การเดินทางไปประเทศเบลเยียมครั้งแรกของฉันส่วนหนึ่งมีเหตุมาจาก “จาน” สองใบที่ได้มาโดยบังเอิญ เป็นจานใบเล็กขนาด 7×7 นิ้ว สกรีนลายจากอนิเมะเรื่อง “A Dog of Flanders” (フランダースの犬) เป็นภาพของเด็กชายและเด็กหญิงกับเจ้าหมาอีกหนึ่งตัว ด้านหลังของจานบ่งบอกว่าเป็น Limited Collection ของบริษัท Nippon Animation

จาน Limited Collection จากเรื่อง A Dog of Flanders

ฉันใช้จานสองใบนี้อยู่บ่อยๆ แต่ตอนแรกที่ได้มาก็ไม่รู้หรอกว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร วันหนึ่งฉันจึงเซิร์ชหาข้อมูลและพบว่าชื่อนั้นมีทั้งที่เป็นภาพยนตร์และอนิเมะอยู่หลายเวอร์ชั่น (ภาพในจานมาจากเวอร์ชั่นทีวีซีรีส์ ปี ค.ศ. 1975)

“The Dog of Flanders” (劇場版 フランダースの犬) ที่ฉันได้ดูเป็นภาพยนตร์อนิเมะ ปี ค.ศ. 1997 ผลิตโดยทีมงานชาวญี่ปุ่นและโด่งดังอย่างมากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก สร้างจากวรรณกรรมสำหรับเด็ก “A Dog of Flanders” ที่แต่งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1872 โดยนักเขียนหญิงสัญชาติอังกฤษ-ฝรั่งเศส มารี หลุยส์ เดอ ลา ราเม (Marie Louise de la Ramée) เธอเขียนเรื่องนี้ด้วยนามปากกาวีดา (Ouida) แม้จะเป็นอนิเมะญี่ปุ่น แต่ฉากของเรื่องเกิดขึ้นที่เขตโฮโบเกนในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ในศตวรรษที่ 19

เนลโล (Nello) เด็กชายกำพร้าผู้มีความฝันอยากเป็นจิตรกร อาศัยอยู่กับคุณปู่ที่มีอาชีพเป็นคนส่งนม พวกเขามีชีวิตแสนลำบากเพราะความยากจน วันหนึ่งพวกเขาได้ช่วยเหลือสุนัขตัวหนึ่งซึ่งถูกเจ้าของทำทารุณกรรมและใช้งานอย่างหนักจนมานอนสลบเจียนตายอยู่ในทุ่งดอกไม้ข้างทาง เจ้าสุนัขตัวนี้มีชื่อว่าปาทราสช์ (Patrasche) ซึ่งมันก็ได้กลายมาเป็นผู้ช่วยในการลากรถส่งนม รวมถึงเป็นเพื่อนยากของเนลโลจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต นอกจากปาทราสช์แล้ว เนลโลยังมีเพื่อนสนิทอีกคนเธอชื่ออลัวส์ (Aloise) เป็นลูกสาวเศรษฐีที่มีชีวิตความเป็นอยู่แตกต่างจากเนลโลโดยสิ้นเชิง แต่เธอก็ไม่ได้รังเกียจเขากลับคอยช่วยเหลือหรือให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ (คุณพ่อของอลัวส์ไม่ชอบเนลโลเอามากๆ จึงพยายามขัดขวางไม่ให้ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน) 

แม้เนลโลจะมีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพ แต่เด็กชายตัวเล็กๆ คนนี้กลับต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายที่ทำให้ไม่สามารถทำตามความฝันได้ นอกจากฝันอยากจะเป็นจิตรกรแล้ว เขาก็ยังมีอีกความฝันหนึ่งก็คือการได้ดูภาพวาดของรูเบนส์ (Peter Paul Rubens, จิตรกรยุคบาโรก) เช่นภาพ “The Elevation of the Cross” และ “The Descent from the Cross” ที่จัดแสดงอยู่ในมหาวิหารแห่งแอนต์เวิร์ป (Cathedral of Our Lady Antwerp) ซึ่งเป็นเมืองที่เขากับคุณปู่ไปส่งนม แต่เนลโลก็ไม่มีเงินจ่ายเพื่อชมภาพของรูเบนส์ได้จนกระทั่ง… (ฉันขอไม่สปอยล์ดีกว่า) 

ด้วยความประทับใจและซาบซึ้งกับเนื้อเรื่องเอามากๆ ทำให้ฉันอยากเดินทางไปตามรอยสถานที่หนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของอนิเมะเรื่องนี้ นั่นก็คือมหาวิหารแห่งแอนต์เวิร์ป และที่ด้านหน้าของมหาวิหารนี้เองก็มีรูปปั้นของเนลโลและเจ้าปาทราสช์หมาใหญ่เพื่อนยากตั้งอยู่ด้วย (Nello & Patrasche Statue) วันที่เดินทางไปถึงแอนต์เวิร์ป ฉันนำกระเป๋าเดิน-ทางใบเขื่องไปเก็บไว้ในล็อกเกอร์ที่สถานีรถไฟ แล้วออกเดินมุ่งหน้าตรงไปที่มหาวิหารทันที แอนต์เวิร์ปคึกคักเพราะมีผู้คนเดินบนถนนช็อปปิ้งขวักไขว่ ใช้เวลาไม่นานก็ถึงที่หมาย และได้พบกับกลุ่มเด็กนักเรียนที่มานั่งเล่นพักผ่อนกันอยู่บนรูปปั้นซึ่งอยู่บนพื้นหินหน้ามหาวิหาร มีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียและยุโรปมาถ่ายภาพคู่กับรูปปั้นนี้ด้วยจำนวนหนึ่ง

รูปปั้นของเนลโลและเจ้าปาทราสช์ในเรื่อง A Dog of Flanders

จริงๆ ก็คงไม่ได้สลักสำคัญกับคนทั่วไป และแม้จะเป็นเพียงเรื่องเล่าที่แต่งขึ้น แต่มิตรภาพอันแน่นแฟ้นจวบจนวันสุดท้ายของชีวิตระหว่างคนกับสุนัขนั้นทั้งโศกเศร้า (น้ำตาคลอเบ้า) และติดตรึงในใจฉันอย่างมาก…มากจนอยากเดินทางไปให้ถึงที่นั่น 

จะว่าไป…ฉันก็นึกอิจฉาคนญี่ปุ่นอยู่เรื่อยเลยละ เพราะเท่าที่สังเกต คนญี่ปุ่นช่างขยันสรรหาข้อมูลทางวัฒนธรรมที่แตกต่างจากทั่วโลกมาถ่ายทอดให้คนในชาติได้เปิดมุมมองใหม่ๆ (อย่างเช่นวรรณกรรมหรือภาพยนตร์) ฉันเองก็ได้รู้จักอะไรใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ญี่ปุ่นก็จากประเทศญี่ปุ่น…นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันชื่นชม คอยติดตาม หรือหาแรงบันดาลใจจากประเทศญี่ปุ่นอยู่เสมอ 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