นักท่องเที่ยวหลายคนรู้กันดีว่า ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น 7-11, Lawson หรือ FamilyMart นอกจากจะมีสินค้าจิปาถะให้เลือกซื้อ ก็ยังมีบริการเสริมอื่นๆ คอยตอบโจทย์ลูกค้า อย่างห้องน้ำ ที่ไม่จำเป็นต้องซื้อของในร้านก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้ แล้วก็ยังมีบริการอื่นๆ อีกที่หลายคนอาจเซอร์ไพรส์ว่า แบบนี้ก็มีด้วยหรือ? แบบนี้ก็ทำได้ด้วยหรือ? วันนี้ลองไปชม 7 บริการ ร้านสะดวกซื้อ ใน ญี่ปุ่น ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนกัน

ภาพ: www.bit.ly

 

01 เมนูอาหารท้องถิ่น

เครื่องดื่มและของกินบางประเภทที่ไม่ได้มีขายทั่วไป โดยส่วนใหญ่มักจะขายตามเทศกาล เฉพาะแต่ละภูมิภาค หรือเมืองนั้นๆ เหมือนกับ “ฮิยาจิรุ” (นำข้าวเย็นๆ และผักต่างๆ ผสมลงซุปมิโซะ) ที่เป็นอาหารพื้นเมืองของจังหวัดมิยาซากิ (Miyazaki) ที่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อในจังหวัดนี้

นอกจากนี้ยังมีขายตามร้านอย่าง Natural Lawson (ร้านในเครือ Lawson) ที่เน้นจำหน่ายสินค้าดีต่อสุขภาพ รวมถึงส่งเสริมสินค้าที่รับมาจากต้นทาง อีกทั้งยังปฏิบัติต่อผู้ประกอบการรายย่อยอย่างเป็นธรรม (Ethically Sourced) หรือร้าน Seicomart จากฮอกไกโด ที่จะมีสินค้าจากภูมิภาคนี้ให้เลือกซื้อมากเป็นพิเศษ เช่น นมฮอกไกโดที่แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ

ซึ่งนักท่องเที่ยวมือใหม่ก็อาจจะเข้าใจผิดได้ว่าแบรนด์ที่ไปเจอในร้านสะดวกซื้อร้านหนึ่ง ก็อาจจะหาซื้อในร้านอื่นได้เหมือนกัน แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้นเพราะแต่ละร้านก็มี House Brand เป็นของตัวเอง เป็นต้นว่า Machi Café แบรนด์เครื่องดื่มของทาง Lawson ก็จะเจอเฉพาะที่ Lawson ไม่มีจำหน่ายที่ 7-Eleven นั่นเอง

อ้อ! ร้านสะดวกซื้อที่นี่เวลาเราซื้ออาหาร พนักงานจะให้ผ้าเปียกโอชิโบริมาให้ด้วยนะ 

 

02 Duty-Free

บริการใน ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น : Duty-Free

ด้วยในรอบหลายปีมานี้ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มเป็นทวีคูณ ทำให้ร้านสะดวกซื้อตามจุดท่องเที่ยวทั่วประเทศญี่ปุ่นหันมาทำ Duty-Free กันแล้ว! จึงนับว่าดีงามต่อนักช็อปอย่างชาวเรามาก โดยร้านสะดวกซื้อที่เข้าร่วมกับ Duty-Free ก็จะมีป้ายโชว์หรา หลายแห่งแยกช่องชำระเงินสำหรับ Duty-Free เฉพาะเลยก็มี เพียงแค่ยื่นพาสปอร์ตแล้วโชว์ข้อมูลวันที่มาถึงก็เป็นอันเรียบร้อย แต่มีเงื่อนไขคือต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 5,000 เยน ต่อ 1 ใบเสร็จ เราว่าเหมาะกับคนที่มาเป็นกลุ่มใหญ่เพื่อซื้อทีเดียวหรือซื้อหลายอย่างหิ้วกลับวันสุดท้าย แต่ต้องระวังด้วยว่าของพวกนี้ห้ามเปิดผนึกจนกว่าจะกลับถึงไทย ถ้าโดนสุ่มตรวจก่อนกลับอาจจะต้องเสียภาษีอยู่ดีนะ

 

03 EV Charging Station

บริการใน ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น : สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station)ภาพ: www.bit.ly

เดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวนิยมเช่ารถขับไปยังเมืองต่างๆ เป็นผลให้ธุรกิจรถเช่าเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรถยนต์ไฟฟ้า EV ทำให้ตามร้านสะดวกซื้อนอกเมืองเริ่มมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) สังเกตได้ว่าจะมีป้าย “EV Quick” กำกับ โดยส่วนมากสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะกระจุกตัวตามต่างจังหวัด สาขาทางผ่านตามถนนทางหลวง หรือตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ

 

