Kawaguchiko Day Trip : ดูภูเขาไฟฟูจิในวันอากาศดีกับลิสต์สถานที่น่าไปรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ
สารบัญ
A Day Trip to Lake Kawaguchiko
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันกับภูเขาไฟฟูจิได้พบกัน… อันที่จริงก่อนหน้านี้ฉันเคยตั้งใจเดินทางไปหาภูเขาไฟฟูจิมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ท้องฟ้าและอากาศไม่เป็นใจเราจึงคลาดกัน ความผิดหวังตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกคล้ายกับตอนที่เราอยากเจอใครมากๆ แล้วเขาดันผิดนัด โดนเทซะดื้อๆ ปีนี้มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง ในที่สุดก็ยอมออกมาเจอกันแล้วสินะคุณฟูจิซัง ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) เป็นสถานที่แรกที่เราได้พบกันจริงๆ ซะที
การเดินทางของเราเริ่มต้นขึ้นด้วยเว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบินอย่าง Traveloka ได้ใจฉันไปอย่างง่ายดาย เพราะความสะดวกในการจองที่ใช้งานแสนง่ายด้วยเว็บไซต์ภาษาไทย เลือกจุดหมายที่ต้องการแล้วเว็บก็จะเปรียบเทียบราคาตั๋วทุกสายการบินให้เสร็จสรรพในราคาสุทธิไม่มีบวกเพิ่มทีหลัง อีกทั้งมีโปรโมชั่นคุ้มๆ มากมายคอยอัพเดทให้อยากไปญี่ปุ่นอยู่เสมอ อยากให้ทุกคนได้ลองจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกับ Traveloka จริงๆ หากสนใจก็คลิกที่ลิงค์นี้ได้เลย www.traveloka.com/th-th/flight-to-japan
ฉันเลือกบินไปลงที่สนามบินนาริตะ ด้วยเพราะทะเลสาบคาวากุจิโกะอยู่ในพื้นที่ของเขตจังหวัดยามานาชิ ภูมิภาคคันโตเช่นเดียวกับสนามบินนาริตะ ได้ยินมาว่าที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ ถ้าใครมาครั้งแรกแล้วชอบก็จะชอบเลย แต่ถ้ามาแล้วไม่ชอบก็จะไม่อยากกลับมาอีกเลย สำหรับฉันถ้าจะให้พูดตรงๆ คือคนเยอะมาก ทำให้เรื่องของการเดินทางจึงไม่ค่อยสะดวกมากนัก อาจจะต้องรอคิวขึ้นรถบัสหรือต้องเบียดคนบนรถอยู่ตลอด แต่ในแง่ของสถานที่ท่องเที่ยวและความงามของภูเขาไฟฟูจิฉันพอใจ ฉันมีความสุข ฉันรักภูเขาไฟฟูจิ บอกได้แค่นี้เลย
ไปทำไม เป็นคำถามที่ฉันพยายามจะหาคำตอบให้ดูดีมีอะไร แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากไปกว่า การได้ยืนดูภูเขาไฟเท่านั้นจริงๆ
ขอเพิ่มเติมเรื่องการเดินทางบริเวณรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะจะนิยมเดินทางโดยรถบัส ซึ่งมี 2 สาย Kawaguchiko Sightseeing Bus (Red-Line) และ Saiko Sightseeing Bus (Green-Line) แต่ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ของคาวากุจิโกะสายรถบัสที่ผ่านคือ Red Line สังเกตง่ายๆ คือตัวรถบัสจะมีสีแดงตามชื่อและตรงป้ายหน้ารถจะมีคำว่า Red อย่างชัดเจน ส่วนวิธีการขึ้นลงก็สามารถใช้บัตร IC Card ได้ตามปกติ ถ้าใครซื้อพาสท่องเที่ยวอื่นๆ มาก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
