Teppanyaki in Tokyo : 7 ร้านเทปปันยากิโตเกียว พิกัดในโรงแรมหรู อาหารอร่อย บรรยากาศชวนฟีลกู๊ด
สารบัญ
7 ร้านเทปปันยากิโตเกียว บรรยากาศดีน่าไปนั่งชิลล์ 🥩
“เทปปันยากิ” (Teppanyaki : 鉄板焼) เป็นอาหารรูปแบบหนึ่งที่ลูกค้าสามารถเห็นถึงขั้นตอนวิธีการทำ เรียกได้ว่าแล้วถือเป็นเสน่ห์อีกแบบหนึ่งที่นอกจากลูกค้าจะได้รับประทานอาหารมื้อพิเศษแล้ว ยังได้ชมการโชว์ฝีไม้ลายมือการทำอาหารของเชฟ ที่สำคัญคือการเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะลูกค้าจะได้เห็นตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบต่างๆ ดังนั้นนอกจากรสชาติที่ดีแล้ว ยังมั่นใจได้ถึงคุณภาพของอาหารแต่ละจานด้วย
ภาพ: www.hankyu-hotel.com
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ร้านเทปปันยากิได้รับความนิยมคือ บรรยากาศในแต่ละร้าน ก็เป็นตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มอรรถรสระหว่างรับประทาน เราจึงได้รวบรวม 7 ร้านเทปปันยากิโตเกียว ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมดัง ซึ่งการันตีบรรยากาศที่ทั้งหรูหราและเป็นเอกลักษณ์ มาให้นักชิมนักแชร์ทั้งหลายได้ปักหมุดไปเช็คอินกันได้เลย
01 Keyakizaka
ภาพ: www.tokyo.grand.hyatt.co.jp
เริ่มกันที่ร้าน Keyakizaka ซึ่งอยู่ในโรงแรมหรูชื่อดังอย่าง Grand Hyatt Tokyo ย่านรปปงงิ (Roppongi) ซึ่งถือเป็นย่านที่เนืองแน่นไปด้วยหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ตั้งของโรงแรมก็อยู่ไม่ไกลจากสถานีรปปงงิ (Roppongi Station)
ภาพ: www.tokyo.grand.hyatt.co.jp
ความโดดเด่นนอกจากรสชาติของเทปปันยากิแล้ว ก็คือการจัดโซนที่นั่งของแขก ที่ไม่ได้แค่เพลิดเพลินไปกับอาหารและฝีมือการทำอาหารของเชฟ แต่ยังสามารถเห็นวัตถุดิบต่างๆ หรือตู้เครื่องดื่มจัดวางเรียงรายให้เห็นอย่างสวยงาม เรียกได้ว่าเหมือนนั่งอยู่ในซูเปอร์มาเก็ตสุดหรูขนาดย่อมเลยก็ว่าได้ และที่พิเศษสุดๆ คือเราสามารถรีเควสต์วัตถุดิบบางอย่าง เช่นผักผลไม้จากชั้นเองได้ด้วยนะ
ภาพ: www.tokyo.grand.hyatt.co.jp
สำหรับคอร์สอาหารกลางวันของทางร้าน ราคาเริ่มต้นที่ 6,380 เยน กับเซ็ต A ที่ประกอบไปด้วย เมนูเรียกน้ำย่อยอย่างสลัดจากผักตามฤดูกาล หอยเชลล์ย่างราดซอสเลม่อนบัตเตอร์ และจานหลักกับสเต็กววากิว F1 สันนอก 80 กรัมฉ่ำๆ และหากใครกลัวไม่อิ่มก็ยังมีข้าว และซุปมิโซะร้อนๆ เสิร์ฟคู่มาด้วย ตบท้ายด้วยของหวานแสนอร่อยอย่างไอศกรีมวานิลลาหรือเยลลี่
ที่มาภาพ: www.tokyo.grand.hyatt.co.jp
