คนญี่ปุ่นนี่เป็นชนชาติที่มีเอกลักษณ์สุดๆ เลยนะ

เราคนไทยจะไปเที่ยวบ้านเค้าก็ควรจะทำความรู้จักไว้นิดนึงเนอะ ^^

มาดู 4 มารยาท Japan Only ที่ควรรู้ไว้ก่อนไปญี่ปุ่นกัน!

 

1) งดใช้เสียงบนรถไฟ

โครงสร้างประชากรญี่ปุ่นมักอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ ด้วยจำนวนประชากรกว่า 126 ล้านคน ไม่ต้องไปหาตัวเลขสถิติคุณก็คงนึกภาพออกได้ว่ามันจะแออัดพลุกพล่านขนาดไหน โดยเฉพาะเมืองหลวงอย่างโตเกียว และสถานที่ๆ เรียกได้ว่าคนมาเบียดเสียดแออัดกันเยอะที่สุดคงหนีไม่พ้น “บนรถไฟ” ซึ่งนั่นย่อมทำให้ “ความเป็นส่วนตัว” ลดน้อยลง (แทบจะไม่เหลือแล้ว)

ด้วยเหตุนี้คนญี่ปุ่นจึงสร้างวัฒนธรรมในการ “งดใช้เสียงบนรถไฟ” ขึ้นมา

ใครมากับเพื่อนแล้วคุยกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหวข้างนอก พอเข้ามาในรถไฟปุ๊ป ก็ต้องพยายามเงียบปั๊ป ใครมีมือถือ (ก็มีทุกคนนั่นแหละ) ก็ตั้งเป็นระบบสั่น หรือ Silent Mode หากมีคนโทรมา มักจะไม่รับและคุยบนรถไฟ แต่จะส่ง Message ไปว่าเดี๋ยวสะดวกแล้วจะโทรกลับไป

คนแน่นๆ แบบนี้ การเงียบอาจเป็นวิธีเดียวที่จะพอรักษาความเป็นส่วนตัวที่เหลือน้อยเต็มทีได้

คือสถานการณ์บนรถไฟจะเงียบมากกก กิจกรรมที่ผู้คนมักทำกันขณะนี้นั้นก็คือ นอน / อ่านหนังสือ / เล่นมือถือ / มองวิวข้างนอกไปเรื่อยเปื่อย ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของสภาพแวดล้อมโดยรวมด้วย อย่าลืมว่าคนญี่ปุ่นโดยสารรถไฟเป็นพาหนะหลัก วันๆ หนึ่งใช้เวลาบนรถไฟเป็นหลักชั่วโมงสำหรับใครหลายๆ คน ความเป็นส่วนตัวในช่วงเวลานี้มีค่ามากนะครับ

สำหรับใครที่ไม่ชิน เพิ่งเคยมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกๆ อาจถึงกับตกใจว่าทำไมมันช่างเงียบวังเวงอย่างนี้! (เงียบเกินจนรู้สึกอึดอัด) แค่เสียงหายใจยังได้ยิน หากไอจามทีนี่รับรองได้ยินไปทั้งขบวนแน่ ฮ่าๆๆ

เบียดเสียดแบบนี้ คงไม่ดีแน่หากต่างคนต่างใช้เสียงดังเอิกเกริก

เรื่องงดใช้เสียงบนรถไฟนี้ไม่ใช่ธรรมเนียมปฎิบัติที่ผู้คนให้ความร่วมมือเฉยๆ เท่านั้นนะครับ แต่บริษัทผู้ให้บริการเดินรถไฟก็เข้าใจผู้โดยสารจุดนี้ด้วย อย่างเช่น จอโฆษณาต่างๆ จะไม่มีเสียงเลย มีแค่ภาพประกอบเล่นไปมา (นักโฆษณา-ก็อาจต้องออกแบบโฆษณาให้เหมาะสมกับบริบทนี้ด้วย) และยังออกมาประชาสัมพันธ์ให้คนทำตามด้วย ดังจะเห็นได้จากป้ายต่างๆ ที่แปะอยู่ทั่วไปตามสถานี (ซึ่งมักมีรูปภาพประกอบ-เข้าใจได้ง่าย)

2) ขอบคุณด้วยไฟฉุกเฉิน

สำหรับคนที่เช่ารถขับเที่ยวออกนอกเมือง (หรือในเมืองก็ตาม) โปรดรู้ไว้ คนญี่ปุ่นขับรถกันสุภาพมากกก และนี่คือสิ่งที่คุณควรรู้ไว้ขณะอยู่หลังพวงมาลัย เป็นหนึ่งในมารยาทที่แสน Japan Only เหลือเกิน จนผมไม่คิดว่าจะมีประเทศอื่นไหนในโลกเค้าทำกัน ฮ่าๆๆ

คือขณะที่คนขับฝ่ายหนึ่ง “ให้ทางรถ” แก่อีกฝ่าย (ให้ทาง-ในที่นี้คือ ฝ่ายหนึ่งเป็นทางโท อีกฝ่ายหนึ่งเป็นทางเอกซึ่งมีสิทธิ์ในทางก่อน แต่ทางเอกกลับมีน้ำใจให้ทางโทไปก่อน) ไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตาม เช่น ออกจากซอย / จุด Merge ทางร่วมบนทางด่วน / หรือแม้แต่เปลี่ยนเลน

ฝ่ายที่ได้รับการให้ทางจะแสดงความขอบคุณด้วยการ “เปิดไฟฉุกเฉิน (Hazard Light) ให้กระพริบ 2 ที” ปิ้วๆ เป็นอันรู้กันว่า Thank you ขอบคุณที่ให้ทางนะคร้าบบ และใช้ได้กับรถทุกประเภทไม่ว่าคุณจะขับรถอะไรก็ตาม รถเก๋ง รถตู้ รถบัส รถบรรทุก (รถถัง? อิอิ) แม้แต่มอเตอร์ไซด์ก็กะพริบไฟปิ้วๆขอบคุณได้เช่นกันนะ

รถคันหน้าเปิดไฟฉุกเฉินกระพริบ 2 ที เป็นการขอบคุณที่ให้ตนเข้าเลน ขอบคุณภาพจาก : bit.ly/1q9qxbH

ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวว่าควรกระพริบไฟกี่ที แต่อย่างต่ำที่สุดคือ 2 ที เพราะหากกระพริบแค่ทีเดียว อีกฝ่ายอาจไม่ทันสังเกตหรือไม่ก็ดู “ห้วน” เกินไป หรือจะมากกว่า 2 ที เป็น 4-5-6 ทีก็ได้ แต่ไม่แนะนำ เพราะอีกฝ่ายอาจเข้าใจผิดได้ว่ารถของคุณมีปัญหารึเปล่า และส่วนใหญ่ที่เห็นทำกันก็แค่ 2 ทีนี่แหละเป็นอันรู้กัน ^^

นี่ไม่ใช่กฏหมายนะครับ ดังนั้นไม่ต้องกลัวหากลืมกด เป็นเพียงธรรมเนียมที่คนญี่ปุ่นปฎิบัติทำกัน เป็น Unwritten Rule ที่แสน Japan Only เท่านั้นเอง

รถบรรทุกขอบคุณด้วยไฟฉุกเฉิน หลังอีกฝ่ายหยุดให้ทางออกจากซอย ขอบคุณภาพจาก : bit.ly/2o3fQ04

เพราะคนญี่ปุ่นขอบคุณกันบ่อยมากๆ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง ดังที่เราอาจเห็นคนญี่ปุ่นทั้งสองฝ่ายโค้งหัวให้กันไปมาและไม่มีวี่แววว่าใครจะยอมหยุดก่อนเลย ขอบคุณข้าว ขอบคุณธรรมชาติ หรือที่เราคุ้นๆกันอย่างตอนก่อนรับประทานอาหารก็จะพูดว่า  いただきます (อิทาดาคิมัส) มีความหมายคือ เป็นการขอบคุณทุกตัวแปรที่ประกอบมาเป็นอาหารตรงหน้านี้ ทั้งชีวิตสัตว์ที่เราไปกินเค้าเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่ต่อ (TT) ชาวนา ชาวไร่ ชาวประมง คนเลี้ยงสัตว์ เชฟผู้ปรุงอาหาร ฯลฯ

สำนึกแห่งการขอบคุณนี้ก็ส่งอิทธิพลมาถึงการขับรถในที่สุด

3) ดู End Credit จนจบ

เวลาหนังจบ ภาพจอดำ และขึ้น “End Credit” ที่มีรายชื่อทีมงานผู้สร้างหนังยาวเหยียดลอยขึ้นฟ้า สิ่งที่คน (ทั่วโลก) มักทำกันก็คือ เหยียดแขนบิดขี้เกียจ และ ลุกจากที่นั่งเดินออกจากโรงไป

แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะครับ ว่าคนญี่ปุ่นเค้าดู End Credit กัน!

