MARUYAMA RIVER – KINOSAKI ONSEN

ศูนย์รวมระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์

 

Maruyama River in Hyogo

 

แม่น้ำมารุยามะ (Maruyama River) อาจจะไม่ได้คุ้นหูในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเราๆ สักเท่าไร โดยแม่น้ำสายนี้ยาวถึง 68 กิโลเมตร กินพื้นที่หลายเมือง แต่จะสวยสุดๆ ที่เมืองโทโยโอกะ (Toyooka) บริเวณเหนือสุดของจังหวัดเฮียวโงะ เนื่องจากเป็นส่วนที่ไม่ได้คดเคี้ยว ห้อมล้อมด้วยภูเขาที่ไม่สูงมากก่อนไหลลงสู่ทะเลญี่ปุ่น

 

นาข้าวเขียวขจีใกล้ๆ กับแม่น้ำ Maruyama River

 

อีกหนึ่งความสวยงามที่ใครพบเห็นเป็นต้องสะดุดตาก็คือนาข้าวอันเขียวขจี ซึ่งพื้นที่รอบๆ แม่น้ำมารุยามะแห่งนี้ได้ทำอนุสัญญาแรมซาร์ หรือเป็นข้อตกลงเพื่ออนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำให้มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทัศนียภาพรอบๆ แม่น้ำมารุยามะนั้นสวยงามสบายตามาก

 

Maruyama River อยู่ไม่ไกลจากคิโนะซากิออนเซ็น

Kinosaki Onsen Vibes near Maruyama River

 

กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่พลาดเมื่อเดินทางมาที่แม่น้ำมารุยามะนั่นก็คือการส่องสัตว์ ถ่ายรูปธรรมชาติ ปั่นจักรยาน และยังมีคลองที่ตัดผ่านถึงคิโนะซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen) หลายคนจึงไม่พลาดที่จะเช่าชุดยูกาตะมาถ่ายรูปกับวิวสวยๆ ของแหล่งพักผ่อนหย่อนใจชั้นเลิศแห่งนี้

 

เส้นทางปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำและจุดน่าสนใจ

 

 

แน่นอนว่าถ้าเช่าจักรยานมาปั่นชมวิวธรรมชาติไปเรื่อยๆ ก็เพลิดเพลินได้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ไปเที่ยวทั้งทีจะไม่แวะสถานที่ในบริเวณใกล้เคียงซะหน่อยก็ดูน่าเสียดายจนเกินไป เราจึงอยากแนะนำเส้นทางและจุดแวะพักเหนื่อยที่เติมพลังใจได้ดีมาก

 

ปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำ Maruyama Riverภาพ : maru-tabi.jp

 

ปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำขึ้นไปทางตอนเหนือของคิโนะซากิออนเซ็นไม่ไกลก็จะพบกับหาดเคฮิ (Kehi Beach) และจุดตกปลาซึอิยามะ (Tsuiyama) พ้นจากจุดนี้ก็จะเป็นจุดที่แม่น้ำไหลออกสู่ทะเล เบื้องหน้าก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคิโนะซากิมารีนเวิลด์ (Kinosaki Marine World) ที่สามารถแวะเข้าไปชมตู้ปลาทรงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ได้

 

ถ้ำเก็นบุโด (Genbudo Cave) ก็สามารถปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำ Maruyama River ไปได้

 

อีกเส้นทางหนึ่งที่แนะนำคือข้ามสะพานไปยังฝั่งตรงข้ามของคิโนะซากิออนเซ็นจะพบกับพื้นที่ที่เรียกว่าพื้นที่ชุ่มน้ำฮาจิโกโระ (Hachigoro) สุดทางที่ถ้ำเก็นบุโด (Genbudo Cave) ซึ่งภายในมีโพรงถ้ำแยกเป็น 5 โพรง เกิดจากแมกม่าที่เย็นตัวลงจากการระเบิดภูเขาไฟเมื่อ 1,600,000 ปีก่อน ทำให้ชั้นหินบริเวณถ้ำมีรูปร่างและลวดลายคล้ายรังผึ้ง

 

ปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำ Maruyama River ไปเรื่อยๆ จะเจอกับนกโคโนะโทริ

 

ระหว่างที่ปั่นจักรยานเพลินๆ ลองสังเกตนกสีขาวที่แทรกตัวอยู่กลางนาข้าว นั่นก็คือนกกระสาขาวตะวันออก (Oriental White Stork) หรือเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “โคโนะโทริ” (コウノトリ) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของโทโยโอกะเลย นอกจากนี้ยังมีสัตว์โลกน่ารักอีกมากมายให้เสาะหาระหว่างทางซึ่งล้วนแต่เป็นข้อยืนยันถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศได้เป็นอย่างดี

สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการเช่าจักรยานและข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

สถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมของนักพายเรือที่จะลงแข่งโอลิมปิก 2020

 

ปี ค.ศ. 2020 นักกีฬาโอลิมปิกจากยุโรปมาซ้อมพายเรือกันที่ Maruyama River

 

แอบกระซิบว่าปี ค.ศ. 2020 ที่จะถึงนี้ทีมนักแข่งพายเรือจากยุโรป 2 ทีม จะมาเก็บตัวฝึกซ้อมพายเรือกันที่แม่น้ำมารุยามะในเมืองโทโยโอกะ ที่น่าจับตามองก็คือหนึ่งในนั้นเป็นทีม Sxulls จากประเทศเยอรมนี ผู้ครองตำแหน่งทีมพายเรืออันดับ 1 ของโลกเลยด้วย ส่วนอีกทีมนั้นมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 

 

ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าบนเสื้อทีมมีการพิมพ์คำว่า KINOSAKI ด้วย ถ้าใครอยากชมความหล่อล่ำ เอ๊ย! ชมท่วงท่าเหวี่ยงไม้พายอย่างแข็งขันของทีมนี้ เตรียมวางแพลนมาเที่ยวคิโนะซากิระหว่างวันที่ 3-19 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 นี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่นักกีฬาต่างเดินทางมาเก็บตัวและพักผ่อนในช่วงเวลาอิสระ

 

 

แม่น้ำที่ญี่ปุ่นก็มีหลายสาย สถานที่ที่จะจัดการแข่งขันพายเรือได้ก็มีมากโข แต่ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกที่จะมาที่คิโนะซากิ เพราะที่นี่มีทั้งบ่อน้ำพุร้อนที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมไปถึงแม่น้ำที่ไหลนิ่งไม่เชี่ยวกราด ด้วยความลึกเพียง 1 เมตรในระยะกว่า 10 กิโลเมตร เหมาะแก่การฝึกซ้อมพายเรือเป็นที่สุด ซึ่งทีมพายเรือของญี่ปุ่นเองก็จะเดินทางมาฝึกซ้อมที่นี่เช่นกัน

 

วิธีไปแม่น้ำมารุยามะ (คิโนะซากิออนเซ็น)

การเดินทางไปแม่น้ำมารุยามะใกล้ๆ กับคิโนซากิออนเซ็นนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงเดินทางมาที่สถานีคิโนซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen Station) ถ้าเริ่มต้นจากโอซาก้า (Osaka Station) ก็สามารถนั่งรถไฟด่วนพิเศษสาย JR Tokaido Main Line ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที ในราคา 5,080 เยน หรือนั่งรถบัสด่วน ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ในราคา 3,700 เยน นอกจากนี้ถ้าไปเที่ยวเกียวโตก่อน ก็สามารถเดินทางถึงได้เร็วกว่าเล็กน้อย จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) สามารถนั่งรถไฟด่วนพิเศษสาย JR San’in Main Line ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ในราคา 4,320 เยน แต่ต้องระวังไว้ว่ารถไฟในบางช่วงเวลาจะไม่มีแบบต่อเดียวถึง อาจจะต้องแวะเปลี่ยนขบวน เพราะฉะนั้นโปรดตรวจสอบให้ดีก่อนใช้บริการ

 

ตัวอย่างตารางเที่ยว 2-3 วัน สำหรับคิโนะซากิออนเซ็นและพื้นที่ใกล้เคียง

 

วันรายการ
วันที่ 1เดินทางจากเกียวโตหรือโอซาก้าด้วยรถไฟ มาลงที่คิโนะซากิออนเซ็น เดินสำรวจเมือง
วันที่ 2เช่าจักรยานที่ SOZORO Kinosaki Onsen Tourist Information Center โดยมีเส้นทางแนะนำคือ
1) ปั่นเลียบแม่น้ำมารุยามะไปทางทิศเหนือจึงทะเล
2) ปั่นข้ามสะพานจากคิโนะซากิออนเซ็น และเลียบแม่น้ำมารุยามะไปทางทิศใต้จนถึงถ้ำเก็นบุโด
วันที่ 3เที่ยวคิโนะซากิออนเซ็น จากนั้นเดินทางกลับเกียวโตหรือโอซาก้า

