พารู้จักราเมนท้องถิ่นเด่นๆ จาก 5 จังหวัด 5 ภูมิภาคในญี่ปุ่น พร้อมแจกสูตรทำราเมนยอดฮิตกินเองที่บ้าน

ราเมนถือเป็นเมนูที่ฝังลึกอยู่ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่นก็มีการปรุงด้วยวิธีที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของส่วนผสม หรือวิธีการเตรียม เราจึงสามารถรับรสชาติที่หลากหลายได้จากราเมนในแต่ละชาม ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนในญี่ปุ่น ในเมืองใหญ่หรือในชนบทก็จะเห็นว่ามีร้านราเมนแทรกซึมอยู่ทุกหนแห่ง เชื่อว่าหนึ่งในนั้นก็ต้องมีร้านราเมนที่มีรสชาติถูกปากเราอย่างแน่นอน แต่ก่อนจะไปตะเวนกิน เราอยากจะพาไปรู้จักราเมนจาก 5 จังหวัดเด่นๆ ที่มาจาก 5 ภูมิภาคของญี่ปุ่นให้รู้จักรสชาติกันก่อน ไปเที่ยวโซนไหนจะได้ตามไปกินได้ถูก สำหรับใครที่อ่านแล้วเกิดหิวขึ้นมาเราก็ปิดท้ายด้วยการแนะนำสูตรทำราเมนยอดฮิต 3 สูตร ให้ลองไปทำตาม รับรองไม่ยากจนเกินไปแน่อน

Hakata Ramen (จังหวัดฟุกุโอกะ ภูมิภาคคิวชู)

ราเมนประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “ฮากาตะราเมน” หรือ “ทงคตสึราเมน” ซึ่งมีต้นกำเนิดในเมืองฟุกุโอกะ จังหวัดฟุกุโอกะ จุดเด่นคือเส้นของราเมนที่มีความเล็กเมื่อเทียบกับเส้นอื่นๆ นั่นก็เพื่อทำให้ง่ายต่อการปรุงและช่วยให้ปรับระดับความแข็งของเส้นได้ง่ายขึ้นด้วยนั่นเอง หากไปกินราเมนฮากาตะเราสามารถเลือกระดับความแข็งของเส้นราเมนได้ตามความต้องการ ตัวน้ำซุปของฮากาตะราเมนนั้นเคี่ยวจากกระดูกหมู จะมีสีขุ่นและรสชาติเค็ม กลมกล่อม ท็อปปิ้งด้วยหมูย่างหรือหมูต้ม โรยต้นหอม อีกสิ่งหนึ่งที่พิเศษของราเมนฮากาตะคือระบบ “คาเอดามะ” คือเมื่อเราสั่งบะหมี่เพิ่มหลังจากที่กินบะหมี่ในชามหมดแล้ว เราจะถูกคิดเงินแค่จานแรกที่สั่งเพิ่ม หลังจากนั้นเราสามารถเติมได้อีกไม่อั้น

Sapporo Ramen (จังหวัดฮอกไกโด ภูมิภาคฮอกไกโด)

ซัปโปโรราเมนเป็นอาหารประเภทญี่ปุ่นเส้นยอดนิยมจากฮอกไกโด เส้นจะมีความหนาปานกลางและหยัก ว่ากันว่าลักษณะของเส้นราเมนนี้จะสามารถเก็บน้ำซุปได้ดีเยี่ยมและมีรสชาติที่อร่อยมาก ตัวซุปจะเป็นซุปมิโซะ เบสของซุปเคี่ยวจากกระดูกหมูและไก่ แต่บางร้านก็ใช้กระดูกหมูและอาหารทะเลหลายชนิดผสมกัน ท็อปปิ้งด้วยเนยและข้าวโพดหวานอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้นำซุปมีรสชาติหวานและกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งมีส่วนประกอบของผักมากมาย เช่น ต้นหอม หน่อไม้ ถั่วงอก ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละร้าน แม้ว่าซัปโปโรราเมนจะขึ้นชื่อเรื่องซุปมิโซะ แต่ก็ยังมีร้านราเมนบางร้านที่ใช้น้ำซุปเกลือและซุปโชยุด้วยเช่นกัน

