Seminar “KOBE Bangkok Caravan 2017”
Seminar “KOBE Bangkok Caravan 2017”
Tourism Business Meeting :
โกเบ (Kobe) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) การที่โกเบมีพื้นที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ทิศเหนือติดกับภูเขา ทิศใต้เชื่อมกับทะเล ผสมผสานวัฒนธรรมระหว่างเรโทรและโมเดิร์นเข้าไว้ด้วยกัน โกเบจึงเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทั้งทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ให้ผู้ที่ได้มาเยือนเพลิดเพลินจนลืมความรู้สึกเบื่อไปเลย โกเบจึงกลายเป็นเมืองท่าการค้าและอุตสาหกรรมที่สำคัญเมืองหนึ่งของญี่ปุ่น
จากทะเลไปยังภูเขา จากยุคเก่าไปยุคใหม่ แต่ละย่างก้าวสัมผัสได้ถึงความแตกต่างที่ลงตัวอย่างน่าทึ่ง สัมผัสความโรแมนติกของกลิ่นอายตะวันตก ในเขตใจกลางเมืองโกเบ ไม่ว่าจะช็อปปิ้งที่ย่านการค้าซังโนมิยา (Kobe Sannomiya Center Gai Shopping Street) เดินชมย่านที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติคิตาโน ลิ้มรสเนื้อวัวโกเบ ที่ว่ากันว่านุ่มจนละลายในปาก หรือจะเพลิดเพลินกับสวนน้ำ Kobe Harbourland Umie ริมทะเลก็ทำได้อย่างดาย เพราะสามารถเดินเที่ยวได้ทั่วทั้งเมือง
ห่างจากซังโนมิยาประมาณ 10 – 20 นาที ทางตะวันออกจะพบกับเขตพื้นที่ที่มีร้านเบเกอร์รี่น่ารักๆ รวมตัวกันอยู่ โรงหมักเหล้าเก่าแก่และเป็นแหล่งสาเกอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย อาทิ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ สวนสัตว์ที่หาดูยาก และอาคารศึกษาเกี่ยวกับแผ่นดินไหวให้ลองได้มาเรียนรู้กันอีกด้วย
แต่หากใครชื่นชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ขอแนะนำเขตพื้นที่ด้านตะวันตกเฮียวโงะคุ (Hyogo-ku), นากาตะคุ (Nagata-ku), สุมะคุ (Suma-ku) และทารุมิคุ (Tarumi-ku) มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์และความอบอุ่นของชุมชนชิตะมาจิ ลองชิมโซบะเมชิ (ข้าวคลุกเส้นยากิโซบะ) อาหารขึ้นชือของโกเบได้ที่นี่ หรือจะไปเดินเล่นที่สะพานข้ามช่องแคบทางทะเลอะกาชิ (Akashi Bridge) ที่ยาวที่สุดในโลกก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ปลีกตัวจากความวุ่นวายในเมือง แล้วเดินทางไปทางทิศเหนือของโกเบเขตอะริมา เยือนอะริมาออนเซ็น (Arima Onsen) แหล่งออนเซ็นน้ำแร่ธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาสูง 2 ชนิด คือ กิงเซ็น (ออนเซ็นเงิน) และคิงเซ็น (ออนเซ็นทอง) อีกทั้งยังติดอันดับน้ำแร่คุณภาพดีมีแร่ธาตอยู่เยอะมาก หากเบื่อแช่ออนเซ็นแล้วจะนั่งกระเช้าลอยฟ้า (Rokko Arima Ropeway) ต่อไปยังเขตรกโคว (Rokko) ชื่นชมทิวทัศน์บนยอดเขาเมืองโกเบ วากายาม่า และโอซาก้ายามค่ำคืน ซึ่งที่นี่ยังติดหนึ่งในสามจุดชมวิวตอนกลางคืนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็สามารถนั่งรถไฟเคเบิ้ลรกโคว (Rokko Cable Car) ชื่นชมธรรมชาติ ทัศนียภาพมายา (Maya View Line) ได้ตั้งแต่ฐานภูเขาจนถึงยอดเขา
ดื่มด่ำกับทิวทัศน์จากยอดเขาแล้ว นั่งรถไฟต่อไปเก็บผลไม้ยังโกเบด้านทิศเหนือ (Kita-ku) ที่ Kobe Fruits & Flower Park สามารถเก็บผลไม้ได้ตลอดปีเลยนะ ส่วนโกเบฝั่งตะวันตก (Nishi-ku) แหล่งต้นกำเนิดไวน์โกเบ เนื่องจากเป็นโซนเนินเขาจึงเต็มไปด้วยแหล่งผจญภัย และกิจกรรมต่างๆ มากมาย รวมถึงอยู่ในพื้นที่เดียวกับไทซังเทระ (Taisan-ji Temple) ซึ่งเป็นมรดกแห่งชาติอีกด้วย
พบปะกับเหล่าบรรดาผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ในโกเบกว่า 5 แห่ง ได้แก่ Arima Onsen Ginsuiso Choraku Japanese Inn , Kobe Portopia Hotel , Green Hill Hotel Kobe , Kobe Meriken Park Oriental Hotel , Hotel Okura Kobe ผู้ประกอบการร้านเนื้อวัวโกเบชื่อดัง Kissho และผู้ประกอบการท่องเที่ยวโกเบอย่าง Feel KOBE ที่มาพร้อมคำแนะนำในการท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ในเมืองโกเบ รวมถึงร่วมพูดคุยเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับโกเบ
ภายในงานยังมีอาหารประจำจังหวัดโกเบ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลิ้มรสชาติอาหารโกเบแท้ๆ รวมถึงมีการจับฉลากชิงรางวัลจากผู้ประกอบการจากจังหวัดโกเบอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจท่องเที่ยวในโกเบ สามารถดูรายละเอียดการท่องเที่ยวโกเบเพิ่มเติมได้ที่นี่