พูดถึง “ประกันเดินทาง” หลายคนที่กำลังเตรียมตัวไปทริปต่างประเทศอย่างประเทศยอดนิยมของชาว Kiji ประเทศญี่ปุ่น ก็คงคิดกันอยู่ว่าจะซื้อดีไหม? ซื้อของอะไรดี? จะเลือกที่เน้นลดแลกแจกแถมโดยไม่อ่านเงื่อนไขให้ดีๆ ก็กระไรอยู่ วันนี้ Kiji จะอยากแนะนำทิปส์ดีๆ 10 ข้อ เพื่อเช็คแต่เนิ่นๆ ว่าประกันเดินทางนั้นตอบโจทย์เราแค่ไหน ซื้อประกันทั้งทีก็ต้องเลือกที่ดีๆ ให้เขาดูแลเราได้อย่างอุ่นใจตลอดทริป

 

01 ความคุ้มครองเบื้องต้น

 

 

ข้อแรกสุดที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษนั่นก็คือ ประกันเดินทางที่เราจะซื้อนั้นคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลด้วยหรือไม่ เพราะถ้าคุ้มครองแค่การเดินทาง เราก็ต้องไปหาซื้อประกันอื่นๆ เสริมอีก แต่อย่างประกันเดินทางของ ซมโปะจะช่วยคุ้มครองในส่วนของชีวิต การสูญเสียอวัยวะ ไปจนถึงค่ารักษาพยาบาลไม่ว่าจะเจ็บมากเจ็บน้อยให้อีกด้วย

 

02 ความคุ้มครองเที่ยวบิน

 

 

ประกันเดินทางที่สำคัญมากๆ ก็คือเรื่องเที่ยวบิน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ไฟล์ทดีเลย์จะคุ้มครองกี่ชั่วโมง คุ้มครองจากสาเหตุอะไรบ้าง เราอยากให้เพื่อนๆ ทุกคนให้ความสำคัญตรงหัวข้อนี้ เพราะในกรณีเกิดเหตุขึ้นเเล้วจริงๆ เราอาจทำตัวไม่ถูก กว่าจะตั้งสติได้ บางทีอาจพลาดโอกาสทั้งเรื่องเคลม ทั้งเรื่องเวลา ทริปนี้อาจจะไม่ได้สนุกอย่างที่คาดหวังไว้ก็ได้ สามารถอ่านรายละเอียดที่นี่เติมได้ที่นี่ (https://kiji.life/sompo-insurance/)

 

03 ความคุ้มครองกระเป๋าเดินทาง

 

 

ขอแยกเป็น 2 หัวข้อใหญ่เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายๆ นอกจากเรื่องไฟล์ทดีเลย์แล้ว อีกเรื่องที่อาจเกิดขึ้นนั่นก็คือ กระเป๋าเดินทางดีเลย์ จะทำไงดีนะ!! ถ้ากระเป๋าเดินทางมาไม่ถึง ตัวเราอยู่ญี่ปุ่น แต่กระเป๋ายังอยู่ดอนเมือง/สุวรรณภูมิ แน่นอนว่าเสื้อผ้า ขนเป็ดเอย อุปกรณ์แต่งหน้าเอย อยู่ในนั้นทั้งหมด แต่ไม่ต้องห่วง ประกันเดินทางก็จะคุ้มครองในส่วนนี้ด้วยแต่ของซมโปะจะต้องดีเลย์ 6 ชั่วโมงและเพื่อนๆ ก็ต้องมีใบเสร็จค่าใช้จ่ายที่เราได้ซื้อของใช้ที่จำเป็นไปเพื่อใช่ในการเคลม อันนี้สำคัญมากๆเลย อีกหัวข้อนึง กระเป๋าสูญหาย ตรงนี้ประกันก็คุ้มครองเหมือนกัน (จะต้องเกิดจากความผิดพลาดของสายการบินหรือของบริษัทขนส่ง) แล้วก็ไม่ว่ากรณีใดก็ตามจะต้องมีเอกสารยืนยันความล่าช้า หรือยืนยันความเสียหายจากสายการบินด้วยนะ

 

04 ขอความช่วยเหลือได้ทางโทรศัพท์ 24 ชั่วโมง

 

 

ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ โจรขึ้นห้องพัก ฯลฯ ก็ไม่ต้องแพนิคถ้าซื้อประกันเดินทางของซมโปะ เพียงโทรฯไปเบอร์ +662-205-7775 เพื่อติดต่อ Sompo Assist ก็สามารถขอคำแนะนำจากคุณหมอและเจ้าหน้าที่ชาวไทย ไปจนถึงล่ามให้ช่วยติดต่อสื่อสารและประสานงานกับโรงพยาบาลในเครือให้ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้ไม่ต้องสำรองจ่ายให้ ยิ่งถ้าเราภาษาต่างประเทศไม่แข็งแรง นี่แหละคือตัวช่วยที่ดีที่สุด

 

05 ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล

 

 

