JR EAST PASS (Tohoku area) : สนุกกับทุกโมเมนต์ในภูมิภาคโทโฮคุด้วยรถไฟ Joyful Train
สารบัญ
JR EAST PASS (Tohoku area)
สนุกกับทุกโมเมนต์ในภูมิภาคโทโฮคุด้วยรถไฟ Joyful Train
พาร์ทที่แล้วคิจิพาไปนั่งรถไฟหรรษาเก็บบรรยากาศในโซนจังหวัดนากาโน่ (Nagano) และนีงาตะ (Niigata) ด้วย JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) คราวนี้ขอเขยิบมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ด้วยการลัดเลาะผ่านเมืองต่างๆ ตามแต่รถไฟจะพาไป และก็เหมือนเดิมที่เราเดินทางด้วยบัตรเบ่งอย่าง JR EAST PASS (Tohoku area)
“จุดหมายปลายทาง อาจไม่ใช่ที่สุดของความงดงาม” ประโยคทิ้งท้ายของรายการหนังพาไปทำให้คิจิเลือกที่จะซึมซับกับทุกๆ โมเมนต์ไม่เว้นแต่ช่วงระหว่างเดินทาง ซึ่งการนั่ง Joyful Train ไม่เพียงแต่จะตอบโจทย์ทริปของเรามาก 5 ขบวน 5 คาแรคเตอร์ที่ได้ไปสัมผัสมา เรียกได้ว่าหรรษาและเป็นตัวของตัวเองสุดๆ
01 POKEMON with YOU Train
ภาพ : Carissa Loh (East Japan Railway Company)
รถไฟหรรษาขบวนนี้ได้เริ่มให้บริการในปี ค.ศ. 2017 อีกทั้งถูกออกแบบมาเพื่อสร้างรอยยิ้มให้แก่เด็กๆ ในภูมิภาคโทโฮคุ หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี ค.ศ. 2011
ภาพ : Carissa Loh (East Japan Railway Company)
ตัวรถไฟฉาบด้วยสีสันพร้อมคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนขวัญใจของใครหลายๆ คนอย่างปิกะจู (Pikachu) ที่คอยเรียกรอยยิ้มตามจุดต่างๆ ภายในแบ่งออกเป็น 2 ตู้โดยสาร ตู้หนึ่งสำหรับนั่งโดยสารจุ 46 ที่นั่ง (ต้องสำรองล่วงหน้าเท่านั้น) ส่วนอีกตู้คือพื้นที่ให้ทุกคนได้มามีช่วงเวลาที่สนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นการใส่ที่คาดผมปิกะจูหูตั้งถ่ายรูปหรือถ่ายภาพคู่กับเจ้าตุ๊กตาปิกะจูไซส์บิ๊กเบิ้ม
ภาพ : Carissa Loh (East Japan Railway Company)
POKEMON with YOU Train จะให้บริการในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รวมถึงช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคมก็จะเปิดการเดินรถในทุกๆ วัน
ภาพ : www.kabegamikan.com
Enjoying Autumn : ยิ่งดีใหญ่หากได้นั่ง POKEMON with YOU Train ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะด้วยเส้นทางของรถไฟจะหยุดที่สถานี Geibikei เพื่อให้ผู้โดยสารได้ไปสัมผัสกับธรรมชาติรอบๆ อันได้แก่ หุบเขาเกบิเค (Geibikei Gorge)
ภาพ : East Japan Railway Company
Info
Route : ระหว่างสถานี Ichinoseki ถึง Kesennuma สาย Ofunato Line
Accessible From : สถานี Ichinoseki (Shinkansen)
Website : www.jreast.co.jp
02 Resort Shirakami
ภาพ : East Japan Railway Company
เป็นขบวนรถไฟที่วิ่งขนานตามแนวชายฝั่งทะเลเส้นโกโน (Gono Line) เสนอภูมิทัศน์อันสวยงามแบบพาโนรามาของชิราคามิซันจิ (Shirakami Sanchi) ที่ได้รับการขึ้นบัญชีเป็น UNESCO World Heritages Sites หนำซ้ำยังคอยจอดพักให้เราได้แวะลงไปร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ อย่างการชูตบาสชิงรางวัลที่สถานี Noshiro หรือเดินข้ามไปชมทะเลแบบใกล้ชิดที่สถานี Senjojiki พร้อมๆ กับอีเว้นท์ที่สร้างความเพลิดเพลินตลอดทั้งเส้นทางอย่างการแสดงเชิดหุ่นกระบอก เล่านิทานพื้นบ้าน และการบรรเลงเครื่องสายซามิเซ็น (Shamisen)
