Let’s go NARA!

แจกพิกัด 5   ที่เที่ยวนารา  ฉบับมือใหม่หัดเที่ยว(นารา)ครั้งแรก

นารา (Nara) อีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิตในภูมิภาคคันไซ อาจไม่ได้คึกคักมากแบบโอซาก้า วัฒนธรรมจ๋าแบบเกียวโต เป็นจังหวัดกึ่งกลางที่มีครบทุกสิ่ง ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ เมืองเก่า คาเฟ่ งานคราฟต์ ทุกอย่างกำลังดีเป็นเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง สำหรับคุณที่กำลังอ่านอยู่ น่าจะกำลังมีแพลนจะไปนารากันใช่ไหม อันที่จริงนารามีสถานที่น่าสนใจเยอะมาก แต่สำหรับผู้เริ่มต้นเที่ยวเป็นครั้งแรก ขอแนะนำ ที่เที่ยวนารา น่ารัก เดินทางสะดวก สามารถไปได้ใน 1-2 วัน แล้วแต่เวลาที่คุณมีให้เมืองสุดชิลแห่งนี้ ฉันที่เคยไปมาแล้วครั้งหนึ่ง ยังอยากกลับไปซ้ำอีก

ก่อนอื่นขอเล่าถึงการเดินทางในตัวเมืองนาราซึ่งมีทั้งรถไฟ รถบัส และแท็กซี่ หากโดยสารรถไฟจะมีหลักๆ 2 สถานี จาก 2 ผู้ให้บริการ ได้แก่ JR Nara Station และ Kintetsu Nara Station ใครที่อยากใช้บริการรถบัส นารามี Narakotsu Local Bus ให้บริการ ซึ่งมีพาสราคาประหยัดด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ แต่ถ้าไม่ได้รีบจะเดินเรื่อยเปื่อยแบบเราก็ถึงที่หมายเหมือนกัน สะดวกแบบไหนก็เลือกได้เลย 

01 Todaiji Temple | วัดโทไดจิ

เริ่มต้นทริปด้วยการแวะขอพรที่ “วัดโทไดจิ” วัดพุทธที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 752 หรือราวๆ 1,200 กว่าปีมาแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น หากมาโดยรถไฟวัดโทไดจิจะอยู่ใกล้กับสถานี Kintetsu-Nara มากกว่า

วัดโทไดจิเป็นที่ตั้งของวิหารไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเรียกกันว่าวิหารไดบุทสึเด็น (Daibutsuden Hall) เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุทสึสำริดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมจากยูเนสโกด้วย

ด้านในวิหารหลักของวัดโทไดจิมีเสาไม้ต้นหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปกันมาก เนื่องจากความยาวรอบเสามีขนาดเท่ากับรูจมูกของพระพุทธรูปไดบุทสึและฐานของเสาไม้ต้นนี้จะมีช่องเล็กๆ อยู่ มีหลายความเชื่อบอกว่าหากใครลอดผ่านช่องนี้ได้จะมีสุขภาพแข็งแรง หรือจะตรัสรู้ได้ในชาติหน้า เท่าที่สังเกตขนาดของช่องค่อนข้างเล็กน่าจะเหมาะสำหรับเด็กๆ มากกว่า

เดินเยื้องออกมาทางทิศตะวันออกของวิหารไดบุทสึเด็นก็จะพบกับ “วัดนิกัทสึโด (Nigatsu-do Temple)” ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับวัดโทไดจิ อารามไม้แบบเปิดตั้งอยู่บนฐานยกระดับ ดูไม่ค่อยเหมือนวัดญี่ปุ่นที่เราเห็นบ่อยๆ แต่สวยสะดุดตาจนต้องยอมเดินขึ้นบันไดนิดหน่อยเพื่อไปเยี่ยมชมในตัววัดแบบใกล้ชิด จากระเบียงด้านบนสามารถชมวิวมุมสูงสุดคลาสสิกของเมืองนาราได้ เสมือนกับว่าเป็นจุดชมวิวดีๆ เลย

Info
Todaiji Temple
Entrance Fee: เฉพาะวิหารหลัก 500 เยน (ผู้ใหญ่)/ 300 เยน (เด็ก), วิหารหลักและพิพิธภัณฑ์ 800 เยน (ผู้ใหญ่)/ 400 เยน (เด็ก)
Website: www.todaiji.or.jp/english
Access: เดินเท้า 1.4 กิโลเมตรจาก Kintetsu-Nara Station
Nigatsu-do Temple
Entrance Fee: เข้าฟรี