Kitakata Ramen (จังหวัดฟุกุชิมะ ภูมิภาคโทโฮคุ)

ราเมนคิตะคาตะนี้ถูกขนานนามว่า “ฮิราอุจิ จุคุเซ ทากะ ซุยเม็ง” หรือ “บะหมี่เส้นแบนที่สุกแล้วและเติมน้ำปริมาณมาก” ราเมนนี้มีต้นกำเนิดในเมืองคิตาคาตะ จังหวัดฟุกุชิมะ ลักษณะเด่นคือเส้นบะหมี่ที่มีความกว้าง 4 มิลลิเมตร ที่มีความแบนและหยัก เมื่อได้กินราเมนคิตะคาตะจะรู้สึกได้เลยว่าเส้นราเมนมีความเหนียวแน่นเนื่องจากผ่านการบ่มเป็นเวลานาน ซุปของคิตาคาตะราเมนมักจะเป็นซุปโชยุซึ่งผสมผสานกับเส้นราเมนได้อย่างลงตัว อย่างไรก็ตาม ไม่มีซุปมาตรฐานที่เข้ากับคิตาคาตะราเมนได้ เนื่องจากรสชาติที่เข้มข้นและอร่อยนั้นมาจากน้ำประปาที่ใช้ในซุปซึ่งมาจากน้ำในลำธารสึงะมิเนะนั่นเอง หากใครอยากลองกินราเมนคิตะคาตะแบบออริจันัลจริงๆ ต้องไปที่เมืองคิตาคาตะเท่านั้น

Toyama Black Ramen (จังหวัดโทยามะ ภูมิภาคชูบุ)

หากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองโทยามะ จังหวัดโทยามะ จะต้องสังเกตเห็นราเมนซุปดำที่เสิร์ฟในร้านอาหารท้องถิ่นอย่างแน่นอน ราเมนที่ไม่เหมือนใครนี้เรียกว่า “ราเมนดำโทยามะ” สีของซุปราเมนนี้ได้มาจากการผสมซีอิ๊วดำเข้ากับน้ำซุปที่เคี่ยวจากไก่และปลา ท็อปปิ้งด้วยหมูย่าง ตัวน้ำซุปดำที่ให้รสชาติเข้มข้น โดยใส่ต้นหอมและพริกไทยดำลงไปด้วย หากใครที่ต้องการให้รสชาติอ่อนลงก็มีตัวเลือกอื่นๆ อย่างการเพิ่มไข่ลงไป  ปัจจุบันมีราเมนโทยามะในรูปแบบถ้วยที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2550 แต่ถ้าไปถึงเมืองโทยามะแล้วก็อยากให้ไปนั่งกินที่ร้านดีกว่าเพราะในเมืองโทยามะนั้นมีร้านราเมนที่มีทำออกมาได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของราเมนดำโทยามะให้เลือกมากมาย

Tokushima Ramen (จังหวัดโทคุชิมะ ภูมิภาคชิโกกุ)

ราเมนโทคุชิมะที่มีต้นกำเนิดในจังหวัดโทคุชิมะ เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจากซุปสีน้ำตาลที่เกิดจากการผสมน้ำซุปกระดูกหมูกับซีอิ๊วดำหรือซีอิ๊วทามาริ โดยปกติจะท็อปปิ้งด้วยหมูสไลซ์ ถั่วงอก ต้นหอม และไข่ดิบ แม้ว่าตัวซุปสีน้ำตาลจะเหมือนเป็นเอกลักษณ์ของโทคุชิมะราเมน แต่ก็ยังมีบางร้านที่ทำออกมาเป็นซุปสีเหลืองหรือสีใส ซึ่งราเมนโทคุชิมะซุปสีเหลืองนั้นมาจากน้ำซุปไก่ผสมผัก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วสีอ่อน ส่วนราเมนโทคุชิมะที่ซุปสีขาวนั้นก็มาจากน้ำซุปกระดูกหมูผสมกับซีอิ๊วขาวสีอ่อนนั่นเอง ถึงแม้สีของน้ำซุปจะแตกต่างกันแต่ราเมนโทคุชิมะทุกแบบจะมีรสชาติเด่นคือเค็มและหวานเหมือนกัน 

