4 Unique Cafes in Japan: คาเฟ่ในญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์สุดแปลก
สารบัญ
เชื่อว่าเหตุผลหลักๆ ในการไปเที่ยวคาเฟ่ของทุกคนคงเป็นเพราะบรรยากาศที่น่านั่ง น่าถ่ายรูป เเละเมนูเครื่องดื่มของหวานที่น่ารับประทาน แต่ใครที่เป็นสายคอนเทนต์ ชอบเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง หรือไม่อยาก cafe hopping แบบธรรมดาล่ะก็ มามุงทางนี้เลย!เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยว คาเฟ่ ในญี่ปุ่นที่มีคอนเซ็ปต์สุด แปลก ไม่เหมือนใครทั้งหมด 4 ร้านด้วยกัน จะมีร้านอะไรบ้างเเละแต่ละร้านจะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย~
1. TYC Cafe (友達がやってるカフェ), Harajuku
คาเฟ่ TYC หรือ 友達がやってるカフェ (The Cafe Run By Your Friends) เป็นคาเฟ่ที่เมื่อเราเข้าไปเเล้ว พนักงานจะส่งเสียงทักทายอย่างร่าเริงกับเราทันทีว่า やほー! (ยะโฮ!) ซึ่งปกติเเล้วจะเป็นคำทักทายที่เอาไว้ใช้กับเพื่อนสนิทหรือคนกันเองเท่านั้น ก็เพราะว่าคาเฟ่แห่งนี้เขามีสโลแกนในการปฏิบัติต่อลูกค้าทุกคนให้เป็นเหมือน “เพื่อน” นั่นเอง
เเละเพื่อให้มีบรรยากาศที่ดูสนิทสนม ภายในร้านจึงมีแค่โต๊ะยาวตัวเดียวสำหรับลูกค้าทุกคน รวมถึงแต่ละรายการในใบเมนูจะไม่ได้ใช้ชื่อปกติ แต่จะตั้งเป็นประโยคคำถามหรือประโยคในการเปิดบทสนทนาระหว่างเรากับพนักงานด้วย
อีกอย่างที่สำคัญคือ ที่นี่เขายินดีต้อนรับทุกคนเลย ไม่ว่าจะพูดภาษาไหนก็ตาม เพราะเขามีพนักงานหลายคนที่สามารถพูดภาษาอื่นได้ เช่น อังกฤษและจีนกลาง แต่สำหรับพนักงานบางคนที่พูดภาษาอื่นไม่ได้ เขาก็จะใช้ภาษากายและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองให้กับเรา
Info
TYC Cafe (友達がやってるカフェ)
Hours: 11:00-21:00 น.
Location: ย่านฮาราจูกุ, กรุงโตเกียว
Holiday: –
Instagram: @tyc_harajuku
Nearest Station: สถานีเมจิ-ชิงกุมาเอะ (Meiji-jingumae Station)
Access: เดินเท้าประมาณ 3 นาที จากสถานีเมจิ-ชิงกุมาเอะ
2. Meikyoku Kissa Lion (名曲喫茶ライオン), Shibuya
ในย่านใกล้ๆ กันอย่างย่านชิบูย่า ยังมีอีกคาเฟ่หนึ่งที่เมื่อเข้าไปเเล้วห้ามส่งเสียงดัง เพราะเสียงอย่างเดียวที่เราจะได้ยินนั้นมีแค่ “เสียงดนตรีคลาสสิค” เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของใครก็ตามที่ชอบดนตรีแนวนี้โดยเฉพาะหรือต้องการเข้าถึงจิตวิญญาณของเสียงเพลงจริงๆ
คาเฟ่แห่งนี้มีชื่อว่า Meikyoku Kissa Lion (名曲喫茶ライオン) เป็นคาเฟ่เก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 82 ปี ที่เข้มงวดในเรื่องเสียงรบกวน หมายความว่าลูกค้าจะต้องไม่ส่งเสียงดัง รวมถึงพนักงานเสิร์ฟเวลามารับออเดอร์ ก็จะมาที่โต๊ะอย่างเงียบๆ และจดออเดอร์ด้วยเสียงกระซิบเบาๆ เนื่องจากต้องการให้ลูกค้าได้ยินคุณภาพเสียงของดนตรีคลาสสิคอย่างชัดเจนที่สุดจากลำโพงตัวใหญ่ที่สูงกว่า 3 เมตร ตั้งอยู่กลางร้านนั่นเอง
