*JAPANESE FOOD SUPPORTER.

อาหารญี่ปุ่นสุดโปรดปรานที่ร้านประจำ ใช้วัตถุดิบจากญี่ปุ่นจริงหรือ?

ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นสามารถเข้าถึงสังคมและวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ง่าย สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือเรื่อง “อาหาร” เราจะเห็นร้านอาหารญี่ปุ่นมากมาย รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในห้างร้านหรือ
ซูเปอร์มาร์เก็ตได้ง่ายและหลากหลายยิ่งขึ้น คำถามคือ จะรู้ได้อย่างไรว่าวัตถุดิบในอาหารที่เรากินหรือสินค้าต่างๆ นำเข้าโดยตรงจากญี่ปุ่นจริงหรือไม่ มีคุณภาพ และได้มาตรฐานจริงหรือเปล่า 

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงจัดตั้งโครงการ “Japanese Food and Ingredient Supporter Stores Overseas” ขึ้นในเดือนเมษายน ค.ศ. 2016 โดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น ร่วมกับ JETRO หรือองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นที่มีสำนักงาน 74 สาขาทั่วโลก ออกใบประกาศนียบัตรให้แก่ร้านอาหารหรือห้างร้านในต่างประเทศที่ได้รับการคัดเลือก เพื่อรับรองว่าใช้วัตถุดิบหรือจำหน่ายสินค้าจากญี่ปุ่นได้มาตรฐานตามที่รัฐบาลกำหนดอย่างแท้จริง ปัจจุบันมีการออกใบรับรองให้แก่สถานประกอบการต่างๆ มากกว่า 800 แห่งทั่วโลก

ในประเทศไทยมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการกว่า 2,700 แห่งกระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาค แต่มีเพียงไม่กี่ร้านที่ได้รับอนุญาตและใบประกาศนียบัตรรับรองคุณภาพจากรัฐบาลญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน คนไทยนิยมรับประทานอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น หลายๆ ร้านจึงคัดเลือกวัตถุดิบเพื่อนำมาปรุงอาหารให้ได้รสชาติตามต้นตำรับมากที่สุด ดังนั้น ร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทยก็มีโอกาสได้รับการรับรองมากขึ้นในอนาคต

ในฉบับนี้ เราจะขอแนะนำกิจการทั้ง 3 แห่งจากทั้งหมด ที่ผ่านการประเมินเรียบร้อยแล้ว ให้ผู้อ่านรู้จักและเข้าใจว่าเหตุใดทั้ง 3 แห่งนี้จึงได้รับความไว้วางใจให้ดูแลลูกค้าอย่างแท้จริง

 

เหตุผลที่วัตถุดิบญี่ปุ่น มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก

ก่อนไปรู้จักสถานประกอบการทั้ง 3 แห่ง เรามาทำความรู้จักกับวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่นกันสักนิด เห็นได้ชัดว่ามีวัตถุดิบจากทะเลและภูเขาอุดมสมบูรณ์ การเกษตรและปศุสัตว์ที่มีคุณภาพ รวมถึงการจัดส่งที่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้มีการส่งออกสินค้าไปทั่วโลกอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะปลาและเนื้อวะกิว วัตถุดิบที่เมื่อพูดถึงทีไร เราจะนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเป็นอันดับต้นๆ

 

■ ปลา (Fish) ■

ความหลากหลายของสายพันธุ์
ญี่ปุ่น นับเป็นประเทศหนึ่งที่มีปลาทะเลมากถึง 400 ชนิด อาศัยอยู่บริเวณรอบหมู่เกาะ ญี่ปุ่น ติดอันดับ
1 ใน 3 ประเทศที่จับปลาได้มากที่สุดในทะเลแปซิฟิก และจับปลาได้มากถึง 25% ของปริมาณปลาทั้งหมดที่จับได้ในโลก ส่วนอีก 2 ประเทศที่ติดอันดับคือนอร์เวย์และแคนาดา

