Hotel near Autumn Leaves in Hokkaido : รวม 10 ที่พักใกล้จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ทั่วฮอกไกโด

10 ที่พักฮอกไกโด วิวสวยใกล้จุดชมใบไม้แดง 🍁

หนึ่งในช่วงเวลาที่หลายคนรอคอยสำหรับการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นก็คือช่วงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นที่มีใบไม้เหลือง-ส้ม-แดงสวยๆ ให้ได้ตื่นตา แถมยังเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายที่สุด ซึ่งจังหวัดฮอกไกโดนั้นเป็นสถานที่แรกในญี่ปุ่นที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีก่อนจังหวัดอื่นๆ โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป ในครั้งนี้เราได้ลิสต์ “ที่พักฮอกไกโด” โรงแรมสวยเก๋ ใกล้จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมมาให้ตัดสินใจกันไปพลางๆ เผื่อทริปหน้าไปเที่ยวฮอกไกโดช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Onuma Quasi-National Park

ภาพ : onumakouen.com

เริ่มกันที่จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แรกกับอุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi-National Park) อยู่ในเมืองนานาเอะ (Nanae) เป็นอุทยานแห่งชาติที่รวมความงดงามของธรรมชาติหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน ทั้งเกาะแก่ง ทะเลสาบ และภูเขาไฟโคมะงาตาเกะ (Mount Komagatake) ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ของทะเลสาบที่ถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้สีเหลืองแดงทั่วอุทยาน โดยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงในช่วงปลายเดือนตุลาคม

01 Hakodate Onuma Tsuruga Resort EPUY

ภาพ : tsuruga.epuy

ที่พักฮอกไกโด แห่งแรกที่อยู่ใกล้กับอุทยานโอนุมะมาก เดินไปได้ใน 10 นาทีเท่านั้น กับรีสอร์ทริมทะเลสาบโอนุมะ (Lake Onuma) ที่มีชื่อว่า Tsuruga Resort EPUY รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้นานาชนิด และบริเวณด้านหลังยังติดกับทะเลสาบที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของทุกคน

ภาพ : www.ikyu.comภาพ : tsuruga.epuy

สำหรับห้องพักเราขอแนะนำเป็น Twin Room ห้องเตียงแฝดที่มาพร้อมออนเซ็นส่วนตัว ประกอบไปด้วยห้องนอน ห้องนั่งเล่นพร้อมโปรเจกเตอร์ และบ่อออนเซ็นส่วนตัวที่จะช่วยให้ผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศรอบบริเวณที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติแสนบริสุทธิ์

ภาพ : hashigozake.hatenablog.com

จุดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวที่มาพักต่างเอ่ยปากชมกันเป็นอย่างมาก นั่นก็คือสวนพฤกษศาสตร์ เป็นสวนที่รวมต้นไม้หลากหลายพันธุ์ประดับตกแต่งให้สวยงาม เหมาะแก่การเดินเล่นชมสวนเพลิดเพลินๆ แถมสวนนี้ยังมีความสวยงามที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลต่างๆ อีกด้วย 

ภาพ : tsuruga.epuy

นอกจากนี้หากเดินไปทางด้านหลังของรีสอร์ทก็จะพบระเบียงที่ลอยอยู่เหนือทะเลสาบอันเงียบสงบ เป็นพื้นแสนพิเศษที่สามารถสัมผัสได้ถึงเสียงและลมของธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม

02 Hakodate Onuma Prince Hotel

ภาพ : HakodateOnumaPrinceHotel

ที่พักต่อมาคือ Prince Hotel เป็นโรงแรมทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโดที่ทั่วทั้งโรงแรมแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงามจากทั้งอุทยานแห่งชาติโอนุมะ และภูเขาไฟโคมะงาตาเกะ (Mount Komagatake) ที่ล้วนแต่สวยงามตระการตา

