YOMIURILAND : เปลี่ยนฤดูร้อนให้สนุกกว่าเคยที่ดินแดนแห่งความสุข สวนสนุกโยมิอุริแลนด์!
สารบัญ
โยมิอุริแลนด์ (Yomiuriland) สำหรับเราไม่ได้เป็นเพียงชื่อสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นเยอะที่สุดและมีคนเดินทางมาเที่ยวมากที่สุดในโตเกียว เราว่าขั้นกว่าของความสนุกคือมวลความสุขที่ได้รับ ที่นี่จึงเป็นเหมือนดินแดนแห่งความสุขของผู้คนทุกเพศทุกวัย ช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกันยายนนี้ที่ญี่ปุ่นอากาศค่อนข้างร้อน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงวัย ถ้าได้ลองมาใช้เวลาร่วมกันเล่นเครื่องเล่นหรือทำกิจกรรมหน้าร้อนแสนสนุก ที่จัดขึ้นโดยเฉพาะที่สวนสนุกโยมิอุริแลนด์ ไม่ว่าอากาศจะร้อน แสงแดดในฤดูร้อนอาจแรงจ้าจนทำให้เรารู้สึกเหนอะหนะมากแค่ไหน ก็เชื่อว่าจะมีความรู้สึกสุขได้ไม่ต่างกัน
Keio Train to Yomiuriland
การเดินทางมายังสวนสนุกโยมิอุริแลนด์โดยรถสาธารณะเราแนะนำให้ใช้รถไฟ Keio สำหรับคนที่ตั้งใจมาใช้เวลาที่นี่ตลอดทั้งวันแบบเรา แนะนำให้ซื้อ “Keio Amusement Ticket (Yomiuriland)” แพ็คเกจตั๋วรถไฟเที่ยวสวนสนุกโยมิอุริแลนด์ สำหรับใช้นั่งรถไฟสาย Keio ได้ตลอด 1 วัน มาพร้อมบัตรผ่านประตูสวนสนุกและตั๋วที่ใช้กับเครื่องเล่นใดก็ได้ในสวนสนุกฟรี 3 ครั้ง ซึ่งหากลองคำนวณค่าใช้จ่ายเปรียบเทียบกับการซื้อแยกดูแล้วคิดว่าคุ้มดีทีเดียว หลังจากใช้เวลาดื่มด่ำกับวิวระหว่างทางบนรถไฟจากสถานีชินจูกุราวๆ 30 นาทีก็มาถึงสถานีจุดหมาย Keio Yomiuriland Station ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนสนุกแล้ว
ความสนุกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตัวสถานีรถไฟ ภายในสถานีที่ตั้งใจตกแต่งให้เป็นส่วนหนึ่งของสวนสนุก โดยมีเจ้ากู้ดกับลัคกี้สุนัขมาสคอตประจำสวนสนุกโบกมือต้อนรับเราอยู่ทั่วสถานี ถึงตรงนี้ก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนมารอรับแล้วบอกกับเราว่า “ไปสนุกด้วยกันเถอะ” ยังไงยังงั้น
ออกจากสถานีต้องมาต่อ Gondola หรือกระเช้าลอยฟ้าเพื่อขึ้นไปยังสวนสนุก ระหว่างทางมีต้นซากุระเรียงราย เดาว่าถ้าไปช่วงฤดูใบไม้ผลิต้องเห็นซากุระบานสวยแน่ๆ และใครที่กำลังกังวลว่าจะมีแต่ภาษาญี่ปุ่นก็เลิกกังวลได้เลย เพราะมีแผนที่ภาษาอังกฤษเข้าใจง่าย แว่วมาว่าในอนาคตจะมีแผนที่ภาษาไทยด้วยล่ะ ซื้อตั๋วเรียบร้อยก็ถึงเวลาสนุกแล้วสิ กายพร้อม ใจพร้อม ไปลุยกันเลย!
