15 ทริคตะลุย Universal Studios Japan ให้ครบและคุ้มที่สุด!
สารบัญ
- รู้จัก Universal Studios Japan™
- 15 ทริคตะลุย Universal Studios Japan
- ไปให้เช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้
- เล่นเครื่องเล่นที่ตั้งอยู่ไกลๆ จากทางเข้าก่อน
- ซื้อตั๋วออนไลน์ดีกว่าซื้อหน้าสวนสนุก
- เครื่องเล่นสำหรับเด็กบางเครื่องสามารถจองล่วงหน้าได้ ไม่ต้องต่อคิว
- ในวันที่คนแน่นแบบสุดขีด ต้องไปเอา “บัตรคิว” ก่อนถึงจะไปเข้าคิวได้
- ใช้บัตรทางด่วน (Express Pass) ลัดคิวก่อนคนอื่น
- Royal Studio Pass ไพ่ใบสุดท้ายที่แซงได้แทบทุกอย่าง
- ไปคนเดียวได้เล่นก่อน
- เผื่อเวลาต่อคิวรับประทานอาหาร
- เช็คตำแหน่งและตารางเวลาให้ละเอียด
- เก็บของไว้ในล็อกเกอร์ มิฉะนั้นอาจจะเล่นบางเครื่องเล่นไม่ได้
- เตรียม SIM CARD/POCKET WIFI และพาวเวอร์แบงค์ให้พร้อมเสมอ
- รีบทำ Tax Refund แต่เนิ่นๆ
- ตรวจสอบกฎของสวนสนุกก่อนไป
Universal Studios Japan™
รู้จัก Universal Studios Japan™
สวนสนุก Universal Studios Japan™ หรือที่คนไทยเรียกกันว่า USJ เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ในจังหวัดโอซาก้า หนึ่งใน 4 ของ Universal Studios theme parks เปิดมาแล้วกว่า 17 ปี แบ่งออกเป็น 9 โซน จุดที่คนไทยและนักท่องเที่ยวอื่นๆ ทั่วโลก ชอบไปมากที่สุดคงหนีไม่พ้นโซน Harry Potter and the Forbidden Journey นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นและจุดแสดงโชว์อีกมากกว่า 40 จุด ความพิเศษหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างไปจากสวนสนุกอย่าง Tokyo Disneyland คือมักจัดอีเว้นท์เกี่ยวกับการ์ตูนหรือเกมของญี่ปุ่น ทั้งจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ เปิดเครื่องเล่นและร้านอาหารใหม่ที่ตกแต่งให้ได้บรรยากาศเหมือนกับในการ์ตูนหรือเกมนั้นอย่างสมจริง ในปีค.ศ. 2020 ก็จะเปิดโซนใหม่คือ Super Nintendo World™ ที่มีตัวละครดังอย่างมาริโอ้อีกด้วย เท่ากับว่าไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็มักจะมีอะไรใหม่ๆ ให้ได้เล่น ได้ถ่ายรูปกันอยู่เรื่อยๆ
จากสถิตินักท่องเที่ยวที่ผ่านมาพบว่ามีนักท่องเที่ยวมาเยือนสวนสนุกแห่งนี้มากขึ้นทุกปี! ส่งผลให้ต้องต่อคิวนานมาก ตั้งแต่ต่อคิวซื้อตั๋ว ต่อคิวเข้าร้านอาหาร ต่อคิวเข้ารับตั๋วต่อคิวเข้าโซน Harry Potter จนถึงต่อคิวเข้าเครื่องเล่นต่างๆ หลายคนที่เคยไปคงจะพอมีประสบการณ์ว่าได้เล่นแค่ไม่กี่อย่างในหนึ่งวัน ดังนั้นวันนี้จะขอแนะนำการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไป USJ และ 15 ทริคตะลุย Universal Studios Japan ดีๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถวางแผนตะลุยสวนสนุก USJ ให้ได้เยอะและคุ้มค่ามากที่สุด
เครื่องเล่นที่มีคนอยากไปเล่นมากๆ ในวันหยุดส่วนใหญ่จะใช้เวลาต่อคิวมากถึง 2 ชั่วโมง ในขณะที่เครื่องเล่นหรือโชว์ทั่วไป จะใช้เวลาต่อคิวประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เท่ากับว่าหากมีเวลาอยู่ใน USJ 8 ชั่วโมงก็จะสามารถเล่นเครื่องเล่นได้ประมาณ 6 อย่าง ต้องทำใจว่าเราไม่สามารถเล่นเครื่องเล่นทั้งหมดได้ใน 1 วันแน่นอน ในทางกลับกันถ้าไม่วางแผนใดๆ เลย ใน 1 วันก็อาจเล่นได้เพียงแค่ 3-4 อย่างเท่านั้น เราจึงต้องศึกษาเทคนิคในการพิชิตเครื่องเล่นที่เราต้องการให้แตกฉาน รวมถึงวางแผนหาที่ฝากของ หรือเตรียมตัวให้ดีเพื่อให้ไม่เกิดอะไรผิดพลาดนั่นเอง
