หลากเหตุผลที่คนเดินเข้า “ดองกิโฮเต้ (Don Quijote)”

Don Quijote

ดองกิโฮเต้

คนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆ คงไม่มีใครไม่รู้จักร้านสะดวกซื้อแบบครบวงจร ขายทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ว่ากันว่าอยากได้อะไร ก็สามารถหาซื้อได้ที่นี่ “ดองกิโฮเต้ (Don Quijote หรือ ドン・キホーテ)” นั่นเอง หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า “ดองกี้”

ไปเที่ยวญี่ปุ่นทีไร ไม่มีครั้งไหนที่ฉันไม่เดินเข้าดองกิโฮเต้เลย ดองกิโฮเต้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 5 กันยายน 1980 ที่น่ารักคือทุกสาขาทั่วญี่ปุ่นจะมีมาสคอตเจ้าเพนกวินสีฟ้าเป็นของตัวเองประจำแต่ละท้องถิ่น อย่างเช่น จ.อาโอโมริ เป็นเพนกวินสวมชุดแอปเปิ้ล, จ.กิฟุ ก็เป็นเพนกวินสวมชุดบ้านกัสโซ เป็นต้น ถือเป็นหนึ่งในโชห่วยขนาดใหญ่ในดวงใจฉันเลย 

หลายคนก็หลากเหตุผล ฉันจึงทำการสำรวจและสอบถามจากบุคลากรในออฟฟิศคิจิ เลยได้สรุปเป็นข้อให้อ่านง่ายๆ ดังนี้ (แอบบอกไว้ตรงนี้ว่าทั้งหมดที่เขียนเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะจ๊ะ)

• กระจายตัวอยู่ทั่วทุกพื้นที่

เพราะพี่แกมีสาขากระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ปัจจุบันดองกี้มีมากกว่า 160 สาขาทั่วญี่ปุ่น (เยอะมากจริง) ตั้งแต่ภูมิภาคฮอกไกโดไปจนถึงโอกินาว่า (สามารถเข้าไปดูสาขาทั้งหมดได้ที่นี่) นอกจากสาขาในญี่ปุ่นแล้ว ดองกี้ยังขยายสาขาไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ และคาดว่าที่ประเทศไทยในอนาคต

• มีทุกอย่างให้เธอแล้ว

ที่นี่มีทุกอย่างให้เลือกสรรจริงๆ เท่าที่คนนักท่องเที่ยวหรือคนธรรมดาทั่วไปจะอยากได้ แต่อย่ามาถามหาไข่มุกทะเลอันดามัน หรือเงาะจากจันทบุรีอะไรเทือกนี้ ไม่นับนะเออ ส่วนที่บอกว่ามีทุกอย่าง อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านตามฤดูกาล อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์กีฬาและสันทนาการ เครื่องประดับยนต์ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ผลิตภัณฑ์ยา ของแต่งบ้าน ไปจนถึงของเล่นผู้ใหญ่ 18+ ก็มีขาย และสินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ เป็นต้น แค่นี้ก็ถือว่าครบครันสำหรับการเป็นร้านสะดวกซื้อที่ดีแล้วล่ะ

• เปิดบริการจนถึงดึก

อีกหนึ่งเหตุผลที่เข้าดองกี้บ่อยๆ ก็เพราะว่าหลายสาขาเปิดให้บริการถึงดึกดื่น ถึงเช้ามืด และบางแห่งเปิด 24 ชั่วโมงเลยก็มี อย่างเช่น สาขาซัปโปโร สาขาทานุคิโคจิ สาชาชินจูกุ เป็นต้น ที่เปิดบริการตลอด ไม่มีหยุดพักกันเลยทีเดียว (สามารถเช็กเวลาให้บริการของแต่ละสาขาได้ที่นี่) ไม่ว่าจะไปท่องราตรีมา หรือท้องร้องตอนกลางคืน ก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