04 ตู้ ATM กดเงิน

บริการใน ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น : ตู้ ATM กดเงิน

แม้กระแสนิยมด้านการใช้เงินกำลังเปลี่ยนแปลงไป แต่ ณ ตอนนี้ญี่ปุ่นยังคงเป็น “สังคมเงินสด” ที่แข็งแกร่ง ไปไหนมาไหนร้านค้าก็จะรับชำระเป็นเงินสดเสียส่วนใหญ่ ปัญหาหนึ่งของนักเที่ยวคือเงินสดหมด แต่ไม่ต้องห่วง หมดแล้วก็ถอนออกมาเติมได้ เนื่องจากตามร้านสะดวกซื้อสาขาในเมืองนั้นมีบริการตู้ ATM ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเครื่องก็รับบัตรหลักๆ หมด ทั้ง VISA / Mastercard / JCB / UnionPay ไม่ใช่แค่บัตรเครดิต แต่บัตรเดบิตของธนาคารไทยส่วนใหญ่ก็กดได้เช่นกัน

ขั้นตอนก็ธรรมดาไม่ต่างจากเวลาเรากดเงินที่บ้านเรา 

  • เสียบบัตร (อันเดียวกับที่ใช้ในไทยเลย) 
  • กดหน้าจอเลือกภาษาไทย 
  • เลือกถอนเงิน และทำไปทีละขั้นตอน 
  • เครื่องจะมีบอกรายละเอียดค่าธรรมเนียมด้วย เช่น 10,000-20,000 เยน ค่าธรรมเนียม 108 เยน
  • เมื่อเสร็จสรรพก็รับเงินไปเลยปกติ

ตู้แบบนี้จะเบิกได้แค่ธนบัตร 1,000 เยน และ 10,000 เยน เท่านั้นนะ

 

05 ตู้ซื้อตั๋วคอนเสิร์ต พิพิธภัณฑ์ และสถานที่เที่ยวสำคัญๆ ได้

ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น จะมีบรรดาตู้พวกนี้ที่มักตั้งอยู่กับใกล้ๆ กับตู้ ATM และส่วนใหญ่มักจะมีเมนูภาษาอังกฤษให้เลือก เราค่อยๆ กดดูไปเลยว่าซื้อตั๋วอะไรได้บ้าง ครอบคลุมทั้งคอนเสิร์ตใหญ่ๆ พิพิธภัณฑ์ดังๆ และสถานที่เที่ยวไฮไลต์ เช่น โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studio Japan) ฯลฯ จากนั้นเครื่องจะพิมพ์ตั๋วออกมา ให้เรานำไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย กรณีที่กดไม่เป็นหรือกลัวซื้อผิด ก็แค่เดินไปบอกพนักงาน เขาจะจัดสรรคนมาบริการกดให้เราถึงที่ (ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่ม)

 

06 จัดส่งของ

ภาพ: www.bit.ly

เราสามารถเดินไปร้านสะดวกซื้อ แจ้งพนักงาน กรอกแบบฟอร์ม แล้วให้เขาจัดส่งของให้เราได้เลย ไม่ต่างจากเวลาไปไปรษณีย์ (ทั่วไปจำกัดน้ำหนักไม่เกิน 25 กก.)  ในทางกลับกัน เราก็ยังสามารถไปรับของที่คนอื่นส่งมาให้เราได้ อย่างเช่น สั่งของจาก Amazon หรือ Rakuten แล้วมาส่งที่ร้านสะดวกซื้อสาขาที่อยู่ใกล้ที่พักของเราที่สุด ที่สำคัญไม่ต้องกังวลหากไม่มีเวลาไปรับในทันที เนื่องจากร้านสะดวกซื้อโดยทั่วไปจะเก็บของไว้ให้เราประมาณ 10 วัน หลังจากนั้นค่อยส่งคืนต้นทาง

 

07 เครื่องดื่มร้อน

บริการใน ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น : จำหน่ายเครื่องดื่มร้อน

เรื่องลำบากใจ (นิดหน่อย) เวลาเที่ยวฤดูหนาวในญี่ปุ่นคืออากาศเย็นเจี๊ยบจนมือชาต้องเอาซุกไว้กระเป๋าอยู่ตลอด ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่นรู้ Pain Point นี้ดี จึงได้ทำโซน “เครื่องดื่มร้อน” ไว้บริการ โดยเป็นตู้สีแดงๆ เขียนว่า HOT อุ่นร้อนตลอดเวลา เอามือไปจับนี่สะดุ้งได้เลยนะ นอกจากช่วยมือให้อุ่นขึ้นแล้ว ยังอร่อยฟิน แถมปรับร่างกายให้อบอุ่น พร้อมเที่ยวอย่างสนุกต่อยาวๆ ด้วย

 

ติดตามเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับการเที่ยวประเทศญี่ปุ่นได้ที่ www.kiji.life

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