Kesennuma : วันเดียวก็สนุกได้! ตามล่า Pokemon แอบส่องตลาดปลาและตะลุยกินอาหารทะเลสุดฟิน
สารบัญ
- 01 กินปลาดิบร้าน Kaneto Suisan
- 02 เดินสำรวจเสน่ห์เคเซ็นนุมะที่ Umi no Ichi
- 03 ตีสนิทพี่ฉลามที่ Shark Museum
- 04 ท้าทายความฟิตที่อควาเรียมที่ (น่าจะ) หนาวที่สุดในญี่ปุ่น Ice Aquarium
- 05 K-port คาเฟ่แสนดีที่รวมของอร่อยและความปรารถนาดีไว้ด้วยกัน
- 06 Pokemon – gotta catch ‘em all
- 07 ข้าวหน้าหูฉลามร้าน Shintomi Sushi
- การเดินทางไปเคเซ็นนุมะ (Kesennuma)
เมืองเคเซ็นนุมะ (Kesennuma) น่าจะเป็นเมืองที่ชาวไทยไม่คุ้นหูนัก นี่คือเมืองที่อยู่ติดริมฝั่งทะเลในจังหวัดมิยากิ (Miyagi) เป็นแหล่งประมงและแปรรูปอาหารทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เมืองนี้ได้รับความเสียหายหนักมากเมื่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในปี ค.ศ. 2011 ปัจจุบันถือว่าฟื้นฟูกลับมาค่อนข้างมาก มีหลายจุดที่ยกเครื่องใหม่เตรียมความสนุกและความอร่อยไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมายเลยล่ะ แต่ชาวเมืองและผู้ประกอบการต่างๆ ก็ยังต้องการการสนับสนุนและกำลังใจจากทุกคนอยู่นะ
เมืองนี้มีเสน่ห์มากมาย แต่วันนี้ขอแนะนำเคเซ็นนุมะในฐานะติ่งโปเกมอนที่นั่งรถไฟ POKÉMON with YOU Train มาถึงที่นี่ประมาณบ่ายโมง และมีเวลา 8 ชั่วโมงก่อนจะขึ้นรถกลับไปตัวเมือง
ไปไหนดี? มีอะไรอร่อยกินได้บ้าง? ตามไปดูกันเลย!
01 กินปลาดิบร้าน Kaneto Suisan
จริงๆ ก็กินเบนโตะปิกาจูบนรถไฟมาแล้ว แต่แหม มาถึงแหล่งทั้งทีต้องขอซัดปลาดิบสดๆ ต้อนรับ (ตัวเอง) สักหน่อย เราเรียกแท็กซี่จากสถานีไปที่ตลาดปลาซึ่งมีห้างเล็กๆ ชื่อ Umi no Ichi อยู่ติดกันเพื่อไปกินข้าวกลางวันที่ร้าน Kaneto Suisan
ร้านนี้มีข้าวหน้าปลาดิบให้เลือกหลากหลาย มากุโระ โอโทโร่ โฮตาเตะ แซลมอนอะไรมีหมดสามารถเลือกได้ตามใจ ที่สำคัญราคาไม่แพง เพราะร้านนี้เขาจับเอง ขายเอง ลดต้นทุนไปได้มากมาย เราจึงได้กินของสดอร่อยในราคามิตรภาพ ราคาเริ่มต้นแค่ 1,000 เยนเท่านั้น และไม่ได้มีแค่ของสดเท่านั้น ของทอดหรือเนื้อสัตว์อื่นๆ ก็มี อาหารในร้านเป็นเมนูโฮมเมดทำสดใหม่ในร้านทั้งหมด มั่นใจในคุณภาพได้เลย
เราลองชิมข้าวหน้าปลา Mekajiki ชื่อไม่คุ้นหู แต่เท็กเจอร์กรุบๆ ได้รสสัมผัสที่แปลกดี ใครเบื่อปลาดิบยอดนิยมน่าจะถูกใจร้านนี้ มีปลาที่ไม่เคยได้ยินชื่อมากมาย หรือจะสั่งแบบรวมหลายๆ ชนิดกันพลาดก็ได้จ้า
Info
Kaneto Suisan
Hours: พฤ.-อ. 11:00-14:00 น., 18:00-22:00 น.
