Hotel with Ocean Views in Shikoku : 10 โรงแรมบนเกาะชิโกกุ พร้อมวิวทะเลสวย

10 โรงแรม บน เกาะชิโกกุ ที่มองเห็นวิวทะเลสวย

เกาะชิโกกุ เป็น 1 ใน 4 เกาะใหญ่ของญี่ปุ่นที่โอบล้อมไปด้วยทะเล เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งทะเลรอบเกาะชิโกกุนั้นต้องบอกเลยว่าสวยงามไม่แพ้ทะเลไหนๆ เลย บนเกาะชิโกกุเองก็มีหลาย โรงแรม ที่มาพร้อมกับวิวทะเลเต็มตาให้สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติบนเกาะและความงดงามของทะเลไปได้พร้อมๆ กัน สายธรรมชาติคนไหนกำลังวางแผนไปเที่ยว เกาะชิโกกุ แล้วอยากนอนค้างในที่พักดีๆ วันนี้เรามัดรวมเอา 10 โรงแรม วิวทะเลสวยใน เกาะชิโกกุ มาเตรียมไว้ให้แล้ว เก็บข้อมูลแล้วออกไปสัมผัสความสวยงามของทะเลไปด้วยกันได้เลย

ภาพ: www.villa-santorini.com

คางาวะ

01 JR Hotel Clement Takamatsu

ภาพ: Instagram hijapan_co_ltd

มาเริ่มกันที่จังหวัดคางาวะ กับ JR Hotel Clement Takamatsu โรงแรมแห่งนี้มีลักษณะภายนอกเป็นตึกสูง ตั้งอยู่ติดกับท่าเรือทาคามัตสึ (Takamatsu Port) จึงสามารถชมทิวทัศน์ของทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) และเมืองทาคามัตสึ (Takamatsu) ได้อย่างชัดเจน โดยจุดเด่นของโรงแรมนี้คือดูหรูหราแต่กลับราคาไม่แพง เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่กำลังมองหาที่พักสวยๆ ในจังหวัดคางาวะ

แน่นอนว่าห้องพักเองก็ดูหรูหราไม่แพ้ภายนอกเช่นกัน ไฟภายในห้องจะเป็นไฟโทนสีส้ม ไม่สว่างจ้าจนเกินไป ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย โดยห้องนี้เป็นห้องสำหรับเข้าพักได้ 1-2 คน เตียงในห้องจะเป็นเตียงคิงไซส์ สัมผัสนุ่มนอนสบาย หน้าต่างเองก็เป็นหน้าต่างบานกว้าง เหมาะกับการตื่นมานั่งชมดวงอาทิตย์ขึ้นยามเช้าพร้อมจิบชาสบายๆ ริมหน้าต่างมาก

สำหรับห้องเตียงคู่จะออกแบบให้มีโทนสีค่อนข้างสว่าง สบายตา เบาะและหมอนบนเตียงก็นำเข้าจาก airweave บริษัทผลิตเครื่องนอนคุณภาพดีของญี่ปุ่น นุ่มและสบายแบบนี้ไม่ว่าใครก็หลับเต็มอิ่มอย่างแน่นอน ทิวทัศน์ด้านนอกเองก็สวยงาม เมื่อมองออกไปจะเห็นภาพของเมืองทาคามัตสึ (Takamatsu) อยู่ตรงหน้า และทะเลเซโตะในจะอยู่ทางด้านขวาของเมือง 

ภาพ: dining.jtb.co.jp

ในด้านของร้านอาหาร ในโรงแรมนี้มีหลายร้านเปิดให้บริการ แต่หนึ่งในนั้นก็ต้องขอหยิบเอา ฟีโอเล่ ร้านอาหารสุดโรแมนติกมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน ร้านนี้รอบข้างจะเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้มองเห็นวิวด้านนอกได้อย่างชัดเจน พลบค่ำก็จะปรากฏภาพของดวงอาทิตย์สีแดงกำลังจมลงสู่ท้องทะเล เป็นทิวทัศน์แสนโรแมนติกที่พลาดไม่ได้จริงๆ อาหารเองก็ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีจากทะเลเซโตะใน รับรองว่ารสชาติอร่อยจนต้องตกใจแน่นอน

นอกจากร้านอาหารแสนหรูหราแล้ว ในโรงแรมก็ยังมีร้านเบเกอรี่น่ารักๆ อีกด้วย ในร้านจะขายทั้งขนมปัง เค้ก และช็อกโกแลต ทำขึ้นพิเศษโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านขนมและเค้กของโรงแรม รสชาติก็จะมีหลายแบบให้เลือกตามชอบ จะซื้อแล้วกินทันทีหรือจะซื้อกลับไปเป็นของฝากก็ได้