เคยจินตนาการไหมว่าถ้าเราเกิดเจ็บป่วยแล้วต้องเข้ารับการรักษาที่ต่างประเทศจะต้องลำบากแค่ไหน ไม่ว่าจะตั้งแต่ขั้นตอนการเข้าโรงพยาบาลไปจนถึงตอนจ่ายเงินที่แทบจะต้องกุมขมับ ยิ่งเป็นญี่ปุ่นแล้ว การเข้าโรงพยาบาลไม่ได้เข้าได้ง่ายๆเหมือนบ้านเรานะ ยิ่งไปไปกว่านั้นคือเมื่อเราอยู่ในสถานะนักท่องเที่ยว ทั้งเรื่องการสื่อสาร บางโรงพยาบาลหรือคลินิกก็ไม่ได้มีคุณหมอหรือเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้เสมอไป แต่ถ้าเราซื้อประกันเดินทางดีๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มครองและการบริการอย่างของซมโปะ ก็จะช่วยให้ทริปนี้เที่ยวสบายหมดห่วง มาดูกันว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไร ขั้นตอนแรกก็ต้องมีสติ ต่อมาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าเบอร์ซมโปะได้เลย แอบบอกว่าอันนี้เป็นเบอร์ที่เมืองไทยนะ +662-205-7775 อย่าลืมเตรียมตัวเรื่องนี้ก่อนออกเดินทางด้วย วิธีโทรกลับเบอร์ที่ไทยก็แตกต่างกันออกไป เช่นถ้าเพื่อนๆ เช่า Pocket Wifi มาก็ต้องตั้งค่าการโทรก่อนออกเดินทางด้วย แต่ถ้าไม่สามารถโทรกลับมาได้แล้วละก็ สามารถใช้บริการโรงแรมได้เลย แล้วนำใบเสร็จกลับมาเบิกได้ในวงเงิน 1,000 บาทด้วย

 

06 ความคุ้มครองรถเช่า

 

 

หลายคนเวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็ชอบเช่ารถขับ เพราะสามารถขับไปไหนต่อได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะในกรณีที่ไปเมืองที่เดินทางลำบากหรือระบบขนส่งสาธารณะเข้าไม่ถึง ดังนั้นประกันเดินทางที่ดีก็ต้องครอบคลุมเรื่องรถเช่าด้วย อย่างของซมโปะนั้นจะพิเศษตรงที่มีการคุ้มครองความเสียหายส่วนแรก (Rental Vehicle Excess) ซึ่งหมายความว่าประกันเดินทางของซมโปะจะเข้ามาคุ้มครองค่าเสียหายส่วนแรกให้ เนื่องจากประกันจากรถจะไม่ได้คุ้มครองในส่วนนี้

 

07 ความคุ้มครองเด็ก

 

 

ความคุ้มครองของเด็ก ถ้าเป็นประกันของซมโปะ จะให้ความคุ้มครองกับเด็กตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ถ้าเพื่อนๆ มีเด็กในทริปด้วยยิ่งแนะนำให้ทำประกันเดินทางเลยนะ และที่สำคัญต้องรู้ว่าประกันเดินทางของเด็กกับประกันเดินทางของผู้ใหญ่มีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง อย่างของซมโปะจะแตกต่างกันที่วงเงินความคุ้มครอง วงเงินความคุ้มครองในเรื่องค่ารักษาพยาบาลของเด็กสูงสุดที่ 2 ล้าน แต่ของผู้ใหญ่สูงสุดถึง 3 ล้านเลยทีเดียว อะไรก็เกิดขึ้นได้ เราไม่อยากให้ทริปที่แพลนมาทั้งปีหมดสนุกเพราะความไม่พร้อม

 

08 อย่าลืมเตรียมเอกสารและหลักฐานให้พร้อม

 

 

เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เราต้องระลึกเสมอว่าเราต้องเก็บหลักฐานเพื่อนำไปใช้เบิกเงินเอาประกัน เช่นในกรณีที่กระเป๋าดีเลย์ อันดับแรกเราต้องไปขอหนังสือยืนยันการล่าช้าที่ออกให้โดยบริษัทผู้ขนส่ง และหากกระเป๋าล่าช้าเป็นวันๆ ก็ให้ไปซื้อของใช้ที่จำเป็นและเก็บใบเสร็จไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการรับค่าสินไหมภายหลัง

 

09 มีโรคประจำตัวคุ้มครองไหม?

 

 

โดยปกติแล้วประกันเดินทางจะไม่คุ้มครองโรคประจำตัวหรือค่ารักษาภาวะที่เป็นมาแต่กำเนิด (Congenital) โรคที่เป็นมาก่อนวันออกเดินทาง โรคที่เกี่ยวกับครรภ์ต่างๆ นั่นหมายความว่าถ้าเป็นโรคทั่วไปที่เกิดขึ้นหลังจากออกเดินทางก็จะได้รับการคุ้มครอง

 

10 ไปญี่ปุ่นทั้งที ใจนึงก็อยากเล่นสกี อีกใจนึงก็กลัว แบบนี้คุ้มครองไหม?

 

 

ถ้าเล่นสกีเพื่อความสนุกสนานแล้วเกิดอุบัติเหตุหรือได้รับบาดเจ็บจะสามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลได้ แต่ในกรณีที่เล่นสกีเพื่อการแข่งขันหรือการประกวดแล้วประสบเหตุใดๆ จะไม่อยู่ในข่ายของความคุ้มครอง เช่นเดียวกับกิจกรรมอื่นๆ

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