Holiday: วันพุธ
Website: –
02 เดินสำรวจเสน่ห์เคเซ็นนุมะที่ Umi no Ichi
ศูนย์การค้าอุมิโนะอิจิ (Umi no Ichi) อยู่ติดกับตลาดปลาที่นักท่องเที่ยวสามารถไปยืนชมบรรยากาศการซื้อขายได้เลย แต่ต้องมาเช้าหน่อยนะ เพราะตลาดวายเร็วมาก สำหรับคนที่มาไม่ทัน (เหมือนเรา) ขอแนะนำให้มาสนุกกับของอร่อยและพิพิธภัณฑ์ใน Umi no Ichi นี้แทน เห็นตึกเล็กๆ มีแค่ 2 ชั้น อย่าได้ดูถูกไปเชียว ของดีแน่นๆ เลยจ้า สมกับที่เขาบอกว่าที่นี่เป็นศูนย์รวมเสน่ห์ของ Kesennuma ที่เราสามารถมาเรียนรู้ กินของอร่อยและช็อปปิ้งจบได้ในที่เดียว
ชั้น 1 เป็นศูนย์รวมร้านขายของดีจากเมืองนี้ มีทั้งของสด ของแห้ง และของฝาก ร้านที่เราแนะนำคือ Kani Monogatari แค่ชื่อก็รู้แล้วว่าของดังคืออะไร น้องปู (คานิ) ยังไงล่ะ!
ร้านนี้เชี่ยวชาญด้านปู Deep Sea Red Crab ซึ่งมีชื่อเล่นว่าปูมายา! เพราะว่าหายากเหลือเกิน จับได้น้อย ของที่มีเลยถือว่า Exclusive มาก ร้านนี้มีผลิตภัณฑ์ปูทุกรูปแบบรอให้เรามาเลือกช็อป มีของหลากหลายและแพ็กเกจน่ารักเวอร์ กินเองก็ดี เป็นของฝากก็ได้ น้ำหนักเบาๆ ขอแนะนำแกงกะหรี่ปู อร่อยเข้มข้น ราคาน่ารัก พกพาง่าย
ชั้น 2 มีศูนย์ให้ข้อมูลการท่องเที่ยว ร้านซูชิ ฮอลล์จัดอีเว้นท์และพิพิธภัณฑ์ปลาฉลาม
ชั้น 3 เป็นลานจอดรถและทางเชื่อมไปยังอาคารข้างๆ ที่เป็นตลาดปลา วันนี้พลาดมาตอนตลาดวาย แต่บนลานจอดรถเป็นจุดชมวิวทะเลและเมืองที่สวยและสงบมากเลยล่ะ ขอแนะนำเลยสำหรับคนชอบบรรยากาศชิลล์ๆ
Info
Umi no Ichi
Hours: พ.ค.-ก.ย. 8:00-18:00 น., ต.ค.-เม.ย. 8:00-17:00 น.
