5 สถานีรถไฟในญี่ปุ่น ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในตัวมันเอง
สถานีรถไฟใหญ่ๆ ในญี่ปุ่น มักรายล้อมด้วยโครงการ Mixed-Use Development ที่ประกอบด้วยออฟฟิศ โรงแรม คอนโด ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าร้านอาหาร จุดชมวิว และนานาจิตตังรวมอยู่ ณ ที่เดียว
คงไม่น่าจะผิดอะไรหากจะเรียกว่ามันคือ “เมืองย่อมๆ” ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันสะดวกสบาย เราจึงขอเสนอ 5 สถานีรถไฟในญี่ปุ่น ที่ใหญ่อลังการ มีทุกอย่างครบจนกลายเป็น “แหล่งท่องเที่ยว ในตัวมันเอง” ไปแล้ว
01 Osaka Station
นี่คือฮับสถานีรถไฟที่มี Mixed-Use Development ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและกลายเป็นต้นแบบเรียนรู้ให้เมืองใหญ่อื่นๆ ทั่วโลก (สถานีบางซื่อที่สร้างอยู่ก็ได้แนวคิดหลายอย่างมาจากที่นี่เช่นกัน)
นอกจากเป็นฮับการเดินทางที่มีผู้ใช้บริการกว่า 4 แสนคนต่อวันแล้ว ที่นี่ยังประกอบด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านค้าร้านอาหารชั้นนำเพียบชนิดที่ไล่กินทุกวันตลอดทั้งเดือนก็อาจยังไม่ครบ
ทางทิศเหนือของสถานีมีห้าง LUCUA 1100 ที่มีแฟชั่นให้ช็อปหลากแบรนด์ และถ้าใครอยากชมวิวสถานีแบบแกรนด์ๆ ก็ขอให้ขึ้นไปยังชั้น 9 ที่ร้าน Umeda TSUTAYA BOOKS เพราะมีที่นั่งริมกระจกชมวิวได้เต็มตา ที่ชั้น 2 ยังมี Isetan Urban Market ศูนย์รวมร้านอร่อยเพียบ และที่ห้ามพลาดคือซูเปอร์มาร์เก็ต EKI MARCHÉ ที่รวบรวมทั้งสินค้าชั้นนำและท้องถิ่นของภูมิภาคคันไซ
ทิศเหนือมีห้าง LUCUA 1100
ส่วนทิศใต้ติดสถานีมีห้างหรู Daimaru ที่ภายในมี Pokemon Center สำหรับแฟนโปเกมอนและเป็นที่ตั้งของโรงแรม 4 ดาว Hotel Granvia Osaka ใครพักตรงนี้คือไม่ต้องออกนอกสถานีเลยยังได้
ตัวสถานียังมีชั้นใต้ดิน (ทางเดินเชื่อมกับสถานีอื่นโดยรอบ) ซึ่งมีร้านค้าร้านอาหารตลอดทาง เราอยากให้คุณลงไปสำรวจเหลือเกินเพราะม้นซับซ้อนวนไปมามันจนหลายๆ คนเรียกว่า “ดันเจี้ยน”
จะเห็นว่าโครงสร้างตัวสถานีสูงเทียบเท่าประมาณตึก 10 ชั้น แค่เดินไปชั้นบนๆ และมองลงมาก็สามารถเป็นจุดชมวิวสุดอลังการได้แล้ว สำหรับใครไม่ได้มีเวลามากมาย ขอบอกเลยว่าแค่หาร้านกาแฟหรือหาคาเฟ่นั่งกินขนม และมองดูคลื่นมวลชนเดินผ่านไปมาก็ถือว่าเพลินมากแล้วล่ะ
ชมวิวฟรีๆ
ขอเพิ่มเติมอีกนิด ทางทิศเหนือด้านนอกสถานียังมีศูนย์การค้า Grand Front Osaka ที่ทันสมัยและใหญ่มาก มีร้านค้ากว่า 266 ร้าน ตรงข้ามตึกยังเป็น Yodobashi Camera ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ และไหนจะร้านค้าท้องถิ่นตามซอกซอยอีก (+โรงแรมทั่วบริเวณ) ใครจะมาช็อปจริงจังย่านนี้บอกเลยเผื่อเวลาไว้ 1 วันเต็มๆ เถอะ
02 Tokyo Station