เหตุผลที่มีปลาจำนวนมาก
ด้วยความหลากหลายทางภูมิประเทศและภูมิอากาศ โดยเฉพาะบริเวณที่กระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นไหลมาบรรจบกัน มีสภาพแวดล้อมที่ดี เป็นแหล่งอาศัยของแพลงก์ตอน อาหารชั้นดีของปลาที่มาพร้อมกับกระแสน้ำจำนวนมาก รวมถึงบริเวณไหล่ทวีปรอบเกาะญี่ปุ่นที่อุดมไปด้วยสารอาหาร ส่งผลให้แพลงก์ตอนและสาหร่ายทะเลเจริญเติบโตได้ดี มีปลาหลายชนิดขยายพันธุ์สม่ำเสมอ ทำให้บริเวณทั้งสองแบบนี้อุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายของสัตว์ทะเลนานาชนิด

 

 

ความอร่อยมาจากไหน
ปลาน้ำตื้นบริเวณไหล่ทวีปที่กินแพลงก์ตอนหรือสาหร่ายที่มีสารอาหารดี ทำให้เนื้อปลามีรสชาติอร่อย ส่วนปลาน้ำลึกที่ว่ายมาพร้อมกระแสน้ำจากสองทิศในระยะทางไกล ทำให้ปลามีเนื้อแน่น ผลิตไขมันที่ดีมีประโยชน์ เมื่อมาอยู่ในบริเวณที่มีอาหารดี ยิ่งช่วยให้ความอร่อยเพิ่มขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ความหลากหลายฤดูกาลก็ทำให้ปลาแต่ละชนิดมีรสชาติที่ดีที่สุดแตกต่างกันออกไปอีกด้วย รวมถึงการรักษาความสดขณะขนส่ง ยังส่งผลให้เนื้อปลาไม่เสียรสชาติ

 

■ เนื้อวัว (Wagyu) ■

 

เหตุผลที่เนื้อมีรสชาติดี
วะกิว คือวัวสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่มีความพิเศษทั้งเรื่องสายพันธุ์ วิธีการเลี้ยงดู ไปจนถึงคุณภาพ และรสชาติที่ได้มาตรฐาน จนถูกยกย่องให้เป็นเนื้อวัวพรีเมียมชั้นนำของโลก เอกลักษณ์ที่ทำให้เนื้อมีรสชาติดีเยี่ยมคือปริมาณไขมันที่แทรกอยู่ทั่วเนื้อจำนวนมาก โดยไขมันนี้จะละลายในอุณหภูมิต่ำกว่าเนื้อชนิดอื่นๆ เมื่อไขมันละลายและกระจายไปทั่วทั้งชิ้น ทำให้เนื้อนุ่มลิ้นและละลายในปาก

ความลับของความอร่อย
ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานเนื้อวัวมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีการปรับปรุงสายพันธุ์มาตลอด เพื่อให้เนื้อมีคุณภาพดียิ่งขึ้น สายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงและมีการผลิตเนื้อมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ คือพันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ (Kuroge Wagyu) ทุกตัวล้วนมีดีเอ็นเอของวัวพ่อพันธุ์ “ทะจิริ” (Tajiri) ที่มีพันธุกรรมดีเลิศเรื่องคุณภาพเนื้อและรสชาติ อีกสาเหตุหนึ่งคือดินบริเวณที่ปลูกข้าวมีสารอาหารอุดมสมบูรณ์ นำมาทำหญ้าแห้งเลี้ยงวัว มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเอาใจใส่วัวอย่างใกล้ชิด ทำให้เนื้อวัวมีคุณสมบัติครบถ้วน พร้อมเข้าสู่กระบวนการผลิตเนื้อในลำดับต่อไป

