5 สถานที่ Must-Go ใน คานาซาว่า (Kanazawa)
สารบัญ
เมื่อพูดถึงเมือง ‘คานาซาว่า (Kanazawa)’ แห่งจังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa) หลายคนอาจทำหน้าฉงุนงุนงง เอ๊ะ? เมืองนี้คืออะไร อยู่ที่ไหนเหรอ มีอะไรดี? …เกิดมาพึ่งเคยได้ยิน ฮ่าาาา อาจไม่แปลกนัก เพราะไม่ใช่เมืองยักษ์ใหญ่จุดหลักอย่าง Tokyo, Osaka, Kyoto, หรือ Sapporo ซึ่งมีความ Mass และเป็นที่รู้จักของคนไทยกันอย่างดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามแต่ขอบอกเลยว่าเมืองนี้ “ดังพอตัว” เลยแหล่ะสำหรับคนญี่ปุ่น
คานาซาว่า (Kanazawa) เป็นเมืองใหญ่ของจังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa) ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของเกาะฮอนชูในสมัยเอโดะ เมืองนี้เป็นฐานกำลังของโชกุนตระกูล Maeda ซึ่งมีอำนาจเป็นรองแค่ตระกูล Tokugawa ทำให้ความเจริญรุ่งเรืองทาง “ศิลปะและวัฒนธรรม” นั้น ทัดเทียมกับเกียวโตและเอโดะ (โตเกียว) เลยทีเดียว และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ที่รอดพ้นจากระเบิดและบาดแผลจากสงครามโลกที่ 2 (รองจากเกียวโต) จึงไม่แปลกเลยที่คุณจะเห็นสิ่งปลูกสร้างสำคัญๆ ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยมมากๆ ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวของญี่ปุ่น มีผู้มาเยือนเกือบ 10 ล้านคนต่อปี สถานที่ท่องเที่ยวมีทั้งญี่ปุ่นจ๋าจนไปถึงความทันสมัย ซึ่งคนไทยสายเที่ยวแบบเราบอกเลยห้ามพลาด
วันนี้จึงขอนำเสนอ 5 สถานที่เด็ดแห่ง คานาซาว่า (Kanazawa) ที่คุณต้องไปเยือนเมื่อมายังเมืองแห่งนี้!
01 Kenrokuen Garden
Kenrokuen (เคน-โระ-คุ-เอ็น) 兼六園 เป็น ‘สวนญี่ปุ่น’ ที่งดงามที่สุดติด Top 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น เคียงบ่าเคียงไหล่กับ Kairakuen แห่งเมือง Mito และ Korakuen แห่งเมือง Okayama เมื่อเข้ามาแล้วจะรู้สึกเลยว่า มันอาจไม่ใช่สวนที่ดูยิ่งใหญ่อลังการแบบ Central Park ในนิวยอร์ค เก๋ไก๋แบบสวนอังกฤษ แต่ดูจะเป็นสวนที่ให้ความรู้สึก “ถ่อมตน” เรียบง่าย สมถะ…อืมมมม คือมันก็จะ Zen หน่อยๆ น่ะ ^^ ใครได้เข้าไปแล้วอาจไม่อยากออก เพราะเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึงเลย ที่สำคัญแม้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของ Kazanawa แต่ผู้คนไม่ได้แออัดเบียดเสียดแบบสวน Yoyogi ที่ฮาราจูกุขนาดนั้นนะ
Yukitsuri ที่ว่า แหลมๆ พุ่งชี้ฟ้า
ขนาดแตกต่างกันไปได้ แล้วแต่ไซส์ของต้นไม้ด้วย
ชื่อสวนมีความหมายว่า “ปัจจัย 6 ประการ” อันประกอบด้วย “6 คุณสมบัติ” ได้แก่ ขนาดใหญ่/ เงียบสงบ/ มีลูกเล่น/ ความเก่าแก่/ สายทางน้ำไหล และทัศนียภาพเวลามองจากในสวน – Combo โกโก้ครั้นซ์ออกมาเป็นวิวทิวทัศน์ที่งามลงตัวอย่างที่สุด