สูตรทำราเมนสุดฮิตง่ายๆ เองที่บ้าน 🍜

พอรู้จักราเมนท้องถิ่นกันไปคร่าวๆ แล้ว แต่จะรีบตามไปกินทันทีเลยก็คงเป็นไปได้ยาก เราเลยอยากชวนมาลองทำราเมนกินเองที่บ้านแก้ขัดไปก่อน ซึ่งแต่ละเมนูที่เลือกมาก็ล้วนแต่เป็นเมนูยอดฮิต ที่อาจจะหากินยากในร้านราเมนในไทย ใช้เพียงวัตถุดิบไม่กี่อย่างที่หาซื้อได้ง่าย ถึงรสชาติจะไม่เหมือนกินที่ร้านเป๊ะๆ แต่ความอร่อยได้ฟีลแน่นอน ถ้าตู้เย็นบ้านใครไม่มีวัตุดิบตามสูตรก็เพียงแค่ออกไปซื้อที่ UFM Fuji Super ทุกสาขาได้เลย รับรองมีครบ! 

1. Miso Butter Corn Ramen

เมนูแรกเราที่อยากหยิบยกมาแนะนำก็คือราเมนซัปโปโร เพราะเป็นเมนูฮิตมาก ถือเป็น 1 ใน 3 ของราเมนยอดนิยม จุดเด่นคือเส้นราเมนที่เหนียวนุ่ม เราจึงได้เลือกเส้นราเมนสดพร้อมน้ำซุปรสมิโสะ จากแบรนด์ Momotaro ที่มาพร้อมกับเส้นและน้ำซุปมิโซะแบบเข้มข้น เติมข้าวโพดหวาน ถั่วงอก ต้นหอมญี่ปุ่น และไข่ต้ม ไฮไลท์คือใส่ก้อนเนยที่จะค่อยๆ ละลายลงในราเมงซุปมิโซะ ยิ่งทำให้น้ำซุปมิโซะเข้มข้นขึ้น

เส้นบะหมี่สดพร้อมน้ำซุปรสมิโสะ แบรนด์ Momotaro   

• เส้นบะหมี่สดพร้อมน้ำซุปรสมิโสะ แบรนด์ Momotaro     1 ซอง
• ต้นหอมญี่ปุ่น     ตามชอบ
• ไข่ต้ม     1 ฟอง
• ข้าวโพด     ½ ฝัก
• เนยจืด     10 กรัม
• ถั่วงอก     ตามชอบ

1. หั่นข้าวโพด ต้นหอม เนย ไข่ เตรียมไว้

2. ต้มน้ำราเมน ใส่ถั่วงอกลงไปต้มด้วยแล้วรอจนเดือด ใส่เส้นราเมนลงไปลวก

3. เมื่อเส้นสุกแล้วตักใส่ถ้วย ใส่ข้าวโพด ต้นหอม เนย ไข่โปะด้านบน

2. Lemon Ramen

สำหรับราเมนชามนี้ เหมาะกับใครที่ชอบกินราเมนรสชาติเบาๆ แต่กลมกล่อม เราได้หยิบเอา น้ำซุปไพตันสำเร็จรูป แเบรนด์ Somi Foods ที่เข้มข้นจับคู่กันกับ ราเมนเส้นสด แบรนด์ Hagemu ที่ซึมซับน้ำซุปได้เป็นอย่างดี ใส่เนื้ออกไก่ต้ม ปิดท้ายด้วยการใส่เลมอนฝานเพื่อเติมรสเปรี้ยวนิดๆ  ทั้งยังให้ความรู้สึกสดชื่น เหมาะจะซู๊ดในวันอากาศร้อนๆ สูตรนี้ใช้เวลาเพียง 15 นาที เหมาะเป็นทางเลือกสำหรับวันที่ยุ่งๆ หรือมีเวลาไม่มาก