Holiday: ม.ค.-มิ.ย. วันหยุดไม่แน่นอน ต้องตรวจสอบทางเว็บไซต์, ก.ค.-ธ.ค. ไม่มีวันหยุด
Website: www.uminoichi.com
03 ตีสนิทพี่ฉลามที่ Shark Museum
ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ปลาฉลามหนึ่งเดียวในญี่ปุ่น
เพราะที่นี่จับปลาฉลามได้มากที่สุดในประเทศนั่นเอง
ฟังชื่อมิวเซียมอาจจะน่ากลัว แต่เขาจัดแสดงข้อมูลไว้อย่างน่ารักน่าศึกษา สิ่งที่จะได้เรียนรู้จากที่นี่ไม่ใช่แค่เรื่องฉลามในแง่มุมทั่วไป แต่รวมไปถึงท้องทะเลที่ฉลามอาศัยอยู่และความสัมพันธ์ของทั้งสอง นอกจากนี้ยังมีมุมนิทรรศการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวของเมืองนี้เมื่อประสบภัยครั้งใหญ่ด้วย แม้จะมีความเศร้าปนอยู่มาก แต่เราก็ได้เห็นความเข้มแข็งของชาวเมืองในการพยายามฟื้นฟูท้องถิ่นเช่นกัน
พื้นที่ไม่ใหญ่มากและจัดแสดงสวยงามตามสไตล์ชาวญี่ปุ่น ชวนมองและเข้าใจง่ายแถมไม่ต้องใช้เวลานาน ใครอยากทำความรู้จักปลาฉลามมากกว่านักล่าในหนังหรืออาหารบนโต๊ะจีน แนะนำเลย
Info
Shark Museum
Hours: พ.ค.-ก.ย. 9:00-18:00 น., ต.ค.-เม.ย. 9:00-17:00 น.
Holiday: ม.ค.-มิ.ย. วันหยุดไม่แน่นอน ต้องตรวจสอบทางเว็บไซต์, ก.ค.-ธ.ค. ไม่มีวันหยุด
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 200 เยน, เด็กอายุน้อยกว่าเด็กประถมเข้าฟรี (ถ้าซื้อเป็นเซ็ตคู่กับ Ice Aquarium ผู้ใหญ่ 900 เยน, เด็ก 400 เยน)
Website: www.uminoichi.com
04 ท้าทายความฟิตที่อควาเรียมที่ (น่าจะ) หนาวที่สุดในญี่ปุ่น Ice Aquarium
พิพิธภัณฑ์อีกอันที่น่าสนใจคือ พิพิธภัณฑ์สัตว์… น้ำแข็ง?
แค่ชื่อก็ชวนงงว่าจัดแสดงอะไรกันแน่ สัตว์น้ำและน้ำแข็ง หรือสัตว์น้ำรูปแบบน้ำแข็งแบบฮอกไกโดที่มีแกะสลักสวยๆ เราไม่ยืนงงนานรีบใส่เสื้อหนาวที่เขาจัดไว้ให้ยืมแล้วเข้าไปค้นหาคำตอบทันที
เฉลย พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแช่แข็งนั่นเอง
แม้พื้นที่จะไม่ใหญ่มาก แต่บรรยากาศที่ถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำแข็งและปลานานาชนิดที่ถูกแช่แข็งอยู่บนผนังนั้นเก๋ไก๋ชวนให้สนุกมาก ในแต่ละบล็อกจะมีชื่อและรายละเอียดเกี่ยวกับปลานั้นเขียนไว้นิดหน่อยพอให้ได้เรียนรู้แบบไวๆ (เพราะมันหนาวไงล่ะ) ความสนุกอีกอย่างคือ มีแสงสีเสียงสไตล์ทีมแล็บเบาๆ ด้วย เซอร์ไพรส์มาก
สรุปคือที่นี่ก็เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนจากเมืองร้อนอย่างพวกเรา
Info
Ice Aquarium
Hours: พ.ค.-ก.ย. 9:00-18:00 น., ต.ค.-เม.ย. 9:00-17:00 น.