Info
Gondola
Ticket: เที่ยวเดียว 300 เยน, ไป-กลับ 500 เยน
*หมายเหตุ: อาจงดให้บริการในกรณีที่มีลมแรง
Yomiuriland
Hours: 9:00-20:00 น. (อาจมีการเปลี่ยนแปลง ตรวจสอบทางเว็บไซต์)
Ticket:
・One Day Pass (ค่าเข้าสวนสนุก + ขึ้นเครื่องเล่นได้ไม่จำกัด + โชว์สิงโตทะเล)
– ผู้ใหญ่ 5,400 เยน, นักเรียนชั้นมัธยม 4,300 เยน
– นักเรียนชั้นประถมและต่ำกว่า 3,800 เยน
– ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 4,500 เยน
・Entrance Only
– ผู้ใหญ่ 1,800 เยน
– นักเรียนชั้นมัธยม 1,500 เยน
– นักเรียนชั้นประถมและต่ำกว่า 1,000 เยน
– ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 800 เยน
Website: www.yomiuriland.com/thai.html
Ticket Collect Point: Central Honshu Information Plaza in Keio Shinjuku
*หมายเหตุ: โชว์สิงโตทะเลจัดขึ้นเพียงบางวันเท่านั้น โปรดตรวจสอบวันเวลาทางเว็บไซต์Keio Amusement Ticket (Yomiuriland)
Ticket: ผู้ใหญ่ 2,520 เยน, นักเรียนชั้นมัธยม 2,220 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 11 ปี 1,660 เยน
Included:
– ตั๋วรถไฟ 1 วันสำหรับใช้โดยสารรถไฟ Keio Line และ Inokashira Line
– บัตรผ่านประตูสวนสนุก Yomiuriland
– ตั๋วเครื่องเล่นใดก็ได้ใน Yomiuriland 3 ครั้ง
– คูปองส่วนลด 500 เยนสำหรับใช้ใน Mitsui Outlet Park Tama Minami Osawa
– คูปองสำหรับใช้ใน Tokyo Meatrea ร้านอาหารในเอาท์เล็ต
How to Book: ซื้อออนไลน์ทางเว็บไซต์ แล้วไปแลกรับบัตรโดยสารตัวจริงที่ Central Honshu Information Plaza in Keio Shinjuku อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.keioinfoplaza.jp/en_infoarea
Website: www.keio.co.jp/mttakao1daytrip
3 Recommended Areas in Yomiuriland
สวนสนุกกว้างขวางถูกแบ่งเป็นพื้นที่น่าสนุกหลากหลายโซนและมีเครื่องเล่นเยอะมาก ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าแค่วันเดียวจะตามเก็บความสนุกและความสุขจากโยมิอุริแลนด์ได้เพียงพอหรือเปล่า เลยขอแนะนำเป็น 3 พื้นที่น่าสนใจในสวนสนุก ที่ดีไปกว่านั้นคือพื้นที่ที่เราจะพูดถึงมีกิจกรรมที่จัดขึ้นในฤดูร้อนนี้โดยเฉพาะอีกด้วย
Good Job Area
เชื่อว่าตอนยังเด็กหลายคนมีฝันมากมาย อาทิ ประกอบรถยนต์ขับเอง ทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกระป๋องขาย หรือจะเป็นถักทอเสื้อผ้าในแบบที่ตัวเองชอบ ฯลฯ ไม่ใช่ทุกฝันที่จะเป็นไปได้แต่ Good Job Area คือพื้นที่เจ๋งๆ ในโยมิอุริแลนด์ที่เราอยากชวนมาลองเล่นนี้ทำให้ฝันในวัยเด็กของเราเป็นจริง
