ใครคุ้นมุมนี้บ้าง รู้ไหมว่าอยู่ตรงไหนของญี่ปุ่น?

ภูเขาไฟฟูจิ เจดีย์แดง และดอกซากุระ

แค่พิมพ์คำว่า JAPAN หรือญี่ปุ่นลงใน google ภาพมุมนี้ก็จะโผล่มาเต็มไปหมด เรียกได้ว่าเป็นมุมที่ใครเห็นก็รู้สึก “ญี่ปุ๊นญี่ปุ่น” ก็แหงสิ มีครบทั้งภูเขาไฟฟูจิที่เด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลาง ด้านขวาก็มีเจดีย์แดงสไตล์แบบญี่ปุ่นในอุดมคติ ทางซ้ายก็มีต้นซากุระเรียงราย ไม่ว่าจะมุมไหนของภาพก็คิดได้อย่างเดียวว่านี่คือประเทศ “ญี่ปุ่น”

จุดถ่ายรูปสุดฮิตที่เห็นภูเขาไฟฟูจิ เจดีย์แดง (Chureito Pagoda) และต้นซากุระพร้อมกัน
จุดถ่ายรูปสุดฮิตที่เห็นภูเขาไฟฟูจิ เจดีย์แดงและต้นซากุระพร้อมกัน ที่มาภาพ – https://goo.gl/saS9i2

 

ทำความรู้จักสถานที่ในรูป

สถานที่ในรูปก็คือเจดีย์แดงชูเรโตะ (Chureito Pagoda) ตั้งอยู่ที่เมืองฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida) จ.ยามานาชิ (Yamanashi) เป็นแหล่งบ่มเพาะวัฒนธรรมและสืบทอดขนบธรรมประเพณี ประวัติศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองภายใต้ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์โดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นพระเอกของเมือง อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 750 เมตร

นักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาถ่ายรูปวิวที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น ที่มาภาพ – https://goo.gl/6cLm58

เจดีย์แดงชูเรโตะ (Chureito Pagoda) สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์วีรชน ตั้งอยู่ในตอนกลางระหว่างภูเขาอาราคุระยามะ (Arakurayama) บริเวณโดยรอบคือสวนอาราคุระยามะเซ็นเก็ง (Arakurayama Sengen Park) ความสวยงามของบรรยากาศรอบๆ เจดีย์ก็จะเปลี่ยนไปตามฤดูทั้งสี่ของญี่ปุ่น

เจดีย์แดง (Chureito Pagoda) ที่โอมล้อมด้วยต้นไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
เจดีย์แดงที่โอมล้อมด้วยต้นไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ที่มาภาพ – https://goo.gl/YRVVhK
เจดีย์แดง (Chureito Pagoda) ที่บรรยากาศรอบๆ ขาวโพลนไปด้วยหิมะ
เจดีย์แดงที่บรรยากาศรอบๆ ขาวโพลนไปด้วยหิมะ ที่มาภาพ – https://goo.gl/kJbEp7

 

เจดีย์แดงชูเรโตะ (Chureito Pagoda) ไปช่วงไหนดีที่สุด?

เนื่องจากเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม อีกทั้งตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอย่างคับคั่งตลอดปี โดยช่วงพีคที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิที่ซากุระบานสะพรั่ง(ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน) ลำดับถัดมาคือฤดูใบ้ไม้ร่วงที่ต้นไม้รอบๆ เปลี่ยนเป็นสีส้มแดง(ปลายตุลาคม-พฤศจิกายน) อ่านมาถึงตรงนี้ก็อาจจะเข้าไปว่างั้นถ้าไปตอนหน้าร้อนที่ต้นไม้สีเขียวปกติคนคงจะน้อย แต่ก็ไม่จริง เพราะช่วงหน้าร้อนท้องฟ้าจะเปิดและโอกาสที่ฝนตกจะมีน้อย ทำให้เห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ฉะนั้นหากต้องการหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับฝูงชนที่มาเยือนเจดีย์ชูเรโตะแห่งนี้ อาจจะต้องมาในช่วงรอยต่อระหว่างฤดู เช่น เดือนมิถุนายนก็จะเป็นช่วงที่สุ่มเสี่ยงต่อการเจอลมฝน ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งไม่เสี่ยงมาเที่ยวชมธรรมชาติ รวมถึงช่วงฤดูหนาวบางวันก็อาจจะไม่แน่นเท่าไรนัก เพราะว่าขั้นบันไดปกคลุมไปด้วยหิมะ เสี่ยงต่อการลื่นล้มและต้องทนความเหน็บหนาว

ภาพของ “ญี่ปุ่น” ในมโนภาพของสากลโลก
ภาพของ “ญี่ปุ่น” ในมโนภาพของสากลโลก ที่มาภาพ – https://goo.gl/YPKvLo

อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้ไปช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะเป็นช่วงที่ได้ชมภูเขาไฟฟูจิ ดอกซากุระ และเจดีย์แดงชูเรโตะได้อย่างงดงามที่สุด แม้คนจะเยอะแต่ก็คุ้มค่าที่จะฝ่าฝูงชนไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง แต่ไม่แนะนำให้ไปกับผู้สูงอายุที่ไม่แข็งแรง เนื่องจากการเดินทางค่อนข้างลำบาก และจำเป็นต้องเดินขึ้นเนินเขาและขั้นบันไดเกือบ 400 ขั้น แม้จะเรียกแท็กซี่ก็ไม่สามารถส่งถึงจุดหมายยอดฮิตดังในรูปถ่ายได้

 

รอบๆ เจดีย์แดงชูเรโตะ (Chureito Pagoda) มีอะไรให้เที่ยวบ้าง?

