรี
Recommended Season: ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม-พฤศจิกายน), ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม)
Access: จากสถานี Kakunodate ให้ต่อแท็กซี่ประมาณ 15 นาที ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีรถให้บริการฟรีจากสถานี Kakunodate (เพื่อความแน่นอนควรตรวจสอบตารางรถโดยสารอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง)
Note: *ปัจจุบันน้ำตกมิคาเอริปิดให้บริการเนื่องจากภัยพิบัติ จะเปิดให้บริการอีกครั้งในฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 2020
Website: www.city.semboku.akita.jp/en/index.html
Train Station: Kakunodate Station
03 ทางรถไฟสายอาคิตะไนริคุ | Akita Nairiku Line
ภาพ: ©Michael Martin
เราชอบนั่งรถไฟ เลยไม่พลาดหาเวลามานั่งรถไฟโลคอลของจังหวัดอาคิตะ อาคิตะไนริคุเป็นรถไฟขบวนสั้นๆ วิ่งระหว่างสถานี Kakunodate และ Takanosu ระยะทาง 94.2 กิโลเมตร แล่นผ่านนาข้าว ภูเขา บ้างเป็นบ้านเรือน รถไฟสายนี้ถูกเรียกว่า Smile Rail ด้วยความตั้งใจที่อยากต้อนรับทุกคนด้วยรอยยิ้ม สำหรับเราที่ได้ลองนั่งแล้ว ก็ยิ้มไม่หุบจนต้องพกรอยยิ้มกลับไปฝากคนที่บ้านจนเต็มกระเป๋าเลยล่ะ
อาคิตะไนริคุเป็นที่รู้จักจากศิลปะบนนาข้าวที่บริเวณสถานี Ogata แต่จริงๆ แล้วรถไฟสายนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจให้แวะตลอดเส้นทาง และเราไม่จำเป็นต้องนั่งยาวๆ ก็ได้ เพราะเป็นขบวนรถไฟแบบหวานเย็น แล่นช้าๆ เนิบๆ หากนั่งจนครบทุกสถานีอาจใช้เวลาค่อนข้างนาน อีกอย่างคือสามารถซื้อได้ทั้งตั๋วแยกและพาสราคาประหยัด
Info
Akita Nairiku Line
Route: Kakanodate Station ถึง Takanosu (29 สถานี)
Price: Weekday Open Pass (นั่งได้ทุกสถานี) ผู้ใหญ่ 2,500 เยน เด็ก 1,250 เยน/ Holiday Open Pass All Lines Type (นั่งได้ทุกสถานี) ผู้ใหญ่ 2,000 เยน, เด็ก 1,000 เยน, Holiday Open Pass Type A (ระหว่างสถานี Takanosu ถึง Matsuba) ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยน, Holiday Open Pass Type B (ระหว่างสถานี Aniai ถึง Kakunodate) ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยน
Sales Location: สถานี Kakunodate, Aniai, Takanosu และสถานีอื่นๆ
Website: www.akita-nairiku.com/thai/
04 เวิร์คช็อปทำกระดาษญี่ปุ่น | Making Japanese Paper
เรานั่งรถไฟมาลงที่สถานียัตสึ เพราะรู้มาว่าตรงนี้มี Katakuri Center ที่ภายในเปิดเป็นเวิร์คช็อปสอนทำกระดาษญี่ปุ่น (Washi) และเป็นจุดจำหน่ายสินค้าโลคอลของจังหวัดอาคิตะ อย่างตอนที่เราไปมีเกาลัดพันธุ์ Saimyoji ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นวางจำหน่าย จากใจคนรักเกาลัดบอกเลยว่ามันน่ากินมาก
เราลงทะเบียนชอบทำเวิร์คช็อปทำกระดาษญี่ปุ่นล่วงหน้าเอาไว้ ขอเล่าวิธีทำคร่าวๆ กระดาษวาชิของอาคิตะจะใช้พันธุ์ไม้ที่ชื่อว่า Kozo ต้มจนเปลือกไม้หลุดออกมา แล้วนำไปเข้ากระบวนการในเครื่องจนได้เป็นเยื่อไม้ จากนั้นนำไปวางลงบนพิมพ์แล้วอบร้อน ก็จะได้กระดาษของเราเองที่มีใบเดียวในโลก และนำกระดาษกลับบ้านได้ด้วยนะ หากสนใจเวิร์คช็อปนี้ ต้องจองออนไลน์ล่วงหน้ามาก่อนเท่านั้น
Info
Katakuri Center かたくり館
Hours: 8:30-17:15 น.