นี่คือสถานีรถไฟแห่งแรกๆ ในญี่ปุ่นอายุนับร้อยปี ซึ่งยังคงความคลาสสิกมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยอานิสงค์ของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก หลักๆ แล้ว Tokyo Station มี 2 ฝั่งทางออกคือ ฝั่งตะวันออก (Yaesu Exit) และฝั่งตะวันตก (Marunouchi Exit)
ทางออกฝั่งตะวันออก
ฝั่งตะวันออกเป็นแหล่งรวบรวมร้านอาหารร้านค้าแฟชั่นเป็นหลัก ประกอบไปด้วย Yaesu Shopping Mall แหล่งช็อปปิ้งใต้ดินที่มีอาหารการกินเยอะมาก(กกก), First Avenue แหล่งของฝากและของที่ระลึกที่ที่อื่นไม่มีแต่ที่นี่มี ตรงนี้นักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ, Daimaru ห้างหรูที่มีทั้งแบรนด์สินค้าแฟชั่นและร้านอาหารเพียบเช่นกัน และฝั่งตะวันออกยังเป็นฮับรถบัสที่สามารถเดินทางไปสนามบินหรือเมืองอื่นได้ด้วย
ห้าง Daimaru ภาพ – trulytokyo.com
ส่วนทางฝั่งตะวันตกจะคนละสไตล์เลย เมื่อเดินออกมาแล้วคือลานคนเดินกว้างขวางเรียกว่า Marunouchi Square ตรงนี้คือจุดถ่ายรูปสถานีโตเกียวที่ดีที่สุด สามารถชื่นชมสถาปัตยกรรมสถานีได้อย่างใกล้ชิดเต็มตาและมองเห็นทัศนียภาพของตึกระฟ้าโดยรอบได้อย่างชัดเจน ใครเดินจากฝั่งตะวันออกมาเหนื่อยๆ ก็แวะพักผ่อนตรงนี้ได้เลย
ชมสถาปัตยกรรมแบบไม่มีอะไรมากั้น
ลานคนเดิน Marunouchi Square
ขอแนะนำว่าถ้าอยากเห็นวิวลานคนเดินนี้จากมุมสูง ให้ข้ามถนนไปที่ตึก KITTEE ขึ้นไปชั้น 6 จะเป็นระเบียงกว้างมองลงมาเห็นวิวสถานีรถไฟโตเกียวได้เต็มๆ
ภายในตัวสถานีเองเดินเข้ามาแล้วก็สวยงามเช่นกัน ยังมีคาเฟ่ร้านอาหารและร้านกาแฟมากมายให้เลือก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงแรม 5 ดาว Tokyo Station Hotel
03 Shinjuku Station
อีกหนึ่งสถานีที่มีผู้คนเยอะมาก นอกจากคนเยอะแล้วร้านค้าร้านอาหารก็เยอะมากด้วยเช่นกัน ทั้งร้านเร่งด่วนแบบยืนกิน ร้านขายของที่ระลึกจากหลายภูมิภาคทั่วญี่ปุ่น ร้านเบนโตะสำหรับซื้อขึ้นไปกินบนรถไฟ หรือร้านกาแฟนั่งชิลมองดูคลื่นผู้คนเดินผ่านไปมาก็เพลินเช่นกัน
ฝั่งตะวันตกไปถึงทิศเหนือของสถานีเป็นห้างสรรพสินค้า Keio และ Odakyu แต่ละห้างกินพื้นที่ 7-8 ชั้น รวบรวมสินค้าแฟชั่น ร้านค้า และร้านอาหารมากมายไว้ด้านใน
หากเดินออกมาทางออกฝั่งตะวันตก (West Exit) อีกนิด จะนำคุณสู่ย่านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทั้งย่านแทบจะขายแต่สินค้าประเภทนี้ โดยมีเจ้าใหญ่อย่าง Yodobashi Camera เป็นเรือธง ส่วนทางออกฝั่งทิศใต้ (South Exit) ที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงไป จะพบกับห้างเปิดใหม่ชื่อว่า NEWoMan เน้นสินค้าสำหรับสุภาพสตรีมีรสนิยม (เน้นกลุ่มผู้ใหญ่) กินพื้นที่ 5-6 ชั้น สาวๆ เดินช็อปได้จุใจ
ชั้นล่างติดสถานียังมี NEWoMan Food Halls ที่รวมร้านอาหารดังๆ อาทิ SALON BUTCHER&BEER ร้านสเต๊กอร่อยๆ พร้อมคราฟต์เบียร์มากมายให้เลือก, Sawamura เบเกอรี่ต้นกำเนิดจากเมือง Karuizawa เป็นต้น