โซนใหม่ล่าสุดของสวนสนุกภายในพื้นที่ถูกจำลองให้เป็นเหมือนโรงงาน ซึ่งประกอบด้วยอุตสาหกรรมที่ใครๆ ต่างชื่นชอบได้แก่ Car Factory ด้านในมี Custom Garage ให้ได้ประกอบรถในฝันและทดลองขับ, Food Factory มี Splash U.F.O เป็นเครื่องเล่นไฮไลท์ของโรงงาน ให้ความรู้สึกราวกับเราเป็นเส้นยากิโซบะในถ้วยที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต ทั้งในบริเวณเดียวกันก็มี My U.F.O Factory พื้นที่แห่งความอร่อยสำหรับทำยากิโซบะกึ่งสำเร็จรูปในแบบของเราเอง, Spin Runway รถไฟเหาะในอาคารตั้งอยู่ใน Fashion Factory และ Bungu Factory อุตสาหกรรมเครื่องเขียน มีเกมสนุกๆ ให้เรารู้จักขั้นตอนการทำสมุดอย่างเพลิดเพลิน
นอกเหนือจากโซนโรงงานจำลองแล้ว ยังมี Good Job Kitchen ร้านอาหารอร่อยประจำสวนสนุกให้แวะมาฝากท้องยามหิว มีอาหารให้เลือกหลากหลายสไตล์ทั้งสไตล์ญี่ปุ่น ตะวันตก รวมถึงกะเพราสไตล์ไทยๆ ตบท้ายด้วย Pinkberry โยเกิร์ตผลไม้ชื่อดังจากแคลิฟอร์เนีย ก็เป็นการเติมพลังเพื่อไปลุยเครื่องเล่นในสวนสนุกต่อที่อร่อยใช้ได้
ติดกับทางเข้าออกสวนสนุกมี Gj Shop ร้านขายของฝากหลากประเภท ตั้งแต่ขนมขบเคี้ยวไปจนถึงของใช้ในบ้าน นำทีมด้วยสินค้าลิขสิทธิ์จากเจ้ากู้ดและลัคกี้มาสคอตแสนน่ารักแห่งโยมิอุริแลนด์ รวมถึงลายคาแรคเตอร์อื่นๆ ในสวนสนุกก็น่ารักน่าหยิบไม่แพ้กัน และถ้ามาในฤดูร้อนบริเวณนี้ก็มีอีเว้นท์ Bijjoba ที่จัดขึ้นเฉพาะฤดูร้อน เปิดให้เข้ามาสาดน้ำเฉลิมฉลองหน้าร้อนแรกของสมัยเรวะ หากสนใจก็เตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยนด้วยแล้วกัน
Yomiuriland อาจถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเติมเต็มช่วงเวลาของการทำตามฝันที่ขาดหายไปบ้างระหว่างการเติบโตก็เป็นไปได้
Bandit Area
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด” ขออนุญาตส่งเสียงเรียกกำลังใจให้ตัวเอง
ถ้าชื่นชอบเครื่องเล่นหวาดเสียว Bandit เป็นหนึ่งเครื่องเล่นที่ไม่ควรพลาดของสวนสนุกแห่งนี้ รถไฟเหาะความเร็ว 110 กิโลเมตร / ชั่วโมง จนเคยถูกบันทึกลงกินเนสบุ๊ก รวมถึงระยะห่างระหว่างจุดต่ำสุดและสูงสุดของรางรถไฟเหาะที่สูงถึง 78 เมตร แม้จะสูงและเร็วจนคนกลัวความสูงเห็นแล้วต้องเกิดอาการหน้าซีดไปบ้าง แต่เราก็ได้ยินมาว่านี่เป็นเครื่องเล่นยอดนิยมมากที่สุดของโยมิอุริแลนด์เชียวนะ และถ้ายังพอมีสติจากจุดสูงสุดของ Bandit ยังได้ชมวิวงามของกรุงโตเกียวด้วยล่ะ
ถ้าระดับความเร็วอย่างเดียวมันยังหวาดเสียวไม่พอ ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมจนถึง 8 กันยายนจะมีอีเว้นท์ Splash Bandit หรือเล่นรถไฟเหาะแบบเปียกน้ำ โดยจะมีจุดปล่อยน้ำกระจายตัวหลายแห่งทั่วเส้นทาง เพื่อฉีดใส่ผู้คนขณะที่กำลังเล่นรถไฟเหาะ เอาเป็นว่าถ้าไปช่วงนี้ได้ตัวเปียกกันทั่วถึงแน่ๆ เราแนะนำให้พกเสื้อกันฝนหรือเอาเสื้อไปเปลี่ยนด้วยเลยดีกว่า บอกอีกนิดว่าอีเว้นท์นี้จัดขึ้นเฉพาะหน้าร้อนในโยมิอุริแลนด์ที่เดียวเท่านั้น ใครใจถึงก็ต้องลองไปเล่นกันดู