Holiday: วันเสาร์ (ยกเว้นเม.ย.-พ.ค., ต.ค.-พ.ย.) 13 ส.ค., 29 ธ.ค.-3 ม.ค.
Japanese Paper Course
Price: 500 เยนต่อคน
Period: 15-20 นาที
Online Booking: www.semboku-gt.jp/en/experience/japanese-paper/
※ 5 คนขึ้นไปจึงสามารถจองออนไลน์ได้
Train Station: Yatsu Station
05 หมู่บ้านศิลปะอาคิตะ | Akita Art Village
สถานที่ถัดมาขอชวนมาสัมผัสศิลปะและวัฒนธรรมที่หมู่บ้านศิลปะอาคิตะ บริเวณนี้มีทั้งโรงละครวาราบิ (Warabi Theater) ร้านอาหาร โรงแรม และร้านขายของฝาก เราประทับใจที่แต่ละแห่งล้วนพยายามบอกเล่าถึงวัฒนธรรมของคนอาคิตะในแบบที่ตัวเองถนัด แม้ไม่เข้าใจภาษา ก็ยังสามารถเข้าใจสิ่งที่พวกเขาต้องการจะสื่อได้ ช่วงที่เราไปมีการแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมการหมักอันขึ้นชื่อของจังหวัดอาคิตะที่ทำต่อๆ กันมาเป็นเวลายาวนานตั้งแต่อดีตกาล หากสนใจเข้าชมการแสดงต้องจองผ่านอีเมลหรือโทรศัพท์เท่านั้น
ภายในบริเวณเดียวกันยังมีร้านทาซาวาโกะเบียร์ (Tazawako Beer Restaurant) ร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นที่เสิร์ฟเมนูจากวัตถุดิบท้องถิ่น เราสั่งเมนูเนื้อวัวอาคิตะหมักด้วยเบียร์ทาซาวาโกะเป็นมื้อเที่ยง เนื้อวัวนุ่มมากจนสามารถละลายในปาก กินคู่กับข้าวสวยอาคิตะที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อย รสชาติเข้ากันเป็นที่สุด
Info
Akita Geijutsu Mura
Reservation: ทางอีเมล gekijyo1@warabi.or.jp (ภาษาอังกฤษ/ญี่ปุ่น), ทางโทรศัพท์ +81 01-8744-3915 (ภาษาญี่ปุ่น)
Timetable: www.warabi.or.jp/theater/calendar.php (ภาษาญี่ปุ่น)
Website: www.warabi.jp/english/
Tazawako Beer Restaurant
Hours: อา.-พฤ. 11:00 น.-17:00 น., ศ.-ส. และวันก่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ รอบเช้า 11:00-14:00 น./ รอบเย็น 17:00-21:00 น.