ภาพ : Carissa Loh (East Japan Railway Company)
รถไฟ Resort Shirakami เปิดให้บริการแทบจะทุกวัน ทั้งยังมีขบวนที่หน้าตาไม่เหมือนกันให้สำรองที่นั่งล่วงหน้าถึง 3 แบบ ได้แก่ บุนะ (Buna) อาโออิเคะ (Aoike) และ คุมาเกระ (Kumagera) แต่ถ้าใครเลือกนั่งได้ขบวนเดียวเราขอผายมือไปที่บุนะขบวนใหม่ล่าสุดในบรรดาทั้งหมด ตัวขบวนรถอาบสีเขียวเข้มสื่อถึงธรรมชาติ ภายในตกแต่งด้วยงานไม้เสริมด้วยโทนสีสดใสอย่างสีเหลือง, ส้ม และชมพู ที่สำคัญยังเป็นขบวนเดียวที่มีเคาน์เตอร์จำหน่ายเบนโตะ เครื่องดื่ม ไปจนถึงงานฝีมือให้เราได้ซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกอีกด้วย
ภาพ : East Japan Railway Company
ที่นั่งปกติ (Regular Seats) ของทั้ง 3 ขบวนเรียกได้ว่ากว้างขวางถึงขนาดเหยียดขาได้แบบสบายๆ และก็เช่นเดียวกันกับที่นั่งพิเศษ (Box Seats) ที่มาพร้อมกับกระจกบานใหญ่ให้ผู้โดยสารได้ชื่นชมวิวทะเลกันแบบเต็มอิ่ม สำหรับใครที่สนใจอยากจะบอกว่าทั้งที่นั่งปกติและที่นั่งพิเศษของ Resort Shirakami ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น จะจองทางออนไลน์ก็สะดวกแต่มีเงื่อนไขคือจะไม่สามารถระบุตำแหน่งที่นั่งต้องการได้ อย่างไรก็ตามหากไปสำรองที่นั่ง ณ เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วไม่เพียงแต่คุณจะสามารถรีเควสที่นั่งพิเศษได้ ยังไม่เสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีกด้วย
ภาพ : photo.tazawako-kakunodate.com
Enjoying Autumn : ในช่วงกลางไปจนถึงปลายเดือนตุลาคม จากสถานี Aomori สามารถขึ้นรถโดยสาร (มี JR EAST PASS (Tohoku area) ขึ้นฟรี) ไปยังลำธารโออิราเสะ (Oirase Keiryu Stream) และทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada) ได้ หรือในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ลองตั้งต้นจากสถานี Akita แล้วนั่งชินคันเซ็นลงไปที่ Kakunodate เดินเท้าต่อราวๆ 15-20 นาที ก็จะถึงหมู่บ้านซามูไรคาคุโนดาเตะ (Kakunodate Samurai Residences) ที่ต้นซากุระช่วงนี้จะผลัดใบเป็นสีส้มแดงสวย
ภาพ : www.nippon.com
Go Sightseeing : ด้วยความที่ Resort Shirakami ในทุกๆ ขบวนจะวิ่งเส้นทางเดียวกัน และจะสนุกมากกว่านั้นหากได้แวะเที่ยวระหว่างทาง ก่อนที่จะกลับมาเพื่อจับรถไฟขบวนถัดมาแล้วมุ่งหน้าไปยังสถานีปลายทางนั่นก็คือ Aomori อย่างการลงที่สถานี Juniko เพื่อไปชมสระมรกตอาโออิเคะ (Aoike) และป่าบีช (Beech Forest) ที่ขึ้นชื่อว่ากินพื้นที่กว้างที่สุดในโลก ยิ่งในฤดูใบไม้ร่วงใบบีชจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นโทนเหลืองสว่าง ซึ่งคิจิว่าเป็นอะไรที่ควรไปชมให้เห็นกับตาแบบสุดๆ
หรือจะลอกแพลนตามด้านล่างก็ไม่ว่ากัน
8:20-10:26 น. | สถานี Akita > Juniko โดย Resort Shirakami ขบวนที่ 1 |