บรรยากาศภายในร้านก็ถูกออกแบบมาให้มีความสลัวๆ เเละที่นั่งภายในร้านทั้งหมดหันหน้าไปทางเดียวกันเพื่อให้เราได้มีสมาธิกับดนตรีมากขึ้น
นอกจากนี้เรายังสามารถนำแผ่นเสียงมาเองหรือขอเพลงกับทางร้านได้ด้วย ในช่วงเวลาตั้งแต่ 15.00 น. – 19.00 น. โดยมีเงื่อนไขว่าจำกัดแค่หนึ่งเพลงต่อกลุ่มเเละไม่สามารถขอเพลงสมัยใหม่ได้ หรือถ้าหากเพลงยาวเกินไป ทางร้านอาจจะเปิดให้ได้แค่ครึ่งแรกหรือครึ่งหลังของเพลงเท่านั้น
Info
Meikyoku Kissa Lion (名曲喫茶ライオン)
Hours: 13:00-20:00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 19:30 น.)
Location: ย่านชิบูย่า, กรุงโตเกียว
Holiday: –
Website: https://lion.main.jp/
Nearest Station: สถานีชิบูย่า (Shibuya Station)
Access: เดินเท้าประมาณ 4 นาที จากสถานีชิบูย่า
3. The Lazy House, Nagoya
ร้านอาหาร The Bake House ที่เมื่อตกเย็นจะกลายเป็นร้าน The Lazy House มีคอนเซ็ปต์ที่ตรงกันข้ามกับคาเฟ่แรกโดยสิ้นเชิงคือ ปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างขี้เกียจหรือ 態度が悪い taido ga warui ซึ่งหมายถึงการประพฤติตัวไม่ดีหรือไม่มีมารยาทนั่นเอง ฉะนั้นเมื่อเราก้าวเข้าไปในร้าน เราจะถูกต้อนรับด้วยกิริยาท่าทางเเละคำพูดที่ไม่น่ารักต่างๆ เช่น “เดินเร็ว ๆ หน่อย”, “นั่งตรงนั้น!” แทนที่จะเป็นคำว่า いらっしゃいませ Irashaimase แบบที่พูดกันตามร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป
เมื่อเราได้โต๊ะเเล้ว สิ่งที่เราต้องเตรียมตัวรับมือเลยคือ ความล่าช้าในการมารับออเดอร์เเละชื่อรายการเมนูต่างๆ ที่สุดจะกวน เช่น “มอสซาเรลล่าชีสและพายคีชโหระพา ถ้าไม่รู้จักเมนูนี้ ก็ไม่ควรกินนะ” เป็นต้น เเละเมื่อเราทำการสั่งอาหารไปแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับอาหารทันที หรือบางทีมาเเล้ว แต่กลับไม่มีช้อนให้มาด้วย ทำให้เราก็ต้องลุกไปหยิบเอง แบบนี้ก็มีเหมือนกัน
ไม่ว่าจะหันไปทางไหน เราก็จะสามารถเห็นพนักงานบางคนเล่นโทรศัพท์บ้างหรือบางคนก็ออกไปสูบบุหรี่ ซึ่งอาจจะดูหยาบคาย แต่อย่าลืมไปว่าสิ่งนี้เป็นแค่การแสดงเพื่อสร้างเสียงหัวเราะเเละความสนุกสนานให้กับลูกค้าเท่านั้น ส่วนเรื่องของรสชาติเเละคุณภาพของอาหารก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะทางร้านใส่ใจเรื่องนี้มากเเละยังคงรักษามาตรฐานไว้ดีเหมือนเดิม นอกจากนั้นเมื่อเรารับประทานอาหารเสร็จเเล้ว พนักงานจะออกมาส่งเราหน้าร้านด้วยรอยยิ้มพร้อมกับกิริยาท่าทางที่น่ารักเหมือนเดิมด้วย
ภาพ: https://www.instagram.com/the.lazy.house/
Info
The Lazy House
Hours: ศ.-อา.และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 17:30-23:00 น.