01 Bus No.9 : Mt. Fuji Panoramic Ropeway
อันที่จริงสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ตั้งแต่ถึงสถานีรถไฟคาวากุจิโกะแล้ว แต่คนค่อนข้างเยอะมาก โลเคชั่นแรกที่จะไปคือการดูภูเขาไฟฟูจิจากมุมสูง จากสถานีให้นั่งรถบัสสาย Red Line ไปได้ แต่ถ้ารอคิวขึ้นรถบัสไม่ไหวก็สามารถเดินไปได้ เพราะเราก็เดินเหมือนกัน ดูวิวข้างทางไปเรื่อยๆ ก็เพลินดี ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที (1 กิโลเมตร)
ตรงป้ายบัสหมายเลข 9 นี้ มีทั้งท่าเรือ Kawaguchiko Sightseeing Boat และ Mt. Fuji Panoramic Ropeway ส่วนฉันเลือกอย่างหลังเลยเดินไปซื้อตั๋วเพื่อนั่งกระเช้าเลาะภูเขาเท็นโจขึ้นไป ปลายทางเป็นวิวพาโนรามามองเห็นสุดลูกหูลูกตา ภาพที่ปรากฎเบื้องหน้าฝั่งหนึ่งเป็นทะเลสาบคาวาคุจิโกะ อีกฝั่งเป็นภูเขาไฟฟูจิที่ฉันตั้งหน้าตั้งตามาพบเจอ
Info
Mt. Fuji Panoramic Ropeway
Ticket: ไป-กลับ เด็กชั้นมัธยมต้นขึ้นไป 900 เยน (ผู้ทุพพลภาพ 450 เยน), เด็กชั้นประถม 450 เยน (ผู้ทุพพลภาพ 230 เยน), เด็กต่ำกว่าชั้นประถม ฟรี (หากมีผู้ใหญ่มาด้วย เด็ก 1 คนต่อผู้ใหญ่ 1 คน) / เที่ยวเดียว เด็กชั้นมัธยมต้นขึ้นไป 500 เยน (ผู้ทุพพลภาพ 250 เยน), เด็กชั้นประถม 250 เยน (ผู้ทุพพลภาพ 130 เยน), เด็กต่ำกว่าชั้นประถม ฟรี (หากมีผู้ใหญ่มาด้วย เด็ก 1 คนต่อผู้ใหญ่ 1 คน)
Hours: ฤดูหนาว 1 ธ.ค.-28 ก.พ. 9:30-16:30 น., 1 มี.ค.-30 พ.ย. 9:00-17:00 น.
Bus Stop: Red Line No.9 Sightseeing Boat/Ropeway Ent.
Website: www.mtfujiropeway.jp/th
02 Bus No.9 : Fujiyama Cookies
ลงจากกระเช้าตรงตีนเขาเท็นโจมีร้านขนมขึ้นชื่อของคาวากุจิโกะ คุกกี้รสชาติดีที่ถูกทำให้มีหน้าตาคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ ทางร้านพิถีพิถันทุกขั้นตอนตั้งแต่วัตถุดิบ เช่น เลือกใช้แป้งที่ผลิตภายในประเทศเท่านั้น ด้วยวิธีการนวดมือและที่สำคัญอบวันต่อวัน ด้วยความตั้งใจให้เป็นรสสัมผัสของคุกกี้ที่ใครๆ ก็ต้องติดใจ คุกกี้มีทั้งหมด 5 รสชาติ ได้แก่ วานิลลา เอิร์ลเกรย์ สตรอว์เบอร์รี่ ชาเขียว และช็อกโกแลต กินคู่กับกาแฟร้อนสักแก้วของที่ร้านก็เข้ากันดี หรือจะซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านทางร้านก็มีแพ็คเกจจิ้งสุดน่ารักคอยบริการด้วย
Info
Fujiyama Cookies
Hours: 10:00-17:00 น.
Bus Stop: Red Line No.9 Sightseeing Boat/Ropeway Ent.