10:40-10:55 น. | ต่อด้วยรถบัสไปยังสถานีรถประจำทาง Aoike (เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 360 เยน) |
11:00-12:30 น. | ชมป่าบีชและสระมรกตอาโออิเคะ |
12:30-12:45 น. | ขึ้นรสบัสที่สถานีเพื่อกลับไปขึ้น Resort Shirakami ที่สถานี Juniko (เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 360 เยน) |
13:06-15:49 น. | จากสถานี Juniko ไป Hirosaki โดย Resort Shirakami ขบวนที่ 3 |
ส่วนอีกชอยส์จะเลือกเป็นพักค้างคืนเพื่อเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้นก็ได้ เช่นแวะลงที่สถานี WeSPa- Tsubakiyama แล้วไปผ่อนคลายด้วยการแช่ออนเซ็นกลางแจ้งพลางชมวิวสวยของทะเลญี่ปุ่นกว้างสุดลูกหูลูกตา ณ Koganezaki Furofushi Onsen
ภาพ : www.luriji.io
ภาพ : East Japan Railway Company
Info
Route : ระหว่างสถานี Akita ถึง Aomori สาย Gono Line
Accessible From : สถานี Akita (Shinkansen) หรือ สถานี Shin-Aomori (Shinkansen)
Website : www.jreast.co.jp
03 Toreiyu Tsubasa
ด้วยความที่จังหวัดยามากาตะขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็น รถไฟขบวนนี้เลยแตกต่างจาก Joyful Train ขบวนอื่นๆ ตรงที่มีบ่อออนเซ็นอยู่ในตู้โดยสาร สำหรับใครที่ต้องการแช่เท้าพลางชมวิวสวยรายทาง สามารถซื้อตั๋วแช่เท้าได้บนรถไฟเท่านั้นในราคา 380 เยน ในเซ็ตจะมาพร้อมกับผ้าเช็ดเท้าและถุงสำหรับใส่รองเท้า โดยจะใช้เวลาแช่ราวๆ 15 นาที อีกทั้งเต็มที่ต่อรอบได้มากสุดคือ 8 คน
ภายในรถไฟยังดีไซน์ให้มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งบุเสื่อทาทามิ เบาะแต่งลวดลายของดีของจังหวัดยามากาตะ ทั้งในตู้โดยสารยังมีเคาน์เตอร์บาร์จำหน่ายเครื่องดื่มท้องถิ่นให้ได้ซื้อมาจิบเพิ่มความสดชื่นหลังจากแช่เท้าอีกด้วย
ภาพ : matome.naver.jp
Enjoying Autumn : วัดยามาเดระ (Yamadera Temple) สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีมุมสูงที่ควรค่าแก่การไปเช็คอิน โดยสามารถนั่ง Toreiyu Tsubasa ไปที่สถานี Yamagata หรือนั่ง Resort Minori ไปที่สถานี Sendai จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟธรรมดา แม้จะต้องขึ้นบันไดมากถึง 1,000 ขั้น แต่วิวที่ได้เห็นอาจทำให้คุณหยุดหายใจไปชั่วขณะเลยทีเดียว
ภาพ : East Japan Railway Company
Info
Route : ระหว่าง Fukushima ถึง Shinjo สาย Yamagata Shinkansen Line
Accessible From : สถานี Fukushima (Shinkansen) และ สถานี Yamagata (Shinkansen)
Website : www.jreast.co.jp
04 Resort Minori
ภาพ : East Japan Railway Company
“มิโนริ” ในภาษาญี่ปุ่นแปลความหมายออกมาได้ว่า “ออกดอกออกผล” สื่อถึงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่ส่งผ่านออกมาเป็นนานาแหล่งน้ำพุร้อนและเหล่าต้นไม้ที่ผลัดเปลี่ยนสี ตามเส้นของ Resort Minori ขบวนจะแล่นผ่านหุบเขานารุโกะ (Naruko Gorge) ที่จะสวยสุดๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้เรายังจะได้ชมทุ่งนาสีเหลืองทอง อันเป็นสัญญาณที่บอกว่าฤดูเก็บเกี่ยวกำลังจะมาถึง