Holiday: วันอังคาร
Website: www.warabi.or.jp/beer/
Access: จากสถานี Kakunodate ให้ต่อแท็กซี่ประมาณ 10 นาที
Train Station: Kakunodate Station
06 เวิร์คช็อปทำคิริทัมโปะ | Making Kiritanpo
สัมผัสวิถีชีวิตเนิบช้าแบบชาวอาคิตะที่ Kamado Farmstay ผ่านคอร์สทำ “คิริทัมโปะ (Kiritanpo)” ข้าวเสียบไม้ย่างไฟอาหารที่เป็นเหมือนของขึ้นชื่อประจำเมือง ดูเหมือนธรรมดาแต่ความดีงามอยู่ที่วัตถุดิบ เพราะข้าวสวยของจังหวัดอาคิตะนั้นรสชาติดี บางครั้งคิริทัมโปะก็ถูกนำไปต้มในน้ำสต็อกไก่เรียกว่า คิริทัมโปะนาเบะ (Kiritanpo Nabe) ว่ากันว่าหากมาเที่ยวอาคิตะแล้วไม่ได้กินคงรู้สึกเหมือนยังมาไม่ถึง พร้อมกินอาหารกลางวันโฮมเมดรสชาติถูกปากจากฝีมือคุณลุงคุณป้าเจ้าของฟาร์มสเตย์ ท่ามกลางธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว
อันที่จริงทางฟาร์มสเตย์เปิดให้พักค้างคืนด้วย ถ้าเรามีเวลามากกว่านี้คงอยากพักสักคืน หากใครที่กำลังอ่านอยู่แล้วรู้สึกสนใจก็เข้าไปจองกันได้ทางเว็บไซต์เลย การเดินทางไปยังฟาร์มสเตย์สามารถนั่งบัสไปลงได้ แต่เนื่องจากรอบรถค่อนข้างน้อย แนะนำให้นัดหมายเจ้าของฟาร์มมารับได้ที่สถานีรถไฟทาซาวาโกะจะสะดวกกว่า
Info
Kiritanpo Course
Price: ประมาณ 1,500 เยนต่อคน
Period: 2 ชั่วโมง
Online Reservation: www.semboku-gt.jp/en/stay/kamado/
Bus Stop: Kurosawa 黒沢
Train Station: Tazawako Station
07 ทะเลสาบทาซาวะ | Lake Tazawa
ทะเลสาบสีสวยที่มีเอกลักษณ์คือ สีของน้ำจะเปลี่ยนไปตามภูมิอากาศราวกับเวทมนตร์ วันที่เราไปเป็นสีฟ้าครามแปลกตา สวยแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน หลายคนอาจรู้จักทะเลสาบทาซาวะว่าเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น การเดินทางจากสถานีทาซาวาโกะสามารถนั่งรถบัสมาลงตามป้ายที่เราบอกไว้ได้เลย ส่วนใครที่เช่ารถขับก็สะดวกสบายเช่นกัน
มีตำนานเกี่ยวกับทะเลสาบแห่งนี้เล่าว่า นานมาแล้วมีหญิงสาวหน้าตาสะสวยชื่อ ทัตสึโกะ เธอรับไม่ได้ที่ร่างกายของเธอค่อยๆ ชราไปตามเวลา จึงไปขอพร เจ้าแม่กวนอิมได้บอกให้เธอไปดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่บ่อทางตอนเหนือซึ่งก็คือน้ำจากทะเลสาบ หลังจากดื่มเธอก็กลายร่างเป็นมังกร จากนั้นมังกรสาวทัตสึโกะก็ได้พบรักกับมังกรหนุ่มจากทะเลสาบโทวาดะ เรื่องน่ารักคือทุกฤดูหนาวมังกรหนุ่มจะมาหาทัตสึโกะที่ทะเลสาบทาซาวะ ทำให้ทะเลสาบโทวาดะกลายเป็นน้ำแข็ง ส่วนทะเลสาบทาซาวะไม่เคยเป็นน้ำแข็งเลยเพราะมีความอบอุ่นจากความรักของทั้งคู่ แต่ในความเป็นจริงสาเหตุที่ไม่กลายเป็นน้ำแข็งก็เพราะว่า ทะเลสาบทาซาวะลึกเกินไปนั่นเอง
สังเกตได้ว่าตำนานในอดีตเชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยวรอบทะเลสาบเลย อย่างบ่อน้ำที่ทัตสึโกะดื่มปัจจุบันอยู่ตรงบริเวณศาลเจ้าโกะซะโนะอิชิ อีกทั้งปัจจุบันก็มีรูปปั้นของทัตสึโกะอยู่ที่ริมทะเลสาบด้วยล่ะ
