Paradise  Ishigaki 

รับลมทะเลเย็นฉ่ำสดชื่น ฟังเสียงวาฬพ่นน้ำ ยืดเหยียดแขนขาในน้ำใสกลางฝูงปลาหลากสี เขย่งปลายเท้าบนหาดทรายรูปดาว ดื่มด่ำช่วงเวลาของการนั่งเกวียนเทียมควายพร้อมฟังเสียงดีดซันชิน สัมผัสวัฒนธรรมริวกิวแท้ ที่ ‘อิชิงะกิ’ เกาะทางตอนใต้สุดของโอะกินะวะ ประเทศญี่ปุ่น

เดินเล่นรอบเมือง 

โรงแรมที่เราเลือกพักในทริปนี้คือ Hotel Emerald Isle ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้ท่าเรือ และเอื้อต่อการเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก นอกจากนี้ โรงแรมยังมีบรรยากาศสุดฮิป สวยงาม และสะอาดสะอ้าน พนักงานประจำเคาน์เตอร์สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จึงหมดกังวลเรื่องภาษา เราเองก็สบายใจหายห่วง แม้มาถึงก่อนเวลาเช็กอิน แต่ทางโรงแรมก็ใจดีให้เข้าห้องพักได้เลย

 

 

บ่ายแก่ๆ เหมาะแก่การเดินทอดน่อง จึงออกมาเดินเล่นใกล้ๆโรงแรมที่เราพัก จะว่าไปแล้วเกาะแห่งนี้ก็มีเอกลักษณ์ไม่น้อย ทั้งร้านรวงดูเก๋ไก๋ มีงานคราฟต์หรืองานแฮนด์เมดน่ารักมากมายให้เลือกซื้อเพลินๆไปฝากครอบครัวหรือเพื่อนๆ แถมยังได้เจอร้านอาหารและของกินพื้นถิ่น อย่างเช่น สาหร่ายคล้ายพวงองุ่นสีเขียวเม็ดเล็ก กระจิริด ซึ่งเราเคยเจอที่ภาคใต้ของไทยเหมือนกันนะ ที่เรียกว่า ‘สาหร่ายช่อพริกไทย’ เคี้ยวแล้วกรุบกรอบอย่าบอกใครเลยล่ะ แล้วก็ยังมีขนมแปรรูปจากมันม่วง สับปะรด ฯลฯ อีกด้วย เยอะแยะไปหมด

เดินต่อไปอีกนิดยังได้พบร้านหนังสือ ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องเขียน ฯลฯ ได้ของติดไม้ติดมือมานิดหน่อย กลายเป็นว่าเราใช้เวลาทั้งบ่ายไปกับการซึมซับบรรยากาศรอบๆเมืองแห่งนี้ ก่อนที่นาฬิกาบอกเวลายามเย็น และท้องน้อยๆเริ่มประท้วงปล่อยน้ำย่อย เราจึงเลือกกินอาหารเย็นในเซ็นเตอร์ที่ดูฮิปๆ สองชั้น ด้านในมีร้านอาหารมากมาย  รวมถึงร้านอาหารไทย และร้านของหวานด้วย

ร้านที่เราเลือกอยู่ชั้นสอง เพื่อจะได้สะดวกต่อการชมวิวและความเปลี่ยนแปลงของเมืองยามดวงอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้า อาหารที่ลองสั่งมากินแล้วพบว่ามีรสชาติดีคือมะเขือม่วง ไม่หวานมิโซะแบบที่เคยกินในเกียวโต แต่กลับให้ความสดชื่นมาก กินแล้วชื่นใจ เราดื่มกันที่ร้านนี้กันอีกคนละแก้ว แล้วจึงพากันไปเดินเล่นที่ท่าเรือต่อ

 

 