ภาพ : East Japan Railway Company
Resort Minori มีตารางการเดินรถในทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ แต่หน้าใบไม้ร่วงท้ายๆ เดือนของตุลาคมการเดินรถจะเปลี่ยนเป็น 1 รอบไป-กลับต่อวัน (แต่อยากให้เช็คตารางกันก่อนนะ เพราะรถไฟอาจจะไม่ได้วิ่งทุกวัน) ทั้งยังต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น โดยสามารถเลือกสำรองได้ทั้งทางออนไลน์และที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว
Enjoying Autumn : หุบเขานารุโกะ (Naruko Gorge) ได้รับการโหวตจากชาวญี่ปุ่นว่าเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุด ผู้คนส่วนใหญ่นอกจากจะมาชมสีสันของธรรมชาติมักจะรอจับภาพรถไฟที่กำลังแล่นออกมาจากอุโมงค์ ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงภาพที่ได้ก็จะยิ่งน่าดูชมมากขึ้นไปอีกหลายเท่า และสำหรับใครที่โดยสารมากับรถไฟ Resort Minori ช่วงระหว่าง 2 สถานี (Naruko Onsen และ Nakayamadaira Onsen) ขบวนยังผ่อนแรงให้ได้ดื่มด่ำกับวิวใกล้ๆ อีกด้วย
ภาพ : Instagram @nishinomiya_okami
Go Sightseeing : กิจกรรมที่ควรมาสนุกในฤดูใบไม้ร่วงก็คือการเดินป่าพลางซึมซับสีสันของธรรมชาติ ตลอดจนเพนท์สีให้กับเจ้าตุ๊กตาไม้โคเคชิ (Kokeshi) ที่พิพิธภัณฑ์โคเคชิ (Kokeshi Museum) ก่อนจะปิดท้ายทริปด้วยการค้างสักคืนที่นารุโกะออนเซ็น แต่ถ้าหากไม่มีเวลาขนาดนั้น ใกล้ๆ สถานี Naruko Onsen มีบ่อออนเซ็นให้แช่เท้าแช่มือฟรี ซึ่งไปทั้งทีเราก็อยากให้คุณได้ไปลองกัน
ภาพ : East Japan Railway Company
Info
Route : ระหว่างสถานี Sendai ถึง Shinjo สาย Riku East Line
Accessible From : สถานี Sendai (Shinkansen)
Website : www.jreast.co.jp
05 SL Ginga
ภาพ : East Japan Railway Company
รถไฟหน้าตาแบบรถจักรไอน้ำขบวนนี้ให้บริการในเส้นทางระหว่างสถานี Hanamaki กับ Kamaishi ในขบวนถูกออกแบบมาให้มีความคล้ายคลึงกับรถไฟในวรรณกรรมเรื่อง “รถไฟสายทางช้างเผือก” ของมิยาซาวะ เคนจิ (Kenji Miyazawa) ตามยุคสมัยที่เขามีชีวิตอยู่ อีกทั้งสามารถชมทิวทัศน์ผ่านหน้าต่างรถไฟโบราณ รวมถึงในตู้โดยสารยังมีการจัดแสดงผลงานของนักเขียนชื่อก้องอีกด้วย
ภาพ : East Japan Railway Company
ภาพ : onsennews.com
Go Sightseeing : ด้วยความที่ SL Ginga วิ่งระหว่างสถานี Hanamaki ที่มีชื่อเสียงเรื่องบ่อน้ำพุร้อน และสิ้นสุดยังที่ Kamaishi ใครที่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะนั่ง SL Ginga ช่วงไหน เราขอโหวตให้เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะสวยที่สุด หรือจะแพลนเป็นพักแช่ออนเซ็นที่เมืองฮานามากิสักคืนก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
สำหรับใครที่สนใจ SL Ginga จำเป็นต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า พร้อมกับเช็คตารางให้แม่นว่าวันนั้นรถไฟได้เปิดทำการเดินรถแน่หรือไม่
ภาพ : East Japan Railway Company
Info
Route : ระหว่างสถานี Hanamaki ถึง Kamaishi สาย Kamaishi Line