02 Yunagi no Yu Hotel Hanajukai

มาต่อกันที่ Hanajukai โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสวนสาธารณะมิเนยามะ (Mineyama Park) ในเมืองทาคามัตสึ (Takamatsu) ซึ่งรอบตัวโรงแรมจะถูกประดับไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสีเขียว จนทำให้โรงแรมแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า โรงแรมดอกไม้ เลยทีเดียว บริเวณโดยรอบก็มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย เช่น สวนริทสึริน (Ritsurin Park) ศาลเจ้าโคโตฮิระกู (Kotohira-gu Shrine) เป็นต้น

ห้องพักแบบแรกที่จะขอหยิบมาแนะนำคือ ห้องทะเลเซโตะในพรีเมียร์สวีท เป็นห้องแบบกึ่งญี่ปุ่นกึ่งตะวันตก มีขนาดกว้างมากถึง 124 ตารางเมตร ห้องนี้ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึก เป็นห้องที่มองเห็นทิวทัศน์รอบด้านไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ของทะเลเซโตะใน เขตยาชิมะ (Yashima) หรือเมืองทาคามัตสึ ห้องอาบน้ำเองก็มีหน้าต่างบานใหญ่ไว้ชมวิวสวยๆ ระหว่างแช่น้ำ เป็นห้องที่หรูหราและงดงาม น่าเข้าพักมาก

ต่อมาได้แก่ ห้องแบบญี่ปุ่นพร้อมอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง เป็นห้องกว้างขนาด 12 เสื่อทาทามิ (ประมาณ 19.4 ตารางเมตร) อ่างอาบน้ำจะเป็นอ่างแบบหินให้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่น น้ำสำหรับแช่ก็จะเป็นน้ำจากบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ภายในห้องเองก็สวยงาม มีการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่นตั้งประดับไว้ เรียกได้ว่าเป็นห้องที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นญี่ปุ่นจริงๆ

สำหรับร้านอาหารต้องขอแนะนำ อีโยริฮิโกะ (Iiyorihiko) ร้านอาหารสุดหรูที่ล้อมรอบไปด้วยวิวยามค่ำคืนอันสวยงามของเมืองทาคามัตสึ ซึ่งชื่อร้าน อีโยริฮิโกะ นี้ก็เป็นอีกอย่างที่น่าสนใจ เพราะจริงๆ แล้วมาจากชื่อเทพเจ้าแห่งอาหารองค์หนึ่งของญี่ปุ่น ว่ากันว่าสถิตอยู่ในจังหวัดคางาวะมาตั้งแต่โบราณ โดยร้านนี้เคารพในเทพองค์นั้น เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นในจังหวัดคางาวะเป็นหลัก แล้วนำมาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นอาหารรสอร่อยที่สะอาดและได้คุณภาพ

อีกจุดหนึ่งที่ห้ามพลาดก็คือดาดฟ้า เพราะดาดฟ้าของ โรงแรม แห่งนี้ถูกรับเลือกให้เป็น 1 ใน 88 ทิวทัศน์อันงดงามของ เกาะชิโกกุ เลยทีเดียว จึงสามารถเพลิดเพลินกับความสวยงามของเมืองและทะเลเซโตะในได้อย่างทั่วถึง หากใครมีโอกาสได้มาเยือนที่โรงแรม Hanajukai ก็อย่าลืมมาดื่มด่ำกับบรรยากาศสวยๆ บนดาดฟ้าแห่งนี้กันด้วยล่ะ

03 Quapark Tsuda

ภาพ: www.tour.ne.jp

ถัดมาที่ Quapark Tsuda โรงแรมริมทะเลที่ตั้งอยู่ในเมืองซานุกิ (Sanuki) จังหวัดคางาวะ เป็นโรงแรมที่ไม่เพียงแค่วิวทะเลสวยเท่านั้นแต่เรียกได้ว่าติดกับทะเลชนิดที่ว่าอีกไม่กี่เมตรก็ลงทะเลแล้ว จากหน้าต่างห้องพักมองเห็นทะเลได้ทุกห้อง เป็นโรงแรมที่เหมาะจะเข้าพักทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะมากับเพื่อน แฟน หรือครอบครัวก็ผ่อนคลายและสนุกกันได้อย่างเต็มที่แน่นอน