Info
Splash Bandit
Period: 13 ก.ค. – 8 ก.ย. 2562
Aqua Area
ปิดท้ายวันแห่งความสุขที่ Pool Wai โซนสวนน้ำขนาดใหญ่พอสมควรที่มีถึง 5 สระ แบ่งระดับความลึกตื้นให้สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แถมมีกระดานลื่นยักษ์เพิ่มระดับความมันส์อีก 3 ตัว แต่โซนนี้จะเปิดให้บริการเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น สำหรับปีนี้เปิดให้เข้าตั้งแต่ 29 มิถุนายน – 16 กันยายน 2562
นอกเหนือจาก 3 โซนที่เราบอกไป ก็มีเครื่องเล่นอีกเยอะมาก เราชอบความคิดการแบ่งประเภทเครื่องเล่นของโยมิอุริแลนด์ ที่จะแบ่งระดับความหวาดเสียวให้เราเลือกเล่นได้ง่ายขึ้น เช่น Kids Area เครื่องเล่นหน้าตาน่ารัก ไม่น่ากลัวนักสำหรับเด็กเล่นได้ผู้ใหญ่เล่นดี, Family Area สนุกได้ทั้งครอบครัว อย่าง Giant Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ ในที่วันอากาศเป็นใจเราจะมองเห็นทั้งโตเกียวทาวเวอร์และโตเกียวสกายทรีจากชิงช้าสวรรค์ด้านบน รวมถึงภูเขาไฟฟูจิก็จะโผล่หน้ามาทักทายนักท่องเที่ยวด้วย, Lan Lan Area โซนสำหรับนักสู้ที่รวมเครื่องเล่นหวาดเสียวเอาไว้ไฮไลท์ที่ควรลองคือ Bungee Jump สูง 22 เมตร โยมิอุริแลนด์เป็นสวนสนุกแห่งเดียวที่มีกิจกรรมกระโดดบันจี้จัมพ์ในโตเกียว เป็นต้น ส่วนตัวเราแค่ยืนมองก็ขาอ่อนแล้วเลยเก็บภาพมาฝากแทนแล้วกัน
ขอเพิ่มเติมอีกนิด เนื่องจากโยมิอุริแลนด์ปิดราวๆ สองทุ่ม ยามฟ้ามืดก็ยังมีอีเว้นท์ Jewellumination งานไฟประดับที่ให้ความรู้สึกเหมือนมีเพชรสีสวยแวววาวระยิบระยับอยู่ทั่วทั้งสวนสนุกโยมิอุริแลนด์ จัดโดยอิชิอิ โมโตโกะ (Motoko Ishii) ดีไซเนอร์ด้านไฟประดับที่เคยฝากผลงานไว้ทั่วโลก สามารถมาชมความงามกันได้เฉพาะช่วงฤดูหนาวยาวจนถึงช่วงซากุระบาน ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมปีนี้ถึง 5 เมษายนของปีหน้า ที่โยมิอุริแลนด์ที่เดียวเท่านั้น
ก่อนมาเราไม่ได้คาดหวังอะไรจากที่นี่มากนัก ใครจะไปคิดว่าการมาสวนสนุกโยมิอุริแลนด์แค่ที่เดียวจะมีเครื่องเล่นและกิจกรรมน่าสนใจเยอะขนาดนี้ สำหรับใครที่เคยเอ่ยปากว่าไม่ชอบสวนสนุกเพราะไม่รู้สึกดีนักกับเครื่องเล่นหวาดเสียว เราก็อยากให้ลองมาที่นี่ดูก่อน จะชอบหรือไม่ค่อยว่ากันอีกที แต่เราน่ะถูกใจมาก และขอเตือนไว้แต่เนิ่นๆ ว่าถ้าอยากไปให้ครบทุกโซนที่ชอบ จำเป็นต้องจัดสรรเวลาให้ดีเพราะเวลาหนึ่งวันที่มีอาจจะไม่พอ
ฟ้าเริ่มมืดก็ถึงเวลาแบกความสุขที่เก็บได้จากโยมิอุริแลนด์แห่งนี้กลับที่พักแล้วล่ะ แล้วเจอกันใหม่ เราจะมาอีก!