ภาพ : HakodateOnumaPrinceHotelภาพ : www.ikyu.comภาพ : HakodateOnumaPrinceHotel

ตัวอาคารของโรงแรมนั้นแบ่งที่พักออกแบ่งซ้ายขวาชัดเจน ห้องพักที่เราจะขอแนะนำจะอยู่ที่ชั้น 4 เป็นแบบ Corner Twin เพราะสามารถชมทิวทัศน์ของธรรมชาติรอบๆ ผ่านบานกระจกทั้ง 2 มุมในห้อง และทางโรงแรมก็ยังมีออนเซ็นธรรมชาติแบบกลางแจ้ง ที่จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายร่างกายพร้อมกับดูแลผิวให้ชุ่มชื้น

ภาพ : www.princehotels.com

นอกจากนี้ห้องอาหารของทางโรงแรมยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกขณะรับประทานอาหารได้อีกด้วย แถมเมนูอาหารล้วนเต็มไปด้วยอาหารทะเลสดๆ ที่ใช้วัตถุดิบที่หาได้จากฮอกไกโด แขกที่มาพักจึงเต็มอิ่มไปกับเมนูอาหารหรูรสชาติดีซึ่งกินได้ที่โรงแรมนี้เท่านั้น

Shiretoko National Park

ภาพ : tw.visit-hokkaido.jpภาพ : www.uu-beihaidao.tw

ต่อมาเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังในฮอกไกโดจุดที่ 2 กับอุทยานชิเรโตโกะ (Shiretoko National Park) อุทยานแห่งแรกที่ถูกแต่งตั้งขึ้นในญี่ปุ่น และยังเป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติอีกด้วย สิ่งที่ทำให้อุทยานแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากคือทะเลสาบทั้ง 5 แห่งที่งดงามและตราตรึงราวกับหลุดมาจากในนิยาย สามารถเดินเล่นรอบทะเลสาบไปพร้อมๆ กับการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามแบบนี้ได้ในช่วงกลางถึงปลายเดือนตุลาคม

03 Kitakobushi Shiretoko Hotel & Resort

ภาพ : www.photoshiretoko.jp

โรงแรมรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ห่างจากอุทยานชิเรโตเกะเพียง 1 กิโลเมตรกับ Kitakobushi Hotel & Resort ที่นี่รายล้อมไปด้วยความงดงามของธรรมชาติในชิเรโตโกะ พื้นที่รีสอร์ทอุดมสมบูรณ์ไปด้วยภูเขาและป่าไม้ แถมอยู่ใกล้กับทะเลโอค็อตสค์ (Sea of Okhotsk) ที่มองเห็นจากที่พักได้อีกด้วย

ภาพ : www.photoshiretoko.jp

ส่วนห้องพักนั้นมีมากมายหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าห้องไหนก็สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลโอค็อตสค์ได้ทั้งนั้น ซึ่งห้องพักที่อยากแนะนำคือ Sea View Twin High Floor ห้องพักสไตล์ยุโรปที่มองเห็นวิวทะเลจากมุมสูงได้ นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมีบ่อออนเซ็นขนาดใหญ่ที่อยู่ชั้นบนสุด ระหว่างแช่ออนเซ็นติดก็สามารถดื่มด่ำวิวทะเลผ่านกระจกบานใหญ่ได้เต็มอิ่ม

ภาพ : www.photoshiretoko.jp

ความดีงามของโรงแรมนี้ก็คือไม่ว่าจะจุดไหนๆ ล้วนแต่มองเห็นวิวทะเลได้ทั้งนั้น แม้แต่ในห้องอาหารเองก็สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวได้อย่างจุใจ ที่เอ็กซ์คลูซีฟมากก็คือชั้นดาดฟ้า เพราะมีออนเซ็นเท้าให้ทุกคนได้แช่เท้าคลายเมื่อยพร้อมเพลิดเพลินไปกับวิวยามค่ำคืนที่สวยงาม

ภาพ : www.photoshiretoko.jp

อีกหนึ่งการพักผ่อนที่หลายๆ ชื่นชอบก็คงไม่พ้นการอบซาวน่าที่จะช่วยในการขับเหงื่อและบำบัดความเครียด แถมยังทำให้ผิวดีขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชายก็สามารถใช้บริการได้เช่นกัน