อย่างไรก็ตาม เนื้อวัวต้องผ่านการประเมินคุณภาพจาก Japan Meat Grading Association หรือสมาคมการจัดเกรดเนื้อแห่งประเทศญี่ปุ่นก่อน เพื่อระบุเกรดเนื้อตามมาตรฐานที่กำหนด ก่อนถูกส่งออกสู่ตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ เหล่านี้คือเรื่องราวของวัตถุดิบชั้นเลิศจากประเทศญี่ปุ่น ต่อไปจะเป็นเรื่องราวของสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานวัตถุดิบจากรัฐบาลญี่ปุ่น ที่เราอยากแนะนำให้ผู้อ่านได้รู้จักและลองตามไปสัมผัสดูสักครั้ง

_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _  _ _ _ _ 

 

KITAOHJI

คิตะโอจิ

ภัตตาคารชั้นเลิศที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงรับรองทางธุรกิจ เลือกใช้วัตถุดิบจากญี่ปุ่นที่มีรสชาติดีเยี่ยม และเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

 

 

เมื่อมองจากประตูไม้ทรงญี่ปุ่นโบราณ จะเห็นม่านระดับสายตาสีขาวประทับตราสีดำและพื้นที่ปูด้วยหินเป็นทางเดินทอดยาวไปสู่ตัวอาคาร หลังม่านผืนนี้คือ ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศ “คิตะโอจิ” ที่สาขาแรกในญี่ปุ่นก่อตั้งมานานกว่า 80 ปีแล้ว และมีสาขามากถึง 11 แห่งในกรุงโตเกียว เมื่อเดือนสิงหาคม 2015
คิตะโอจิร่วมมือกับบริษัทเครื่องดื่มสิงห์ เปิดภัตตาคารอาหารไคเซกิชั้นเลิศขึ้น โดยมีคอนเซปต์ประจำร้านคือ เสิร์ฟอาหารไคเซกิขนานแท้ที่ใช้ปูกับเนื้อคุโระเกะวะกิวเป็นวัตถุดิบหลัก

 

 

สำหรับ Grand Menu ของร้านอยู่ที่ราคา 2,500-4,500 บาท มีทั้งหมด 5 คอร์ส คุณมุระกะมิ เชฟใหญ่เล่าว่า “ลูกค้าชาวญี่ปุ่น 99% เลือกร้านนี้เป็นที่เลี้ยงรับรองลูกค้า นิยมสั่งไคเซกิรับประทานระหว่างเจรจาธุรกิจ ขณะที่ลูกค้าชาวไทยส่วนใหญ่จะมาเป็นคู่หรือเป็นครอบครัว เลือกสั่งทั้งไคเซกิและอาลาคาร์ตครับ”  

เอกลักษณ์อีกอย่างของร้านคิตะโอจิคือ เน้นใช้วัตถุดิบหายากและแทบหารับประทานไม่ได้จากร้านอื่น อาทิ เคยเป็นเจ้าแรกที่นำเข้าหอยเม่นคิตะมุระซะกิอุนิจากเมืองฮิโระโนะ จังหวัดอิวะเตะ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหวาน รสชาติเข้มข้น เพราะกินแต่สาหร่ายคมบุจากธรรมชาติเป็นอาหารเท่านั้น หรือนำผักสดและเนื้อวัวจากเกียวโต  ซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่แม้แต่ในญี่ปุ่นก็หาซื้อได้ยาก รวมถึงปูทะระบะขนาด 6 L จากฮอกไกโดมาให้บริการ

 

 

นอกจากรสชาติและการเลือกใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่จากญี่ปุ่นแล้ว การปรุงอาหารยังมีความพิถีพิถันตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก ดูเด่นสะดุดตา ใส่ใจเรื่องราวที่มาของวัตถุดิบ พร้อมนำเสนอข้อมูลรายละเอียดในเมนู หรือมีพนักงานคอยอธิบายว่าวัตถุดิบนั้นอร่อยเพราะอะไร มีขั้นตอนเลี้ยงดูหรือปลูกอย่างใส่ใจเช่นไร กว่าจะได้วัตถุดิบนั้นๆ มา

