Ichijoji : เดินเที่ยวย่านพักอาศัยอิชิโจจิที่เต็มไปด้วยร้านค้าไอเดียเก๋ในเกียวโต

ICHIJOJI
ชวนไปใช้วันหยุดอย่างมีคุณภาพที่ย่านอิชิโจจิ

อิชิโจจิ (Ichijoji) อาจไม่ใช่ชื่อที่คนไทยคุ้นหูเท่าไรนัก นี่คือชื่อย่านโลคอลแห่งหนึ่งในจังหวัดเกียวโต อยู่ห่างจากตัวเมืองเกียวโตใช้เวลาราวๆ 30 นาทีโดยรถไฟ มาลงที่สถานีอิชิโจจิ (Ichijoji Station) แม้จะไม่ได้สวยงามเป็นพิเศษไม่ได้หวือหวาจนต้องร้องว้าว แต่เป็นความธรรมดาที่เรียกรอยยิ้มน้อยๆ ได้ตลอดทาง เชื่อว่าในโลกที่วุ่นวายมีเรื่องให้ต้องคิดมากมายแบบนี้ ไม่ว่าคนที่กำลังตามหาความธรรมดาหรือกำลังมองหาพื้นที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยไปในเกียวโตก็น่าจะเพลิดเพลินกับ Ichijoji ได้เหมือนกัน

พื้นที่ส่วนใหญ่ของ Ichijoji เป็นย่านที่อยู่อาศัยของคนท้องถิ่นซะมากกว่า แต่ก็มีสถานที่ที่อยากแนะนำให้ลองไปกันดู เพราะมีร้านค้าชิคคูลอยู่ตลอดสองข้างทางถนนสาย Manjuin (ถนนที่อยู่ติดกับสถานีอิชิโจจิ) เหมาะกับคนที่อยากใช้วันหยุดหรือเวลาว่างที่มีไม่มากนักโดยไม่เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ ใครพอมีเวลาว่างอยู่และไม่รู้จะไปที่ไหน เราขอใช้เวลาตลอดทั้งวันชวนคุณไปเข้าร้านนู้นออกร้านนี้สำรวจบริเวณย่าน Ichijoji กันให้หนำใจว่ามีอะไรน่าสนใจ และถ้ามีโอกาสได้แวะมาที่นี่แล้วต้องทำอะไรบ้าง แบบนี้สินะที่เขาเรียกกันว่า วันหยุดคุณภาพ!

Mission 01 เข้าร้านหนังสือ

KEIBUNSHA

BOOKS, GIFTS and SOMETHING FOR LIFE

ไม่รู้จะนิยาม Keibunsha ว่าอย่างไรดี เพียงแค่ก้าวเข้าไปในพื้นที่ของ Keibunsha ที่สามารถเดินเท้าได้จากสถานีอิชิโจจิประมาณ 3 นาที ก็รู้สึกราวกับว่าหลุดเข้าไปในโลกของเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายในประกอบไปด้วย Keibunsha Bookstore, Keibusha Ichijoji Shop, Keibunsha Gallery Enfer และ Keibunsha Cottage ที่เป็นทั้งพื้นที่จำหน่ายหนังสือ เครื่องเขียน สินค้าทำมือ เสื้อผ้า และพื้นที่ให้ศิลปินหรือนักศึกษาเช่าสำหรับจัดแสดงอีเว้นท์สร้างสรรค์ต่างๆ

แม้ทั้งสามร้านจะจำหน่ายสินค้าแตกต่างกัน แต่ก็สัมผัสได้ถึง “ความใส่ใจ” เป็นจุดเชื่อมที่ไม่ว่าจะเดินเข้าร้านไหนก็ยังทำให้เรารู้สึกได้ว่ามันช่าง Keibunsha จริงๆ ความใส่ใจในสินค้าที่วางจำหน่าย ไม่ใช่แค่อัพเดทสินค้าใหม่ๆ ให้ทันทุกสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่กลับถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีทั้งหนังสือและสินค้าทุกชิ้นที่วางจำหน่ายรวมถึงการบริการ เช่น ทุกร้านจะมีป้ายแปะเตือนว่า หากอยากถ่ายรูปภายในร้าน รบกวนสอบถามพนักงาน เป็นความใส่ใจและเข้าใจว่าลูกค้าคงไม่อยากได้ยินเสียงกล้องถ่ายรูปให้กวนใจ