04 Shiretoko Daiichi Hotel

ภาพ : www.ikyu.com

ที่พักลำดับถัดมาที่แนะนำคือ Daiichi Hotel โรงแรมที่มีฉากหลังเป็นทิวทัศน์ของภูเขาสูงตระการตา ส่วนภูมิทัศน์ด้านหน้าเป็นทะเลสีครามแสนกว้างใหญ่ ช่วยให้ผู้มาพักได้พักผ่อนหย่อนใจกับไปวิวธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่มจนรู้สึกคุ้มค่าที่ได้มาพักแน่นอน

ภาพ : www.ikyu.com

ห้องพักแนะนำเป็นสไตล์ญี่ปุ่น เปิดโล่ง ดูเรียบง่ายมองแล้วสบายตา โดยจุดเด่นของทางโรงแรมคือวิวสูงนอกหน้าต่าง ให้ชื่นชมได้ทั้งทิวทัศน์ของเมืองและวิวทะเลภายใต้ท้องฟ้าสีคราม แม้อยู่ในห้องก็รู้สึกผ่อนคลายไปกับธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นแบบพาโนรามาที่จะได้เห็นวิวในมุมกว้างได้เต็มอิ่ม

ภาพ : www.ikyu.com

นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมีโซนตู้คีบตุ๊กตาที่ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนคนที่อยากหาหนังสืออ่านเล่นชิลล์ๆ ในห้องพัก ก็มีจุดให้ยืมหนังสืออีกด้วย

Miharashi Park Grilling Area

ถึงคิวของสวนสไตล์ญี่ปุ่นในเมืองฮาโกดาตะ (Hakodate) สวนมิฮาราชิ (Miharashi Park) เป็นสวนแห่งเดียวในฮอกไกโดที่ได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภายในประดับประดาด้วยต้นไม้กว่า 150 ชนิด พอถึงฤดูใบไม้ร่วงราวกลางหรือปลายเดือนตุลาคม ผู้คนมากมายก็ต่างพากันเดินทางมาชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนแห่งนี้ นอกจากนี้ยังจัดเทศกาล Hakodate MOMI G Festa ที่ประดับไฟตามต้นเมเปิ้ลในระยะทางกว่า 100 เมตร เกิดเป็นเส้นทางที่สว่างไสวสวยงามดั่งหลุดมาจากโลกแห่งความฝัน

05 Kappo Ryokan Wakamatsu

ภาพ : www.ikyu.com

เรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นอายุเกือบ 100 ปีที่อยู่ไม่ห่างไกลจากสวนสาธารณะมิฮาราชิมากนักกับ Wakamatsu Ryokan เป็นเรียวกังเก่าแก่ที่ปรับตัวตามยุคสมัยเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังคงความดั้งเดิมของเรียวกังญี่ปุ่นเอาไว้ ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนที่เข้าพักได้สัมผัสกับบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นขนานแท้ที่หาได้ยากในปัจจุบัน

ภาพ : www.ikyu.com

ห้องพักของที่นี่เองก็ตกแต่งด้วยสไตล์ญี่ปุ่น ทั้งวัสดุที่ใช้และมีการปูพื้นด้วยเสื่อทาทามิออกมาเป็นห้องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พื้นที่ใช้สอยภายในห้องพักนั้นกว้างขวาง เน้นความสะดวกสบาย ซึ่งในห้องนอนก็มาพร้อมที่นั่งพิเศษสำหรับกินลมชมวิวจากท้องทะเลได้

ภาพ : www.ikyu.com

และอีกหนึ่งความดีงามของเรียวกังแห่งนี้คือมีออนเซ็นแยกชายหญิงที่มองออกไปเห็นทะเลสีครามที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา นอกจากจะสบายกายแล้วยังสบายใจไปกับวิวทะเลสงบๆ อีกด้วย

06 Yunokawa Prince Hotel Nagisatei

ภาพ : www.ikyu.com

ถัดมาเป็นโรงแรมหรูบรรยากาศติดริมทะเลเช่นกันกับ Nagisatei ตั้งอยู่บนชายฝั่งริมทะเลที่สามารถชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามรอบๆ ที่พักได้ โดยไฮไลท์ของที่นี่คือการรอชมพระอาทิตย์ยามเย็นที่ค่อยๆ ลับหายไปในทะเล และยังมีออนเซ็นที่มีประวัติยาวนานกว่า 350 ปีอีกด้วย