• ศาลเจ้าโกะซะโนะอิชิ | Gozanoishi Shrine
จุดสังเกตง่ายๆ ของที่นี่คือ เสาโทริอิสีแดงสดขนาดสูงใหญ่ริมทะเลสาบทาซาวะ ใกล้ๆ กันนี้เองมีศาลเจ้าชินโตเล็กๆ และบ่อน้ำที่ทัตสึโกะมาดื่มเพื่อไม่ให้ตัวเองแก่ บริเวณนี้ยังมีร้านค้าและจุดนั่งพักผ่อนสำหรับชมวิวทะเลสาบ ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้แถวนี้จะเปลี่ยนสี หรือถ้ามาช่วงฤดูหนาวก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสวยงามสุดๆ
Info
Gozanoishi Shrine
Hours: 24 ชั่วโมง
Holiday: –
Bus Stop: Gozanoishi Jinja-mae 御座の石神社前
• สวนสมุนไพรฮาร์ทเฮิร์บ | Tazawako Herb Garden Heart Herb
สวนสมุนไพรริมทะเลสาบทาซาวะ ภายในพื้นที่กว้างแบ่งออกเป็นโซน Herbal Hill เนินสมุนไพรและดอกไม้งามๆ Green House เรือนกระจกที่สามารถซื้อเมล็ดพันธุ์กลับไปปลูกที่บ้านได้ Salato ร้านอาหารที่ให้บริการทั้งแบบอะลาคาร์ทและบุฟเฟ่ต์ในวันเสาร์อาทิตย์ มีไฮไลท์คือ “อินานิวะอุด้ง” อาหารขึ้นชื่อของอาคิตะ และ Shop Feels พื้นที่ขายของฝาก
Info
Tazawako Herb Garden Heart Herb
Hours: ทุกวัน กลางเม.ย.-ต้นพ.ย. จ.-ศ. 10:00-16:00 น., ส.-อา. 9:00-17:00 น.
Holiday: กลางพ.ย.-ต้นเม.ย. ร้านอาหารและเรือนกระจกหยุดให้บริการ
Website: www.heart-herb.co.jp/
Bus Stop: Tazawako View Forest 田沢湖びゅうの森前
• ทัวร์ล่องเรือ | Boat Tour
เรือชมทะเลสาบทาซาวะที่จะพาชมวิวงามๆ ผืนน้ำสีสวย และสถานที่สำคัญบริเวณรอบทะเลสาบ ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าโกะซะโนะอิชิ รูปปั้นทัตสึโกะ เป็นต้น สามารถซื้อตั๋วได้ตรงเคาน์เตอร์ใกล้ๆ ป้ายรสบัสและจุดขึ้นเรือจะอยู่ฝั่งตรงกันข้าม จะนั่งด้านในเรือหรือยืนรับลมท้ายเรือก็ได้ ส่วนตัวเราขอยืนรับลมเย็นๆ ให้สบายใจดีกว่า
Bus Stop: Tazawa Kohan 田沢湖畔
Boat: Shirahama 白浜
• รูปปั้นทัตสึโกะ | Statue of Tatsuko
เรานั่งเรือจากป้าย Shirahama มาลงที่ป้าย Katajiri เดินตามทางมาเพียงเล็กน้อยก็จะพบกับทางเดินลงไปยังรูปปั้นทัตสึโกะ รูปปั้นที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1968 เพื่อระลึกถึงหญิงสาวทัตสึโกะตามตำนานของทะเลสาบทาซาวะแห่งนี้ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมเดินทางมาเยี่ยมชมและถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ขอแนะนำสถานที่เพิ่มเติม ซึ่งอาจไม่ได้ปรากฏอยู่ในไกด์บุ๊ก แต่เราเห็นว่าเป็นจุดที่ถ่ายรูปสวยดีเลยอยากมาบอกต่อกับทุกคน ทะเลสาบทาซาวะสำหรับเราแปลกอยู่อย่างตรงที่จะมีหาดให้ลงเดินได้ด้วย มองไปคล้ายชายทะเล มีหลายแห่งที่เปิดให้เราลงไปเดิน เช่น บริเวณใกล้ๆ ท่าเรือ Shirahama และ บริเวณใกล้ๆ กับรูปปั้นทัตสึโกะ ลองไปเดินถ่ายรูปเล่นดูก็ได้ ก็ให้ความรู้สึกแปลกไปอีกแบบ