*หากเพื่อนๆ เปิดอ่านบทความผ่านสมาร์ทโฟน สามารถเลื่อนตารางไปทางซ้ายและขวา เพื่อดูข้อมูลได้

 

สถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ

คิโนะซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen)

 

Kinosaki Onsen

 

หมู่บ้านออนเซ็นเก่าแก่ที่มีบรรยากาศของเมืองญี่ปุ่นใน 1,300 ปีก่อน มีบ่อน้ำพุร้อนทั้งหมด 7 แห่ง ซึ่งทั้งหมดสามารถเดินไปใช้บริการได้สะดวกจากสถานีรถไฟคิโนะซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen Station) และยังสามารถเช่าชุดยูกาตะ ใส่เกี๊ยะเดินช็อปปิ้ง ถ่ายรูปกับฉากเมืองและธรรมชาติสวยๆ ได้อย่างจุใจ นอกจากนี้ เรียวกัง หรือ โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นของที่นี่ก็ล้วนแต่บรรยากาศดีจนน่าพักสักคืนสองคืน

อ่านรีวิวเที่ยวย่านคิโนะซากิออนเซ็นได้ที่นี่

 

โทโยโอกะ (Toyooka)

 

 

เมืองเล็กๆ ที่มีนกกระสาขาวตะวันออกโบยบินอย่างอิสระ ว่ากันว่าในอดีตเคยสูญพันธุ์ไปจากเมืองนี้ครั้งหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านร่วมมือกันนำมาขยายพันธุ์อีกครั้ง จนปัจจุบันคาดว่ามีจำนวน 140 ตัว บินอยู่ทั่วเมือง ส่วนสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองโทโยโอกะก็คือถ้ำเก็นบุโดนั่นเอง

 

อิซึชิ (Izushi)

 

 

ในอดีตเคยเป็นเมืองที่สร้างขึ้นรอบปราสาท บรรยากาศจึงคล้ายๆ เมืองในสมัยเอโดะ ไม่ว่าจะเป็นซากปราสาท, บ้านซามูไร, โรงละครคาบุกิ, หอนาฬิกา ฯลฯ และที่ห้ามพลาดคืออาหารท้องถิ่นที่ชื่อว่า Izushi Soba เสิร์ฟบนจานเล็กๆ ทุกองค์ประกอบทำให้รู้สึกราวกับว่าได้ย้อนเวลาสู่อดีตกาล

 

คันนาเบะ (Kannabe)

 

 

พื้นที่ราบสูงคันนาเบะที่มีกิจกรรมสนุกๆ ตลอดปี ถ้าไปช่วงฤดูหนาวก็มีทั้งสกี สโนว์บอร์ด ฯลฯ แบบจัดเต็ม แต่ถ้าไปฤดูที่อากาศอบอุ่นก็สามารถตั้งแคมป์, โดดร่มชูชีพ, ตกปลา ฯลฯ ใครที่เป็นสายลุยๆ ชอบแนวผจญภัยไม่ควรพลาด

อ่านรีวิวเที่ยวลานสกีคันนาเบะในฤดูหนาวได้ที่นี่

 

ทาเคโนะ (Takeno)

 

 

หมู่บ้านชาวประมงบริเวณเหนือสุดของจังหวัดเฮียวโงะติดกับชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น หาดทรายสีขาวผืนใหญ่ น้ำทะเลสีฟ้า และภูเขาที่เรียงตัวเป็นแนวยาว นับว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ว่าใครที่แวะเวียนมาที่เมืองโทโยโอกะแล้วก็จะต้องหาเวลาสักครึ่งวันมาพักผ่อนที่นี่

อ่านรีวิวเที่ยวหาดทาเคโนะได้ที่นี่

 

ทันโต (Tanto)

 

 

เมืองชนบทอันแสนเงียบสงบ แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิจะเกิดสวนดอกทิวลิปสีสันต่างๆ กว้างสุดลูกหูลูกตา ถ้าไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีแดงสดก่อนผลัดใบ

สำหรับใครที่สนใจแต่ยังไม่รู้ว่าจะแพลนทริปยังไงดีหรือไม่อยากแพลนเอง ขอแนะนำให้เข้าไปที่เว็บไซต์ www.visitkinosaki.com เพราะนอกจากจะมีข้อมูลมากมายที่จำเป็นต่อนักท่องเที่ยวอย่างเราแล้ว ยังมีแพ็กเกจทัวร์คอยให้บริการด้วยล่ะ

ที่มาภาพ visitkinosaki.com, www5.city.toyooka.lg.jpwww.rudern.de

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