และคอร์สอาหารเย็นสุดพิเศษที่เริ่มต้นเพียง 16,830 เยน เซ็ต A เช่นเดียวกัน เริ่มด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง สลัดมะเขือเทศแพนเชตต้า และปลากระพงอบเห็ดทรัฟเฟิล ตามด้วยจานหลักอย่างเนื้อสุดพิเศษของ Keyakizaka อย่างเนื้อสันนอกและสันในจากฟาร์มอาคิกาวะ หนัก 50 กรัม เสิรฟ์คู่กับผัก ข้าว และซุปมิโซะ จบด้วยของหวานสุดพิเศษ โอกินาวะ แมงโก้เฟรเบ้ หรือมะม่วงเผาที่มีรสชาติอันหอมหวานเป็นเอกลักษณ์
ภาพ: www.tokyo.grand.hyatt.co.jp
นอกจากคอร์สที่เรานำมาเสนอแล้ว ทางร้านยังมีคอร์สอื่นๆ ที่อร่อยและพิเศษไม่แพ้กัน โดยบางคอร์สจะมีอาหารทะเลรวมอยู่ด้วยเช่น เมนูหอยเป๋าฮื้อ กุ้งมังกร ซึ่งราคาเองก็จะสูงขึ้นตามลำดับ
Keyakizaka
Location: ชั้น 4 โรงแรม Grand Hyatt Tokyo เขตมินาโตะ (Minato) กรุงโตเกียว
Hours: รอบกลางวัน จ.-ศ. 11:30-14:30 น., ส.-อา. วันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:30-15:00 น. / รอบเย็น 18:00-21:30 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีรปปงงิ (Roppongi Station)
Access: จากสถานีรปปงงิ เดินประมาณ 4 นาที
Website: www.tokyo.grand.hyatt.co.jp/restaurants/keyakizaka-restaurant/
02 Teppanyaki Ebisu
ภาพ: www.yebisutokyo.com
สำหรับใครที่ชอบบรรยากาศรับประทานอาหารอร่อยๆ พร้อมชมวิวสวยๆ พลาดไม่ได้กับร้าน Ebisu จากโรงแรม The Westin Tokyo โรงแรม 5 ดาวซึ่งตั้งอยู่ในย่านเอบิสึ (Ebisu) ร้านอาหารอยู่บนชั้น 22 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงแรมทำให้มองเห็นวิวอันแสนมีชีวิตชีวาของย่านเอบิสึได้สวยงามมาก
ภาพ: www.yebisutokyo.com
โต๊ะทุกโต๊ะถูกจัดให้หันหน้าออกทางหน้าต่างให้มองเห็นวิวได้แบบชัดๆ ไม่ว่ายกกล้องมาถ่ายมุมไหนก็ได้รูปปังๆทุกมุม จะเป็นตอนกลางวันหรือตอนกลางคืนก็งดงามสะกดใจ นอกจากนี้ยังมีมุมที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) อีกด้วย หรือถ้าชอบความเป็นส่วนตัว ที่นี่ก็มีมากถึง 3 ห้องด้วยกัน
ภาพ: www.yebisutokyo.com
สำหรับจุดเด่นของวัตถุดิบที่ทางร้านภาคภูมิใจคือ วากิวพันธุ์ขนดำสุดพรีเมียมแบบที่หากินได้เฉพาะที่ร้านเอบิสึเท่านั้น มีให้เลือกทั้งแบบเนื้อลายหินอ่อนแทรกด้วยไขมันซึ่งให้รสสัมผัสที่โดดเด่น หรือแบบเนื้อไม่ติดมันเหมาะกับสายสุขภาพ แต่บอกได้เลยว่าไม่ว่าเนื้อแบบไหนก็การันตีความอร่อยฟินได้ใจสุดๆ
ภาพ: www.yebisutokyo.com
คอร์สอาหารกลางวันเริ่มต้นที่คอร์ส Soyokaze ราคา 5,300 จานแรกเสิร์ฟเป็นเมล่อนสลัดคู่กับ เส้นโซเมนเย็นๆ เพิ่มความสดชื่น และตามด้วยจานหลักที่มีให้เลือกกว่า 3 เมนูด้วยกัน อย่าง ปลาดาบย่างราดจินเจอร์ซอสคู่กับฟองเต้าหู้ย่างหอมๆ หรือเมนูสเต็กเนื้อสันนอกออสเตรเลียแท้ๆ 120 กรัม สเต็กเนื้อสันใน 100 กรัม มาพร้อมกับผักย่าง ข้าว และซุปมิโซะ และจบด้วยของหวานอย่างผลไม้ตามฤดูกาลกับไอศกรีม
ภาพ: www.yebisutokyo.com