Bus Stop: Katajiri 潟尻
Boat: Katajiri 潟尻
• ศาลเจ้าคันซากุ | Kansagu Shrine
อีกหนึ่งศาลเจ้าเล็กๆ ริมทะเลสาบ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับรูปปั้นทัตสึโกะ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้ต้นไม้ใหญ่ที่ลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ จึงมีชื่อเรียกอีกกันชื่อว่า Ukigi ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าศาลเจ้าที่มีต้นไม้ลอยขึ้นมาเหนือน้ำนั่นเอง ที่นี่ยังมีชื่อเสียงในการขอพรเรื่องความรัก ใครมีปัญหาอกหักรักคุดบ่อยๆ อย่าลืมแวะไปไหว้ขอพรหรือซื้อเครื่องรางกลับมาล่ะ
Bus Stop: Katajiri 潟尻
08 นิวโตออนเซ็น | Nyuto Onsen
หมู่บ้านออนเซ็นสีน้ำนมในหุบเขาลึกของจังหวัดอาคิตะ ที่สวยจนอาจทำให้คุณลืมหายใจ เป็นคำโปรยของนิวโตออนเซ็นที่ฟังดูเกินจริง แต่ก็ทำให้เราอดใจไม่ได้ที่จะเดินทางไปค้างสักคืน อันที่จริงนิวโตออนเซ็นเป็นชื่อเรียกแหล่งออนเซ็นธรรมชาติ 7 แห่ง ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติโทวาดะฮาจิมันไต มีออนเซ็นสีน้ำนมที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งแต่ละแห่งก็มีสไตล์การตกแต่งแตกต่างกันไป มีทั้งแบบเรียวกังไม้โบราณอายุหลายร้อย หรือถ้าชอบสไตล์โมเดิร์นก็มีให้บริการเช่นกัน
สามารถเดินทางไปนิวโตออนเซ็นได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถบัส แต่หากมีสัมภาระเยอะ รถบัสอาจไม่ใช่วิธีการที่สะดวกนัก เพราะเมื่อถึงป้ายแล้วต้องเดินต่อไปอีกค่อนข้างไกล แต่ถ้าเทียบกับวิวที่พบระหว่างทางนั้นเราว่าคุ้ม นิวโตเป็นเหมือนหมู่บ้านออนเซ็นในฝัน จะมีอะไรดีไปกว่าการได้แช่น้ำพุร้อนคุณภาพดีท่ามกลางธรรมชาติ 360 องศา ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่เรารักที่สุดในทริปเลยจริงๆ
ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักมากคือ Yumeguri เป็นบัตรโดยสารสำหรับทัวร์นิวโตออนเซ็นทั้ง 7 แห่ง มี 2 ประเภทให้เลือกซื้อคือ Yumeguri-cho สำหรับคนที่จองที่พักในนิวโตออนเซ็นเท่านั้น สามารถเข้าใช้บริการออนเซ็นทั้ง 7 ได้ฟรีแห่งละครั้งโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมภายในระยะเวลา 1 ปี และ Yumeguri-map เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้จองที่พักในนิวโตออนเซ็น มีข้อจำกัดคือต้องเสียค่าเข้าใช้บริการออนเซ็น ส่วนคนที่จองที่พักในนิวโตออนเซ็นก็สามารถซื้อบัตรโดยสารนี้ได้และไม่ต้องเสียค่าเข้าใช้บริการออนเซ็น
Info
Nyuto Onsen
Website: http://www.nyuto-onsenkyo.com/
Nyuto Onsen Bus Tour (Yumeguri)
Price: Yumeuri-cho 1,800 เยน (1 ปี), Yuneguri-map 600 เยน (1 วัน)
Sales Location: ฟรอนท์ของที่พักทั้ง 7 แห่งในนิวโตออนเซ็นเท่านั้น ไม่สามารถซื้อออนไลน์ได้