ภาพ: www.agoda.comภาพ: www.jalan.net

ห้องพักแบบแรกได้แก่ ห้องพักแบบญี่ปุ่น ห้องนี้จะมีความกว้างขนาด 8 เสื่อทาทามิ (ประมาณ 12.96 ตารางเมตร) ขนาดกำลังดีและเป็นห้องที่แสงอาทิตย์สาดส่องถึง อบอวลไปด้วยบรรยากาศสบายๆ ให้ความรู้สึกราวกับเวลาในห้องนั้นไหลช้าลง เมื่อมองออกไปด้านนอกก็จะเห็นทะเลและภูเขาที่อยู่ไกลออกไป เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การนั่งชมวิวเป็นอย่างมาก

ภาพ: www.jalan.netภาพ: www.tour.ne.jp

ห้องพักอีกแบบคือ ห้องพักแบบตะวันตก เป็นห้องที่มีความเรียบง่าย ดูสะอาดสวยงาม มีเตียงคู่ 2 เตียงจัดไว้บริการ แต่หากมากัน 3 คนก็สามารถขอเพิ่มเตียงเสริมได้ โดยห้องนี้ก็จะมีมุมนั่งเล่นสบายๆ ริมหน้าต่างไว้พูดคุยกับเพื่อนหรือดื่มด่ำกับบรรยากาศคนเดียวชิลล์ๆ นอกหน้าต่างก็จะเป็นภาพทิวทัศน์แสนงดงามของทะเลเซโตะในให้เราได้เพลิดเพลินกัน

ภาพ: www.agoda.com

ห้องอาหารในโรงแรมชื่อว่า Aqua Bell เป็นร้านที่มาพร้อมกับวิวทะเลเซโตะใน ภายในร้านจะออกแบบโดยเน้นใช้สีฟ้าและสีขาว มีอาหารหลากหลายประเภทให้เลือก ตั้งแต่เซ็ตอาหารหรูสำหรับงานเลี้ยง ไปจนถึงอาหารที่กินง่ายๆ สบายๆ อย่างซานุกิอุด้ง (Sanuki Udon) นอกจากนี้สำหรับมื้อเช้าก็มีอาหารญี่ปุ่นและเซ็ตอาหารเช้าสำหรับเด็กพร้อมให้บริการอีกด้วย

ภาพ: www.tour.ne.jp

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว โรงแรมแห่งนี้ก็ยังมีสระว่ายน้ำในร่มอีกด้วย ซึ่งสระว่ายน้ำแห่งนี้จะตั้งอยู่อีกอาคารหนึ่ง เป็นสระที่กว้างขวาง ปลอดโปร่ง มองเห็นทิวทัศน์ด้านนอก สามารถชวนเพื่อนๆ และครอบครัวมาสนุกด้วยกันได้ที่นี่เลย

โทคุชิมะ

04 Hotel RIVIERA SHISHIKUI

ภาพ: travel.yahoo.co.jp

ย้ายมาต่อกันที่จังหวัดโทคุชิมะกับ Hotel RIVIERA SHISHIKUI โรงแรมทางตอนใต้ของจังหวัดโทคุชิมะ โดยโรงแรมแห่งนี้จะอยู่ช่วงก่อนถึงจังหวัดโคจิพอดี รอบข้างจะโอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันสวยงามของมหาสมุทรแปซิฟิก มาพร้อมอาหารทะเลสดอร่อยและทิวทัศน์บนห้องพักสุดงดงาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จะช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าให้แก่แขกผู้เข้าพักได้อย่างเต็มที่

ภาพ: travel.yahoo.co.jp

ห้องพักแต่ละห้องก็จะเป็นห้องพักที่มองเห็นวิวทะเล มีระเบียงยื่นออกเล็กน้อยให้เราได้ออกไปสัมผัสถึงลมทะเลเย็นๆ และได้ชมทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของมหาสมุทร บางฤดูกาลก็จะได้เห็นภาพของดวงอาทิตย์ยามเช้าที่กำลังขึ้นจากน้ำทะเลอีกด้วย และนอกจากทิวทัศน์ภายนอกแล้วภายในห้องเองก็สวยงามไม้แพ้กัน มีโซฟาใกล้หน้าต่างไว้ใช้เป็นมุมนั่งเล่น คุยกับเพื่อนและฟังเสียงคลื่นสบายๆ ได้

ภาพ: travel.yahoo.co.jp

นอกจากห้องพักแบบตะวันตกแล้ว ก็ยังมีห้องแบบกึ่งญี่ปุ่นกึ่งตะวันตกอีกด้วย ห้องนี้จะตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของตึก ประกอบไปด้วยเตียงคู่และห้องเสื่อทาทามิที่มีความกว้างขนาด 64 ตารางเมตร มาพร้อมห้องอาบน้ำและห้องน้ำแบบแยกกัน ภายในห้องเสื่อทาทามิก็จะมีเก้าอี้เตรียมไว้ให้ 4 ตัว พร้อมโทรทัศน์หนึ่งเครื่อง เป็นห้องที่มีบรรยากาศสบายๆ ถูกใจคนรักญี่ปุ่นแน่นอน