ภาพ : www.ikyu.com

ห้องพักของที่นี่นั้นมีให้เลือกมากถึง 14 แบบด้วยกัน มีทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและสไตล์ยุโรป ซึ่งแยกเป็นฝั่งติดทะเลกับฝั่งติดภูเขา สำหรับห้องพักที่แนะนำคือ Deluxe Twin เป็นห้องพักเรียบหรูฝั่งทะเลที่มอบความสุขในการเพลิดเพลินวิวและเสียงของคลื่นทะเลในยามค่ำคืน และยังมีบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่มีประวัติเก่าแก่ที่สุดในฮอกไกโด

ภาพ : www.ikyu.com

นอกจากนี้อีกหนึ่งความพิเศษของโรงแรมแห่งนี้ก็คือ ผู้เข้าพักสามารถเลือกชุดยูกาตะที่ใช่ และหมอนได้ตามใจชอบ

Jozankei

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมที่หากไม่พูดถึงก็คงเหมือนไม่ได้มาฮอกไกโดกับ Jozankei จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น อยู่ไม่ไกลจากเมืองซัปโปโรมากนัก โดยในโจซังเคนั้นมีจุดไฮไลท์หลักๆ ด้วยกันก็คือ สะพานแขวนฟุตามิ (Futami Suspension Bridge) จุดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมาถ่ายรูปสะพานแขวนสีแดงที่ถูกรายล้อมด้วยใบไม้สีเหลืองแดงและแม่น้ำโทโยฮิระ (Toyohira River) และอีกที่ก็คือ เขื่อนโฮเฮเคียว (Hoheikyo Dam) เขื่อนขนาดใหญ่ที่ระหว่างทางขึ้นเขื่อนเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลมากมาย โดยสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้สวยที่สุดประมาณกลางหรือปลายเดือนตุลาคม

07 Oku Jozankei Onsen Kasho Gyoen

ภาพ : www.ikyu.com

หากพูดถึงโรงแรมที่ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นก็คงพลาดไม่ได้กับ Kasho Gyoen ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิคตสึโทยะ (Shikotsu-Toya National Park) ที่อยู่ใกล้กับ Jozankei มากๆ ทั่วทั้งโรงแรมนั้นถูกปกคลุมไปด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ และมีสวนสวยที่มาพร้อมกับสระน้ำธรรมชาติ

ภาพ : www.ikyu.com

ในส่วนของห้องพักแนะนำเป็นห้องพักสไตล์โมเดิร์นที่เน้นวิวธรรมชาตินอกหน้าต่าง ตัวห้องทำจากไม้โอ๊คลายสวยงาม ให้กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นด้วยเสื่อทาทามิ นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นส่วนตัวอุดมไปด้วยไฮโดรเจนคาร์บอเนตที่นอกจากจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังคลีนซิ่งร่างกายให้สะอาด ผิวเนียนชุ่มชื้นยิ่งขึ้น

ภาพ : www.ikyu.comภาพ : kashogyoen

ส่วนห้องอาหารภายในโรงแรมมีที่นั่งหลากหลายแบบทั้งแบบเคาน์เตอร์ติดครัว หรือโต๊ะสำหรับครอบครัวริมหน้าต่างที่ชื่มชมวิวของหุบเขาได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ด้านนอกที่พักก็ยังมีระเบียงกลางสระน้ำสำหรับนั่งรับลม เป็นจุดที่สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม

08 Nukumori no Yado Furukawa

ภาพ : ameblo.jp

มาต่อกันที่เรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตกกับ Furukawa อีกหนึ่งเรียวกังเก่าแก่ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน ผู้เข้าพักจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ผสมความเป็นตะวันตกร่วมสมัยเข้าไปด้วย