และคอร์สอาหารเย็นสุดหรู เริ่มต้นที่ราคา 19,900 เยน กับคอร์ส Nagomi เริ่มด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยถึง 2 เมนูกับ สลัดผัก และอุมิโซเมนซุปเนื้อใสสไตล์ญี่ปุ่นและเมนูซีฟู้ดอย่างหอยเชลล์ย่างเสิร์ฟคู่กับฟองเต้าหู้ ตามด้วยจานหลักด้วยเอบิสึสเต็กวากิวสูตรเฉพาะ 120 กรัม คู่กับผักย่าง และเมนูข้าวให้เลือก เช่นข้าวผัดกระเทียม ให้รับประทานได้แบบจุกๆ และสุดท้ายเสิร์ฟด้วยผลไม้สดๆ ตามฤดูกาล
Teppanyaki Ebisu
Location: ชั้น 22 โรงแรม The Westin Tokyo เขตเมกุโระ (Meguro) กรุงโตเกียว
Hours: รอบกลางวัน 11:30-15:00 น., รอบเย็น 17:30-21:30 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีเอบิสึ (Ebisu Station)
Access: จากสถานีเอบิสึ เดินประมาณ 10 นาที
Website: www.yebisutokyo.com/jp/home
03 Teppanyaki Go
ภาพ: restaurant.ikyu.com
ต่อกันที่ร้านอาหารจากโรงแรมชื่อดัง Palace Hotel Tokyo เราขอแนะนำร้าน Go ซึ่งน่าจะถูกใจคนที่ชอบบรรยากาศแบบเป็นส่วนตัว ด้วยพื้นที่ที่จัดไว้เหมือนห้องอย่างเป็นสัดส่วน เปิดรับตั้งแต่ 6-8 ที่นั่งต่อรอบเท่านั้น
ภาพ: restaurant.ikyu.com
ภายในห้องอาหารตกแต่งแบบสไตล์ญี่ปุ่น และจุดเด่นคือโต๊ะลายไม้จากต้นโอ๊คโชว์ความเป็นธรรมชาติตกแต่งด้วยการจัดดอกไม้แบบอิเคะบานะยิ่งเพิ่มบรรยากาศแบบญี่ปุ่นเข้าไปอีก ช่วยให้คุณดื่มด่ำไปกับอาหารได้แบบไม่มีอะไรมารบกวนและสามารถใช้เวลาสุดพิเศษได้อย่างเข้าถึงรสชาติของเทปปันยากิแบบแท้ๆ
ความพิเศษของทางร้าน Go คือบรรยากาศที่ชวนให้คุณนึกถึงรสชาติแบบดั้งเดิมสไตล์ชนบท ด้วยวัตถุดิบสดใหม่ที่นำเข้ามาจากท้องถิ่นที่หลากหลาย และการปรุงรสด้วยการใช้เกลือแบบดั้ง จากเชฟผู้มากประสบการณ์ในการทำเทปปันยากิมากกว่า 10 ปี
คอร์สอาหารหลักๆของทางร้านมีชื่อว่า Matsusaka Beef Course ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามคุณภาพขนาดของเนื้อในจานหลัก โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 29,040 เยน กับเนื้อมัตสึซากะสันนอก ขนาด 150 กรัม แต่ที่อยากจะแนะนำเป็นพิเศษเนื้อมัตสึซากะฟิเลมิยองหรือส่วนของเนื้อสันใน ซึ่งมีรสสัมผัสที่เรียกได้ว่านุ่มละมุนลิ้นสุดๆ โดยราคาเริ่มต้นที่ 30,250 เยน
ภาพ: restaurant.ikyu.com
สำหรับเมนูเรียกน้ำย่อย และของหวานนั้นทางร้านจะเลือกวัตถุดิบตามฤดูกาลมาปรุงเป็นเมนูสุดพิเศษเพื่อเสิร์ฟให้กับลูกค้าซึ่งจะแตกต่างกันไป หรือแม้แต่คอร์สอาหารตามฤดูกาลซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กัน สำหรับใครที่สนใจสามารถเช็คจากเว็บไซต์ของร้านอาหารได้เลย
Teppanyaki Go
Location: ชั้น 6 โรงแรม Palace Hotel Tokyo เขตจิโยดะ (Chiyoda) กรุงโตเกียว
Hours: รอบกลางวัน 11:30-14:30 น., รอบเย็น 17:00-20:00 น. (Last Order 19:00 น.)