ภาพ: ameblo.jp

สำหรับห้องอาหารในโรงแรมจะมีหน้าต่างบานใหญ่ติดไว้รอบห้อง ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง และแน่นอนว่าสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของมหาสมุทรแปซิฟิกได้ในขณะรับประทานอาหาร ซึ่งอาหารของที่นี่ก็จะเป็นอาหารทะเลสดอร่อยส่งตรงจากท่าเรือประมงชิชิกุย และนอกจากอาหารทะเลแล้วก็จะมีอาวะโอโดริ (Awaodori) เนื้อไก่คุณภาพดีที่มีชื่อเสียงในจังหวัดโทคุชิมะจัดเสิร์ฟร้อนๆ อีกด้วย

ภาพ: travel.yahoo.co.jp

ที่อยากยกมาแนะนำอีกอย่างหนึ่งก็คือห้องน้ำในโรงแรมที่เรียกว่า ฮิโนกิบุโระ หรือก็คือห้องน้ำที่ทำมาจากไม้สนฮิโนกินั่นเอง ซึ่งห้องน้ำประเภทนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามาก เพราะในไม้สนจะมีส่วนประกอบของไฟทอนไซต์ (Phytoncide) ซึ่งเป็นสารเคมีจากพืชอยู่ มีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิต จัดสมดุลการเต้นของชีพจร และทำให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย เรียกว่าสารพัดประโยชน์สุดๆ ห้ามพลาดเลยหากได้มาที่โรงแรมแห่งนี้

05 Fureai no Yado Yu-yu Nasa

ภาพ: travel.yahoo.co.jp

อีกโรงแรมในจังหวัดโทคุชิมะที่อยากแนะนำคือ Yu-yu Nasa เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติและต้นไม้ใบหญ้าหลากชนิด หากกวาดสายตาไปด้านล่างก็จะพบกับทิวทัศน์ของมหาสมุทรแปซิฟิกและอ่าวนาสะ (Nasa Bay) แผ่กว้างอยู่ พอตกเย็นก็จะได้สัมผัสกับความงดงามของมหาสมุทรใต้ดวงดาว เป็นสถานที่ที่ไม่ว่าจะเช้าหรือเย็นก็สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ

ภาพ: uu-nasa.co.jp

ห้องพักของที่นี่จะออกโทนสีอบอุ่นทุกห้อง โดยห้องพักแบบแรกจะเป็นห้องสไตล์ยุโรป มีความกว้าง 25 ตารางเมตร สามารถเข้าพักได้สูงสุด 3 คน โดยเตียงที่ 3 จะเป็นเตียงเสริม ในห้องจะประกอบไปด้วยห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ โทรทัศน์ และเก้าอี้สำหรับสองคนบริเวณริมหน้าต่าง นอกจากนี้ยังมีระเบียงเล็กๆ ให้เราเปิดออกไปชมวิวสวยๆ ข้างนอกอีกด้วย

ภาพ: uu-nasa.co.jp

ต่อมาได้แก่ห้องพักแบบญี่ปุ่น ความกว้าง 10 เสื่อทาทามิ (ประมาณ 18 ตารางเมตร) ห้องน้ำและห้องอาบน้ำเป็นแบบแยกกัน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ ตู้เซฟ กาต้มน้ำ และตู้เย็น นอกจากนั้นยังมีชาแบบซอง พร้อมขนมญี่ปุ่นที่เอาไว้กินคู่กับน้ำชาจัดเอาไว้ให้อีกด้วย สามารถนั่งดื่มชาสบายๆ สัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่นในห้องได้อย่างเต็มที่

ภาพ: Instagram sakanashishikui

ที่ไม่ควรพลาดเลยก็ต้องออนเซ็น ซึ่งออนเซ็นของโรงแรมแห่งนี้เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ นอกจากจะดีต่อผิวแล้ว ยังช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่ติดกับบ่อออนเซ็น ระหว่างแช่น้ำร้อนก็สามารถทอดสายตาชมวิวสวยๆ ของมหาสมุทรแปซิฟิกด้านนอกได้

ภาพ: uu-nasa.co.jp

นอกจากที่ได้กล่าวไปแล้ว อีกจุดน่าเช็คอินในโรงแรมก็คือร้านขายของที่ระลึกและของฝาก ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นในท้องถิ่นจากแขวงไคฟุ (Kaifu) และของฝากจากจังหวัดโทคุชิมะ ร้านจะเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม หากใครกำลังมองหาของที่ระลึกก็สามารถเข้ามาซื้อได้ที่นี่เลย โดยของฝากที่แนะนำได้แก่ ขนมอุยโร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของโทคุชิมะ และผลิตภัณฑ์จากไก่อาวะโอโดริ

เอฮิเมะ

06 Kyukamura Setouchi-Toyo

ภาพ: Facebook 瀬戸内東予休暇村

ถัดมาถึงคิวของที่พักในจังหวัดเอฮิเมะกับ Kyukamura Setouchi-Toyo โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่สูงใกล้ชายฝั่งทะเล จากตัวโรงแรมจะมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) และภูเขาอิชิซึจิ (Mt. Ishizuchi) เป็นทิวทัศน์ที่งดงาม สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งภูเขาและทะเลในเวลาเดียวกัน ซึ่งบรรยากาศของภูเขาอิชิซึจิก็แตกต่างกันไปตามแต่ละฤดู สามารถชมได้ตลอดทั้งปี

ภาพ: Facebook 瀬戸内東予休暇村 ภาพ: Facebook 瀬戸内東予休暇村

ห้องพักทุกห้องของที่นี่เป็นห้องที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ทั้งหมด โดยห้องแบบแรกที่ยกมาแนะนำคือห้องแบบกึ่งญี่ปุ่นและกึ่งตะวันตก เป็นห้องที่ใช้ไม้ในการสร้าง ทำให้มองเห็นเป็นลายไม้สวยงาม และโดยรวมห้องจะมีโทนสีที่ค่อนข้างสว่าง แต่ก็มีการแต่งแต้มสีสันของสีส้มและสีฟ้าเข้าไปเล็กน้อยให้ดูน่ารักขึ้นด้วย

ภาพ: Facebook 瀬戸内東予休暇村

ห้องต่อมาคือห้องแบบญี่ปุ่น กว้างขนาด 10 เสื่อทาทามิ (ประมาณ 18 ตารางเมตร) เป็นอีกหนึ่งห้องที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีความกว้างกำลังดี สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลเซโตะในด้านนอกได้อย่างชัดเจน ซึ่งทิวทัศน์ด้านนอกก็จะเปลี่ยนไปมาตามช่วงเวลา สามารถนั่งริมหน้าต่าง ชมความงดงามนั้นไปพร้อม กันกับเพื่อนหรือครอบครัวได้

ภาพ: Facebook 瀬戸内東予休暇村

ห้องอาหารก็เป็นห้องที่เต็มไปด้วยหน้าต่างบานใหญ่ ให้บรรยากาศโล่งสบาย สามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกระหว่างรับประทานอาหารได้ ในส่วนของอาหารเช้า จะมีเสิร์ฟขนมปังอบใหม่ๆ อาหารเย็นจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ และอาหารกลางวันจะเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ ตามแต่ละวัน ให้เราได้ลิ้มรสความอร่อยแบบไม่ซ้ำกัน

ภาพ: Facebook 瀬戸内東予休暇村

และทางที่พักยังมีกิจกรรมตกแต่งเครื่องปั้นดินเผาโทเบยากิ (Tobe-yaki) อีกด้วย ซึ่งเครื่องปั้นดินเผาโทเบยากินี้เป็นของขึ้นชื่อในจังหวัดเอฮิเมะ เราสามารถวาดรูปหรือเขียนตัวหนังสือต่างๆ ลงบนเครื่องปั้นดินเผานี้เพื่อเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกได้ โดยกิจกรรมนี้จะจัดตั้งแต่ 2 ทุ่มเป็นต้นไป ที่ชั้น 2 ของโรงแรม ค่าเข้าร่วมทั้งหมด 2,300 เยน

อ่านบทความเกี่ยวกับ Kyukamura Setouchi-Toyo ได้ที่นี่

07 okcs Retreat Setouchi Aonagi

ภาพ: www.hoteresonline.com

เปลี่ยนบรรยากาศมาสัมผัสความลอฟต์กันที่ okcs Retreat Setouchi Aonagi โรงแรมนี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “Minimal Luxury สัมผัสความเงียบของเสียงคลื่น” สร้างขึ้นโดย อันโด ทาดาโอะ (Tadao Ando) สถาปนิกเลื่องชื่อผู้สร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะชิชู (Chichu Art Museum) และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอันโด (Ando Museum) บนเกาะนาโอชิมะ (Naoshima) ขึ้น โดยครั้งนี้อันโด ทาดาโอะได้นำเอาพิพิธภัณฑ์ศิลปะเก่ามาออกแบบใหม่ สร้างใหม่ให้งดงาม จนในที่สุดโรงแรมพร้อมวิวทะเลที่เปี่ยมไปด้วยผลงานศิลปะแห่งนี้ก็ถือกำเนิดขึ้น

ห้องพักแบบแรก ได้แก่ THE AONAGI Suite เป็นห้องใหญ่ที่ค่อนข้างกว้าง พร้อมทั้งยังมีหน้าต่างบานสูงติดเอาไว้ให้ผู้เข้าพักได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ด้านนอกได้อย่างเต็มที่ โดยห้องนี้ถือเป็น Signature Room ของทางโรงแรมเลยทีเดียว ด้านนอกก็จะเป็นทิวทัศน์ของป่าเขาและเกาะต่างๆ มากมายในทะเลเซโตะใน แม้จะอยู่ห่างจากทะเลค่อนข้างมาก แต่ก็ยังเห็นความสวยงามชัดเจน เรียบง่ายและเงียบสงบแบบนี้สามารถผ่อนคลายได้เต็มที่แน่นอน

ห้องพักอีกแบบหนึ่งได้แก่ ห้องสวีทพร้อมออนเซ็นแบบกึ่งกลางแจ้ง ภายในจะถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ห้อง สามารถเข้าพักได้สูงสุด 4 คน มาพร้อมออนเซ็นในร่มที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบด้านได้ โดยบ่อออนเซ็นก็จะเป็นบ่อที่มีความยาวกำลังพอดีสำหรับการนอนแช่น้ำ ใครที่ชอบออนเซ็น อยากแช่ออนเซ็นส่วนตัวสบายๆ ต้องขอแนะนำห้องนี้เลย

โซนรับประทานอาหารเองก็ดูหรูหราแบบเรียบง่าย บนกำแพงจะมีภาพวาดสไตล์มินิมอลอาร์ต (Minimal Art) ขนาดใหญ่ของแฟรงก์ สเตลลา (Frank Stella) จิตรกรชื่อดังชาวอเมริกันประดับเอาไว้เพิ่มความงดงาม และในส่วนของอาหารก็ใช้วัตถุดิบจากจังหวัดเอฮิเมะและวัตถุดิบจากทะเลเซโตะใน นำมาสร้างสรรค์เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบพิเศษที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนให้เราได้ลิ้มลองกัน

อีกจุดหนึ่งที่อยากแนะนำก็คือ สวนมอส ผลงานของ โอโนะ ยูตากะ (Yutaka Ono) นักจัดสวนชาวญี่ปุ่นชื่อดังมากประสบการณ์ โดยผลงานนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าสนใจ มีทั้งความเรียบง่ายและความงดงามอยู่ในตัว ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของทางโรงแรมเป็นอย่างมาก ถือเป็นจุดถ่ายรูปอีกจุดหนึ่งที่คนรักศิลปะห้ามพลาด

โคจิ

08 Villa Santorini

ภาพ: shinjokun.com

ย้ายมาที่จังหวัดโคจิกับ Villa Santorini โรงแรมรีสอร์ทที่สร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากซันโตรีนี (Santorini) เกาะรูปจันทร์เสี้ยวในทะเลอีเจียนตอนใต้ ประเทศกรีซ เกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกเนื่องจากมีทิวทัศน์ที่สวยงาม บ้านเมืองสีฟ้าขาวบนเกาะเรียงรายกันตามชั้นเนินเขา ทางโรงแรมก็ได้นำเอาความงดงามนั้นมาใช้เป็นคอนเซ็ปต์ สร้างที่พักบรรยากาศดีที่ผู้มาเยือนทุกคนจะต้องตกตะลึง

ภาพ: reserve.489ban.net

ห้องพักแบบแรกได้แก่ Santorini Twin เป็นห้องพักที่ออกแบบมาให้คล้ายกับห้องของกัปตันเรือที่ตั้งอยู่บนเนินเขาของเกาะซันโตรีนี ห้องนี้เป็นห้องเตียงคู่ ความกว้างของห้องทั้งหมด 76 ตารางเมตร มาพร้อมอ่างอาบน้ำในห้อง และถัดจากโซนอ่างอาบน้ำจะมีประตูกระจกบานใหญ่ เราสามารถเปิดออกไปเพื่อชมทิวทัศน์ด้านนอกได้