นอกจากนี้ ทางร้านยังร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่นของญี่ปุ่น จัดงานอีเวนต์ปีละ 4-5 ครั้ง เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้จัดงาน “Yamanashi Festival” โดยนำเนื้อวัวโคชู (Koshu Beef) รวมถึงองุ่นสายพันธุ์ไชน์มัสคัต (Shine Muscat) และพันธุ์พิโอเน (Pione) มาให้บริการ ซึ่งได้ผลตอบรับอย่างดี

 

 

เหล่าผู้มีชื่อเสียงในวงการ อาทิ ดารา นักแสดง หรือคนสำคัญในแวดวงธุรกิจหลายคน ก็เป็นลูกค้าประจำของร้าน ส่งผลให้คิตะโอจิเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เชฟใหญ่มุระกะมิยังกล่าวอีกว่า “ยังมีวัตถุดิบชั้นดีตามท้องถิ่นอีกมากมาย ซึ่งทางร้านอยากเป็นศูนย์กลางในการเสาะหาวัตถุดิบชั้นดีเหล่านั้นมาแนะนำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในเมืองไทย”

ตอนนี้ทางร้านวางแผนเปิดสาขาที่ 2 เพิ่มในกรุงเทพฯ ภายใต้คอนเซปต์ “Sushi Kappo” ที่เพิ่มความบันเทิงในการรับประทานอาหาร ด้วยการสาธิตวิธีทำอาหารต่อหน้าลูกค้า เช่น สาธิตการทำ “Hamo Otoshi” คือการนำปลาฮะโมะไปลวกอย่างรวดเร็วแล้วนำมาแช่น้ำเย็นทันที หรือสาธิตการทอดเท็มปุระในกระทะทองเหลืองที่ปกติจะไม่ทอดให้ใครเห็น อีกทั้งนำเสนอสาเกญี่ปุ่นและไวน์เพื่อให้ร้านเป็นที่ที่ลูกค้าจะได้สัมผัสถึงเสน่ห์และความแปลกใหม่ของวัตถุดิบจากญี่ปุ่น

 

 

Address: 212 Soi Thong Lo 8, Sukhumvit 55 rd.
Tel: 061-387-3207
Opening Hours: Mon.-Fri. 17:00-23:00, Sat.-Sun. 11:30-15:00, 17:00-23:00
Website: www.kitaohji.net
Facebook: kitaohjiBKK

 

YAMAZATO

ยามาซาโตะ

ห้องอาหารสุดหรูในโรงแรม 5 ดาว ที่เลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ส่งตรงจากหลายภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น

 

 

ห้องอาหารยามาซาโตะ ให้บริการอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับ ดั่งเช่นที่เชฟฮางิวาระ Master Chef ของห้องอาหารที่มีประสบการณ์การปรุงอาหารญี่ปุ่นอันยาวนานจากโรงแรม โอกุระ โตเกียว กล่าวไว้ว่า “มาตรฐานของเราคือการควบคุมรสชาติอาหารให้เหมือนกับรสชาติอาหารญี่ปุ่นที่ประเทศญี่ปุ่นมากที่สุด ปรุงโดยเชฟชาวญี่ปุ่น ซึ่งทำให้เราสามารถให้บริการอาหารญี่ปุ่นรสชาติแบบต้นตำรับทุกจานในประเทศไทย”

เชฟฮางิวาระเข้าสู่วงการอาหารตั้งแต่อายุ 18 ปี ขัดเกลาฝีมือและเทคนิคการปรุงอาหารญี่ปุ่นจนได้มาประจำที่เมืองไทย ปีนี้ย่างเข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว เขายังกล่าวอีกว่า “จากประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศ
ที่ผ่านมา กล่าวได้ว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สามารถหาวัตถุดิบจากญี่ปุ่นได้ไม่ยากเลยครับ อาหารที่ให้บริการ
ที่ห้องอาหารยามาซาโตะ ใช้วัตถุดิบจากญี่ปุ่นประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ปลาที่จับได้ตอนเช้าในญี่ปุ่นของวันนั้น ก็สามารถนำมาเสิร์ฟในคืนเดียวกันที่ประเทศไทยได้เลยครับ”