• ราคาดี ซื้อได้ ไม่เสียดายตังค์

ไม่ต้องแปลกใจเลยหากเข้าไปแล้วจะเห็นป้าย sale แปะอยู่ที่สินค้าในร้านเกือบจะทุกชิ้น ก็เพราะว่าพี่ดองกี้แกมีคอนเซ็ปเป็นของตัวเองคือ “ที่สุดของความสะดวกสบายภายใต้ร้านดิสเคาน์สโตร์” มันดีตรงนี้ สินค้าภายในร้านลดราคาตลอด ถูกอกถูกใจนักช็อปจากประเทศไทยจริงๆ

• นักท่องเที่ยวปลอดภาษี (Tax free)

แค่สินค้าราคาถูกไม่พอ ยังปลอดภาษีไปอีก สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ (ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 6 เดือน) แต่หลังจากที่ทำการคืนภาษีเรียบร้อยแล้วสินค้าจะถูกแพคใส่ถุงซึ่งไม่สามารถเปิดได้จนกว่าจะนำออกจากประเทศญี่ปุ่น

• เข้าใจได้ ซื้อง่ายดี

ใครที่กลัวอ่านไม่ออก หรือมีกลัวเรื่องภาษาก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะที่นี่มีการทำคำอธิบายรายละเอียดสินค้าเป็นภาษาต่างประเทศไว้ด้วย สำหรับสินค้าขายดี (แต่ละสาขาจะมีการจัดคำอธิบายภาษาต่างประเทศต่างกันตามความเหมาะสม) รวมถึงมีทั้งเจ้าหน้าที่คอยบริการแบบเรียลไทม์ผ่านหน้าจอแท็บเล็ตภายในร้าน เพื่อคอยช่วยเหลือชาวต่างชาติโดยเฉพาะอีกด้วย

‘ดองกิโฮเต้’ นี่มันน่าไปโดนจริงๆ ขาช็อปห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง แต่ถ้าใครมีแพลนเที่ยวฮอกไกโด ช่วงนี้ที่ดองกิโฮเต้กำลังมีโปรโมชั่นด้วยนะ (สำหรับผู้อ่านคิจิที่ใช้บัตร JCB)

หากชำระมากกว่า 30,000 เยนขึ้นไป รับส่วนลด 2,000 เยน/ ชำระมากกว่า 10,000 เยนขึ้นไป รับส่วนลด 500 เยน/ ชำระมากกว่า 5,000 เยนขึ้นไป รับส่วนลด 200 เยน + โฟมล้างหน้า (Perfect Whip) ฟรี เฉพาะ 500 ท่านแรก เพียงแสดง Barcode ใช้ได้ทุกสาขาในฮอกไกโดเลย

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.donki-global.com/

* สำหรับผู้ที่ใช้บัตร JCB อยู่แล้วรับส่วนลดและสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เพียงทำตามนี้..

• แสดงบัตรเครดิต JCB ที่ออกในประเทศไทย
• แสดงโลโก้ SUGOI HOKKAIDO นี้กับพนักงานเมื่อสั่งอาหารหรือเมื่อรับบริการ
• ร้านที่มีโลโก้ JCB หากมีการชำระเงินต้องจ่ายด้วยบัตรเครดิต JCB เท่านั้น ส่วนร้านที่ไม่มีโลโก้ ต้องชำระด้วยเงินสด
• ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ ได้
• รายละเอียด และระยะเวลาของสิทธิพิเศษในแต่ละร้านค้าอาจแตกต่างกัน กรุณาตรวจสอบกับร้านค้าโดยตรง
• เงื่อนไขเป็นไปตามที่ร้านค้ากำหนด และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ร้านสาขาที่สามารถใช้โปรโมชั่นได้ เช็กได้ที่นี่

แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีบัตรในครอบครอง สามารถสมัครบัตรเครดิต JCB ได้แล้ววันนี้ที่ Kasikorn Bank, Bank of Ayudhya (Krungsri), Krungthai Card (KTC) และ AEON ทั่วประเทศไทย ดูสิ ง่ายนิดเดียว เพราะฉะนั้นตอนนี้เซฟโลโก้นี้ไว้เลย ชิม ชิล ช็อป 60 กว่าร้าน บัตรเดียวทั่วฮอกไกโด หมดเขต 31 พฤษภาคม 2018 นี้เท่านั้น!