Location: เมืองนาโกย่า, จังหวัดไอจิ
Holiday: วันจันทร์-วันพฤหัสบดี
Instagram: @the.lazy.house
Nearest Station: สถานีอาราโกะ (Arako Station)
Access: เดินเท้าประมาณ 11 นาที จากสถานีอาราโกะ
4. Shy Cafe (シャイカフェ), Mie
ณ เมืองสึ จังหวัดมิเอะ มีคาเฟ่หนึ่งชื่อว่า Shy Cafe คาเฟ่ที่เราจะได้รับการบริการจากพนักงานไม่เหมือนที่อื่นๆ แต่จะรู้สึกเอ็นดูพวกเขาอย่างไม่รู้ตัวเลยล่ะ เพราะที่นี่พนักงานพากันขี้อาย ไม่กล้าสู้หน้าหรือมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้านั่นเอง
ภายในร้านเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ล้วนทำจากไม้ เเละมีกระจกบานใหญ่เพื่อให้แสงแดดธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาถึง ซึ่งนอกจากบรรยากาศร้านที่ชวนอบอุ่นเเล้ว เมื่อเราก้าวเข้าไปในร้าน เราจะสัมผัสได้ถึงความเขินอายไม่กล้าเข้ามาทักทายต้อนรับลูกค้าของพนักงานทุกคน ก็เพราะว่าร้านแห่งนี้เปิดโอกาสในการทำงานให้กับกลุ่มผู้ป่วยดาวน์ซินโดรมเเละออทิสติก
ทำให้แต่ละโต๊ะในร้านจะมีข้อความเขียนไว้ว่า “เราต้องการให้ร้านแห่งนี้เป็นร้านที่ลูกค้าทุกคนเต็มใจที่จะอดทนรอ เเละเป็นร้านที่ทุกคนเข้ามาเเล้วรู้สึกสบายใจจนสามารถพูดได้ว่า ‘ถึงแม้พนักงานอาจจะบริการได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็นะ โอเค ไม่เป็นไร’ ”
ภาพ: https://www.youtube.com/watch?v=RpQnrCZXz98
หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือทางร้านต้องการให้ทั้งลูกค้าเเละพนักงานนั้นได้ช่วยเหลือซึ่งกันเเละกัน เช่น ถ้าเมื่อไรที่พนักงานจดออเดอร์ผิดหรือเดินไปเสิร์ฟผิดโต๊ะบ้าง ลูกค้าก็สามารถค่อยๆ สอนเเละบอกพนักงานอย่างใจเย็น
ภาพ: https://www.youtube.com/watch?v=RpQnrCZXz98
นอกจากนั้นพนักงานบางคนเองก็ได้มีส่วนช่วยทำอาหารในครัวด้วย เเละบอกเลยว่าเมนูอาหารเเละของหวานที่นี่เขาทำกันอย่างพิถีพิถันน่ารับประทานมากๆ
ภาพ: https://www.instagram.com/shycafe2022/
Info
Shy Cafe (シャイカフェ)
Hours: 11:00-14:00 น.(L.O. 13:30 น.)
Location: เมืองสึ, จังหวัดมิเอะ
Holiday: วันอาทิตย์, วันจันทร์, วันหยุดนักขัตฤกษ์
Instagram: @shycafe2022
Nearest Station: ป้ายรถประจำทาง Fujigaoka Danchi
Access: เดินเท้าประมาณ 5 นาที จากป้ายรถประจำทาง Fujigaoka Danchi