Info
Pool Wai
Period: 29 มิ.ย.- 16 ก.ย. 2562
・
Jewellumination
Period: 24 ต.ค. 2562-5 เม.ย. 2563
KARIO SASAZUKA TERRACE
Welcome to your home away from home
จะเป็นอย่างไรถ้าการเดินเข้าที่พักในญี่ปุ่น จะให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินเข้าบ้านหลังน้อยแสนอบอุ่น
ที่พักของเราในทริปนี้ไม่ใช่โรงแรม KARIO SASAZUKA TERRACE ตั้งอยู่ริมทางรถไฟสาย Keio ติดกับสถานี Sasazuka ซึ่งอยู่ไม่ไกลและเดินทางสะดวกมากจากสถานีชินจูกุ มาคอนเซ็ปต์ถูกใจเรานักคือแขกที่เข้าพักจะรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน แบกความสุขจากสวนสนุกโยมิอุริแลนด์จนล้า ได้มาพักที่นี่ก็กล้าพูดได้เต็มปากว่าสบายและรู้สึกดีจนความสุขที่มีมันเพิ่มขึ้นอีกเยอะจริงๆ
Enjoy Sasazuka Akichi Lounge
ห้อง(ไม่)ลับชั้นใต้ดินของที่พักเป็น Sasazuka Akichi Lounge เลานจ์สุดไฮเทคที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลน่าสนใจของย่านซาซาซึกะ มีโปรเจคเตอร์ฉายแผนที่เป็นเหมือนการ์ตูนแอนิเมชันขึ้นบนผนังห้องสีขาว ซึ่งจะบอกพิกัดแหล่งกิน เที่ยว ดื่ม และย่านการค้าน่าสนใจรอบๆ เมืองเอาไว้ใช้เป็นไกด์นำเที่ยว รวมถึงถ้าเราไปเจอสถานที่ใหม่ก็สามารถแวะมาเพิ่มโลเคชั่นแบ่งปันกันได้ด้วย ความล้ำยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเจ้าแผนที่แอนิเมชันเชื่อม-ต่อกับอินเทอร์เน็ต หากว่าสภาพอากาศในเมืองเป็นอย่างไรก็จะส่งผลถึงแผนที่นี้ด้วย แล้วก็ไม่ได้เปิดให้เฉพาะแขกผู้เข้าพัก แต่ยังอนุญาตให้คนทั่วไปได้เข้ามาใช้บริการด้วย เราชอบไอเดียของห้องนี้มาก เหมือนเป็นการให้ทุกคนมีส่วนร่วมในโปรโมทการท่องเที่ยวย่านซาซาซึกะอย่างเพลิดเพลินได้อีกทางหนึ่ง
Many room types, Feel like home
ที่นี่มีห้องพัก 3 ประเภทให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นการมาเป็นครอบครัวหรือก๊วนเพื่อนแก๊งใหญ่ หรือแบ็คแพ็คมาเที่ยวกัน 2 คนแบบเพื่อนซี้ก็มีห้องให้บริการเหมือนกัน ส่วนตัวเราเลือก Family Room ด้วยความกว้างกว่า 46.6 ตารางเมตร ที่เห็นครั้งแรกก็ตื่นเต้นจนอยากจะกรี๊ด ภายในจัดแบ่งอย่างเป็นสัดส่วนมี 2 ห้องนอน, 1 ห้องนั่งเล่นบวกพื้นที่ทำครัว, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ และที่ประทับใจเป็นที่สุดคือมีเครื่องซักผ้าให้ด้วย อีกหนึ่งความดีงามคือเฟอร์นิเจอร์ ที่มาในโทนสีเอิร์ธโทนชวนผ่อนคลายจนรู้สึกเหมือนนอนเล่นอยู่บ้านจริงๆ
Let’s walk around
หลังจากที่นั่งเล่นในเลานจ์สุดไฮเทคอยู่นาน ก็พบว่าแถวนี้มีตลาดและถนนน่าเดินหลายแห่ง ขอแนะนำพอหอมปากหอมคอ Ju-go Street โชเทนไกที่เต็มไปด้วยร้านค้าท้องถิ่นญี่ปุ่น ของขึ้นชื่อที่น่าลองคือ Omusubi ร้านข้าวปั้นญี่ปุ่นตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนพอดิบพอดี เดินถ้าเดินจนสุดเส้นโชเทนไก จะเจอกับ Ju-go Zaka Street ถนนแห่งร้านค้าสไตล์ตะวันตกซะส่วนใหญ่ มีคาเฟ่และร้านกิ๊ฟต์ช็อปเท่ๆ เพียบ โลเคชั่นที่ติดทั้งสถานีรถไฟและแหล่งท่องเที่ยวแบบนี้ บอกเลยว่าพักที่เดียวได้เที่ยวครบ
คลิกที่นี่เพื่อจองโรงแรม KARIO SASAZUKA TERRACE
รายละเอียดที่พักเพิ่มเติม www.keio-kario.com/sasazuka