1. หั่นเลมอน เนื้อไก่ ต้นหอม เตรียมไว้

2. ต้มน้ำราเมน ใส่น้ำซุปแล้วรอจนเดือด ใส่เส้นราเมนลงไปลวก

3. เมื่อเส้นสุกแล้วตักใส่ถ้วย ใส่เลมอน เนื้อไก่ ต้นหอมโปะด้านบน

3. Yasai Tappuri Ramen

ใครที่ชอบกินผักขอแนะนำเมนูนี้เลย ชามที่อัดแน่นไปด้วยท็อปปิ้งมากมาย ได้แก่ กะหล่ำปลี แครอท ถั่วงอก ข้าวโพด ต้นหอมญี่ปุ่น และเนื้อหมู ตัวราเมนเราได้เลือก นาราซากิ อาโกดาชิ อิริ โชยุ ราเมน ข้างในจะมาพร้อมกับราเมนเส้นเหนียวหนุ่ม และผงปรุงรส 2 ซอง ที่ผสมกันออกมาเป็นน้ำซุปโชยุรสเค็มกำลังดีบวกกับความมันนิดๆ ของท็อปปิ้งนำไปผัดรวมกันก่อนจะมาโปะด้านบนจึงทำให้ได้รสชาติกลมกล่อมลงตัว

นาราซากิ อาโกดาชิ อิริ โชยุ ราเมน

• นาราซากิ อาโกดาชิ อิริ โชยุ ราเมน     1 ซอง
• หมูสไลด์     50 กรัม
• กะหล่ำปลี     ตามชอบ
• ถั่วงอก     ตามชอบ
• แครอท     ตามชอบ
• ข้าวโพด     ตามชอบ
• ต้นหอมญี่ปุ่น     ตามชอบ
• น้ำมัน     เล็กน้อย
• น้ำเปล่า     300 มิลลิลิตร

1. หั่นหมู กะหล่ำปลี เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ และหั่นแครอทเป็นเส้น 

2. ตั้งน้ำมันในกระทะ เปิดไฟร้อนปานกลาง แล้วนำหมูไปผัด 

3. พอหมูเริ่มสุก ให้ใส่กะหล่ำปลี  แครอท ถั่วงอก ข้าวโพด แล้วผัดให้เข้ากัน พอผักเริ่มสุกให้ตักใส่จานไว้

4. แล้วเติมน้ำเปล่าลงในกระทะเดิม ใส่ซุปราเมน แล้วต้มจนเดือด 

5. ใส่เส้นหมี่ แล้วคนเบา ๆ จนเส้นสุกพอประมาณ 

6. ตักใส่ชาม โปะด้วยหมูผักที่ผัดน้ำมันทิ้งไว้ และโรยหน้าด้วยต้นหอม

โปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิก UFM Fuji Super

พิเศษสำหรับสมาชิกผู้ถือบัตรสะสมคะแนน “BONUS CARD” ของยูเอฟเอ็ม ฟูจิ ซูเปอร์ เนื่องจากทุกวันที่ 10 ของเดือนเป็นวัน “Member Day” หากมาช็อปในวันนี้ ทางยูเอฟเอ็ม ฟูจิ ซูเปอร์จะเพิ่มคะแนนพิเศษให้สมาชิกสำหรับผู้ถือบัตรสะสมคะแนน BONUS CARD ในทุกการซื้อ 25 บาท รับ 1 คะแนน สะสมครบ 800 คะแนน ใช้ชำระแทนเงินสดได้ 100 บาท

✧ พิเศษเฉพาะวันที่ 10 ของเดือน ซื้อ 25 บาท รับเพิ่ม 8 เท่า (8 คะแนน)

✧ พิเศษทุกวันอาทิตย์ของสัปดาห์ ซื้อ 25 บาท รับเพิ่ม 5 เท่า (5 คะแนน)

สำหรับลูกค้าที่ยังไม่มีบัตรสมาชิก สามารถสมัครง่ายๆ เพื่อรับสิทธิพิเศษนี้ได้ที่เซอร์วิสเค้าท์เตอร์ฟรีทุกสาขา เพียงใช้หมายเลขบัตรประชาชนหรือหมายเลขพาสปอร์ต หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่เท่านั้น

หมายเหตุ:

* โปรโมชั่นเพิ่มคะแนนพิเศษอาจมีการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า

**สินค้ากลุ่มสุรา, บุหรี่, กระเช้าของขวัญที่มีส่วนลด, บัตรของขวัญ, บัตรโทรศัพท์ (Top Up Card, SIM Cared), กาแฟ, ผลไม้ JALUX, บริการจัดดอกไม้, สินค้าของผู้เช่าร้าน ไม่สามารถสะสมแต้มได้