Matsushima : ชมวิวซากุระกับฟ้าใส ทะเลสวย และต้นสนเขียวขจีที่มัตสึชิมะ
สารบัญ
จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้คือ มัตสึชิมะ (Matsushima) ในจังหวัดมิยากิ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 วิวสวยที่สุดของญี่ปุ่น
คนที่ชอบธรรมชาติต้องกรีดร้องเมื่อได้มาที่นี่ เพราะมีทะเลสีครามพร้อมเกาะน้อยใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีจำนวนมาก ต้นไม้ที่ว่านี้ยังมีความญี่ปุ่นสุดๆ เพราะเป็นต้นสนที่เห็นก็นึกถึงญี่ปุ่นทันที รวมจำนวนบนเกาะรอบๆ ในย่านนี้น่าจะมีเกือบ 300 ต้นเลยทีเดียว สมชื่อ มัตสึ (ต้นสน) ชิมะ (เกาะ) จริงๆ
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมด้วยทั้งวัดและศาลเจ้า เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ก็น่าสนใจ วัดและสวยญี่ปุ่นสวยๆ ที่นี่คือสิ่งที่ดาเตะ มาซามูเนะ ขุนศึกเจ้าของสมญา “มังกรตาเดียว” สร้างไว้และสืบทอดมาจนถึงคนรุ่นหลัง ส่วนสายฟู้ดดี้ไม่ต้องน้อยใจไป ที่นี่มีเมนูเด็ดที่ต้องลองอย่างหอยนางรม (ฤดูอร่อยพีคคือต.ค.- มี.ค.) และปลาไหลน้ำเค็ม-อานาโกะ (ช่วงฤดูร้อน) ด้วย มากินอย่างเดียวก็เพลินไม่แพ้กัน
จริงๆ แล้ว การล่องเรือชมเกาะถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่ แม้แต่กวีชื่อดังของญี่ปุ่นอย่างมัตสึโอะ บะโชยังแต่งกลอนนิราศชื่นชมความงามของทิวทัศน์ที่แปลกตาอย่างน่าประทับใจ แต่น่าเสียดายที่เราไปช่วงที่เขาปิดบริการ จึงได้แต่มองจากชายฝั่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นในเมื่อหมุดหมายหลักของทริปเราครั้งนี้คือซากุระ แน่นอนว่าที่นี่มีจุดชมซากุระที่สวยสุดๆ เข้ากับฟ้าใส ทะเลสวย และต้นไม้เขียวขจีแน่นอน
Godaido Temple
เพียงนั่งรถไฟ JR จากสถานีเซนได (Sendai Station) สายเซนเซกิ (Senseki Line) ประมาณ 40 นาทีมาลงที่สถานีมัตสึชิมะ ไคกัง (Matsushima Kaigan Station) เราก็เดินทางมาถึงมัตสึชิมะตามที่ตั้งใจ เราเดินตามทางเลียบริมทะเลไปจนถึง Sukashi Bridge สะพานสีแดงที่พาข้ามไปเกาะเล็กๆ กลางทะเล แม้จะมีต้นสนปกคลุม แต่ยังแอบเห็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่นโผล่มาให้ชื่นชมจากระยะไกล อาคารไม้เก่าแก่หลังนี้คือวัดที่มีชื่อว่า Godaido
วัดนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของมัตสึชิมะก็ว่าได้ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1604 สร้างขึ้นเพื่อสักการะบูชากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ 5 พระองค์ซึ่งช่วยปกป้อง Zuiganji โดยพื้นที่ทั้งเหมาะของเกาะเล็กๆ นี้ถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์เชียวนะ ส่วนพระพุทธรูปด้านในอาคารนั้นจะเปิดให้ได้เห็นกันแค่ช่วงพิธีกรรมที่จัดทุกๆ 33 ปีเท่านั้น ชมความวิจิตรของอาคารเสร็จแล้วหันไปเจอวิวอ่าวยิ่งว้าวใหญ่ เพราะเราได้ยืนดูหมู่เกาะจากกลางทะเล ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
Info
Hours: 8:00-17:00 น.
Holiday: –
Entrance Fee: เข้าฟรี
Fukuurabashi Bridge & Fukuura Island
ถ้าไปวัดโกไดโดแล้วติดใจ ขอให้เดินเลียบทะเลมาอีกสักระยะจะได้เจอฟุกุอุระบาชิ สะพานสีแดงพาดตัวยาวไปไกลกว่าเดิมนัก ปลายทางคือเกาะขนาดกลางที่มีชื่อว่าฟุกุอุระ (Fukuura Island) ซึ่งเต็มไปด้วยต้นสนเช่นกัน
เกาะนี้เหมาะมากสำหรับคนชอบเดินป่าแบบง่ายๆ เบาๆ และพักผ่อนหย่อนใจในคาเฟ่ท่ามกลางธรรมชาติ เพราะที่นี่มีพืชพรรณกว่า 300 ชนิดสมศักดิ์ศรีความเป็นอุทยานประจำจังหวัด แน่นอนว่าซากุระเป็นหนึ่งในนั้น และเราสามารถนั่งชมจากระเบียงของคาเฟ่ไม้ได้ด้วยล่ะ เดินเสพอากาศบริสุทธิ์และชมธรรมชาติจนหนำใจ ขอแนะนำให้สั่งไอศกรีมมานั่งกินพลางชมดอกไม้สวยๆ เพื่อยกระดับความฟิน
Info
Café Bayland
Hours: เม.ย.-ต.ค. 8:00-17:00 น., พ.ย.-มี.ค. 8:00-16:00 น.
