แค่เดินทางโดยรถไฟจากหมู่บ้านออนเซ็นคิโนะซากิ (Kinosaki) ไม่นานก็มาถึงหาดทาเคโนะ (Takeno) หาดที่เราสามารถพายเรือคายัค (หรือที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า “จีโอแคนู”) ล่องบนผืนทะเลสีฟ้าใสพร้อมเอนจอยไปกับวิวสวยงามรอบด้านได้ในคราวเดียว โดยฤดูที่เหมาะจะพายคายัคที่สุดก็คือช่วงฤดูใบไม้ผลิจวบจนถึงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้นั่นเอง

กิจกรรม ณ ที่นี้ยังรวมไปถึงการชมทัศนียภาพที่น่าดึงดูดใจโดยรอบของอุทยานธรณีชายฝั่งทะเลซันอิน (San’in Coastal Geopark) พื้นที่ธรรมชาติอันประกอบไปด้วยมรดกทางธรณีวิทยาที่มีคุณค่าทางวิทยาศาตร์ นอกจากนี้ทะเลทาเคโนะ (Takeno) ยังใสราวกับคริสตัล แต่วิวจะน่าทึ่งไปอีกหลายเท่าเมื่อเราได้พายเรือคายัคออกไปหาจุดเหมาะๆ เพื่อชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น

Takeno Beach : The Place of Amazing Natural Beauty

เป็นเสมือนอัญมณีที่รอการค้นพบบนชายฝั่งทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) สำหรับทาเคโนะ หาดสวยที่ได้รับการจัดอันดับโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นให้ติด 1 ใน 100 ชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศ ทาเคโนะคือเมืองชาวประมงที่เงียบสงบ สวยงามด้วยธรรมชาติ ผู้คนเป็นมิตร และมีอาคารบ้านเรือนที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งในแบบดั้งเดิม ทั้งยังมีจุดปีนเขาโลเคชั่นยอดเยี่ยมที่สามารถสัมผัสได้ทั้งวิวทะเลจวบจนทัศนียภาพทั่วทั้งเมืองของทาเคโนะ รวมไปถึงกิจกรรมทางน้ำอย่างการพายเรือแคนู พร้อมๆ กับทะเลแห่งนี่ยังเหมาะแก่การเล่นน้ำในช่วงซัมเมอร์เป็นที่สุด

ในปี 2010 อุทยานธรณีชายฝั่งทะเลซันอินได้รับการยกฐานะให้เป็นหนึ่งในสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) กินพื้นที่ครอบคลุมตั้งแต่เคียวทังโกะ (Kyotango) เมืองแห่งทะเลของเกียวโต เรื่อยมาสู่เมืองโทโยโอกะ (Toyooka) เมืองคะมิ (Kami) เมืองชินออนเซ็น (Shin’ onsen) แห่งจังหวัดเฮียวโงะ ไปจนถึงเขตอิวามิ (Iwami) และเมืองทตโตริในจังหวัดทตโตริ ซึ่งถ้านับเป็นตัวเลขก็ราวๆ 2,458.44 ตารางกิโลเมตร หรือถ้าใครยังไม่เห็นภาพพอก็อุทยานธรณีชายฝั่งทะเลซันอินมีขนาดใหญ่กว่าเมืองหลวงอย่างโตเกียวอยู่เล็กน้อยนั่นเอง

Places You Must See in San’in Coastal Geopark

โดยไฮไลท์ที่เราไม่ควรพลาดชมนั้นจะอยู่ตรงพื้นที่ชายฝั่งทะเลของทาเคโนะที่ตั้งอยู่บริเวณส่วนกลางในอุทยานธรณี นั่นก็คือหินฮาซาคาริรูปร่างราวกับงานศิลปะ (Hasakari Rock) และถ้ำทะเลโยโด (Yodo Sea Cave)

สำหรับหินฮาซาคาริน่าสนใจตรงที่เป็นหินสามสหายรูปทรงแปลกตา ที่ในอดีตเคยเป็นโขดหินขนาดใหญ่ และมีโพรงถ้ำมาก่อน แต่เมื่อถูกคลื่นกัดเซาะนานเข้าๆ ส่วนด้านบนของถ้ำเลยยุบตัวลงและติดค้างเกิดเป็นงานอาร์ตจากฝีมือธรรมชาติที่น่าดูชมมากเลยทีเดียว ส่วนถ้ำทะเลโยโดคือถ้ำที่เราสามารถพายเรือคายัคลอดไปตามโพรงถ้ำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตกเป็นอะไรที่ต้องแนะนำเลยจริงๆ

Have a Fun Trip with Other Places Must Visit Near San’in Coastal Geopark

หากใครที่มีเวลาอีกหลายวันอยากนั่งรถไฟไปที่ไหนสักที่ใกล้ๆ คิจิขอแนะนำแต่ละเมืองข้างล่างนี้ ที่ทั้งหมดก็ล้วนสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และมีกิจกรรมอันเต็มไปด้วยอรรถรสน่าประทับใจไม่แพ้อุทยานธรณีชายฝั่งทะเลซันอินเลย

Kinosaki Onsen

เมืองน้ำพุร้อนที่ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่กว่า 1,300 ปี มีบ่อออนเซ็นสาธารณะถึง 7 แห่ง ทั้งหมดตั้งอยู่ในละแวกที่สามารถเดินถึงกันได้ซึ่งนั่นรวมถึงสถานีรถไฟด้วยเช่นกัน และถ้าจะให้เข้าถึงบรรยากาศไปอีกขั้นควรสวมชุดยูกาตะใส่รองเท้าเกะตะ (รองเท้าเกี๊ยะ) เดินเล่นชมทัศนียภาพรอบเมือง ก่อนจะไปฮ็อปปิ้งกับเหล่าออนเซ็นทั้ง 7 ที่กันให้ฉ่ำปอด

Toyooka

โทโยโอกะคือย่านใจกลางเมืองทั้งเป็นแหล่งอนุรักษ์นกกระสาขาวตะวันออก (Oriental White Stork) สัตว์ที่ถูกจัดไว้ในกลุ่มว่าใกล้จะสูญพันธุ์เข้าไปทุกทีๆ โดยที่นี่ไม่เพียงจะอนุรักษ์แล้วเขายังมีศูนย์เพาะพันธุ์เจ้านกกระสาให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ นอกจากนี้เมืองโทโยโอกะยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์ทางธรรมชาติอย่างถ้ำเก็นบูโดะ (Genbudo) อีกด้วย

Izushi

เมืองอิซุชิได้ชื่อว่าเป็นเมืองปราสาทที่ทำให้ผู้มาเยือนต่างหวนนึกถึงกลิ่นอายในแบบเอโดะ นักท่องเที่ยวสามารถชมสิ่งที่น่าสนใจได้มากมายภายในเมืองนี้ เช่น ซากปราสาทอิซุชิ (Izushi Castle Ruins) ที่แต่เดิมสร้างขึ้นเพื่อเป็นหอสังเกตการณ์ข้าศึก, บ้านซามูไรโบราณ, โรงละครเอะอิระกุคัง (Eriakukan) แห่งสุดท้ายในภูมิภาคคิงกิ ไปจนถึงสัญลักษณ์ของเมืองที่ใครๆ ต่างก็มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอย่างหอนาฬิกาไม้สีดำโบราณชินโคโระ (Shinkoro Clock Tower) ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1871 และยังคงบอกเวลามาจนถึงปัจจุบัน

ที่อิซุชิยังมีอิซุชิโซระโซบะ (Izushi Sora Soba) อาหารขึ้นชื่อที่ทำจากบักวีต และโดยส่วนมากจะเสิร์ฟมาในจานเล็กๆ ให้กินคู่กับซุปดาชิ, ต้นหอม, วาซาบิ และตบท้ายด้วยไข่ออนเซ็น

Kannabe

เป็นเดสติเนชั่นที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกๆ อย่างในช่วงหน้าหนาวที่แน่ๆ ว่าต้องมีลานสกีให้ทั้งมือใหม่และมืออาชีพได้มาท้าความเร็วกัน แต่คันนาเบะยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าลองมากมายอย่างสโนว์บอร์ด, เดินเขาหิมะ (Snow Trekking) และการท้าลมหนาวด้วยกิจกรรมไถลลงมาตามความลาดชันด้วยเลื่อน (Sledding) เป็นต้น ส่วนฤดูที่อุ่นขึ้นมาหน่อยที่คันนาเบะก็มีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิ แคมป์ปิ้ง, ร่มร่อน (Paragliding), ตกปลา ไปจนถึงการโหนสลิงเพื่อชมทัศนียภาพของป่าไม้ (Tree Climbing)

Tanto

เมืองชนบทอันเงียบสงบที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสุดงดงาม รวมถึงทุ่งดอกทิวลิปกว้างสุดลูกหูลูกตาที่จะพร้อมให้คุณออกเดินทางเพื่อมาชมความมีชีวิตชีวาที่แท้จริงของธรรมชาติในฤดูใบไม้ผลิ แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สร้างความประทับใจให้แก่คุณเช่นกัน

สำหรับใครที่สนใจแต่ยังไม่รู้ว่าจะแพลนทริปยังไงดี คิจิขอเสนอให้ไปที่เว็บไซต์ www.visitkinosaki.com ค่ะ ในนั้นนอกจากจะมีข้อมูลมากมายที่จำเป็นต่อนักท่องเที่ยวอย่างเราแล้ว เขายังมีแพ็กเกจทัวร์ที่เหมาะกับสายเที่ยวแต่ไม่อยากวางแผนเองด้วยนะ แนะนำเลย

ที่มาภาพ: www.visitkinosaki.com