Holiday: –
Nearest Station: สถานีโอเทมาจิ (Otemachi Station)
Access: จากสถานีโอเทมาจิ เดินประมาณ 4 นาที
Website: www.palacehoteltokyo.com/restaurant/go/
04 Teppanyaki Kamon
ถึงคิวของร้านที่มีสไตล์การตกแต่งเป็นเอกลักษณ์อย่างร้าน Kamon จากโรงแรม Imperial Hotel Tokyo หนึ่งในโรงแรมที่มีชื่อเสียงในโตเกียว การเดินทางสะดวกมาก สามารถเดินจากสถานีฮิบิยะ (Hibiya Station) เพียง 2 นาทีเท่านั้น
ภายในร้านออกแบบให้ออกเป็นทรงเหลี่ยมดูหรูหราสไตล์ Luxury โดดเด่นด้วยการใช้โทนสีน้ำตาลและทองเสริมภาพลักษณ์ซึ่งเข้ากันได้ดีกับความพิเศษของเมนูอาหารแบบฟิวชั่นระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตกที่ทางร้านภาคภูมิใจ
ภาพ: restaurant.ikyu.com
เริ่มกันที่คอร์สอาหารกลางวัน The Kikyomon ที่เป็นความภาคภูมิใจของทางร้าน เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างจิตวิญญานแห่งอาหารญี่ปุ่นและอาหารตะวันตก ซึ่งประกอบไปด้วยเมนูอาหารทะเลตามฤดูกาล เช่นหอยเป๋าฮื้อ ปลากะพงย่างเสิร์ฟคู่กับผักย่าง และจานหลักอย่างสเต็กเนื้อสันใน 80 กรัม พร้อมข้าว ซุปมิโซะ และเครื่องเคียงต่างๆ ปิดท้ายด้วยของหวานแสนอร่อย ทั้งหมดราคาเพียง 12,000 เยน
และคอร์สอาหารเย็นสุดพิเศษที่ถือเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของทางร้าน ก็คือ The Cube (Kamon) มีที่มาจากบล๊อกไม้ที่มีชื่อวัตถุดิบต่างๆ เขียนเอาไว้ ซึ่งลูกค้าจะสามารถเลือกวัตถุดิบได้ถึง 4 อย่างและเชฟจะนำไปประกอบอาหารซึ่งเป็นเมนูแบบเฉพาะ ซึ่งวัตถุดิบแต่ละอย่างบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา เช่น คาเวียร์ ฟัวกราส์ ลอบส์เตอร์ หอยเป๋าฮื้อ และวากิวสุดพิเศษ อีกทั้งยังมีวัตถุดิบตามฤดูกาลอื่นๆ อีกด้วย โดยคอร์สนี้ราคาอยู่ที่ 36,000 เยน
Teppanyaki Kamon
Location: ชั้น 17 โรงแรม Imperial Hotel Tokyo เขตจิโยดะ (Chiyoda) กรุงโตเกียว
Hours: รอบกลางวัน พ.-จ. 11:30-14:30 น. (Last Order 13:30 น.) / รอบเย็น พ.-จ. 17:00-19:00 น.
Holiday: วันอังคาร
Nearest Station: สถานีฮิบิยะ (Hibiya Station)
Access: จากสถานีฮิบิยะ เดินประมาณ 2 นาที
Website: www.imperialhotel.co.jp/j/tokyo/restaurant/kamon/menu.html
05 Teppanyaki Tennoz
ภาพ: www.hankyu-hotel.com
สำหรับคนที่หลงใหลแสงสีและวิวทะเลสวยๆ เราขอแนะนำร้าน Tennoz ซึ่งบอกได้เลยว่าบรรยากาศดีแบบสุดๆ ด้วยที่ตั้งของโรงแรม Daichi-Hotel Tokyo Seafort ที่ติดกับอ่าวโตเกียว
ภาพ: www.hankyu-hotel.com
ที่นั่งซึ่งจัดให้ริมหน้าต่างทำให้เห็นวิวทะเลสวยๆ ยิ่งในช่วงกลางคืนที่มีการเปิดไฟสว่างไสวยิ่งเพิ่มความโรแมนติกโดยเฉพาะวิวของ Rainbow Bridge ที่ผลัดเปลี่ยนแสงส่องสว่างเป็นหลากสีสัน บอกเลยว่าถ้าได้พาคนพิเศษไปจะต้องได้เก็บภาพความทรงจำดีๆ แบบไม่รู้ลืมจริงๆ
ภาพ: www.hankyu-hotel.com