02 Nara Park | สวนสาธารณะนารา

จากวัดโทไดจิเดินมาเรื่อยๆ ประมาณ 300 เมตร จะพบกับสวนสาธารณะนารา หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า สวนกวางนารา คงเพราะที่นี่เป็นที่ที่มีกวางกระจายตัวเดินเล่นอยู่เยอะที่สุดในเมือง สวนแห่งนี้เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1880 กว้างถึง 3,130 ไร่เชียวล่ะ

กวางนาราไม่ได้ชอบกินผักอย่างที่เราแอบคิดไว้ แต่กลับชอบ “เซมเบ้” ขนมแป้งอบกรอบที่คนญี่ปุ่นนิยมกินคู่กับชาร้อน หากต้องการให้อาหารกวาง ภายในบริเวณสวนจะมีจุดจำหน่ายเซมเบ้กระจายตัวอยู่ ก็ลองเลือกซื้อแล้วให้อาหารกวางกันได้แบบใกล้ชิด แนะนำให้ทำตามป้ายว่าอย่าไปแกล้ง ระวังจะโดนวิ่งไล่หรือโดนกัดเอา

หลายคนอาจจะคิดว่าก็เป็นแค่สวนกวาง เราไม่แน่ใจนักหรอกว่าจริงๆ แล้ว ที่นี่เคยถูกใช้เป็นแลนมาร์คในชีวิตใครไปแล้วบ้าง หนุ่มสาวที่เดินจูงมือกันในวันอากาศดีกำลังคุยอะไรกันอยู่ กวางนับพันจะรู้สึกเบื่อบ้างไหมที่ต้องพบเจอคนแปลกหน้าทุกวัน แต่ที่เราสัมผัสได้คือสวนสาธารณะนาราเป็นทุกอย่างที่มากกว่าสวนสาธารณะให้แก่คนนาราจริงๆ

Info
Nara Park
Entrance Fee: เข้าฟรี
Website: nara-park.com
Access: เดินเท้า 800 เมตร จาก Kintetsu Nara Station

03 Naramachi | นารามาจิ

สถาน ที่เที่ยวนารา ต่อไปที่เราอยากแนะนำคือ ย่านนารามาจิ ตลอดสองข้างถนนของย่านนารามาจิเป็นอาคารไม้แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นร้านค้า แกลเลอรี่ คาเฟ่น่ารัก ที่พัก และพิพิธภัณฑ์ อีกทั้งยังมีพื้นที่เปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมทำเวิร์คช็อปงานคราฟต์สไตล์ญี่ปุ่นเยอะมาก จนรู้สึกว่าเดินได้เรื่อยๆ เลย

เราเดินวนเวียนเข้าร้านนู้น ออกร้านนี้อยู่ค่อนข้างนาน มีร้านไอเดียน่ารักที่อยากแนะนำนิดหน่อย เช่น Siki Organic & Natural ร้านที่ขายถุงเท้าเพียงอย่างเดียว ความน่ารักของร้านนี้คือถุงเท้าที่จำหน่ายเป็นแบบแฮนด์เมดที่คนท้องถิ่นของนาราตั้งใจถักทอขึ้นเอง ใช้ฝ้ายออร์แกนิก บอกว่าดีต่อใจคงยังไม่พอ เพราะร้านนี้ก็ดีต่อโลกอีก แต่ถ้าเดินจนเหนื่อยแล้วอยากหาร้านนั่งเล่น ลองแวะไปที่ร้าน Cherry’s Spoon คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ที่เจ้าของร้านทำให้รู้สึกเหมือนเปิดบ้านให้เพื่อนแวะเข้าไปนั่งคุย ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกัน ที่โต๊ะญี่ปุ่นตัวเตี้ยบนพื้นเสื่อทาทามิ กาแฟดำหรือชาร้อนๆ กับชีสเค้กสักชิ้น ก็เติมเต็มยามบ่ายที่ร่างกายเริ่มล้าได้ดีมาก

Info
Siki Organic & Natural
Hours: 10:00-17:30 น.
Close: –
Website: siki-naramachi.com
Facebook: 糸季 Organic&Natural
Access: เดินเท้า 850 เมตรจาก Kintetsu-Nara Station