Holiday: ม.ค.-มิ.ย. วันหยุดไม่แน่นอน ต้องตรวจสอบทางเว็บไซต์, ก.ค.-ธ.ค. ไม่มีวันหยุด
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 300 เยน, เด็กอายุน้อยกว่าเด็กประถมเข้าฟรี (ถ้าซื้อเป็นเซ็ตคู่กับ Ice Aquarium ผู้ใหญ่ 900 เยน, เด็ก 400 เยน)
Website: www.uminoichi.com/iceaquarium
05 K-port คาเฟ่แสนดีที่รวมของอร่อยและความปรารถนาดีไว้ด้วยกัน
K-port ไม่ใช่ชื่อท่าแต่เป็นคาเฟ่ของนักแสดงชื่อดัง Ken Watanabe
เขาสร้างที่นี่ขึ้นมาในปี ค.ศ. 2013 เพื่อช่วยฟื้นฟูเมือง ที่นี่ถือเป็นกิจการแรกๆ เลยที่มาเปิดหลังเมืองเริ่มฟื้นตัว เคนลงพื้นที่หลายครั้งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ และคลุกคลีกับคนในชุมชนอย่างใกล้ชิดเพื่อเสนอความช่วยเหลือต่างๆ จนได้ข้อสรุปว่า ชาวเมืองอยากได้ศูนย์รวมจิตใจ K-port จึงถือกำเนิดขึ้นมา
เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย นอกจากการขายอาหารและเครื่องดื่ม คาเฟ่แห่งนี้จึงจัดอีเว้นท์ต่างๆ ให้ผู้คนได้มารวมตัวทำอะไรสนุกๆ ร่วมกัน อาหารที่นี่อาจจะมีเมนูไม่มาก แต่ไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะเคนไหว้วานให้เพื่อนที่เป็นเชฟอาหารฝรั่งเศสมาช่วยคิดเมนูให้ นอกจากนี้ ชาวบ้านที่นี่ได้เจอเคนโดยบังเอิญที่ K-port บ่อยมากจนกลายเป็นอีกหนึ่งความสุขของชาวเมือง ที่สำคัญแม้เวลาจะผ่านไปนาน เคนยังสละเวลามาเขียนจดหมายด้วยลายมือและส่งแฟกซ์มาให้ที่คาเฟ่นี้เกือบทุกวันไม่ว่าเขาจะกำลังทำงานอยู่ที่ไหนบนโลกก็ตาม ภายในคาเฟ่มีจดหมายเหล่านั้นจากเคนให้อ่านด้วย
คาเฟ่ที่เต็มไปด้วยของอร่อยและความปรารถนาดีแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับท่าเรือ เยื้องๆ กับอาคาร Pier 7 พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองทุกคน น่าเสียดายที่เราไปเจอวันหยุดของคาเฟ่พอดี เลยได้แค่ขอแวะเข้าไปส่องด้านใน ใครชอบคาเฟ่หรืออยากมีส่วนช่วยสร้างรายได้ให้ชาวเมืองแวะมาอุดหนุนอาหารและสินค้าต่างๆ ได้เลย
Info
K-port
Hours: ศ.-พ. 9:00-17:00 น.
Holiday: วันพฤหัสบดี
Website: www.k-port-kesennuma.org
06 Pokemon – gotta catch ‘em all
อ่านมาตั้งนาน หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่า โปเกมอนอยู่ไหน ถึงคิวแนะนำน้องแล้วค่ะ
เริ่มจาก Lapras Ship เรือลำใหญ่ที่จอดอยู่หน้าศูนย์ส่งเสริมการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นที่มีชื่อว่า Pier 7 นี่คือเรือสำราญที่จะพาเราท่องไปยังท้องทะเลอันงดงามของมิยากิ นอกจากวิวสวยๆ เรายังสนุกไปกับการให้อาหารนก Umineko ที่บินไปมาอย่างร่าเริง
ต่อด้วยฝาท่อระบายน้ำ
อันนี้อาจจะหายากนิดหน่อย แต่ใบ้ให้ว่าอยู่แถวๆ Pier 7 นั่นแหละ เขาตั้งใจเลือกสีสันสดใสและรูป Lapras กับ Geodude โปเกมอนจากจังหวัดข้างๆ อย่างอิวาเตะรวมพลังกันเพื่อให้กำลังใจชาวเมืองโดยเฉพาะ (ถ้ายอมแพ้จะถามเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวก็ได้นะ)
สุดท้ายนี้อย่าลืมเล่น Stamp Rally เพื่อแลกของรางวัลที่ระลึกสุดน่ารักอย่างรถไฟกระดาษ วิธีการร่วมสนุกแสนง่าย แค่สะสมตราประทับ 2 ที่ขึ้นไปก็นำมายื่นแลกของรางวัลได้เลยตามจุดต่างๆ ทั่วเมือง ใบ Stamp Rally หาได้ง่ายดาย ทั้งสถานีรถไฟ ศูนย์ให้ข้อมูลการท่องเที่ยว หรือร้านค้าต่างๆ ที่ร่วมรายการInfo
Lapras Ship
Hours: เรือให้บริการ 4 รอบต่อวัน 10:00 น., 11:10 น., 13:20 น., 14:30 น.