คอร์สของทางร้านอาหารนั้นมีให้เลือกได้อย่างหลาย หลักๆ ลูกค้าจะสามารถเลือกระหว่างสเต็กเนื้อ และอาหารทะเล หรือทั้งคู่เลยก็ได้ โดยคอร์สอาหารกลางวันที่เราอยากแนะนำคือคอร์ส Misaki ราคาเริ่มต้น 5,000 เยน ซึ่งมีทั้งเมนูสเต็กและอาหารทะเล ประกอบไปด้วยเมนูปลาและกุ้งย่าง สลัด สเต็กเนื้อ 120 กรัม ข้าว ซุปมิโซะ และเครื่องเคียงต่างๆ
ภาพ: www.hankyu-hotel.com
และคอร์สอาหารเย็นสุดพิเศษอย่างคอร์ส Gekkou ราคาเริ่มต้น 12,000 เยน เริ่มเสิร์ฟอาหารเรียกน้ำย่อย ด้วยเมนูปลาตามฤดูกาล และหอยเชลล์ย่าง ตามด้วยสลัด และจานหลักอย่างเนื้อคุโระเกะสันนอก 120 กรัม คู่กับการ์ลิกชิป ข้าว ซุปมิโซะ และเครื่องเคียงต่างๆ ปิดท้ายด้วยของหวานแสนอร่อยอย่างไอศกรีมเชอร์เบทสูตรเฉพาะ
ภาพ: www.hankyu-hotel.com
นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูสุดพิเศษรายวันอื่นๆ อีก เช่นซูชิวากิว ข้าวดงบุริ อาหารทะเล และของหวานอย่างเค้กชนิดต่างๆ ซึ่งสามารถเช็คได้ในเว็บไซต์ร้านอาหาร จะได้ไม่พลาดเมนูเด็ดๆที่ทางร้านแนะนำ
Teppanyaki Tennoz
Location: ชั้น 28 โรงแรม Daichi-Hotel Tokyo Seafort เขตชินากาวะ (Shinagawa) กรุงโตเกียว
Hours: รอบกลางวัน 11:30-15:00 น. (Last Order 14:30 น.) / รอบเย็น 17:00-21:00 น. (Last Order 20:00 น.)
Holiday: –
Nearest Station: สถานีเท็นโนซุไอล์ (Tennozu Isle Station)
Access: จากสถานีเท็นโนซุไอล์ เดินประมาณ 7 นาที
Website: www.hankyu-hotel.com/hotel/dh/dhtseafort/restaurants/tennoz
06 Teppanyaki Kiba
อีกหนึ่งร้านห้ามพลาดที่มาพร้อมกับวิวเมืองสวยๆ จากร้าน Kiba บนชั้น 21 ของโรงแรม Hotel East 21 Tokyo ให้คุณได้นั่งมองวิวเมืองมหานครโตเกียวอันแสนคึกคักกันแบบเพลินๆ
ด้วยโลเคชั่นชั้นบนสุดของโรงแรม ทำให้มองเห็นวิวแบบพาโนราม่า อีกทั้งสามารถมองเห็นโตเกียวสกายทรีได้อีกด้วย บอกได้เลยว่านั่งรับประทานอาหารไปพลางมองโตเกียวสกายทรีเปลี่ยนสีสลับกันไปพลาง ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจไปตามๆ กันเลียที่เดียว
สำหรับเมนูอาหารกลางวันนั้นเริ่มต้นเพียง 5,450 เยนเท่านั้น คุณจะได้พบกับเซ็ตสเต็กวากิวพันธุ์ขนดำสุดพิเศษ 150 กรัม เสิร์ฟพร้อมสลัด ข้าว และผักย่างต่างๆ
ภาพ: restaurant.ikyu.com
และเมนูอาหารเย็นแสนอร่อยกับคอร์ส Seto ที่มีทั้งเนื้อพรีเมียมและเมนูอาหารทะเลควบคู่มาด้วย ไม่ว่าจะเป็นวากิว A5 สันนอก 150 กรัม พร้อมกับอาหารทะเลตามฤดูกาล เช่น กุ้ง หรือหอยเป๋าฮื้อย่าง อีกทั้งยังมีสลัดผัก ผักย่าง และเมนูข้าวให้เลือกได้อย่าง ข้าวผัดกระเทียม หรือข้าวผัดฟุคางาวะ
เนื่องจากทางร้านมีเมนูและคอร์สต่างๆ ให้เลือกมากกว่า 10 รายการ ทั้งเมนูประจำร้านและเมนูตามฤดูกาล ดังนั้นเพื่อไม่ให้พลาดเมนูพิเศษอื่นๆ สามารถเช็คได้จากเว็บไซต์ของทางร้านอาหารที่อัพเดทอาหารจานเด็ดได้ในทุกๆ ซีซั่นเลย
Teppanyaki Kiba
Location: ชั้น 21 โรงแรม Hotel East 21 Tokyo เขตโคโต (Koto) กรุงโตเกียว
Hours: รอบกลางวัน จ.-ศ. 11:30-15:00 น., ส.-อา. วันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:30-14:00 น. / รอบเย็น 17:00-20:00 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีโทโยโจ (Toyocho Station)