How to Use: แสดงบัตรโดยสารให้ผู้ขับทั้งตอนขึ้นและลงบัส และแสดงบัตรโดยสารให้พนักงานต้อนรับของนิวโตออนเซ็น 7 แห่งก่อนเข้าใช้บริการเพื่อรับตราปั๊ม ข้อควรระวังบัสจะมาทุกๆ 1-2 ชั่วโมง โปรดตรวจสอบตารางรถบัสทางเว็บไซต์
• คุโรยุ ออนเซ็น | Kuroyu Onsen
หมายเหตุ: ขอถ่ายเป็นกรณีพิเศษ โดยปกติจะไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ภาพ: ©Michael Martin
ค่ำคืนนี้เราพักที่ออนเซ็นโบราณที่เปิดบริการมายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1674 จุดเด่นคือตัวอาคารไม้ของคุโรยุออนเซ็นยังเป็นของดั้งเดิม ที่นี่ไม่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย เพราะบางครั้งความสบายก็ไม่ได้หมายความว่าสงบ คุโรยุทำให้เราได้พักผ่อนจริงๆ แช่ออนเซ็นสีน้ำนมท่ามกลางใบไม้แดง กินอาหารปรุงสดอย่างพิถีพิถันตามฤดูกาล ดีเกินกว่าที่จินตนาการไว้เยอะมาก อีกไฮไลท์ของคุโรยุคือหากน้ำไข่ไปต้มในบ่อน้ำพุร้อนจะได้เป็นไข่เปลือกสีดำ เชื่อกันว่าจะช่วยเพิ่มพลังความสดชื่น คืนความสดใสกับร่างกายด้วย
ภาพ: ©Michael Martin
Info
Kuroyu Onsen
Period: ปลายเม.ย. ถึง ปลายพ.ย.
Website: www.kuroyu.com/
Bus Stop: Kyuka Mura 休暇村前
• ซึรุโนยุ ออนเซ็น | Tsurunoyu Onsen
หมายเหตุ: ขอถ่ายเป็นกรณีพิเศษ โดยปกติจะไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ
ซึรุโนยุเป็นออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในนิวโตออนเซ็น ถือเป็นออนเซ็นยอดฮิตที่จองค่อนข้างยาก ตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ มีเรื่องเล่าว่าเดิมทีออนเซ็นนี้ไม่มีชื่อจนกระทั่งนายพรานในละแวกนี้ไปเห็นนกกระเรียนได้รับบาดเจ็บลงไปแช่น้ำออนเซ็นที่นี่เพื่อรักษาบาดแผล ภายหลังจึงเรียกที่นี่ว่าซึรุโนยุ ซึ่งแปลว่าบ่อน้ำร้อนแห่งนกกระเรียนนั่นเอง นอกจากออนเซ็นคุณภาพดี ที่นี่ยังเสิร์ฟอาหารโลคอล ผักภูเขาหรือปลาที่หากินยาก อีกทั้งมีบริการรถรับส่งที่ป้ายรถบัสด้วย เพียงต้องแจ้งทางโรงแรมล่วงหน้า
Info
Tsurunoyu Onsen
Period: ตลอดปี
Website: www.tsurunoyu.com/english.html
Bus Stop: Arupa Komakusa アルパこまくさ
09 เจ้าแม่กวนอิมคอนจิกิไดคันนอน | Tazawa-ko Kon-jiki Daikannon
เจ้าแม่กวนอิมสีทองประจำเมืองเซมโบกุ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 มีความสูงถึง 35 เมตร รอบๆ พระใหญ่มีรูปปั้นของเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้ง 7 และตรงบริเวณใต้ฐานมี Genso Kyuden ห้องใต้ดินที่เล่าความเป็นมาของเจ้าแม่กวนอิมตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน อีกทั้งโดยรอบถูกตกแต่งเป็นสวนสวยงาม น่าแวะมาเยี่ยมเยือน
ภาพ: ©Michael Martin
Info
Tazawako Kon-jiki Daikannon 田沢湖金色大観音
Price: ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก 100 เยน
Hours: 9:00-15:00 น.