Accessible From : สถานี Shin-Hanamaki (Shinkansen)
Website : www.jreast.co.jp
เงื่อนไขที่เราเทใจให้ JR EAST PASS (Tohoku area)
การซื้อพาสเป็นทางเลือกที่คนไทยนิยม เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มาก ทำให้เหลือเงินไปช็อปปิ้งหรือกินของที่อยากกินได้เต็มที่ แต่พาสก็มีหลากหลายชนิดให้เลือกและมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน วันนี้เลยจะมาเผยข้อมูลให้ทุกคนรู้ว่า JR EAST PASS (Tohoku area) ที่ว่าเจ๋งขนาดไหน
ภาพ: jreast.co.jp
หากมีบัตร JR EAST PASS (Tohoku area) อยู่ในมือแล้วละก็ เราสามารถนั่งรถไฟฟรีตั้งแต่สนามบินนาริตะ (Narita Airport) หรือสนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) และสถานี JR อื่นๆ ในโตเกียว และเส้นทางรถไฟทั้งหมดใน JR East Lines นอกจากนี้ยังสามารถนั่งชินคันเซ็นฟรี 5 เส้นทาง ได้แก่ โทโฮกุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen), อาคิตะชินคันเซ็น (Akita Shinkansen), ยามากาตะชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen), โจเอ็ตสึชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen) และ โฮกุริกุชินคันเซ็น (Hokuriku Shinkansen) แถมใช้ได้ตั้ง 5 วัน ไม่ต้องติดต่อกัน ภายใน 14 วันนับจากออกบัตร ราคาก็คุ้มสุดๆ ผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) เพียง 19,350 เยน เด็ก (6-11 ปี) เพียง 9,670 เยน อีกทั้งสามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ถึง 1 เดือน ตั้งแต่ยังอยู่ที่ไทย จะขึ้น Joyful Train ก็ฟรีไม่เก็บเงินเพิ่ม จะขึ้น Bus Tohoku ก็ฟรีหลายเส้นทาง หากซื้อที่ไทยก็จะถูกกว่าซื้อที่ญี่ปุ่น 1,000 เยน
วิธีซื้อ JR EAST PASS (Tohoku area) แบบง่ายที่สุด
สุดท้ายนี้ เราขอแนะนำวิธีซื้อ JR EAST PASS (Tohoku area) แบบง่ายที่สุด ก็คือซื้อผ่านเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญเรื่องการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ได้แก่ Wendy Tour, HIS และ JTB สามารถติดต่อและสอบถามรายละเอียดได้โดยกดที่รูปภาพด้านล่าง
Wendy Tour
โทร.02-214-1763
HIS
โทร.02-022-0933
JTB
โทร.02-344-4688 / 02-344-4600
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.jreast.co.jp/e/eastpass_t/index.html
สำรองที่นั่ง Joyful Train ได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์
ภาพ : www.joetsutj.com
ที่นั่ง Joyful Train ทุกแบบยกเว้นที่นั่งโซฟาของ Genbi Shinkansen จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ซึ่งเราสามารถจองผ่านเว็บไซต์ของ JR EAST ได้ฟรีก่อนใช้บริการ 1 เดือน ตั้งแต่ยังอยู่ที่ไทย (ปัจจุบันระบบรองรับภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลี แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ ก็สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋ว JR สีเขียวบริเวณสถานีใหญ่ๆ ที่ญี่ปุ่นก็ได้เช่นกัน
สำรองที่นั่ง Joyful Train ได้ที่นี่