04 Kofukuji Temple | วัดโคฟุคุจิ

อีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดนารา อดีตวัดโคฟุคุจิ (Kofukuji Temple) เคยมีอาคารมากกว่า 150 อาคาร ปัจจุบันหลงเหลือให้เข้าชมอยู่เพียงไม่กี่อาคารเท่านั้น โดยมีทั้งอาคารที่เก็บค่าเข้าและอาคารที่ให้เข้าชมฟรี อาทิ The Five-Storied Pagoda เจดีย์ไม้สูง 5 ชั้นที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของวัดโคฟุคุจิ, Tokondo Hall วิหารซึ่งได้รับเลือกให้เป็นสมบัติชาติญี่ปุ่น และ Kofukuji National Treasure Museum พิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยงานศิลปะเกี่ยวพระพุทธศาสนา อีกทั้งมีพระพุทธรูป Ashura 3 หน้า 6 มือ เป็นชิ้นงานเด่นของพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ควรพลาดแวะชม

INFO
Kofukuji Temple 
Website: www.kohfukuji.com/english.html
Access: เดินเท้า 550 เมตรจาก Kintetsu-Nara Station, 300 เมตรจาก Nara Park

05 Imaicho | อิไมโช

โลเคชั่นสุดท้ายที่เราอยากแนะนำอยู่นอกเมืองนาราไปราว 40 นาที สามารถโดยสารได้ทั้งรถไฟ Kintetsu และ JR แต่เราเลือกนั่งรถไฟสาย Kintetsu-Nara Line เพราะเดินเที่ยวต่อได้ใกล้กว่า ให้นั่งรถไฟมาลงที่ Yaginishiguchi Station ในเมืองคาชิฮาระ (Kashihara) ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดของย่านโบราณชื่อว่า อิไมโช

อิไมโชเป็นย่านซามูไรเก่าของเมืองนารา ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้และแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยตั้งแต่สมัยเอโดะ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเดินชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่จับต้องได้จริง ความเก๋ก็คือตลอดสองข้างถนนในย่านนี้ไม่มีป้ายบอกทาง ไม่มีหน้าร้านให้เห็นชัดเจน ตบตาผู้มาเยือนด้วยบ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่นโบราณแบบที่เคยเห็นในซีรีส์ญี่ปุ่นสมัยก่อน

แม้ปัจจุบันจะมีร้านค้า คาเฟ่ต่างๆ ทยอยเปิดแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าพื้นที่โบราณแห่งนี้ถูกแทนที่ไป เรารู้สึกว่าอิไมโช ไม่ได้ร้องขอให้คนเข้ามามากมายนัก เป็นเพียงบ้านคนท้องถิ่นธรรมดาที่เปิดรออยู่เสมอ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธหากจะมีใครสักคนตั้งใจแวะเข้ามาเยี่ยมเยือน

ใครจะไปคิดว่าในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาตร์ญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเอโดะแบบนี้ จะมีพื้นที่ให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เราพบหนึ่งคาเฟ่ที่น่ารักมากและอยากให้ทุกคนได้ลองไป Coffee Satou เป็นคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นขนาดกะทัดรัดที่บรรยากาศดีมากถึงมากที่สุด จำหน่ายทั้งอาหาร ขนม ชา และกาแฟราคาเป็นมิตร ที่คู่สามีภรรยาอารมณ์ดีเจ้าของร้านตั้งใจลงมือทำด้วยตัวเองทุกเมนู ความน่ารักของที่ร้านคือหากสั่งเมนูเครื่องดื่มร้อน จะสามารถเลือกแก้วเซรามิกแบบที่ตัวเองชอบจากชั้นวางของที่ร้านได้ด้วย เอาเข้าจริงพอได้ดื่มกาแฟจากแก้วที่ตัวเองเลือกความอร่อยมันทวีคูณจริงๆ

Info
Coffee Satou
Hours: พฤ.-อ. 10:00-17:00 น.
Close: วันพุธ
Website: coffee-sato.gorp.jp

การเดินทางไปนารา

จากโอซาก้า:

1. จากสถานี Osaka-Namba Station ให้นั่งรถไฟสาย Kintetsu Line ไปลงที่ Kintetsu-Nara Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
2. จากสถานี Namba Station ให้นั่งรถไฟสาย Yamatoji Line ไปลงที่ JR Nara Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที

จากเกียวโต:

1. จากสถานี Kyoto Station ให้นั่งรถไฟสาย Nara Line ไปลงที่ JR Nara Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
2. จากสถานี Kyoto Station ให้นั่งรถไฟสาย Kintetsu Line ไปลงที่ Kintetsu-Nara Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที (โดยรถไฟ Express), ประมาณ 35 นาที (โดยรถไฟ Limited Express) คลิกที่นี่เพื่อทำความรู้จักกับสถานที่น่าสนใจอื่นๆ ในจังหวัดนารา (Nara)