เชื่อว่าหลายคนน่าจะกำลังสนใจหรือเคยเห็นวิธีการรักษาโดยศาสตร์เฉพาะทางแบบนี้ผ่านตามาบ้าง แต่ว่าคงยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่รู้ว่าจะเจ็บไหมหรือจะดีจริงหรือเปล่า วันนี้ฟิล์มจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับศาสตร์นี้ให้มากขึ้น แล้วจะรู้ว่าไม่น่ากลัวแถมยังดีกว่าที่คิดอีกด้วยค่ะ

ตอนนี้ฟิล์มอยู่ที่เจแปนนีส ชินคิว คลินิก (Japanese Shinkyu Clinic) ซึ่งมีเจ้าของคลินิกเป็นชาวญี่ปุ่นสุดหล่อและทีมแพทย์ชาวไทยคอยให้คำปรึกษาเรื่องการรักษาโรคแบบแพทย์แผนจีนผสมผสานกับการรักษาสไตล์ญี่ปุ่นที่ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่ในส่วนของการรักษานั้นเป็นทีมแพทย์ชาวไทย โดยในวันนี้เราจะมา ‘ฝังเข็ม+ครอบแก้ว’ กันค่ะ

เอาละๆ จะขอเล่าตั้งแต่แรกก้าวเท้าเข้าคลินิกเลยนะคะ เมื่อไปถึงปุ๊บ คุณหมอก็นำเอกสารมาให้กรอกประวัติส่วนตัวพร้อมสอบถามอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น และเช็กร่างกายหาสาเหตุของอาการ ปัญหาของฟิล์มคือขาไม่เท่ากัน ขาขวาเหลื่อมออกมาด้านหน้ามากกว่า สาเหตุมาจากชอบนั่งไขว่ห้างค่ะ

 

 

“โอ้ มาย ก้อด! จะเป็นอะไรมากไหม จะหายไหมคะหมอ” คุณหมอต้องรีบเรียกสติและบอกว่าเป็นเรื่องปกติ รักษาให้หายได้ แต่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเท่านั้นเอง  เฮ้อ…โล่งอก!

หลังคุณหมอให้คำปรึกษาเสร็จเรียบร้อย ฟิล์มก็ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมขึ้นเขียง เอ้ย! ขึ้นเตียง (หัวเราะ) คุณหมอจะเริ่มจากการฝังเข็มก่อน การฝังเข็มนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดไมเกรน โรคที่เกี่ยวกับเส้นประสาท และช่วยเรื่องความสวยความงามได้อีกด้วย ซึ่งระหว่างฝังเข็มจะมีเครื่องอบความร้อนมาครอบตัวเราไว้ด้วยเพื่อช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น…ธรรมดาซะที่ไหน ที่อื่นไม่มีแบบนี้นะ คอร์สฝังเข็มนี้ใช้เวลาทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 20 นาทีเท่านั้นค่ะ

 

 

ฝังเข็มเสร็จก็มาต่อกันด้วยคอร์สครอบแก้วกันเลยนะคะ ประโยชน์ของการครอบแก้วคือช่วยดูดสารพิษออกจากร่างกาย เลือดเสียที่คั่งบนผิวหนังจะสลายออกไปเองตามกลไกของร่างกาย คุณหมอยังบอกอีกว่าบนผิวหนังนั้นถ้าบริเวณไหนมีสีเข้มมากกว่าปกติ ส่วนนั้นคือบริเวณที่เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี เช่น ถ้ามีสีเข้มมากบริเวณสะบักขวา ก็อาจเกิดจากการใช้แขนขวามากเกินไป แก้ไขอาการเบื้องต้นได้ด้วยการยืดเส้นยืดสายในส่วนนั้นบ่อยๆ ในระหว่างวัน เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด แล้วอาการก็จะบรรเทาลง

เกริ่นสรรพคุณกันไปแล้ว มาเล่าถึงขั้นตอนการครอบแก้วกันต่อเลยดีกว่าค่ะ คุณหมอยังให้ฟิล์มนอนคว่ำหน้า ค้างไว้ในท่าเดิมเหมือนตอนฝังเข็ม โดยจะเริ่มจากการเดินแก้วก่อนการเดินแก้วคือการวอร์มกล้ามเนื้อโดยใช้แก้วดูดไล่ไปตามแผ่นหลังประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นจึงจะครอบแก้วค้างไว้อีกประมาณ 5 นาที ระหว่างที่คุณหมอกำลังทำการครอบแก้ว เราจะรู้สึกได้ถึงเลือดที่วิ่งไปตามจุดต่างๆ ที่มีแก้วครอบไว้ อาจจะรู้สึกเจ็บนิดๆ คันหน่อยๆ แต่เพียงแค่อึดใจเดียว เราจะรู้สึกถึงความสบายเข้ามาแทนที่ โดยเฉพาะจุดไหนที่กล้ามเนื้อมีความตึงมากกว่าปกติ การครอบแก้วจะช่วยกระตุ้นให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกสบายกล้ามเนื้อส่วนนั้นมากเลย หลังนำแก้วออก “หลังลาย! นานไหมกว่าจะหาย จะเป็นแผลเป็นหรือเปล่า!” เดี๋ยวค่ะ ใจเย็นๆ ฟิล์มเชื่อว่าหลายคนจะต้องรัวคำถามนี้ใส่คุณหมอ คำตอบคือ จะหายภายใน 2-3 วัน ในส่วนบริเวณที่มีสีเข้มหน่อยจะหายภายใน 1 สัปดาห์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย ไม่ได้น่ากลัวตามภาพที่เห็นเลยค่ะ

 

 

สุดท้ายนี้ ก่อนกลับคุณหมอยังให้คำปรึกษาเพิ่มเติม เพราะตามที่ได้บอกเพื่อนๆ ไปก่อนหน้านี้ว่าฟิล์มมีปัญหาเรื่องขาไม่เท่ากัน คุณหมอจึงแนะนำท่าออกกำลังกายง่ายๆ ที่ทำได้เองที่บ้าน เพื่อช่วยปรับสรีระให้กลับมาเป็นปกติ

สุดท้าย ท้ายสุด อยากบอกว่าการรักษาด้วยวิธีนี้ทำให้อาการปวดเมื่อยทุเลาลงได้จริงทันทีหลังการรักษาและไม่เจ็บอย่างที่คิดไว้ด้วยค่ะ สุขภาพดีขึ้นโดยวิธีธรรมชาติแบบนี้ก็ดีนะ สัญญาเลยว่าจะกลับไปรักษาอย่างต่อเนื่องแน่นอน เพราะทำแล้วดีแบบนี้ จึงอยากแนะนำเพื่อนๆ ที่มีปัญหาด้านสุขภาพได้ลองมาเข้าคอร์สแบบฟิล์มดูบ้าง ราคาก็ไม่แพง อย่างคอร์สที่ฟิล์มทำนี้ เพียง 2,200 บาท/ครั้งเท่านั้นเอง ลองแล้วจะติดใจ เชื่อสิ!

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