บริเวณโดยรอบยังมีร้านค้าน่าสนใจอีกเพียบอย่าง Boul’ange เบเกอรี่ดังจากฝรั่งเศสที่ได้รางวัลจาก TripAdvior, Miyazaki ร้านขายของที่ระลึกคุณภาพดี ฯลฯ
เดินลงมาอีกนิดคือที่ตั้งของ Southern Terrace ซึ่งเป็นอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ไพศาล มีโครงข่ายทางเดินเชื่อมตึกละแวกนี้ ตรงนี้เองยังเป็นพื้นที่จัดงานเทศกาลต่างๆ เช่น ช่วงคริสต์มาสมีประดับตกแต่งไฟสวยงาม และตรงนี้คือที่ตั้งของห้างหรู Takashimaya สาขาใหญ่ บอกเลยว่ามีทุกสิ่งที่คุณต้องการ
อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวรถไฟชั้นดี เนื่องจากเป็นทางเดินลอยฟ้ายกระดับทั้งหมดและเบื้องล่างเป็นรางรถไฟ สรุปแล้ว สถานีชินจูกุคือเมืองย่อมๆ เลยครับ ถ้าต้องการเที่ยวแบบเจาะลึกให้หมด วันเดียวไม่น่าจะพอด้วยซ้ำ (นี่ยังไม่รวมสถานที่เที่ยวบริเวณใกล้เคียงนะ!)
04 Nagoya Station
เผื่อใครไม่ทราบ Nagoya Station เป็นฮับการเดินทางที่ทำสำคัญที่สุดของเมืองนาโกย่า อีกหนึ่ง Mixed-Use Development ขนาดมหึมาที่มีทั้งชินคันเซ็นจอดผ่าน,โรงแรม 5 ดาว Marriott Associa Hotel, ตึกออฟฟิศ JR Central Towers และห้างหรู Takashimaya ฯลฯ
ในภาพรวม มีทางออก 2 ฝั่งคือ ฝั่งตะวันออก (Sakura-Dori Exit) และ ฝั่งตะวันตก (Taiko Exit) ขอเริ่มที่ฝั่งตะวันออกก่อน จุดศูนย์กลางในสถานีและเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่คือ The Gold Clock นาฬิกาทองบอกเวลา ตั้งอยู่ใจกลางโถงทางเดิน ซึ่งผู้คนมักใช้เป็นจุดนัดพบกัน
The Gold Clock จุดนัดพบในสถานี
ข้างๆ นาฬิกาทองนี่เองมีทางเดินไปสู่ห้างหรู Takashimaya ซึ่งรวบรวมสินค้าแฟชั่น ร้านค้าร้านอาหาร ผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกมากมาย เราขอแนะนำให้ลงไปสำรวจ Depachika ชั้นใต้ดินของห้างที่รวมของอร่อยๆ มาไว้ที่เดียว
เดพาจิกะ สวรรค์ของกิน ณ Takashimaya
ชั้น 15 เป็นที่ตั้งของโรงแรม Marriott Associa Hotel ใครมีงบสูงพักที่นี่จะสะดวกสบายมาก บริเวณหน้าทางเข้าประตูโรงแรมเป็นเหมือนจุดชมวิวฟรี สามารถมองลงไปเห็นวิวเมืองนาโกย่าได้แบบเต็มๆ ตา เดินไปต่ออีกนิดข้างๆ กันจะเป็นออฟฟิศ JP Central Towers ซึ่งก็มีมุมกระจกใสให้ชมวิวได้เช่นเดียวกัน
จุดชมวิวริมกระจกหน้า Marriott Associa Hotel
เมื่อออกมาทางฝั่งตะวันออกจะพบกับลานกิจกรรม จุดนี้เองก็เป็นพื้นที่ใช้จัดงานเทศกาลต่างๆ หรือแม้จะไม่มีงานก็ยังเป็นพื้นที่สาธารณะโล่งกว้าง เปิดให้ผู้คนมานั่งชิลชมทัศนียภาพโดยรอบได้ตามอัธยาศัย จากจุดนี้ยังเห็น Monument Hisho อนุสาวรีย์ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์อีกแห่งของเมืองนาโกย่าด้วย