15 ทริคตะลุย Universal Studios Japan
ไปให้เช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้
เชื่อว่านี่เป็นวิธีที่มั่นใจได้ตามหลักว่า “มาก่อนได้เล่นก่อน” ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ต่อให้มาตอนยังไม่เปิด แต่ก็ได้เข้าคิวที่หน้าประตูทางเข้า พอเริ่มใกล้เที่ยงคนจะเริ่มเยอะมากๆ ทำให้เวลาบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็นเป็นช่วงที่คิวทุกสรรพสิ่งในสวนสนุกยาวเฟื้อยจนอาจหมดสนุกได้
เล่นเครื่องเล่นที่ตั้งอยู่ไกลๆ จากทางเข้าก่อน
ก่อนจะไปเราต้องคิดก่อนเลยว่าอยากจะเล่นเครื่องเล่นไหนบ้าง จากนั้นให้เลือกไปเล่นเครื่องที่อยู่ไกลที่สุดก่อน เพราะช่วงเช้าเครื่องเล่นที่ตั้งอยู่ใกล้ประตูทางเข้ามักจะเป็นเครื่องที่คิวแน่นที่สุดเสมอ หมายความว่าเครื่องเล่นที่แนะนำให้ไปก่อนเป็นที่แรกคือ Harry Potter and The Forbidden Journey กับ Jurrasic World the Ride นั่นเอง
ซื้อตั๋วออนไลน์ดีกว่าซื้อหน้าสวนสนุก
USJ เป็นสวนสนุกที่เดินทางสะดวกมากจากใจกลางเมืองโอซาก้า ทำให้มีนักท่องเที่ยวเยอะมากทุกวัน แค่มองทางเข้าจากที่ไกลๆ ก็จะเห็นคนต่อคิวรอซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกยาวเหยียด ขอแนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าเพื่อที่จะประหยัดเวลาต่อคิว และไม่ต้องทนตากแดดนานๆ ซึ่งมีวิธีหลากหลาย วิธีง่ายที่สุดคือซื้อผ่านเอเจนซี่ในประเทศไทย (ซึ่งมีให้เลือกเยอะมาก) และถ้าจองในช่วงที่อัตราแลกเปลี่ยนต่ำก็อาจจะถูกกว่าตอนไปซื้อที่หน้าสวนสนุกด้วยนะ ดูรายละเอียดได้ดังนี้
1) QUALITY EXPRESS
Universal Studios Japan™ 1 Day Studio Pass
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 7,900 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 5,400 เยน/ท่าน
ข้อมูลเพิ่มเติม: qetour.com
2) JTB THAILAND
1 Day Ticket
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 7,900 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 5,400 เยน/ท่าน
ราคาผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 7,100 เยน/ท่าน
2 Day Fixed Dated Ticket
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 13,400 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 9,000 เยน/ท่าน
Universal Express Pass 4
ราคา 5,000-12,600 เยน/ท่าน
ข้อมูลเพิ่มเติม: jtbthailand.com
3) Compax World
ทัวร์ญี่ปุ่น 6 วัน 4 คืน + สวนสนุก USJ ราคาเริ่มต้น 55,900 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: compaxworld.com
4) SBA Travel
ทัวร์ญี่ปุ่น 6 วัน 4 คืน + สวนสนุก USJ ราคา 59,900-61,900 บาท
5) KLOOK
Universal Studios Japan 1 Day E-Ticket ราคา 2,279 บาท
Universal Studios Japan Express® Pass 4 ราคา 1,598 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: klook.com
6) VOYAGIN
Instant 1 Studio Pass
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 7,900 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 5,400 เยน/ท่าน
Studio Pass + Express Pass 4 Standard (Except Peak Season)
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 18,100 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 15,600 เยน/ท่าน
Studio Pass + Express Pass 4 Final Fantasy XR
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 18,100 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 15,600 เยน/ท่าน
Studio Pass + Express 4 Final Fantasy & Minion
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 18,100 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 15,600 เยน/ท่าน
Studio Pass + Express Pass 4 Flying Dinosaur
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 18,100 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 15,600 เยน/ท่าน
Studio Pass + Express Pass 7 – Final Fantasy XR
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 24,700 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 22,200 เยน/ท่าน
Studio Pass + Express Pass 7 Flying Dinosaur (Except Peak)
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 24,700 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 22,200 เยน/ท่าน
Studio Pass + Express Pass 7 Backdrop
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 24,700 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 22,200 เยน/ท่าน
1.5 Day Pass to Universal Studio Japan
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 10,900 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 7,400 เยน/ท่าน
วันแรกต้องเข้าหลัง 15.00 น. ต้องไปแลกตั๋วจริงที่ Kansai Airport หรือ OCAT Building ใน JR Namba Station
ข้อมูลเพิ่มเติม: govoyagin.com
7) KKDAY
【Universal Studios Japan】บัตรเข้าสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ประเทศญี่ปุ่น ราคา 2,309 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: kkday.com
8) H.I.S. Thailand
1 Day Studio Pass
ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 7,900 เยน/ท่าน
ราคาเด็ก (4-11 ปีขึ้นไป) 5,400 เยน/ท่าน
หรือหากถึงที่ญี่ปุ่นแล้วก็สามารถซื้อง่ายๆ ได้ที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson
เครื่องเล่นสำหรับเด็กบางเครื่องสามารถจองล่วงหน้าได้ ไม่ต้องต่อคิว
โซน Universal Wonderland มีตู้ที่สามารถกดจองเครื่องเล่นได้ที่เรียกว่า โยยาคุโนริ (Yoyakunori) สามารถจองเครื่องเล่นอย่าง The Flying Snoopy ได้ล่วงหน้าโดยไม่ต้องต่อคิวให้เสียเวลาแถมฟรีอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม(ภาษาอังกฤษ): usj.co.jp
ในวันที่คนแน่นแบบสุดขีด ต้องไปเอา “บัตรคิว” ก่อนถึงจะไปเข้าคิวได้
โซนที่คนเยอะมากๆ อย่าง Harry Potter หากไปวันอาทิตย์หรือไปหลังสวนสนุกเปิดสักระยะ มักจะไม่สามารถเดินเข้าโซนนั้นได้ทันที จะต้องเดินไปรับ “บัตรคิว” ก่อน ซึ่งจะสามารถนำบัตรดังกล่าวไปเข้าโซนนั้นได้ในช่วงระยะเวลาที่ปรากฏบนตั๋วเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม(ภาษาอังกฤษ): usj.co.jp
ใช้บัตรทางด่วน (Express Pass) ลัดคิวก่อนคนอื่น
นอกจากบัตร Studio Pass ที่ใช้ผ่านประตูเข้ามาเพื่อต่อคิวเล่นเครื่องเล่นหรือดูโชว์ต่างๆ แล้ว ยังมีบัตรอีกประเภทที่สามารถซื้อเพิ่มได้คือบัตรทางด่วน มีราคาและประเภทที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าสามารถใช้ได้กับเครื่องเล่นใดบ้าง ผลของการใช้บัตรนี้ก็คือทำให้เราไม่ต้องไปต่อคิวรวมกับคนอื่นที่ไม่มีบัตรทางด่วน แต่ไปเข้าช่องทางด่วนที่มีคนน้อยกว่าแทน ส่วนใหญ่ก็จะช่วยลดระยะเวลาในการต่อคิวแต่ละจุดได้มากกว่าครึ่ง แต่ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นด้วย เหมาะสำหรับคนเวลาน้อยที่พร้อมเปย์
Royal Studio Pass ไพ่ใบสุดท้ายที่แซงได้แทบทุกอย่าง
นอกจากบัตร Express Pass แล้วยังมีบัตรที่ทรงอานุภาพมากที่แซงได้แทบทุกเครื่องเล่นคือ Royal Studio Pass ซึ่งราคาจะแตกต่างกันตามแต่ละช่วง ตั๋วผู้ใหญ่อาจราคาถึง 25,800 เยน (ยังไม่รวม Studio Pass ที่ต้องบังคับซื้อ) ทำให้คนที่ซื้อตั๋วนี้มีน้อยมาก หากพร้อมที่จะเปย์ ก็แทบจะเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างได้ในเวลาอันสั้น
ไปคนเดียวได้เล่นก่อน
เครื่องเล่นบางอย่าง เช่น พวกรถไฟเหาะหรือเครื่องเล่นที่มีการเอียงหรือตีลังกา กำหนดไว้ว่าในแต่ละรอบจะสามารถรองรับผู้เล่นได้กี่คนตามที่นั่ง แต่ถ้าสมมติว่าขึ้นได้ 8 คน แต่คนก่อนหน้าเราขึ้นไปแล้ว 7 คน โดยคิวลำดับถัดๆ มา เป็นคู่รัก เป็นครอบครัวที่ต้องการจะเล่นพร้อมกันก็จะต้องรอรอบต่อไป ถ้าเราไปคนเดียว เจ้าหน้าที่ก็จะเชิญเราให้แซงคิวได้โดยไม่น่าเกลียด ถือเป็นข้อได้เปรียบสุดๆ ของการไปคนเดียว
เผื่อเวลาต่อคิวรับประทานอาหาร
ถ้าใครอยากกินอาหารเป็นกิจลักษณะแบบนั่งกินอาหารเซ็ตในร้าน ส่วนใหญ่จะต้องต่อคิวเป็นเวลา 30 นาทีเป็นอย่างน้อย หากไปวันอาทิตย์อาจต้องรอมากกว่า 1 ชั่วโมง ฉะนั้นอาจต้องไปต่อคิวตั้งแต่ยังไม่หิวมาก แต่ถ้าต้องการประหยัดเวลาในการกิน แนะนำให้ซื้อเป็นพวกป็อบคอร์น ไส้กรอก หรือขนมที่ขายตามข้างทางเป็นวิธีที่ดีที่สุด
เช็คตำแหน่งและตารางเวลาให้ละเอียด
เวลาเปิดปิดของเครื่องเล่นหรือโชว์แต่ละชุดจะแตกต่างกัน อีกทั้งพวกอีเว้นท์อย่าง Sailor Moon 4-D จะเป็นรอบที่แตกต่างกันในแต่ละวันอีกด้วย นอกจากตำแหน่งของแต่ละโซนในแผนที่แล้วก็จำเป็นอย่างมากที่ต้องดูตารางเวลาในแผ่นพับที่แจกด้วย
สามารถติดตามรายละเอียดของเครื่องเล่นต่างๆ และตารางเวลาที่เปิดให้ใช้บริการได้ที่นี่
เก็บของไว้ในล็อกเกอร์ มิฉะนั้นอาจจะเล่นบางเครื่องเล่นไม่ได้
เครื่องเล่นที่เป็นรถไฟเหาะส่วนใหญ่ ไม่อนุญาตให้นำสัมภาระติดตัวขึ้นไปด้วย อย่างเครื่องเล่นในโซน Harry Potter จะมีล็อกเกอร์ฟรีที่บังคับให้ทุกคนฝากก่อนเล่นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่รถไฟเหาะเฉพาะอีเว้นท์อย่าง Final Fantasy XR Ride จะไม่มีบริการรับฝากของ เราจะต้องไปฝากของในล็อกเกอร์เองแต่แรกให้เรียบร้อยก่อนต่อแถว
เมื่อออกจากสถานี เลี้ยวซ้ายออกจากอาคารจะพบล็อกเกอร์อยู่ทางซ้ายมือ มีขนาดเล็ก 300 เยน กับขนาดกลาง 400 เยน โดยปกติถ้าไม่ไปแต่เช้าตรู่ ก็จะพบว่าเต็มหมดแล้ว ล็อกเกอร์บริเวณทางเข้า USJ (อยู่ด้านนอกก่อนเข้าไป) จะเป็นส่วนที่มีล็อกเกอร์มากที่สุด และเป็นเพียงจุดเดียวในละแวกนั้นที่มีล็อกเกอร์ขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก 400 เยน ขนาดกลาง 600 เยนและขนาดใหญ่ 1,000 เยน