Holiday: –
Bus Stop: Daikannon Iriguchi 大観音入口
10 ร้านน้ำผึ้งฮาจิมิทสึ | Yama no Hachimitsuya
อีกหนึ่งของดีเมือง เซมโบกุ ที่หลายคนไม่รู้คือน้ำผึ้ง ร้านฮาจิมิทสึที่เราแนะนำนี้มีน้ำผึ้งหลากหลายรสชาติที่เชื่อว่าไม่เคยชิมที่ไหนมาก่อน เช่น น้ำผึ้งรสกาแฟ รสโยเกิร์ต รสส้มยูซุ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีพิซซ่าราดน้ำผึ้ง และที่พลาดไม่ได้คือ ซอฟต์ครีมน้ำผึ้งท็อปด้วยช็อกโกแลตรูปผึ้ง ที่มีกิมมิกเล็กๆ คือจะได้ท็อปกี่ตัวก็ต้องทอยลูกเต๋าเสี่ยงดวงเอา
Info
Yama no Hachimitsuya (Honey Shop) 山のはちみつ屋
Hours: 11:00-16:30 น.
Holiday: วันพฤหัสบดี
Website: www.bee-skep.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
Bus Stop: Tazawakobashi 田沢湖橋
อ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอยืนยันอีกครั้งว่าทริปเที่ยวเมือง เซมโบกุ ของเรานั้นกลมกล่อมมาก มีสถานที่ให้หลากหลายสไตล์ให้เลือก เชื่อว่าหากใครได้ลองไปแล้วต้องมีสักที่ใดที่หนึ่งที่คุณต้องแอบเทใจให้ ขอบคุณเมืองเซมโบกุที่ทำให้วันเปื่อยๆ ของเราถูกเยียวยา ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันอีก หากใครสนใจสามารถค้นหาที่พักในเมือง เซมโบกุ เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่เราพักได้ที่ https://a.r10.to/hfanfb
การเดินทางไป เซมโบกุ
จากโตเกียว: ที่สถานี Tokyo ให้นั่ง Akita Shinkansen มาลงที่สถานี Tazawako ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 50 นาที หรือจากสถานี Kakunodate ใช้เวลา 3 ชั่วโมง
วิธีขึ้นบัส Ugo Kotsu
คลิกที่รูปเพื่อดาวน์โหลดวิธีขึ้นบัส
1 ขึ้นรถทางประตูหน้า
2 หยิบตั๋วจากเครื่องจ่ายบัตรด้านข้างคนขับ
3 หากต้องการลงให้กดปุ่ม とまります หลังสิ้นสุดเสียงประกาศชื่อป้ายนั้นๆ
4 จากนั้นจ่ายเงินที่เครื่องเก็บตั๋วด้านข้างคนขับ โดยใส่เงินและตั๋วลงไปพร้อมกัน โดยเทียบจากราคาบนหน้าจอกับตัวเลขบนตั๋ว
5 หากไม่มีเงินพอดี ให้แลกเงินที่เครื่องเก็บตั๋วก่อน เพราะเครื่องนี้จะไม่ทอนเงิน
6 ลงรถที่ประตูหน้าเหมือนเดิม
แผนที่เที่ยว เซมโบกุ
คลิกที่รูปเพื่อดาวน์โหลดแผนที่
ขอบคุณ BeamSensei เพื่อนร่วมทางที่เป็นแบบให้ถ่ายรูปในบทความมา ณ ที่นี้ด้วย :ー)