Kokoro x Wasabi: เชนร้านอาหารญี่ปุ่นในอังกฤษ
KOKORO x WASABI
แม้แต่ที่อังกฤษซีกโลกตะวันตก ก็มีเชนร้านอาหารญี่ปุ่นที่กำลังเติบโตและไปได้สวย วันนี้จะพามาทำความรู้จัก 2 ร้านที่กำลังเติบโตไปได้สวย ได้แก่ ร้าน Kokoro และ ร้าน Wasabi (แค่ชื่อก็ญี่ปุ่นจ๋าแล้ว)
Kokoro:
นี่คือร้านอาหารญี่ปุ่นแนวเร่งด่วน ที่กำลังเติบโตไปได้สวยในอังกฤษโดยเฉพาะกลยุทธ์ที่เจาะตลาดเมืองเล็กๆ ก่อนจะขยายเข้าสู่เมืองหลวงอย่างลอนดอน
Kokoro ก่อตั้งโดย Mr.Park ชาวเกาหลีเมื่อปี 2010 สาขาแรกตั้งอยู่ที่ Kingston-Upon-Thames, Surrey เรื่องมันเริ่มมาจากการที่คุณปาร์คพบว่า มันเป็นเรื่องยากลำบากเหลือเกินสำหรับช่วงพักกลางวัน ในการที่จะหาร้านอาหารแนวเอเชีย (หรือภาพรวมคือแนว Oriental) ที่ถูกปาก กินง่าย ในราคาไม่แพง และสะดวกรวดเร็ว เพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่ร้านขายแฮมเบอร์เกอร์ แซนด์วิช พาสต้า พิซซ่า หรือ ฟิช แอน ชิป ซึ่งกินบ่อยๆ ทุกวันก็คงเลี่ยนน่าดู
เขาจึงตัดสินใจลองเปิดร้าน Sushi ด้วยตัวเองเมื่อปี 2010 โดยตั้งชื่อง่ายๆ ว่า “KOKORO” ที่แปลว่า “หัวใจ” เพราะต้องการที่จะทำอาหารด้วยใจมอบให้แก่ลูกค้า
นอกจากอาหารประเภทซูชิที่มีให้เลือกหยิบได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีอาหารประเภททำสดใหม่ กินกับข้าว (อารมณ์ข้าวแกง) หรือ เบนโตะ สลัด ซุป และเครื่องดื่มทั่วไป ไว้เป็นตัวเลือกเพิ่มเติม ในส่วนของข้าวราดแกงทางร้านจะให้ลูกค้าเลือกด้วยว่า จะกินกับข้าวสวย หรือ กินกับเส้นหมี่ (บางคนอาจไม่ชอบกินกับข้าวสวย)
Concept ที่ร้านนำเสนออาหารญี่ปุ่นผสมกับ Oriental ฉบับเร่งด่วนแถมยังราคาไม่แพง เช่น บรรดาข้าวราดแกงราคาเริ่มต้นที่ 5.75 ปอนด์ / เซ็ทซูชิ 7.45 ปอนด์ / สลัด 2.45 ปอนด์ / ของกินเล่นอย่างเกี๊ยวซ่า 2.75 ปอนด์ ฯลฯ …ถ้าคิดเป็นเงินบาทคงดูแพง แต่ถ้าเทียบกับค่าครองชีพของที่นี่แล้ว ถือว่าไม่แพงเกินเอื้อมเลย สมเหตุสมผลพอรับได้ กินอิ่มมื้อกลางวัน
ด้วยราคาและคุณภาพที่เหมาะสม Kokoro เลยตอบโจทย์ผู้บริโภคเป็นอย่างมากมาก เพราะบางครั้งหลายคนเบื่อหน่ายอาหารมื้อเที่ยงสไตล์ฝรั่ง (อย่าลืมว่าอังกฤษมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ) แถมหลายสาขามีการจัดโซนที่นั่งด้านนอก เพื่อให้ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค (ร้านที่นี่ชอบมีโซน Outdoor นั่งข้างนอกชิลๆ) ช่วงหลังๆ ผมมากินที่ร้านนี้บ่อยขึ้นก็พบว่า นอกจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นฝรั่งซึ่งคงเบื่อรสชาติเดิมๆ แล้วอยากลองสิ่งใหม่ๆ แล้ว ยังมีกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่เป็นลูกค้าชาวเอเชียอยู่ไม่น้อยเลย! เรียกว่าเพื่อนบ้านแถบบ้านเรามาฝากท้องกันตรึม
เรื่อง “รสชาติ” ผมเคยสั่งข้าว Sweet & Sour Chicken ซึ่งรสชาติออกมาแล้วเหมือน “ข้าวหมูผัดเปรี้ยวหวาน” อาหารไทยเลย (ของโปรดของผมเลย!) ก็เลยติดใจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 555+
ธุรกิจกำลังไปได้สวย ตอนนี้ Kokoro มีเกือบ 20 สาขาในอังกฤษ รวมถึงใน London และวางแผนจะเปิดสาขาเพิ่มทุกๆ 2 เดือนอีกด้วย
KOKORO ในตอนนี้อาจยังไม่ได้เป็นร้านอาหารยักษ์ใหญ่ แต่กำลังเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างมั่นคง..