สวนนี้ยังมาเที่ยวได้หลายฤดู “หน้าตา” ของสวนก็จะเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดู ซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง หรือสีขาวโพลนเต็มไปด้วยหิมะในฤดูหนาว…ขอบอกว่าสวยทุกฤดู! อ้อ เมื่อใกล้ถึงฤดูหนาวประมาณเดือน 11 สวนนี้จะมีสิ่งที่เรียกว่า “Yukitsuri” ลักษณะเป็นไม้พุ่งแหลมชี้ฟ้า เป็นวิธีดูแลรักษากิ่งของต้นสวนในสวนนี้ ป้องกันไม่ให้กิ่งไม้หักโนลงมาอันเนื่องมาจากน้ำหนักของหิมะที่จะตกลงมาสะสม โดยจะพันเชือกเป็นทรงกรวยอย่างเป็นระเบียบและแข็งแรง ด้วยความที่สวยลงตัวในแต่ละฤดูยังเป็นสถานที่ในการถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยนะ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะเห็นคู่หนุ่มสาวมาถ่ายกัน
ว่าที่สามีภรรยามาถ่ายรูปกัน
เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาต้นไม้
02 Kanazawa Castle
ปราสาท Kanazawa ภาพ – http://www.kanazawa-kankoukyoukai.or.jp/
Kanazawa Castle ตั้งอยู่ตรงข้ามสวน Kenrokuen พอดิบพอดี เดินข้ามมาเพียงอึดใจเดียวก็ถึงเลย (1 นาที) ปราสาทนี้เดิมเป็นสมบัติของตระกูล Maeda (เช่นเดียวกับสวน Kenrokuen) บริเวณนี้ได้เคยถูกไฟเผาไหม้มาแล้วถึง 2-3 ครั้ง จนทำให้ตัวปราสาทถูกเผาไหม้ไปจนหมด เหลือแต่เพียง Ishikawa-mon Gate ประตูทางเข้าปราสาทเท่านั้นเองที่ยังไม่เคยได้รับความเสียหาย ตัวปราสาทที่เห็นอยู่ขณะนี้ ได้บูรณาการสร้างขึ้นมาใหม่
เดินแค่ 1 นาทีจากสวน Kenrokuen ก็ถึงแล้ว
แม้จะถูกสร้างขึ้นใหม่ แต่ก็มีความขลัง+สวยสดงดงาม ดูยิ่งใหญ่ วิวทิวทัศน์รอบๆ ปราสาทเป็นพื้นที่แบบเปิดโล่ง ส่วนหนึ่งเพราะแถวปราสาทเป็นพื้นที่โล่งว่างเปล่าที่กว้างมาก (เป็นไปได้ว่าใช้เป็นที่รวบรวมกำลังพลกองทัพในสมัยก่อน) ก็เลยเผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ที่เห็นทั้งภูเขาท้องฟ้าต้นไม้ตึกวิวเมืองและที่ราบรอบๆ ปลอดโปร่งเปิดโล่งกว้างมากๆ และอย่าลืมว่าด้วยความที่อยู่ตรงข้ามสวน Kenrokuen เลย ทำให้ต้นไม้ดูมีความกลมกลืนกลมกล่อมกัน เช่นถ้ามาฤดูใบไม้เปลี่ยนสี รอบๆ ปราสาทก็จะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีเฉกเช่นสวน Kenrokuen
ดูสิ ขนาดของไม้ใหญ่ (มาก)
ปลอดโปร่งโล่งเชียว
พระอาทิตย์ตกดินที่ไหนๆ ก็สวย…
03 Higashi-Chaya District
อาคารทำด้วยไม้แบบญี่ปุ่นตลอดสองข้างทาง
Higashi Chaya District เป็นย่านเมืองเก่า มีร้านชาเยอะแยะมากมาย ท่ามกลางอาคารบ้านเรือนที่ทำด้วยไม้แบบญี่ปุ๊นนนญี่ปุ่นตลอดสองข้างทาง ขอเกริ่นสักนิดว่า โรงน้ำชา (Chaya) เป็นสถานที่สำหรับการเฉลิมฉลองและความบันเทิง โดยจะมี “เกอิชา” คอยเทคแคร์มาตั้งแต่สมัยเอโดะโน่น ซึ่งในสมัยนั้น การสร้างบ้าน 2 ชั้นถือเป็นเรื่องต้องห้าม แต่มีข้อยกเว้นให้เฉพาะกับโรงน้ำชาเท่านั้นที่สามารถสร้างได้ เพราะฉะนั้นคุณจึงเห็นอาคารแบบ 2 ชั้นอยู่เต็มไปหมด
กลางคืนก็เดินได้นะ มีแสงไฟข้างทางนำทาง
นี่เป็นย่านที่คุณสามารถสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม สองข้างทางอบอวลไปด้วยบรรยากาศแบบเมืองเก่า บ้านเรือน 2 ชั้นทำด้วยไม้ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวัฒนธรรมการดื่มชาแบบญี่ปุ่นได้ซึ่งมีบริการให้เลือกหลายร้าน