หรือใครบางคนอาจจะชอบความตื่นเต้น ที่นี่ก็มีโซนเก๋ๆ ที่ถูกอกถูกใจเรามากอย่าง Blind Date with a Book ให้เลือกซื้อหนังสือจากคำอธิบายสั้นๆ เพียงประโยคเดียวโดยที่เรามองไม่เห็นปก เช่น หญิงสาวผู้มีความฝัน ชีวิตที่แสนสุข เรื่องบันเทิงที่แสนน่าเบื่อ เป็นต้น คนๆ หนึ่งจะเก็บรายละเอียดเล็กๆ (ที่หลายครั้งก็ถูกมองข้ามไป) ของสิ่งหนึ่งจนครบถ้วนได้อย่างไร ถ้าเขาไม่ได้มีความรักต่อสิ่งนั้นอย่างเต็มหัวใจ

มีคนบอกว่าในวันที่สื่อสิ่งพิมพ์ค่อยๆ จางหาย คนขายหนังสือยังไงก็ไม่มีทางรวย แต่ Keibunsha ยังคงอยู่ได้แถมยังร่ำรวย ร่ำรวยเรื่องราวสนุกสนาน ความสุข และจินตนาการ อยากให้ลองเพิ่มลิสต์ร้านนี้ไว้ในทริปเกียวโตครั้งหน้า เราว่าคุณก็น่าจะสัมผัสสิ่งเหล่านั้นได้เหมือนกัน

“ช่วยด้วย ฉันว่าฉันตกหลุมรักเข้าแล้วล่ะ”

Access

Info
Keibunsha
Hours: 10:00-21:00 น.
Holiday: –
Website: www.keibunsha-books.com, www.keibunsha-store.com, www.cottage-keibunsha.com

Mission 02 จิบกาแฟแก้ง่วงสักแก้ว

Coffee House Parrot

ร้านกาแฟโบราณและร้านอาหารขนาดกะทัดรัด จำหน่ายอาหารกินง่ายๆ เช่น เซ็ตอาหารเช้าสไตล์ตะวันตก ข้าวห่อไข่ และสปาเก็ตตี เป็นต้น ซึ่งบอกไว้ก่อนว่าอาจจะให้บริการได้ไม่ทันใจวัยรุ่นสักเท่าไหร่ เนื่องจากร้านดำเนินการทั้งทำอาหารและเสิร์ฟด้วยคุณตาใจดีเพียงคนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากให้ทุกคนอดใจรอ เราว่าความค่อยเป็นค่อยไปตั้งใจทำทีละเมนูที่ลูกค้าออเดอร์นี่แหละ คือเสน่ห์ของร้านนี้เลย

Access

Info
Coffee House Parrot
Hours: 7:00-19:00 น.
Holiday: –
Website: www.cafe-parrot.business.site

Mission 03 ถึงเวลาอาหารกลางวัน

Aikamu

ร้านอาหารญี่ปุ่นโฮมเมดมีจุดเด่นที่หนังสือการ์ตูนในร้านเยอะมาก เยอะในที่นี้หมายถึงภายในร้านมีชั้นวางหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นติดผนังสูงกว่า 6 ชั้นเกือบจรดเพดานจากพื้น ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ลูกค้าเป็นผู้ชายซะมากกว่า

แต่ก็ไม่ต้องเขินไป ขนาดเราเป็นผู้หญิงยังชอบบรรยากาศภายในร้านเลย ชอบที่ทุกคนเดินเข้าร้านแล้วไปเลือกหนังสือมาอ่าน แทนการหยิบมือถือมาเล่นระหว่างรออาหาร ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนวัยไปตอนยังเด็กเลิกเรียนกลับบ้าน แล้วนั่งอ่านการ์ตูนรอพ่อทำมื้อเย็นแสนอร่อยให้ยังไงยังงั้น