เพิ่มเติมอีกหน่อย หากข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่ตั้งของออฟฟิศ, ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมมากมาย ซึ่งประกอบด้วยสินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหารนานาชาติ คาเฟ่เก๋ๆ จุดชมวิว หรือแม้แต่โรงภาพยนตร์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ยกตัวอย่างเช่น โซนของกิน BIMI yokocho ในตึก JP Tower, จุดชมวิว Sky Promenade บนตึก Midland Square โรแมนติกมาก ตึกนี้ชั้นล่างคือร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆ เป็นต้น
โรแมนติก ณ Sky Promenade
กลับมาที่ฝั่งตะวันตกบริเวณนี้ (ยังอยู่ในสถานี) คือแหล่งร้านค้าร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกต่างๆ แวะมาซื้อหาได้ก่อนเดินทางกลับ แม้ฝั่งนี้จะไม่ได้มีตึกสูงห้างหรูในตัวสถานีเหมือนอีกฝั่ง แต่เพียงข้ามถนนไปก็จะพบกับสีสันของแหล่งบันเทิงที่มีชีวิตชีวามาก รวมถึงบรรดาร้านอาหารของกินมากมายในราคาเข้าถึงได้ BIC CAMERA สาขาใหญ่ก็อยู่ฝั่งนี้เช่นกัน
แต่ถ้าหากหากคุณไม่ได้มีเวลาไปเยือนทุกสถานที่ดังที่กล่าว เพียงเดินไปตามท้องถนนก็เพลินได้แล้วโดยเฉพาะตามหน้าเทศกาล เช่น ช่วงปลายปีทางเท้าบริเวณโดยรอบทั้งหมดมีการประดับไฟตกแต่งสวยงามตลอดทั้งเส้น
05 Sapporo Station
Sapporo Station คืออีกหนึ่ง “เมืองในเมือง” ที่นอกจากจะเป็นฮับการเดินทางของซัปโปโรและภูมิภาคต่างๆ แล้ว มันคือจุดท่องเที่ยวผสมกับแหล่งช็อปปิ้งในตัวมันเองที่สะดวกสบายมาก
ภายในประกอบด้วย 3 ห้างอยู่ติดชิดกัน เรียงจากซ้ายไปขวา ได้แก่ Daimaru ห้างหรูสุดไฮโซที่รวมแบรนด์เนมมากมายสำหรับขาช็อปกระเป๋าหนัก ใครหาของแบรนด์เนมต่างๆ เชิญห้างนี้
ถัดมา Stellar Place Center ห้างระดับกลางพื้นที่กว้างขวางใหญ่โต ตั้งอยู่บนสถานีพอดิบพอดี ที่ชั้น 6 ของห้างเป็นโซนอาหาร มีร้านอาหารสำหรับครอบครัวค่อนข้างเยอะ ลองแวะไปหาของอร่อยๆ กินกันดู
และสุดท้ายที่ห้าง ESTA มี BIC CAMERA ใหญ่กินพื้นที่ตั้งแต่ชั้น 1-4 ส่วน ชั้น 5-9 เน้นสินค้าทั่วไปราคาจับต้องได้ แต่ไฮไลท์ของที่นี่คือ Sapporo Ramen Republic แหล่งรวมราเมนชื่อดัง 8 ร้าน ตั้งอยู่บนชั้น 10 ที่แนะนำว่าต้องไปลองให้ได้
นอกจากนี้ยังมี Shopping Mall ใต้ดินที่เรียกว่า PASEO แหล่งรวมเสื้อผ้าแฟชั่นและร้านค้ามากมาย กินอิ่ม ช็อปเสร็จ ก็ขึ้นไปชั้น 38 ชมวิวเมืองซัปโปโรกันต่อที่ T38 Observation Deck จุดชมวิวบนตึก JR Tower อยู่ติดสถานี ซึ่งสามารถมองเห็นวิวเมืองโดยรอบได้สบาย อีกทั้งตึกนี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรม 4 ดาว Hotel Nikko Sapporo ด้วย
ใครอ่านถึงตรงนี้คงจะเห็นแล้วว่า สถานีรถไฟทั้ง 5 นี้คือ “City within a City” ชัดๆ อาณาจักรเมืองที่เพียบพร้อมทุกสิ่งที่คุณไม่ต้องออกไปไหนเลยก็ยังได้ มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นคราวหน้า ลองจัดแพลนเก็บ แหล่งท่องเที่ยว ใน สถานีรถไฟในญี่ปุ่น ให้ครบดูสักตั้ง!