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, เด็ก 750 เยน
Website: www.oshimakisen.com
Note: รายละเอียดเรื่องการจองและรอบเรือต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง ติดตามอัพเดทได้จากเว็บไซต์
07 ข้าวหน้าหูฉลามร้าน Shintomi Sushi
ก่อนจากกันในวันนี้ ปิดท้ายด้วยของดีเมนูเด่นของเคเซ็นนุมะอย่าง “ข้าวหน้าหูฉลาม” ที่ร้าน Shintomi Sushi ซึ่งเป็นร้านซูชิเก่าแก่ของเมืองที่เปิดมานานกว่า 40 ปี แต่โดนสึนามิสร้างความเสียหายให้ร้านต้นตำรับ จึงต้องย้ายโลเคชั่นใหม่มายังที่ปัจจุบัน แต่ความอร่อยยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเมนูใหม่
เมนูใหม่ที่ว่านั้นก็คือ ข้าวหน้าหูฉลามนี่ล่ะ เมนูนี้เกิดจาการคิดค้นร่วมกันในหมู่ร้านซูชิท้องถิ่นเพราะมีเสียงเรียกร้องจากลูกค้าที่อยากกินเมนูที่มีหูฉลามใหญ่ๆ ตอนแรกเหล่าร้านซูชิก็พยายามทำชิ้นเล็กๆ จะได้ไม่ต้องขายแพง แต่เมื่อลูกค้ายืนยันว่าราคาแรงก็สู้! จึงจบที่เมนูดงบุริที่ชิ้นใหญ่สะใจ
แต่ความดีงามของร้านนี้ไม่ได้อยู่ที่หูฉลามอย่างเดียวเท่านั้น ซูชิซาชิมิอื่นๆ ก็อร่อยสดใหม่คุณภาพแน่นๆ ตัวอย่างเมนูที่น่าสนใจได้แก่ ข้าวหน้าอุนิที่ราคาเพียง 3,500 เยน หรือซูชิโอมากาเสะที่ราคาเพียง 4,500 เยน อาหารอร่อย เชฟใจดีคุยสนุก ราคาสบายกระเป๋า แถมร้านสวยอีกต่างหาก ขอแนะนำจากใจ
Info
Shintomi Sushi
Hours: อ.-ส. 11:30-14:00 น. และ 17:00-21:00 น., อา. 11:30-14:00 น. และ 17:00-20:30 น.
Holiday: วันจันทร์ (กรณีที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะไม่หยุดและย้ายไปหยุดวันอังคารแทน)
Website: shintomisushi.com
เวลา 8 ชั่วโมงผ่านไปแสนไว ไว้เจอกันใหม่แบบชิลล์ๆ นะ Kesennuma
การเดินทางไปเคเซ็นนุมะ (Kesennuma)
จากเซนได: นั่งโทโฮคุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen) ไปลงที่สถานีอิชิโนเซกิ (Ichinoseki Station) ใช้เวลา 31 นาที จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งสายโอฟุนาโตะ (Ofunato Line) ไปลงที่สถานีเคเซ็นนุมะ (Kesennuma Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 21 นาที
หมายเหตุ: สามารถใช้บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku area) ได้