ภาพ : www.yado-furu.com

ห้องพักของเรียวกังนั้นเป็นแบบญี่ปุ่นสมัยใหม่ ให้บรรยากาศเรียบหรูแต่ก็ยังแอบแฝงความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้อย่างกลมกลืน เตียงนอน เก้าอี้ และโซฟาภายในห้องพักล้วนหันไปทางหน้าต่าง เพื่อให้ผู้พักได้ชื่นชมกับบรรยากาศนอกหน้าต่างที่สวยงามไปตามแต่ละฤดูกาล

ภาพ : www.ikyu.com

นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นกลางแจ้งที่สามารถชื่นชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้ขณะแช่ในช่วงกลางวัน และบ่อแช่เท้ายามค่ำคืนที่จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายในขณะที่แหงนมองหมู่ดาวที่ส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้า

Daisetsuzan National Park

มาถึงจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีจุดสุดท้ายกันแล้วกับ อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง (Daisetsuzan National Park) ตั้งอยู่ใจกลางเกาะฮอกไกโด นับเป็นจุดชมใบไม้ที่เปลี่ยนสีเร็วที่สุดในญี่ปุ่นจุดหนึ่ง โดยจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน ในอุทยานมีจุดขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเพื่อรับชมวิวอันสวยงามของหุบเขาโซอุนเคียว (Sounkyo Gorge) ที่เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงภูเขาทั้งลูกก็จะถูกย้อมด้วยสีเหลืองแดงสดงดงาม

09 Hotel La Vista Daisetsuzan

ภาพ : www.hotespa.net

โรงแรมสไตล์ยุโรปท่ามกลางหุบเขาใกล้อุทยานไดเซ็ตสึซังกับ La Vista อยู่ใกล้กับจุดขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสำหรับขึ้นไปยังอุทยานเพียงเดินแค่ราว 7 นาทีเท่านั้น เหมาะกับคนที่ต้องการหาที่พักสำหรับการเดินทางมาเที่ยวชมอุทยานมากที่สุด

ภาพ : www.hotespa.net

ความน่าสนใจก็คือห้องพักนั้นจะต่างไปจากด้านนอกสักหน่อย เพราะเป็นห้องพักที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นกับตะวันตกเข้าด้วยกัน ปูพื้นห้องด้วยเสื่อทาทามิ พร้อมหน้าต่างที่มองเห็นวิวของอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซังได้อย่างชัดเจน และทีเด็ดของทางโรงแรมคือออนเซ็นกลางแจ้งที่สามารถนอนแช่ได้คนเดียวในบ่อ พร้อมกับชื่นชมทิวทัศน์และสัมผัสสายลมจากธรรมชาติอย่างผ่อนคลาย

10 Hotel Deervalley / Asahidake Onsen Hotel Bearmonte

ภาพ : www.ikyu.com

ที่พักฮอกไกโด แห่งสุดท้ายขอแนะนำโรงแรม Deervalley หรืออีกชื่อคือ Bearmonte เป็นโรงแรมที่ถูกโอบกอดจากภูเขาอาซาฮิดาเคะ (Asahidake) มาพร้อมความสะดวกสบายที่จะคอยต้อนรับ และสร้างช่วงเวลาที่ดีให้แก่ผู้คนที่เดินทางมาพัก

ภาพ : www.ikyu.com

ในส่วนของห้องพักนี้ขอแนะนำเป็นห้องเตียงแฝดสไตล์โมเดิร์นที่มาพร้อมชั้นลอย โดยห้องด้านล่างจะเป็นห้องสำหรับนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ส่วนห้องนอนนั้นจะอยู่ที่ชั้นลอยด้านบน มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ เหมาะมากสำหรับคนที่อยากมาเที่ยวกับคนรู้ใจหรือครอบครัว

ภาพ : www.ikyu.comภาพ : www.booking.com

จุดเด่นของโรงแรมคือออนเซ็นที่ใช้น้ำพุร้อนธรรมชาติ 100% ที่มีทั้งแบบกลางแจ้งและในร่มให้แขกที่เข้าพักได้เลือกแช่กันตามชอบ ว่ากันว่าน้ำพุร้อนที่นี่มีสรรพคุณช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น เหมาะแก่การฮีลลิ่งร่างกายและจิตใจเป็นที่สุด