ค่อยๆ กิน ค่อยๆ ลิ้มรส
Kanazawa ยังเป็นเมืองแหล่งผลิตทองคำเปลว ดังนั้นคุณจะได้พบเห็นร้านค้ามากมายนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของทองคำเปลวนี้ ทั้งในรูปแบบเครื่องสำอาง ซอฟต์ครีม หรือของที่ระลึกมากมาย (ที่ชาร์จราคาจนแทบร้อง 55+)
กินไปปาดน้ำตาไป…ด้วยความอร่อย? เปล่าหรอก มันแพง! 55+
เพื่อนๆ สามารถอ่านข้อมูลแนะนำการท่องเที่ยวในย่านฮิกาชิชายะ (Higashi Chaya) ได้จากที่นี่…(คลิก)
04 Omicho Market
ตลาด Omicho แหล่งของกินใจกลางเมือง
เป็นตลาดสดที่ใหญ่และเก่าแก่มากตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นดั่งห้องครัวใหญ่ของเมือง ที่อุดมไปด้วยอาหารทะเลสดๆ มากมาย ทั้งกุ้งหอยปูปลาจัดเต็ม อยากกินอะไรชี้เลยจ้า รวมถึงร้านผักผลไม้ตามฤดูกาล ร้านขายปลาขายเนื้อสัตว์ สารพัดอาหารให้เลือกกันไม่หวาดไม่หวั่น
ทางเดินภายในตลาดมีโดมตลอดทาง จึงไม่ต้องกังวลสภาพอากาศว่าจะฝนตกแดดออก และแม้จะขึ้นชื่อว่า “ตลาดสด” แต่ก็มีความสะอาดในระดับที่พอผ่านพอน่าไว้ใจไปได้ ไม่ต้องกังวลว่าเดินช็อปอยู่ๆจะเจอหนูแมลงสาบวิ่งผ่านไต่ขา ฮ่าาา (แต่ระวังไว้ก็ดี) พ่อค้าแม่ค้าในนี้ต่างก็พยายามรักษาความสะอาด ภาพที่พวกเขาต่างออกมาเช็ดถูกวาดเศษขยะหน้าร้านรวมถึงบริเวณรอบๆ ร้าน (กวาดให้ร้านอื่นด้วยนั่นแหล่ะ) เป็นภาพที่เห็นได้ปกติ ใครหิวๆ ไม่รู้จะไปที่ไหน มาที่นี่ที่เดียวคือจบ! ผมรับรอง!
05 สถานีรถไฟ Kanazawa Station
สถานี Kanazawa Station อันทันสมัย ภาพ – bit.ly/2rxNr1G
อาจฟังดูแปลกๆ ที่ว่าหน้าตาสถานีรถไฟเป็นจุดเด็ดห้ามพลาดของเมือง แต่ด้วย “สถาปัตยกรรม” ที่ทันสมัยอลังการของ Kanazawa Station โครงสร้างทำด้วยเหล็กเป็นโดมล้อมรอบผู้มาเยือน ทำให้สถานีนี้ได้ชื่อว่าเป็นสถานีที่สวยอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น! นักท่องเที่ยวมาแล้วต่างพากันตะลึงกับความโอ่อ่าโมเดิร์น คือคิดว่าสถานีล้ำๆ คงมีแต่ในเมืองยักษ์ใหญ่อย่างโตเกียวโอซาก้า แต่ที่นี่ก็มีเหมือนกันนะ อิอิ ยกกล้องถ่ายรูปกันให้ตรึม
โครงสร้างที่ดูทันสมัย แบบนี้อยู่ได้นาน ผ่านไปหลายปีก็ไม่ดูเก่า
สัญลักษณ์หลักของสถานีเห็นจะเป็น “ประตูไม้ Tsuzumi-mon” ลักษณะคล้ายเสาโทริอิขนาดยักษ์ ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานีเลย เป็นดั่งประตูสู่เมือง Kanazawa ต้อนรับผู้มาเยือน Welcome!
ยิ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว Hokuriku Shinkansen ขยายเส้นทางมาถึงเมืองนี้ ทำให้สามารถเดินทางจาก Tokyo มายัง Kanazawa ได้โดยใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น! นับว่าไม่นานเกินไปเลยสำหรับนะครับ สำหรับเมืองอันน่าสนใจนี้ที่รอคุณอยู่
Hokuriku Shinkansen จากเกียวตรงยาวมาประมาณแค่ 2 ชม.ครึ่งเท่านั้น ภาพ – http://bit.ly/2tfFB0r