Access: จากสถานีโทโยโจ เดินประมาณ 8 นาที
Website: https://www.hotel-east21.co.jp/restaurant/kiba/
07 Steak & Shabu Shabu Fujita
ภาพ: restaurant.ikyu.com
ปิดท้ายด้วยร้านที่จะทำให้คุณได้ผ่อนคลายไปกับการรับประทานอาหาร พร้อมนั่งชมสวนด้านนอก กับร้าน Fujita ร้านสเต็กและชาบูจากโรงแรม Shinjuku Washington Hotel ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟชินจูกุ นอกจากเมนูแสนอร่อยสเต็กและชาบูตามชื่อร้านแล้ว คอร์สเทปปันยากิของที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กันเลย แต่ทางร้านเปิดบริการเฉพาะช่วงเย็นเท่านั้น ดังนั้นใครมองหาที่ดินเนอร์ชิลล์ๆ พร้อมบรรยากาศชวนผ่อนคลาย ที่นี่ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
ร้านเทปปันยากิโตเกียว กับวิวต้นไม้สบายตา ภาพ: restaurant.ikyu.com
ด้วยบรรยากาศของธรรมชาติด้วยสวนสีเขียวขจีที่เป็นเหมือนฉากตกแต่งอยู่ด้านหลังของเชฟ ให้คุณนั่งชมได้เพลินๆ อีกทั้งยังได้ผ่อนคลายจากสีเขียวๆ จากต้นไม้ในสวน เป็นภาพที่เข้ากันกับอาหารแสนอร่อยพร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ฟินไปตามๆ กัน
ภาพ: www.shinjyuku-wh.com
เริ่มกันด้วยคอร์สแรก Kaede ที่มาพร้อมกับอาหารที่จัดวางมาแบบสวยงาม ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็เก๋ ราคาเพียง 9,075 เยน ซึ่งประกอบไปด้วยของทานเล่นนานาชนิด สลัดผัก และผักย่างถึง 3 ชนิด และจานหลักให้เลือกได้อย่างวากิวพันธุ์ขนดำ 120 กรัม หรือเนื้อสันนอก 150 กรัม เสิร์ฟพร้อมข้าว ซุปและเครื่องเคียงต่างๆ และปิดท้ายด้วยของหวานประจำวัน ซึ่งแต่ละเมนูนั้นไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
ภาพ: www.shinjyuku-wh.com
และอีกหนึ่งคอร์สที่ทางร้านแนะนำคือ Azusa ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 17,545 เยน ซึ่งถือเป็นคอร์สที่คุ้มค่ามากๆ ด้วยวัตถุดิบสุดพรีเมียมให้รับประทานแบบจุใจ เริ่มด้วยของกินเล่นที่หลากหลาย และอาหารเรียกน้ำย่อยสุดหรู ทั้งฟัวกราส์ หอยเป๋าฮื้อย่าง และเทปปันยากิลอบส์เตอร์ พร้อมกับสลัด และผักย่าง และอาหารจานหลักเองก็ไม่น้อยหน้าด้วยวากิวคุโระเกะ 80 กรัม หรือเนื้อสันนอก 100 กรัม พร้อมข้าว ซุป เครื่องเคียง และปิดท้ายด้วยของหวานแสนอร่อยเช่นเดียวกัน
Steak & Shabu Shabu Fujita
Location: ชั้น 1 โรงแรม Shinjuku Washington Hotel เขตชินจูกุ (Shinjuku) กรุงโตเกียว
Hours: อ.-จ. 17:00-20:00 น. (L.O. 18:00 น.)
Holiday: วันพุธ
Nearest Station: สถานีชินจูกุ (Shijuku Station)
Access: จากสถานีชินจูกุ เดินประมาณ 6 นาที
Website: www.shinjyuku-wh.com/restaurant/restaurant_fujita.html
7 ร้านที่เราคัดมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ ร้านเทปปันยากิโตเกียว ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสเราจะพาไปเช็คอินร้านเทปปันยากิที่จังหวัดอื่นๆ อีก ถ้าชอบบทความนี้ฝากแชร์ต่อด้วยนะ แล้วเจอกันใหม่!
หมายเหตุ: ราคาที่แสดงทั้งหมดรวมค่าบริการและภาษีแล้ว