หลังจากสำรวจรอบๆท่าเรือแล้วยังพบว่ามีอีกหลายโรงแรมที่น่าสนใจและน่าพักไม่น้อย เช่น Blue Cabin Ishigakijima Hotel เราเคยเสิร์ชเจอในเว็บไซต์ก่อนเดินทางมา จำได้ว่าที่นี่มีห้องแต่ละห้องเล็กๆ พอให้นอนพักเท่านั้น แต่กลับมีบริเวณนั่งเล่นที่กว้างขวางมาก มีอาหารเช้าบริการ แถมห้องอาบน้ำรวมยังแช่น้ำร้อนได้ด้วย… เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมาก

เราคิดว่าการจองผ่านเว็บไซต์หรือแอพลิเคชั่น อำนวยความสะดวกไม่น้อย ที่อยากแนะนำสำหรับการหาที่พักในต่างแดนเลยคือ Booking.com บางโรงแรมสามารถจองได้โดยไม่ต้องใส่เลขบัตรเครดิตก็มี แล้วค่อยจ่ายเงินเมื่อเข้าพักแทน (แต่…ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการจองที่พัก เราต้องกดแคนเซิล cancel ให้ทันในเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นอาจโดนชาร์จเงินได้)

อีกแอพลิเคชั่นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Airbnb มีหลายครั้งที่เราได้ห้องพักสวยงามเก๋ไก๋ ทำเลดี และราคาถูกมาครอบครองจากแอพฯนี้ ในกรณีที่ไปกันเป็นครอบครัวหรือไปกันหลายคนบอกเลยว่าคุ้มมากๆ เพราะเขามีให้เลือกจองทั้งแบบห้องชุดหรือบ้านทั้งหลัง คุณจะได้ราคาประหยัดกว่านอนโรงแรมมากทีเดียว

ถึงอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นแอพลิเคชั่นอะไรก็ตาม เราอยากให้อ่านเงื่อนไขอื่นๆในการเข้าพักแต่ละที่อย่างละเอียด ว่ามีสิ่งที่เราต้องการเพิ่มเติมด้วยไหม เช่น จอดรถได้หรือเปล่า ในกรณีที่เช่ารถไป หากที่พักมีที่จอดรถให้ฟรีจะดีกว่า เพราะบางแห่งไม่มี จึงต้องเสียเงินต่างหาก ถ้าจอดไกลที่พักแล้วต้องเดินก็คงไม่สะดวกนัก และที่สำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมอ่านรีวิวจากคนที่เคยมาพักก่อนหน้านี้ คอมเมนต์เหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการได้ที่พักไม่ถูกใจได้มากเลยทีเดียว

 

 

เดินเล่นกันจนเหนื่อยแล้วจึงพากันกลับโรงแรม ซึ่ง Hotel Emerald Isle ที่เราพัก มีเคาน์เตอร์บาร์และบริเวณห้องนั่งเล่นกว้างขวางคล้ายคาเฟ่ให้นั่งพักผ่อนได้ทั้งกลางวันและกลางคืน สำหรับแขกของโรงแรม ยังมีเครื่องดื่มต่างๆให้บริการฟรีตลอดทั้งวันอีกด้วย ที่นี่เราสามารถซักผ้าในตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ มีเตารีดและที่รองรีดให้บริการ ถึงแม้จะไม่มีห้องน้ำรวมให้แช่แบบออนเซ็น แต่ก็มีอ่างน้ำ เหมาะอย่างยิ่งให้ซื้อผงอาบน้ำของญี่ปุ่นที่มีหลายสี หลายกลิ่น มาโรยผสมแล้วลงแช่ตัวเล่นให้สบายใจ จากห้องนอนหากมองออกไปยังได้เห็นวิวทะเลและท่าเรือ แต่สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรงแรมแห่งนี้ก็คือ หากแขกไม่รีเควสแม่บ้านทำความสะอาด เราจะได้คูปองไว้แลกเครื่องดื่มทั่วไป ค็อกเทล หรือจะเลือกเป็นขนมแทนก็ได้ นับว่าเป็นนโยบายที่ไม่เอาเปรียบลูกค้าและให้ความรู้สึกวิน-วินกันทั้งสองฝ่ายเลยทีเดียว

(อ่านต่อ EP.3: นั่งเกวียนชมวิว นั่งเรือชมปลา > คลิก)

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