Holiday: –
Entrance Fee: ค่าเข้าเกาะ 200 เยน (ซื้อตั๋วได้ที่คาเฟ่ Café Bayland ที่อยู่หน้าสะพาน)
Fukuurabashi Bridge
Fukuura Island
Matsushima Fish Market
สายเดินตลาด พลาดไม่ได้เลยเพราะ Matsushima Fish Market คือตลาดปลาที่พาเพื่อนอาหารทะเลมาเพียบ ของสดทุกอย่างที่เราเจอที่นี่คือสิ่งที่ชาวประมงในท้องถิ่นจับมาได้ ชั้น 1 เป็นแผงขายของสด ของแห้ง และของฝาก (มีมันปูแบบกระปุกขายด้วยนะ!) ถ้าอยากกินอาหารทะเลสดใหม่ต้องไปชั้น 2 เมนูที่พลาดไม่ได้คือ หอยนางรมย่าง! จะกินหอยย่างเปล่าๆ ก็ได้ หรือจะสั่งหอยย่างโปะข้าวก็มี ไม่ว่าจะแบบไหนก็ตัวโต สดหวาน อร่อยสำราญใจแน่นอน บางช่วงเขาตั้งเพิงขายหอยนางรมย่างที่หน้าอาคารด้วยนะ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
Info
Hours: 8:00-17:00 น. (ชั้น 1 บริเวณของสด 8:00-15:00 น., ชั้น 2 10:00-15:00 น.)
Holiday: –
Website: www.sakana-ichiba.co.jp
Matsushima Sushi Kou
ถ้าอยากกินซูชิ ต้องแวะมาร้านนี้เลย ด้วยความเป็นร้านเล็กๆ ในซอยเล็กๆ ที่หลบอยู่ด้านหลังตึก จะบอกว่าเป็นร้านซูชิ (ที่ไม่ได้ตั้งใจ) ลับก็ไม่ผิดนัก อาจจะหายากสักเล็กน้อย แต่รับรองว่าซูชิที่สดอร่อยคุ้มค่าการค้นหาแน่นอน
Tokujou-kaizendon (2,900 เยน)Tokujou-onigiri (2,800 เยน)
เราจะสั่งแบบแยกชิ้นก็ได้ แต่แนะนำว่าสั่งเป็นเซ็ตราคาจะย่อมเยากว่านิดหน่อย เราทดลองเซ็ตราคากลางๆ อย่าง Tokujou-onigiri (2,800 เยน) กับ Tokujou-kaizendon (2,900 เยน) ได้ลองชิมของทะเลหลากหลายและสดใหม่อร่อยพอดีๆ
Info
Hours: 11:00-21:00
Holiday: วันพุธ
Saigyo Modoshi no Matsu Park
ชมวิวสวยๆ จากริ่มฝั่ง และกลางทะเลไปแล้ว มาชมวิวทะเลจากบนเขากันบ้าง นั่งแท็กซี่หรือขับรถขึ้นมาเพียง 5 นาทีจากสถานีมัตสึชิมะ ไคกัง จะได้พบกับ Saigyo Modoshi no Matsu Park สวนสนขนาดใหญ่ที่เราสามารถชมวิวอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) ได้แบบพาโนรามา ที่สำคัญสวนนี้มีต้นซากุระเรียงรายอยู่ไม่น้อย ทำให้วิวหมู่เกาะน้อยใหญ่ท่ามกลางท้องทะเลที่อยู่เบื้องหน้าดูอ่อนหวานขึ้นมาถนัดใจ
Info
Hours: 24 ชั่วโมง
Entrance Fee: ฟรี
Café le Roman
วิวเลอค่าราคาแพงที่มาครบทั้งเขา ฟ้า ทะเลและซากุระจะเพิ่มความพิเศษได้อีกระดับเมื่อเราได้นั่งจิบชากินขนมอร่อยๆ นั่งถอดหุ่ยชมวิวเหล่านั้น
ร้านคาเฟ่ Café le Roman ตั้งอยู่บนเนินในสวน Saigyo Modoshi no Matsu Park จึงเป็นจุดที่เราสามารถชื่นชมวิวทั้งหมดที่ว่านี้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ร้านดีไซน์เรียบเก๋เหมือนอยู่ในเมือง แต่กำแพงกระจกใสทั้งบานรอบด้านทำให้เรายังรู้สึกเชื่อมต่อกับธรรมชาติ เมนูอาหารและขนมที่นี่เป็นสไตล์ตะวันตก ชากาแฟมีครบ ฝากท้องของว่างยามบ่ายได้เลย
Info
Hours: 11:00-17:00 น.
Holiday: วันอังคาร
Website: www.shokado.eu
การเดินทางไปมัตสึชิมะ (Matsushima)
จากสถานีเซนได (Sendai Station) ให้นั่งรถไฟ JR สายเซนเซกิ (Senseki Line) ประมาณ 40 นาทีมาลงที่สถานีมัตสึชิมะ ไคกัง (Matsushima Kaigan Station)