Website: www.fujiyamacookie.jp/th/
03 Bus No.13 : Fujisan x Sakura Spot
ระหว่างที่นั่งรถบัสต่อมาเรื่อยๆ ก็ไปสะดุดตากับวิวข้างทาง สวยจนฉันต้องกดปุ่มเพื่อจอดลงป้ายรถบัสหมายเลข 13 แบบไม่ทันตั้งตัว อันที่จริงตรงป้ายนี้ไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวพิเศษอะไร มีแค่ซากุระต้นใหญ่กับทางเดินเล็กๆ สำหรับเดินลงไปริมทะเลสาบคาวากุจิโกะ เลยอยากบอกต่อเผื่อใครอยากได้รูปมุมนี้เหมือนกัน
Info
Bus Stop: Red Line No.13 Kozantei Ubuya
04 Bus No.15 : Kawaguchiko Music Forest Museum
พิพิธภัณฑ์ดนตรีในบรรยากาศหมู่บ้านยุโรป ฉันว่าที่นี่โลเคชั่นดีมาก ทั้งตั้งอยู่ริมทะเลสาบคาวากุจิโกะและเป็นมุมที่ทำให้มีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังพอดี สไตล์ตะวันตกเมื่อรวมอยู่กับภูเขาไฟฟูจิก็ดูเข้ากันอย่างประหลาด เชื่อว่าใครที่ได้มาก็ต้องรู้สึกราวหลุดไปในเทพนิยายสักเรื่อง ความน่ารักคือแต่ละพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์จะพยายามแทรกเครื่องที่ทำให้เกิดเสียงดนตรี เพื่อให้คนที่มาเยี่ยมชมได้เข้าถึงดนตรี ไม่ว่าใครก็สนุกกับเสียงดนตรีได้
ภายในมีหลากหลายโซน อาทิ Organ Hall ฮอลล์สำหรับชมการแสดง Dance Organ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก, History Hall จัดแสดงเครื่องดนตรีเก่าแก่ที่อาจไม่รู้จักมาก่อน รวมถึงการแสดงโชว์ต่างๆ ก็จัดขึ้นเป็นรอบภายในฮอลล์นี้เช่นเดียวกัน, Carillon Square ลานกลางแจ้งที่มีการแสดงดนตรีประกอบน้ำพุทุกชั่วโมง, Restaurant & Cafe คาเฟ่บรรยากาศดี จำหน่ายทั้งอาหารคาวและหวาน, Museum Shop สำหรับใครที่อยากซื้อของฝาก สามารถหาซื้อได้ที่นี่เลย ฯลฯ แล้วที่นี่ก็มีชุดเจ้าหญิงให้เช่าสำหรับใส่ถ่ายรูปภายในพิพิธภัณฑ์ด้วย
ช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงกลางเดือนมกราคมที่นี่ยังมีอีเว้นท์ Autumn and Winter Illumination Light Up เทศกาลไฟประดับที่สวยงามมาก สามารถเข้าไปตรวจสอบวันเวลาที่แน่นอนได้ทางเว็บไซต์
ภาพ: fuji.kawaguchikomusicforest.jp
Info
Kawaguchiko Music Forest Museum
Ticket: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, มหาลัยและชั้นมัธยมปลาย 1,100 เยน, ชั้นมัธยมต้นและชั้นประถม 800 เยน
Hours: 9:30-18:00 น.
Bus Stop: Red Line No.15 Kawaguchiko Music Forest Museum
Website: www.fuji.kawaguchikomusicforest.jp/th
05 Bus No.15&16 : Relax Along the lake
เส้นทางเดินเล่นริมทะเลสาบคาวากุจิโกะที่ฉันบังเอิญพบนี้ไม่มีชื่อเรียก แต่อยู่ระหว่างป้ายรถบัสหมายเลข 15 และ 16 หากลงป้ายที่ 15 สามารถเดินออกทางประตูด้านหลังของ Kawaguchiko Music Forest Museum ได้เลย ฉันไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ซากุระกำลังเบ่งบาน จึงเห็นคนญี่ปุ่นมากมายมาปูผ้านั่งปิกนิกชมซากุระและภูเขาไฟฟูจิริมทะเลสาบกันอย่างคึกคัก บ้างก็จูงสุนัขมาเดินเล่น ส่วนฉันก็ขอหย่อนตัวลงบนพื้นหญ้า ปล่อยให้ลมเย็นพัดผ่านหน้าไป ได้ดูภูเขาไฟฟูจิอย่างที่ตั้งใจเท่านี้ก็มีความสุขแล้ว
เดินเล่นมาเรื่อยๆ ก็พบกับตลาดนัดริมทะเลสาบที่มียะไตขายอาหารมาตั้งซุ้มขายกัน ไม่ว่าจะเป็นมื้อหนักหรือเมนูกินเล่นก็มีให้เลือกครบ มันช่างเหมาะกับการซื้อไปนั่งกินริมทะเลสาบเคล้าบรรยากาศของวิวภูเขาไฟฟูจิที่ปรากฎอยู่ด้านหน้า ถ้าให้เลือกหนึ่งสถานที่ที่รักที่สุดในทริป เส้นทางเดินตรงนี้ก็เป็นสถานที่ที่ฉันอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสกันดูจริงๆ
06 Bus No.16 : Olsson’s Strawberry Cafe
ร้านคาเฟ่ที่ให้บริการทั้งอาหารคาวและหวาน ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับ Kanohana Art Museum สามารถเดินเลาะริมทะเลสาบมาถึงร้านได้เลย ตัวคาเฟ่มีที่นั่งทั้งโซนในร่มและโซนกลางแจ้ง ในวันอากาศดีแนะนำให้เลือกที่นั่งโซนกลางแจ้ง เพราะสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากตัวคาเฟ่ เมนูขึ้นชื่อของร้านนี้คือเมนูที่ทำจากสตรอว์เบอร์รี่ ส่วนตัวฉันรักรสชาติของผลไม้สีแดงชนิดนี้อยู่แล้ว จึงเลือกพาร์เฟ่ต์สรอว์เบอร์รี่ โยเกิร์ตเนื้อเนียน ไอศกรีสมสตรอว์เบอร์รี่รสหวานหอม กับรสชาติหวานอมเปรี้ยวของผลสตรอว์เบอร์รี่ บวกกับบรรยากาศรอบๆ ทุกอย่างลงตัวจนทำให้ฉันต้องยิ้มจนแก้มปริอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
Info
オルソンさんのいちご
Hours: 10:00-16:00 น.
Bus Stop: Red Line No.16 Kawaguchiko Monkey Show Theater/Konohana Art Museum
Website: www.konohana-muse.com
จบทริปหนึ่งวันของฉันที่คาวากุจิโกะ อันที่จริงบริเวณทะเลสาบยังมีสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมาก หากแต่ฉันใช้เวลาไปกับการนั่งเล่นริมทะเลสาบนานทีเดียวจึงมีเรื่องมาเล่าให้ฟังเพียงเท่านี้ คาวากุจิโกะดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่หลายคนอาจมองว่าแมส แต่ถ้าต้องการพักผ่อนหาสถานที่ชุบชูใจคลายความเหนื่อย คาวากุจิโกะให้ผลลัพธ์เกินกว่าที่คาดหวังไว้ คุ้มค่าต่อการเดินทางมามากจนฉันรู้สึกว่าหากอยู่นานกว่านี้ ใจสี่ห้องที่มีคงจะถูกปันให้คาวากุจิโกะไปทั้งหมดจริงๆ
การเดินทางไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ
จากโตเกียว
รถบัส: Highway Bus จากสถานีชินจูกุที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal รวดเดียวไปถึงสถานีคาวากุจิโกะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ราคาผู้ใหญ่ 1,950 เยน/เที่ยว, เด็ก 980 เยน/เที่ยว ควรจองล่วงหน้าก่อนใช้บริการ 1 วันที่เว็บไซต์
รถไฟธรรมดา: จากสถานีชินจูกุให้นั่งรถไฟสาย JR Chuo Line ได้แก่ขบวน Azusa และ Kaiji ไปลงที่สถานี Otsuki ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นให้เปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyuko Line ไปลงที่สถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์
※ ใช้ JR Tokyo Wide Pass จองที่นั่งขบวน Azusa และ Kaiji ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ไม่รวมค่าจองที่นั่งของสาย Fujikyu Railway (Otsuki – Kawaguchiko)
※ JR Pass (All area) และ JR East Pass (Tohoku Area/ Nagano-Niigata Area) จองที่นั่งขบวน Azusa และ Kaiji ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ไม่รวมค่าจองที่นั่งของสาย Fujikyu Railway (Otsuki – Kawaguchiko)
รถไฟขบวน Fuji Excursion: รถไฟสายด่วนพิเศษที่วิ่งตรงจากสถานีชินจูกุสู่สถานีคาวากุจิโกะโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ ในการให้บริการ 4 เที่ยว/วัน (ไป-กลับ) ในวันธรรมดา และ 6 เที่ยว/วัน ในวันเสาร์-อาทิตย์ สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์
※ ใช้ JR Tokyo Wide Pass จองที่นั่งขบวน Fuji Excursion ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม