สมัยเด็กๆ ผมเคยอ่านมังงะสายไซไฟ ที่ในเรื่องมีการพูดถึงหุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงที่มีหน้าที่เป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับมนุษย์ ในโลกที่สภาวะแวดล้อมเลวร้ายเกินไป จนการเลี้ยงสัตว์จริงๆ กลับเป็นความฟุ่มเฟือยแทน

ใครจะคิดว่า เมื่อผมโตขึ้นมาแล้ว จะได้เห็นมนุษย์เลี้ยงหุ่นยนต์จริงๆ เริ่มตั้งแต่เจ้าทามาก๊อตจิ เกมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเล็กๆ ที่ฮิตถล่มทลายช่วงปลายยุค 90 จนเหล่าวัยรุ่นพากันพกไปไหนมาไหนกันถ้วนหน้า แต่ที่ถือว่าเป็นหุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงจริงๆ ก็คงต้องยกให้ “AIBO” เจ้าสุนัขหุ่นยนต์ชื่อดังของโซนี่ ที่เป็นที่ฮือฮาเมื่อมันเปิดตัว ทำยอดขายรวมทั้งหมดถึงแสนห้าหมื่นตัวเลยทีเดียว

 

 

แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นหุ่นยนต์ ก็ต้องการการบำรุงรักษาไม่ต่างกับสัตว์เลี้ยงจริงๆ ที่ก็ต้องมีเจ็บป่วยนั่นแหละครับ ซึ่งที่ผ่านมา โซนี่ก็รับบริการซ่อมแซมเจ้า AIBO มาโดยตลอด แต่เมื่อโซนี่ประกาศเลิกผลิต AIBO ก็เหมือนเป็นการประกาศข่าวร้ายต่อเจ้าของ AIBO ทั้งหลาย รวมถึงประกาศยกเลิกการให้บริการซ่อมแซม AIBO ตามมา เพราะว่า หากไม่มีสินค้าใหม่ ก็คงไม่คุ้มที่จะเตรียมช่างและอะไหล่ไว้ซ่อมแซมสินค้าที่ตกยุคไปแล้ว

แต่สำหรับเจ้าของ AIBO เจ้าสุนัขในร่างหุ่นยนต์นั้น มันไม่ใช่สินค้าตกรุ่น หรือแค่ของเล่น เพราะพวกเขาก็เลี้ยงและผูกพันกับมันเหมือนสัตว์เลี้ยงจริงๆ พอเจ้า AIBO ที่เลี้ยงไว้เกิดอาการป่วย หรือพูดง่ายๆ ก็เครื่องรวน แล้วติดต่อโซนี่ไป เพื่อจะพบว่าโซนี่ไม่มีบริการซ่อมอีกต่อไปแล้ว ก็เรียกได้ว่า “ใจสลาย” กันเลยทีเดียวครับ เพราะมันก็เท่ากับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาจะไม่มีทางเป็นเหมือนเดิม และในกรณีที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ก็เท่ากับมันตายจากพวกเขาไป เพราะเมื่อเครื่องกลไม่ทำงาน ก็เท่ากับมันเหลือแต่ร่างไร้วิญญาณนั่นล่ะ

 

คุณโนริมัตซึ โนบุยุคิ (Norimatsu Nobuyuki) ขอบคุณภาพจาก : www.nippon.com


แต่ก็โชคดี ที่ยังมีคนเห็นคุณค่าตรงนี้อยู่ และก็ไม่ใช่ใครอื่นครับ เขาคืออดีตวิศวกรของบริษัทโซนี่ คุณโนริมัตซึ โนบุยุคิ ซึ่ง Early Retire จากโซนี่ในปี 2010 แล้วปีถัดมาก็ตั้งบริษัท A. Fun ของตัวเอง รับงานซ่อมแซมเครื่องเสียงเครื่องไฟฟ้าเก่า ซึ่งในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หลายคนก็เลือกที่จะซื้อเครื่องไฟฟ้าใหม่ไปเลย แทนที่จะซ่อมของที่เสีย แต่ก็ยังมีคนที่ชอบของคลาสสิก สะสมของเก่า และยังใช้งานอยู่ ซึ่งกลุ่มนี้ก็คือลูกค้าของบริษัท A. Fun

เมื่อทราบว่าโซนี่เลิกให้บริการหลังการขายเจ้า AIBO ในปี 2014 และมีลูกค้าหลายต่อหลายรายเรียกร้องให้ช่วย “รักษา” เจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักให้คืนชีพมาให้ได้ คุณโนริมัตซึ จึงเริ่มทดลองรับงานซ่อม AIBO ด้วยทักษะและความรู้ที่สั่งสมมาจากสมัยทำงานให้โซนี่ ก็ทำให้เขาสามารถ “รักษา” พวกมันได้สำเร็จ กลายเป็นบริษัทที่โด่งดังในกลุ่มแฟนคลับของสินค้าโซนี่และเจ้า AIBO เลยทีเดียว

เขาบอกว่า หลายต่อหลายครั้งที่ผู้ใช้บริการ ถึงกับมาขอบคุณด้วยตัวเอง บางรายก็เป็นผู้สูงอายุที่รักเจ้าหุ่นยนต์เหมือนกับสัตว์เลี้ยงหรือลูกจริงๆ ซึ่งก็ดีใจจนกลั้นน้ำตาไม่ไหว เมื่อได้เห็นเจ้า AIBO กลับมาร่าเริงอีกครั้ง เป็นสิ่งที่คุณโนริมัตซึประทับใจเช่นกัน เพราะสมัยทำงานวิศวกร ก็ไม่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้มาก่อน

 

 

ทุกวันนี้ A.Fun ก็สามารถ “รักษา” AIBO ได้ถึง 100 ตัวแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้เพียงพอ เพราะยังมี AIBO ต่อคิวรอรับการรักษาอยู่อีกถึง 300 ตัว ทำให้ A.Fun ต้องกระจายงาน ให้อดีตวิศวกรของโซนี่ที่ขึ้นทะเบียนไว้ มาเรียนรู้การรักษา AIBO แล้ว ช่วยกันรับงานต่อ เพื่อที่ลูกค้าจะได้กลับมาพบกับสัตว์เลี้ยงที่รักของตัวเองไวๆ รวมถึงขยายพื้นที่รับงานไปยังต่างจังหวัดได้อีกด้วย

การได้ใช้ประสบการณ์ที่เคยมีมา สร้างความสุขให้กับผู้คนได้ ก็คงเป็นความสุขอย่างหนึ่งนะครับ 🙂 

_

อ้างอิง

http://www.sankei.com/photo/story/news/141231/sty1412310005-n1.html

http://business.nikkeibp.co.jp/article/opinion/20150427/280471/

http://a-fun.biz

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