 

 

เมนูขึ้นชื่ออย่าง “Nigiri Sushi Moriawase” ที่สรรหาวัตถุดิบตามฤดูกาลจากแหล่งขึ้นชื่อ ประกอบด้วยข้าวปั้นซูชิหน้าปลามะงุโระจากวะกะยะมะ ปลาคิมเมะไดจากชิบะ ปลาไหลทะเลอะนะโงะจากอ่าวโตเกียว หอยเม่น กุ้งหวาน หอยเชลล์จากฮอกไกโด ปลาชิมะอะจิจากเอะฮิเมะ ปลาคะเรจากซันริกุ และเนื้อวะกิว จะใช้เนื้อซะสึมะอุชิจากคะโงะชิมะ ส่วนเครื่องตกแต่งอาหารญี่ปุ่นลำดับต้นๆ ที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นก้านใบคิโนะเมะ มะเขือกลม หรือใบมิสึบะ รวมถึงพืชผักที่มีรสชาติละเอียดอ่อน เช่น ขิงเมียวงะ หรือพริก ล้วนนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งสิ้น

 

 

เชฟฮางิวาระกล่าวว่า คุณภาพของผักจากประเทศญี่ปุ่นทำให้สัมผัสได้ถึงความทุ่มเทในการปลูกและดูแลอย่างดี อาหารที่เชฟฮางิวาระเลือกมาแนะนำคือ “Gyu Daikon Takiawase” ที่ผสมผสานรสชาติกลมกล่อมของเนื้อซะสึมะอุชิได้อย่างลงตัว และเมนู “Goma Dofu” ที่เย็นละมุนลิ้น ปกติจะวางถั่วโซระมะเมะไว้บนเต้าหู้ แต่จะปรับเปลี่ยนเป็นเม็ดแปะก๊วย ปูซูไว หรือหญ้าโยะโมะงิ ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ทางร้านพร้อมส่งมอบรสชาติความเป็นญี่ปุ่นด้วยเมนูอาหารชุดไคเซกิที่อาหารจะเปลี่ยนไปทุกเดือนตามเทศกาลและฤดูกาลของประเทศญี่ปุ่น

 

 

ลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวไทย รองลงมาเป็นชาวจีน และชาวตะวันตก เชฟฮางิวะระกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “อาหารญี่ปุ่นมีภาพลักษณ์เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ และมีชาวต่างชาติเข้าใจเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งเพิ่มขึ้น การปรุงอาหารญี่ปุ่นเพื่อให้ได้รสชาติของอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมนั้น จะต้องใช้การปรุงอย่างพิถีพิถันโดยเชฟชาวญี่ปุ่นและความเชี่ยวชาญในการเลือกวัตถุดิบ เพื่อให้สัมผัสได้ถึงรสชาติของวัตถุดิบโดยตรง

Address: The Okura Prestige Bangkok, Park Ventures Ecoplex, 57 Wireless rd.
Tel: 02-687-9000
Opening Hours: 6:00-10:30, 11:30-14:00, 18:00-L.O.22:00

 

ISETAN

อิเซตัน

แผนกอาหารและผลไม้ตามฤดูกาลในห้างสรรพสินค้า ที่เหมือนยกญี่ปุ่นมาไว้ในเมืองไทย

 

 

ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2015 เป็นต้นมา อิเซตัน คือห้างสรรพสินค้าสัญชาติญี่ปุ่นรายใหญ่ในเมืองไทย ผู้จัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่นโดยตรง ได้เปิดให้บริการโซน “Washoku Gallery” ขึ้นที่ชั้น 5 อีกครั้งภายใต้คอนเซปต์  “This is Japan” ที่หมายถึงการรวบรวมวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์อาหาร และการให้บริการแบบญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ คุณอิโซะโนะ Senior Executive แผนกอาหารสดกล่าวว่า “ชาวไทยที่เป็นลูกค้าหลักของเรา หลายท่านมีความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับญี่ปุ่นมาก หรือได้ไปเยือนประเทศญี่ปุ่นบ่อยๆ ก็มี”

 

 

ในบรรดาอาหารทั้งหมด ผลไม้ตามฤดูกาลของญี่ปุ่นได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น ลูกพีชขาวจากโอะกะยะมะ ที่จำหน่ายโดยจำกัดเวลาเพียง 2 สัปดาห์นั้นได้ผลตอบรับที่ดี ในการวางจำหน่ายจะคำนึงถึงรสชาติลูกพีชที่อยู่ในช่วงที่ดีที่สุด จึงได้นำลูกพีชขาว “Okayama Yume Hakuto” วางขายในสัปดาห์แรกของงานก่อน และวางขายลูกพีชขาว “Shimizu Hakuto” ในสัปดาห์ที่ 2 ส่วนองุ่น “Shine Muscat” ที่มาจากโอะกะยะมะที่มีราคาสูง ก็จำหน่ายหมดเกลี้ยง

ล่าสุดทางห้างได้จัดอีเวนต์วันกินปลาไหล ในงานนี้ “Tsukiji Miyagawa Honten” ร้านปลาไหลอุนะงิเก่าแก่ชื่อดังได้นำปลาไหลอุนะงิแท้จากญี่ปุ่นที่ย่างแบบคะบะยะกิมาจำหน่าย ได้รับการตอบรับอย่างดี การย่างแบบคะบะยะกิคือการแล่ปลาไหลเป็นชิ้น เสียบไม้แล้วนำมาวางเรียงกันบนเตา ย่างด้วยตนเองจนได้ปลาไหลรสเลิศ แสดงความเป็นมืออาชีพของร้านปลาไหลอุนะงิได้อย่างยอดเยี่ยม

คุณอิโซะโนะยังกล่าวอีกว่า “ต่อไปจะจัดให้มีการย่างปลาซัมมะที่พร้อมรับประทานได้เลย โดยไม่เน้นการขายของอย่างเดียว แต่จะขายเรื่องราวด้วย อิเซตันจะขอนำเสนอความเป็นญี่ปุ่นขนานแท้ที่ชาวไทยยังไม่เคยได้สัมผัสในงานนี้”

 

 

นอกจากอิเซตันจะจำหน่ายสินค้าแล้ว ยังมุ่งเน้นการให้ข้อมูลเสริมอีกด้วย คุณอิโซะโนะทิ้งท้ายไว้ว่า “ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะคิดถึงเมนูอาหารหลากหลายในระหว่างซื้อของ ดังนั้น การนำเสนอเมนูอาหารจึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นต่อลูกค้า อาทิ พนักงานอธิบายวิธีทำอาหารโดยใช้ต้นหอมเนะงิจากญี่ปุ่น หรือแนะนำวัตถุดิบและขั้นตอนวิธีปรุงอาหารให้เห็นภาพชัดเจน” ด้วยบริการรูปแบบนี้ ทำให้อิเซตันรู้และเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค จึงเป็นพลังให้สามารถเสาะแสวงหาของดีอีกหลายอย่างจากทั่วญี่ปุ่นมาแนะนำให้ชาวไทยได้รู้จัก

Address: Isetan Bangkok at Central World 4/1-4/2, Ratchadamri rd.
Tel: 02-255-9898-9
Opening Hours: 10:30-21:30
Restaurant Hours: 11:00-22:00 (L.O.21:30)

 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