โดยเป็นทัศนคติที่ว่า ถือเป็นการ “ให้เกียรติ” แก่ผู้สร้างหนัง เพราะกว่าจะออกมาเป็นหนังเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่ว่ามีแค่พระเอก-นางเอก-ผู้กำกับมือฉมัง เท่านั้น แต่ยังมีทีมงานบุคลากรเบื้องหลังอีกมากมายก่ายกอง จิ๊กซอว์ทุกตัวที่ประกอบขึ้นมาเป็นหนังเรื่องนี้นั่นเอง

ดู End Credit จนจบเพลินๆ ขอบคุณภาพจาก : Stand by Me Doraemon

อีกมุมหนึ่ง นอกจากการให้เกียรติแล้ว ยังถือเป็นห้วงเวลาที่ทำให้คณรื้อฟื้นเรื่องราวในภาพยนตร์ที่เพิ่งดูจบไปหยกๆ ลองนึกภาพว่า ถ้าหนังเรื่องนั้นมีข้อคิดดีๆ ได้จุดประกายคุณในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ช่วง End Credit นี้จึงเป็นโอกาสได้นึกขอบคุณเหล่าทีมงานที่สร้างหนังดีๆ มาให้คุณดู และรำลึกความประทับใจที่หนังมอบให้แก่คุณไปในตัว หรือถ้าเนื้อเรื่องในหนังทำคุณซึ้งจนร้องไห้มาแล้ว ห้วงเวลานี้อาจมีรอบสอง อิอิ (ก่อนจะเดินออกโรงเข้าห้องน้ำเจอกับผู้คนมากมาย ^^)

เมื่อจะลุกออกจากโรง ทุกคนก็จะนำขยะไม่ว่าจะเป็น ป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม ติดตัวไปทิ้งบริเวณหน้าโรง โดยจะมีเจ้าหน้าที่มารอรับให้แยกทิ้งขยะด้วยนะ ใส่ใจในความสะอาดมากๆ

4) ต่อคิวในทุกๆ เรื่อง

ข้อนี้ไม่อยากอธิบายมากเพราะเห็นๆ กันอยู่แล้ว ผมชอบพูดขำๆ ว่า คนญี่ปุ่นหลงรักการต่อคิว เพราะต่อมันได้เสียทุกเรื่อง(จริงๆ) บางคนมีวินัยในตัว เชื่อว่าการต่อคิว(และอีกมุมหนึ่งคือไม่แซงคิว) เป็นการให้เกียรติต่อตัวเองและผู้อื่น บางคนก็มองว่าไม่ใช่อะไรหรอก ถ้าตนต่อคิวและทุกคนต่อคิว ในภาพรวมแล้วทุกอย่างจะไหลลื่นไปได้เร็วกว่า! ก็แค่นั้น

การแซงคิวในบางแห่งอาจถูกเจ้าหน้าที่เรียก (อย่างสุภาพและมีชั้นเชิง) ให้ไปต่อหางแถว และอาจถูกสังคมมองด้วยสายตาพิฆาตได้ (ซึ่งบาดคมซะเหลือเกิน อิอิ) อย่างว่าแหละครับประชากรเยอะ ใครมาก่อนควรได้ก่อน  มาทีหลังก็แค่ต่อคิวรอไปตามระเบียบ ^^

ที่(บางเรื่อง) มัน Japan Only เหลือเกินก็เพราะระดับการต่อคิวช่างเข้มข้นยิ่งนัก และเป็นระบบระเบียบเสียเหลือเกิน (ลองดูการต่อคิวเข้างาน Comic Market ที่โตเกียวเมื่อปีก่อนๆได้ที่ลิ้งค์นี้ดูครับ http://bit.ly/2nOoqML)

ต่อคิวไปหมดทุกเรื่องจริงๆ ตั้งแต่…

ต่อคิว-จ่ายเงิน

ต่อคิว-เข้าร้านอาหารดังๆ

ต่อคิว-เข้าห้องน้ำ

ต่อคิว-ซื้อตั๋ว

ต่อคิว-ขึ้นรถไฟ

ต่อคิว-ซื้อป๊อปคอร์นรถเข็น (นักท่องเที่ยวเจอได้ง่ายๆ ที่ Tokyo Disneyland)

ต่อคิว-ขับรถขึ้นสะพาน

ต่อคิว (จอดรอ) เข้าที่จอดรถ

หางแถวยาวแบบนี้คือต่อคิวเข้าที่จอดรถ

ขับรถมีวินัย ต่อคิวในทุกๆ เรื่อง

ต่อคิว-(ข้ามคืน) เพื่อซื้อไอโฟนออกใหม่

ต่อคิว-ข้ามทางม้าลาย!

ต่อคิว-รับของบริจาคยามวิกฤติ!! (เหตุการณ์ 311 เมื่อปี 2011 ข่าวออกไปทั่วโลก)

ท่ามกลางความโกลาหลและสิ้นหวัง ยังมีภาพอันน่าประทับใจนี้ซ่อนเร้นอยู่ ขอบคุณภาพจาก : bit.ly/2oTpcKn

ต่อคิวในทุกเรื่องๆ …อยู่ในสายเลือดจริงๆครับ ^^

ทุกประเทศทั่วโลกมีวัฒนธรรม ธรรมเนียมปฎิบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของตน ญี่ปุ่นมี Japan Only ดังตัวอย่างบางส่วนเหล่านี้ ของเราก็มีหลากหลาย Thailand Only ที่ชาวต่างชาติเซอไพรส์เช่นกันนะ ฮ่าๆๆ

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