Access

Info
Aikamu
Hours: 12:00-15:00 น., 18:00-23:00 น.
Holiday:  –

Mission 04 ช็อปสินค้าสุดคูล

Montique

โคมไฟเก่า ตู้ และโต๊ะไม้โบราณ ของใช้รวมถึงของตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจจำนวนไม่น้อยที่เรามองเห็นผ่านกระจกใสริมถนน ชวนสะดุดตาจนต้องขอแวะเข้าไปสักหน่อย หญิงสาวเจ้าของร้านก้าวออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ไม้หลังเก่า ยิ้มต้อนรับเราอย่างเป็นกันเอง สินค้าส่วนใหญ่ของที่ร้านถูกคัดเลือกมาด้วยตัวเธอเองจากในญี่ปุ่นซะเป็นส่วนใหญ่ บ้างก็จากฝรั่งเศส โดยมีหลักในการเลือกที่น่าจะถูกใจสายวินเทจว่า ของเก่ามีชีวิตและสินค้าทุกชิ้นจะต้องสามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันนั่นเอง

Access

Info
Montique
Hours: ศ.-พ. 11:00-19:00 น.
Holiday: วันพฤหัสบดี
Website: www.pour-montique.com

Mission 05 กินขนมหวานเพิ่มพลัง

Mushiyashinai (648471)

ตัวเลขหกหลักนี้เป็นชื่อร้านขนมหวานหน้าตาชวนหิวจากฝีมือพาทิซิเยร์ขนมหวานจากนมถั่วเหลืองหนึ่งเดียวในโลก ที่มีใจรักและอยากทำขนมที่ทำให้คนที่ได้กินรู้สึกมีความสุข เมนูที่เราอยากแนะนำเพราะชอบมากทั้งแนวคิดและรสชาติคือ Miracle Cake มันมาจากการที่เธอสังเกตว่ามีคนที่แพ้นมวัวอยู่จำนวนไม่น้อย และคงเป็นเรื่องน่าเศร้าถ้าคนเราจะไม่ได้กินเค้กเพียงเพราะแพ้นมวัว จึงได้คิดค้นเค้กที่ไม่มีส่วนผสมของแป้งสาลี ไข่ และนมวัว แต่ใช้นมถั่วเหลืองแทน ซึ่งเป็นทีเด็ดของร้านที่ใครๆ ต่างก็เอ่ยปากชมอย่างไม่ขาดสาย

Access

Info
Mushiyashinai (648471)
Hours: อ.-อา. 10:30-19:30 น.
Holiday:  วันจันทร์
Website: www.648471.com

การเดินทางไปอิชิโจจิ

วิธีที่สะดวกและประหยัดเวลาที่สุดคือการโดยสารรถไฟซึ่งใช้เวลา 34 นาที จาก Kyoto Station ให้ขึ้นรถไฟ JR สาย Nara Line ไปลงที่ Tofukuji Station จากนั้นเปลี่ยนมานั่งสาย Keihan Main Line เพื่อไปลงที่สถานี Demachiyanagi Station แล้วให้ต่อรถไฟสาย Eizan Main Line อีก 3 สถานีก็จะถึง Ichijoji Station

Sompo
ประกันแสนถูกใจ

รู้ใช่ไหมว่าถ้าป่วยที่ญี่ปุ่นนั้นวุ่นวายมาก เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทริปนี้เราเลือกใช้ประกันการเดินทางจาก Travel Joy แผน Plan B+ จาก Sompo ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น จึงมั่นใจได้ว่ามีเจ้าหน้าที่ประสานงานพร้อมโทรนัดหมายกับโรงพยาบาลตลอด 24 ชม. อีกทั้งไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน คุ้มค่าคุ้มราคามาก

Price: 712 บาท/7 วัน
Website: www.traveljoy.sompo.co.th

Wise Pocket Wifi
พ็อกเก็ตไวไฟที่อยากให้ลอง

สนุกได้ตลอดทริปเพราะมี Wise ให้เราเที่ยวแบบไม่มีหลงกับพ็อกเก็ตไวไฟที่ครอบคลุมทั่วญี่ปุ่น ด้วยการใช้งานแบบไม่จำกัด (Unlimited) มาพร้อมขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก แบตเตอรี่ชาร์จเต็มใช้งานได้ถึง 8 ชม. ยิ่งถ้าไปกับเพื่อนหลายๆ คนก็คุ้มมาก เพราะแชร์ได้สูงสุด 10 เครื่อง บอกเลยว่าทริปญี่ปุ่นคราวนี้ Wise ได้ใจเราไปเต็มๆ

Price: 150 บาท/วัน
Website: www.wiseworldwifi.com