ภาพ: reserve.489ban.net

ห้องต่อมาได้แก่ Santorini Double ห้องเตียงขนาดคิงไซส์ ความกว้างของห้องทั้งหมด 50 ตารางเมตร มีอ่างอาบน้ำในห้องพร้อมวิวทะเลเช่นเดียวกับห้อง Santorini Twin ซึ่งในห้องก็จะมีที่พื้นที่สำหรับนั่งเล่นดูโทรทัศน์สบายๆ มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เช่น เครื่องเล่น DVD ตู้เย็น กาต้มน้ำ และไดร์เป่าผม เป็นต้น

ภาพ: travel.rakuten.co.jp

ห้องอาหารเองก็มีความหรูหราและสามารถมองเห็นวิวทะเลด้านนอกได้ชัดเจน มีที่นั่งรองรับเพียงพอต่อแขกผู้เข้าพัก สะดวกสบาย และเชฟของที่นี่ก็ยังเป็นเชฟที่มากความสามารถ เคยไปเรียนเกี่ยวกับการทำอาหารที่เมืองฟลอเรนท์ (Florence) ประเทศอิตาลี เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องรสชาติอาหารเลย รับรองว่าอร่อยจนต้องติดใจแน่นอน

ภาพ: ameblo.jp

นอกจากห้องพักและห้องอาหารสวยๆ แล้ว ทางโรงแรมยังมีบริการสระว่ายน้ำกลางแจ้งอีกด้วย เป็นสระว่ายน้ำใต้แสงอาทิตย์ที่เปิดโล่ง อากาศปลอดโปร่ง มองเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลของทะเล แขกของโรงแรมสามารถเข้าใช้บริการได้ตามสบาย จะลงสระไปว่ายน้ำเล่น หรือจะนอนชมวิวทะเลชิลล์ๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศก็คุ้มแล้ว ส่วนการเดินทางแนะนำให้นั่งรถไฟไปลงที่สถานีโคจิ (Kochi Station) แล้วต่อแท็กซี่ เนื่องจากสถานีรถไฟอื่นๆ ส่วนใหญ่ในจังหวัดไม่มีแท็กซี่ให้บริการ

09 Royal Hotel TOSA

ภาพ: Twitter @tosaroyalhotel

ต่อมาได้แก่ Royal Hotel TOSA อีกโรงแรมหนึ่งที่โอบล้อมไปด้วยแสงอาทิตย์และทิวทัศน์อันกว้างขวางของมหาสมุทรแปซิฟิก หากลองมองลงมาจากชั้นบนสุดของโรงแรมแล้วจะมองเห็นภาพของเส้นขอบฟ้าเป็นแนวยาวอย่างชัดเจน โดยโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดโคจิ ซึ่งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น ถ้ำริวงะ (Ryugado Cave) และแหลมมุโรโตะ (Cape Muroto) เป็นต้น

ภาพ: www.agoda.com

ห้องพักแบบแรกเป็นห้องพักสไตล์ตะวันตก มีความเรียบง่ายและปลอดโปร่ง เตียงมีลวดลายและสีสันที่น่ารักสวยงาม และแน่นอนว่าจากหน้าต่างก็สามารถมองเห็นทะเลและเส้นขอบฟ้าได้ ห้องนี้กว้าง 36 ตารางเมตร สามารถเข้าพักได้มากสูงสุด 4 คน โดยเตียงที่ 4 จะเป็นแบบโซฟาเบด หรือก็คือโซฟาแบบปรับนอนได้นั่นเอง

ภาพ: travel.rakuten.co.jp

อีกห้องหนึ่งได้แก่ห้องสวีท มีความกว้าง 70 ตารางเมตร พักได้มากสูงสุดถึง 6 คน ประกอบไปด้วยเตียงขนาดใหญ่ 2 เตียง เป็นห้องที่ดูหรูหราแบบกึ่งญี่ปุ่นกึ่งตะวันตก ซึ่งเตียงจะเป็นเตียงสไตล์ตะวันตก และมุมนั่งเล่นจะเป็นห้องเสื่อทาทามิแบบญี่ปุ่น หากกำลังมองหาห้องพักสวยๆ ในวันพิเศษ ห้องนี้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว

ภาพ: Twitter @tosaroyalhotel

ออนเซ็นของโรงแรมนี้เป็นบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่ชื่อว่า โยสะโค่ยออนเซ็น (Yosakoi Onsen) ซึ่งชื่อนี้ได้มาจากการตั้งชื่อตามเทศกาลโยสะโค่ยของจังหวัดโคจิ เป็นออนเซ็นที่มีปริมาณของโซเดียมมาก ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นไว้ได้นานหลังแช่ อีกทั้งยังช่วยฆ่าเชื้อโรคตามแผลที่โดนบาดหรือแผลน้ำร้อนลวกได้อีกด้วย