Wasabi:
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2003 ณ เวลานั้น ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวเร่งด่วนและราคาไม่สูงที่ London ยังมีไม่มากนัก ผู้คนก็ยังคงไม่มีทางเลือก กินแซนด์วิช แฮมเบอร์เกอร์ และฟิช แอน ชิปกันอยู่
Mr.Kim หนุ่มเกาหลีได้มาเยือน London เป็นครั้งแรก และก็คงเหมือนชาวต่างชาติคนอื่นๆ ที่นานไปก็เริ่มเอียนกับอาหารฝรั่งเหล่านี้ แต่ครั้นมองไปทางไหนก็ไม่มีตัวเลือกถูกปาก ราคาถูกใจ ให้เลือกมากนัก และด้วยความที่เขาเคยร่ำเรียนทางด้านอาหารที่ Tokyo เคยลิ้มรสความอร่อยของซูชิและเบนโตะมาไม่น้อย เขาจึงมองเห็นถึงโอกาสในการนำเสนออาหารญี่ปุ่นที่ราคาย่อมเยาและสะดวกรวดเร็วให้แก่คนที่นี่
ในเวลาต่อมา เขาตัดสินใจเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นแนวเร่งด่วนขึ้นมีชื่อว่า “Wasabi Sushi & Bento” โดยสาขาแรกตั้งอยู่ใกล้ๆ สถานี Embankment ใจกลางลอนดอน
กลยุทธ์สร้างความแตกต่างกลายเป็นจุดขายหลักของ Wasabi มาจนถึงทุกวันนี้คือ ลูกค้าสามารถเลือกหยิบซื้อซูชิได้ “เป็นคำๆ” (individually wrapped sushi) ราคาเริ่มที่ £1 ซึ่งนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้ชาวในลอนดอน(ยุคนั้น) ที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับอาหารประเภทนี้ สามารถเลือกซื้อมาลองกินได้สะดวก และยังสามารถเลือกรสที่ชื่นชอบได้ด้วย เพราะเดิมทีอาหารญี่ปุ่นตามท้องตลาดมักมีจำหน่ายแต่แบบกล่องใหญ่หลายคำ หลากประเภท และราคาสูงนั่นเอง หรือไม่ก็เป็นร้านระดับบนตามห้องอาหารไปเลย
นอกจากซูชิแล้ว Wasabi ยังแตกไลน์ขายอาหารทำสดใหม่สไตล์ข้าวโปะ (แบบเดียวกับ Kokoro) รวมถึงของทานเล่นและขนมอีกมากมาย (ของทานเล่นเยอะกว่า Kokoro) ทางเลือกอย่างข้าวก็มี ราคาเริ่มต้นเท่ากับ Kokoro
ผลตอบรับนั้นดีเกินคาด!!! เพียงเวลาไม่นานลูกค้าก็เริ่มคุ้นเคย เกิดการบอกต่อ และเพราะความสะดวกรวดเร็วแถมราคาไม่สูงเกินไป ทำให้เกิดลูกค้าประจำได้ไม่ยาก โดยเฉพาะการกลายเป็นทางเลือกหนึ่งของมื้ออาหารกลางวัน และยามที่ผู้คนเร่งรีบซื้อกลับ Take Away
แต่นอกจากอาหารแล้ว Design ภาพลักษณ์การตกแต่งร้านก็สำคัญไม่น้อย Mr.Kim มองว่าการทำให้ร้านดูโดดเด่นเป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้กัน และเขารู้ดีว่าคงไม่อาจสู้ร้านอื่นๆ ได้ หาก Concept ร้านตกแต่งไปในโทนหรูหราไฮโซ (ร้านแนวนั้นมีเยอะแล้ว)
Concept การตกแต่งร้านจึงมาในแนว Modern ขาวๆ เรียบๆ คลีนๆ เน้นใช้กระจกใส ไฟสว่างทั่วร้าน กลายเป็นสัญลักษณ์ของร้านที่มีความแตกต่าง เวลาผู้คนเดินผ่าน ก็รู้ได้เลยว่านี่คือร้าน Wasabi โดยที่ยังไม่เห็นโลโก้ป้ายหน้าร้านด้วยซ้ำ แถมบางสาขายังทำเป็นบูธเล็กๆ แทรกตัวอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวด้วยนะ
ปัจจุบัน Wasabi มีอยู่กว่า 50 สาขาทั่ว London (+1 สาขาที่ New York) และมีรายได้กว่า 3,000 ล้านบาท/ ปี ถือเป็นอีกหนึ่งเชนร้านอาหารญี่ปุ่นแนวเร่งด่วน ที่กำลังเติบโตไปได้สวย
Info
Wasabi Sushi & Bento
Facebook : www.facebook.com/WasabiUK