หากเหนื่อยหน่ายกับการนั่งรถไฟหรืออยากใช้เวลาแบบสโลว์ไลฟ์ก็สามารถเดินชมธรรมชาติของสวนในศาลเจ้าไปเรื่อยๆ หรือจเดินเล่นบริเวณเมืองฟูจิโยชิดะได้ ถ้าอากาศดีคุณก็จะเพลินกับการชมภูเขาไฟฟูจิจนลืมเวลาไปเลย ถ้าชอบสวนสนุก สามารถนั่งไปลงสถานี Fujkyu Highland ที่อยู่ไม่ไกล และเที่ยวสวนสนุกฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหวาดเสียวได้ (ตอนนี้ฟรีค่าเข้าด้วยนะ อ่านต่อที่นี่) ถ้าเลยไปอีกหน่อยก็สามารถไปที่สถานี Kawaguchiko เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchi) ที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น

 

แผนที่

 

แผนที่ไปเจดีย์แดงชูเรโตะ (Chureito Pagoda)
คลิกเพื่อดูรูปใหญ่


การเดินทาง

การไปยังเจดีย์แดงชูเรโตะนิยมเดินทางไปที่สถานี Shimoyoshida เป็นอันดับแรก ซึ่งสถานีนี้ดังกล่าวสามารถมาง่ายๆ โดยขึ้นรถไฟสาย Chuo ได้จากสถานีต่างๆ ในโตเกียว แต่มีข้อควรระวังว่าในวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สาย Chuo จะไม่จอดที่สถานี Shimoyoshida ฉะนั้นในกรณีดังกล่าวต้องวางแผนการเดินทางโดยมีลำดับดังนี้

ขึ้นรถไฟสาย Chuo จากสถานีใดก็ได้ที่มีสายนี้ในโตเกียว (เช่นสถานีโตเกียว) โดยขึ้นฝั่งที่เขียนว่าไปสถานี Takao หรือ Tokyo ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที (แต่หากมาในวันธรรมดาไม่ต้องเปลี่ยนรถ นั่งต่อเดียวจนถึงที่หมายเลย)

                       ↓

ออกจากรถไฟที่สถานี Otsuki เปลี่ยนไปนั่งสาย Fujikyu ใช้เวลาประมาณ 45 นาที

                       ↓

ลงสถานี Shimoyoshida

Shimoyashida Station
Shimoyashida Station ที่มาภาพ – https://goo.gl/1u53dk

 

ค่าโดยสารจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับสถานีแรกที่ขึ้น หากขึ้นจากสถานีโตเกียวจะราคา 2,450 เยน สามารถใช้ IC Card อย่าง Suica หรือ PASMO ได้ เมื่อถึงสถานี Otsuki ต้องระวังว่ามีรถไฟสองแบบที่ขับเลยสถานี Shimoyoshida คือ Ajisan Express กับ Fujisan View Express ห้ามขึ้นสองคันนี้ เมื่อถึงสถานี Shimoyoshida จะสามารถเลือกวิธีเดินทางไปเจดีย์แดงชูเรโตะได้ดังนี้

  1. เดิน 22 นาทีจากสถานี Shimoyoshida ระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร

 

  1. นั่งแท็กซี่ ประมาณ 4 นาที ราคาประมาณ 730 เยน แต่นั่งได้จนถึงทางเข้าศาลเจ้าด้านหน้าเท่านั้น ต้องเดินต่อและขึ้นเนินเขาอีกทอดหนึ่ง

INFO
Chureito Pagoda
Address: 3360-1 Arakura, Fujiyoshida City, Yamanishi Prefecture, 403-0011
Website: arakurasengen.com
Nearest Station: Shimoyoshida Station

 


 

รีวิวจากคนญี่ปุ่น

Twitter: @nakobon

https://twitter.com/nakobon/status/995259315001806848

สุดยอดวิวที่ถ่ายจากระหว่างเขาอาราคุระยามะ
เห็นภูเขาไฟฟูจิเจดีย์แดงชูเรโตะ(เจดีย์ห้าชั้น)และเมืองฟูจิโยชิดะ
เดินจากที่จอดรถมาตรงนี้ต้องขึ้นบันไดมาประมาณ 400 ขั้น
แต่ก็มีทางเดินอ้อมที่ค่อนข้างไกล แนะนำว่าคนที่ไม่อึดให้ใช้ทางอ้อมดีกว่า

———————————————–

Twitter: @nomafuji1009

ขั้นบันไดของชูเรโตะโหดร้ายมาก 398 ขั้น เหนื่อยจัง
วันนี้อากาศดีมาก เห็นภูเขาไฟฟูจิชัดมาก
แต่ว่าคนต่างชาติเยอะจริง จุดถ่ายรูปก็เลยแน่นไปหมด

———————————————–

Twitter: @Dragon_Ueda

https://twitter.com/Dragon_Ueda/status/983392072525692928

มันต้องแบบนี้สิถึงจะเป็นทัศนียภาพของญี่ปุ่น!
แต่ว่านะ ภูเขาไฟฟูจิด้านหน้า(ฝั่งจังหวัดชิสึโอกะ)น่าจะสวยกว่าจริงไหม?

 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