หากเข้ามาใน USJ แล้ว จะเลือกใช้ล็อกเกอร์ได้ 2 แบบ คือแบบที่สามารถเปิดปิดกี่ครั้งก็ได้ หรือแบบที่เปิดปิดได้ครั้งเดียวเหมือนกับล็อกเกอร์หยอดเหรียญทั่วไป ซึ่งล็อกเกอร์ทั้ง 2 แบบอยู่ใกล้กับทางเข้าออก
ล็อกเกอร์แบบเปิดปิดกี่ครั้งก็ได้จะต้องใส่เหรียญไปจำนวน 500 เยน แต่เมื่อจะเลิกใช้สามารถกดรับเงินคืนได้อีก 100 เยน ส่วนล็อกเกอร์แบบอื่นจะราคาเท่ากับล็อกเกอร์ที่อยู่ด้านหน้า USJ
เตรียม SIM CARD/POCKET WIFI และพาวเวอร์แบงค์ให้พร้อมเสมอ
สำหรับใครที่ติดโซเชียล คิดว่าคงได้ซื้อ SIM CARD แบบใช้เน็ตได้หรือเช่า POCKET WIFI มาก่อนแล้ว ซึ่งใครที่ไม่เคยมาที่ USJ คงจะไม่รู้ว่าวันที่ได้ก้มหน้ากดมือถือนานที่สุดอาจจะเป็นวันที่มา USJ นี่แหละ เนื่องจากไม่ว่าจะเล่นเครื่องเล่นใดก็ต้องต่อคิวอย่างน้อย 30 นาที (รวมถึงต่อแถวซื้ออาหาร) การเยียวยาความเบื่อที่ต้องยืนรอคิวนานๆ ที่ดีที่สุดคือการเล่นอินเทอร์เน็ต เพราะฉะนั้นนอกจากอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราเล่นเน็ตได้แล้ว POWER BANK ก็เป็นสิ่งขาดไม่ได้จริงๆ
หรือถ้าใครต้องการใช้อินเทอร์เน็ต แต่ไม่มี SIM CARD / POCKET WIFI ใน USJ ก็มีจุดที่สามารถเล่น Free WIFI ได้ บริเวณตามรูป
รีบทำ Tax Refund แต่เนิ่นๆ
เมื่อเราซื้อสินค้าภายใน Universal Studios Japan™สามารถขอคืนภาษี (Tax Refund) ได้ที่เคาน์เตอร์ขอคืนภาษีที่ใกล้ๆ บริเวณทางเข้า (เฉพาะนักท่องเที่ยวที่พำนักในประเทศญี่ปุ่นน้อยกว่า 6 เดือน) โดยมูลค่ารวมของสินค้าบริโภคจะต้องอยู่ระหว่าง 5,000-500,000 เยน (ไม่รวมภาษี) มูลค่ารวมของสินค้าที่ระลึกต้องมากกว่า 5,000 เยน (ไม่รวมภาษี) แต่การขอคืนภาษีที่นี่จะได้แค่ 6.9% (ทางบริษัทยึด 1.1% เป็นค่าดำเนินการ)
สินค้าบางประเภทก็ไม่สามารถขอคืนภาษีได้ เช่น ถังป๊อบคอร์นทรงตัวการ์ตูน รูปถ่าย ฯลฯ และต้องไปดำเนินการภายในวันที่ซื้อสินค้านั้นๆ ก่อน 16.00 น. ไม่อย่างนั้นอาจต้องรอนานหรือพนักงานอาจจะกลับบ้านก่อน
ตรวจสอบกฎของสวนสนุกก่อนไป
อย่างที่ทราบกันดีว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่กฎเกณฑ์ค่อนข้างเยอะ และเคร่งครัดมาก เพราะฉะนั้นข้อห้ามหรือกฎใดๆ ที่สวนสนุกประกาศไว้ เราก็ควรศึกษาไว้ก่อน เช่น ที่สวนสนุก USJ ห้ามคนที่มีรอยสักเข้า (ุถ้าสามารถใส่เสื้อผ้าอำพรางได้คิดว่าไม่มีปัญหา) ส่วนหนึ่งเกิดจากวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นที่มองว่าคนมีรอยสักคือคนไม่ดี
นอกจากนี้ทางสวนสนุกไม่อนุญาตให้นำโดรน โรลเลอร์สเก็ตเข้าไปในสวนสนุก หากออกจากสวนสนุกไปแล้วก็จะไม่สามารถกลับเข้ามาได้อีก นอกเหนือจากนี้คิดว่ากฎอื่นๆ เป็นกฎสามัญที่บังคับใช้ทั่วไปในที่สาธารณะ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม(ภาษาอังกฤษ)ได้ที่นี่
INFO
Universal Studio Japan™
Address: 2-1-33, Sakurajima, Konohana-ku, Osaka City, 554-0031
Website: usj.co.jp/
Facebook: facebook.com/UniversalStudiosJapan
Twitter: twitter.com/USJ_Official
Nearest Station: Universal City
จำนวนโซน: 9
จำนวนที่จอดรถ: 3,785 คัน
จำนวนร้านอาหาร: 60 ร้าน
จำนวนร้านค้า: 46 ร้าน
จำนวนเครื่องเล่นและโชว์: 40 จุด