ภาพ: Twitter @tosaroyalhotel

นอกจากออนเซ็นแล้ว บริเวณชั้น 1 ของโรงแรมยังมีคาเฟ่น่ารักๆ เปิดให้บริการอีกด้วย คาเฟ่แห่งนี้ชื่อว่า Cafe ROYAL Bluestar มีทั้งที่นั่งแบบธรรมดาและที่นั่งแบบโซฟาให้เลือก บริเวณรอบๆ ก็จะถูกประดับไปด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม มีไวไฟและเต้าเสียบสำหรับชาร์จแบตติดตั้งไว้ให้ จะเข้ามานั่งทำงาน หรือจะเข้ามากินขนมชิลล์ๆ ก็ได้ทั้งนั้นเลย

10 Hotel Bellreaf Otsuki

ภาพ: kochitourism-barrierfree.jp

มาปิดท้ายกันที่ Hotel Bellreaf Otsuki โรงแรมบรรยากาศดีที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายคล้ายรีสอร์ทในจังหวัดโคจิ ซึ่งห้องพักทุกห้องในโรงแรมแห่งนี้จะมีระเบียงเล็กๆ ให้สำหรับชมวิวทะเลด้านนอก พอตกกลางคืนก็สามารถชมดวงดาวสวยๆ ได้ อีกทั้งยังเป็นโรงแรมที่สะดวกสบายต่อการท่องเที่ยว เพราะบริเวณโดยรอบนั้นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น เกาะคาชิวะ (Kashiwa Island) หินคันนอน (Kannon Rock) เป็นต้น

ภาพ: travel.rakuten.co.jp

ห้องพักแบบแรกที่ยกมาแนะนำคือ ห้องพักแบบเตียงคู่ โทนสีของห้องค่อนข้างเรียบง่ายและไม่จัดจ้าน ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลาย เก้าอี้นั่งพักผ่อนก็มีให้ทั้งในห้องและระเบียงด้านนอก หากใครต้องการพื้นที่ส่วนตัวเงียบๆ ก็สามารถเลือกนั่งในห้องได้ หรือหากใครต้องการชมทิวทัศน์สวยๆ ด้านนอก ก็ออกมานั่งกินลมสบายๆ ที่ระเบียงได้เลย

ภาพ: travel.rakuten.co.jp

ต่อมาได้แก่ห้องสไตล์ยุโรป ห้องนี้จะมีหลังคาสูง มีบันไดต่อขึ้นไประเบียงใต้หลังคาชั้นบน พื้นที่ด้านบนก็จะเป็นเตียงและมีพื้นที่ว่างเอาไว้นั่งเล่นคุยกัน เป็นห้องที่กว้าง สวยงามและทันสมัย ให้บรรยากาศราวกับพักอยู่ในรีสอร์ท โดยห้องนี้จะสามารถเข้าพักกันได้สูงสุดถึง 4 คน

ภาพ: www.yukoyuko.net

สำหรับห้องอาบน้ำนั้นจะเป็นห้องอาบน้ำที่มีขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าหลังการเดินทางได้เป็นอย่างดี หลังจากแช่น้ำอุ่นๆ เสร็จแล้วก็สามารถเข้าไปใช้บริการห้องสำหรับพักผ่อนได้ จะมีเก้าอี้นุ่มๆ ให้นั่งพัก และวิวด้านนอกให้เพลิดเพลิน

ภาพ: travel.rakuten.co.jp

อีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือจุดชมวิวของโรงแรม เป็นทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นไปถึงมหาสมุทรแปซิฟิก และบางเวลาก็อาจมองเห็นเงาของเรือบรรทุกสินค้าในทะเลด้วย พอตกกลางคืน ดวงดาวก็จะปรากฏออกมาให้เห็นเต็มท้องฟ้า อย่างไรก็ตาม ทางเดินขึ้นไปจุดชมวิวนี้อาจลาดชันเล็กน้อย แต่ก็ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติแสนงดงาม คุ้มค่าที่จะลองเดินขึ้นไปชม

10 โรงแรม วิวทะเลสวยใน เกาะชิโกกุ ที่ได้แนะนำนั้น แต่ละโรงแรมก็ล้วนมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะโรงแรมไหนเห็นทะเลได้สวยงาม น่าเข้าพักกันทั้งนั้น หลังอ่านจบมีใครถูกใจโรงแรมไหนเป็นพิเศษ ลองหาโอกาสไปเข้าพักดูสักครั้งได้ ขอรับรองเลยว่าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน