ไซตามะ (Saitama) จังหวัดทางตอนเหนือของโตเกียวที่เดินทางมาง่ายแสนง่ายใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ใกล้เข้ามา เราได้จัดเตรียมแพลนสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการเที่ยวเล่นในเมืองใหญ่ไว้ให้แล้ว รับรองว่าทุกคนจะได้เพลิดเพลินไปกับแลนมาร์คสำคัญแบบครบถ้วนแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการขอพรที่ศาลเจ้าชื่อดัง ชมดอกไม้ประจำฤดู ลิ้มลองผลไม้แสนอร่อยของไซตามะ

 

วันที่ 1

 

ร้าน Acacier (สาขา Kita-Urawa Hon-Ten)

ทริป Saitama ฤดูใบไม้ผลิ : Acacier ร้านขนมหวานชื่อดังในญี่ปุ่น

วันแรกเรามีแพลนไปเที่ยวเล่นในเมืองคาวาโกเอะ ก่อนอื่นเราขอเปิดทริปด้วยร้าน Acacier สาขา Kita-Urawa Hon-Ten ร้านขนมหวานที่เป็นที่นิยมทั้งสำหรับชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ด้วยเมนูขนมที่มีให้เลือกทานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตเค้ก มองบลังค์ ทาร์ตผลไม้ บิสกิต และครีมโรลชาเขียว 

ฟังดูแล้วอาจดูเหมือนร้านขายขนมหวานทั่วไป แต่ไฮไลท์ที่เด็ดจริงๆ จนทำให้เราอยากแนะนำให้ทุกคนมาที่นี่คือขนมทุกชิ้นของทางร้านจะมีส่วนผสมจากวัตถุดิบที่หาได้ตามแต่ละช่วงฤดูกาล อย่างฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ทางร้านก็จะมีขนมหวานที่ขายเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น

ขนมที่ขายเฉพาะฤดูใบไม้ผลิจะเป็นเมนูที่มีส่วนผสมของดอกซากุระและเต็มไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์ เราได้ยินว่าเชฟของที่นี่จะนำดอกซากุระมาผสมลงในแป้งขนมเค้กหรือนำดอกซากุระมาปั่นให้ละเอียดแล้วนำไปผสมกับครีมสด เพื่อสร้างกลิ่นหอมและสีสันที่สวยงามนั่นเอง ซึ่งหากทุกคนดูจากรูปก็จะเห็นว่าสีสันของขนมน่ารักมาก เป็นสีชมพูซากุระพาสเทลน่ากินสุดๆ

สำหรับเมนูแนะนำช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะมี SAKURA TOKIWA ROLL เค้กโรลซากุระเนื้อนุ่มที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกซากุระ สอดไส้ครีมเนียนสีสวยกับรสหวานกำลังดี รับรองถ้าได้ลองแล้วจะต้องติดใจ

SAKURA TOKIWA ROLL เค้กโรลซากุระเฉพาะฤดูใบไม้ผลิ

SAKURA ANTOINETTE อีกหนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เป็นการผสมผสานระหว่างเลเยอร์ของขนมทั้ง 3 ส่วน ได้แก่ แป้งพายอบ ชูครีมสด และตกแต่งด้วยครีมสดกลิ่นซากุระ ให้รสสัมผัสนุ่มนวล หอมหวานตามแบบฉบับขนมญี่ปุ่นสมัยใหม่

AKURA ANTOINETTE เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ต้องลอง

SAKURA MACARON มาการองลายซากุระ เนื้อมาการองกรอบนอกนุ่มใน รสหวานกลมกล่อม มีกลิ่นหอมจากดอกซากุระ เหมาะสำหรับทานคู่กับชาหรือกาแฟดำ  

นอกจากเมนูที่ได้แนะนำไปข้างต้นแล้ว ยังมีเมนูประจำฤดูใบไม้ผลิอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีสีสันและรูปลักษณ์สวยงามไม่เเพ้กัน ซึ่งเราขอแนะนำให้มาสัมผัสความน่ารักและลิ้มลองด้วยตัวเองดูสักครั้ง

Info
ร้าน Acacier (สาขา Kita-Urawa Hon-Ten)
Location: เมืองไซตามะ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Hours: วันพฤหัสบดี-วันจันทร์ 10:00-18:00 น.
Holiday: วันอังคารและวันพุธ
Nearest Station: สถานีคิตะอูราวะ (Kita-Urawa Station)
Access: ดินเท้าประมาณ 7 นาที จากสถานีคิตะอูราวะ
Website: www.acacier.co.jp

 

เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe)

ทริป Saitama ที่เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe)

มาถึงเมืองเก่าสไตล์เอโดะที่มีชื่อว่า คาวาโกเอะ” ที่คนเที่ยวไซตามะต้องห้ามพลาด กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่คือการแต่งชุดกิโมโนแล้วเดินเที่ยวไปตามถนนคาราสึคุริ (Kurazukuri Street) ซึ่งระหว่างทางเราก็จะได้พบกับบ้านเก่าย้อนยุค หอระฆังโบราณ ร้านข้าวหน้าปลาไหลแสนอร่อย และตรอกลูกกวาด คาชิยะ โยโคโช (Kashiya Yokocho) ที่สองข้างทางรายล้อมไปด้วยร้านขนมหวาน แชะภาพไป ช้อปขนมไป ให้ฟีลเดินเล่นชมวิวที่ฟินขั้นสุด

เพลิดเพลินเมืองเก่าสไตล์เอโดะที่ คาวาโกเอะ, Saitama ทริป Saitama : แวะทานข้าวหน้าปลาไหลแสนอร่อย

Info
Location: เมืองคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Nearest Station: สถานีคาวาโกเอะ (Kawagoe Station), สถานีฮอนคาวาโกเอะ (Hon-Kawagoe Station) และสถานีคาวาโกเอะชิ (Kawagoeshi Station)
Access: นั่งรถไฟประมาณ 30 นาที จากสถานีอิเคะบุคุโระ (Tobu Tojo Line) ลงที่ สถานีคาวาโกเอะ หรือ สถานีคาวาโกเอะชิ และยังสามารถนั่งรถไฟประมาณ 45 นาที จากสถานีเซบุชินจูกุ ลงที่สถานีฮอนคาวาโกเอะ

 

หอระฆังโบราณ (Toki no Kane)

หอระฆังโบราณ (Toki no Kane) ที่คาวาโกเอะ, Saitama

จุดเด่นของคาวาโกเอะที่ต้องไปชมให้ได้เลยคือ หอระฆังโทคิโนะคาเนะ (Toki no Kane) กับเสียงก้องกังวานที่ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในสมัยก่อน โดยหอระฆังนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 400 ปีที่แล้ว ใช้สำหรับ
บอกเวลา ใน 1 วัน จะตีถึง 4 ครั้ง คือ เวลา 6.00 น., 12.00 น., 15.00 น. และ 18.00 น.

Info
Toki no Kane 
Location: เมืองคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Nearest Station: สถานีคาวาโกเอะ (Kawagoe Station), สถานีคาวาโกเอะชิ (Kawagoeshi Station)
Access: นั่งรถบัสจากสถานีคาวาโกเอะ หรือ สถานีคาวาโกเอะชิ ลงที่ป้าย Ichibanmachi Bus Stop แล้วเดินต่ออีก 1 นาที

 

หลังจากเที่ยวคาวาโกเอะกันมาทั้งวันแล้ว เราจะกลับที่พักกัน โดยแนะนำให้พักแถวเมืองฮันโน (Hanno) เพื่อจะได้เดินทางสะดวกในการไปเที่ยววันถัดไป : )

 

วันที่ 2

 

มูมิน วัลเลย์ (Moominvalley Park)

มาเที่ยว Saitama ทั้งที อย่าลืมแวะ มูมิน วัลเลย์ (Moominvalley Park)

สาวกมูมินห้ามพลาดที่นี่เลยนะ เพราะทุกคนสามารถเจอกับมูมินและผองเพื่อนตัวเป็นๆ ได้ที่หมู่บ้านแห่งนี้ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมและถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านมูมินที่ถอดแบบมาจากหนังสือการ์ตูนเป๊ะๆ หุบเขามูมิน ห้องออเคสตร้าแห่งท้องทะเล โรงละครเอมม่าที่จะมีละครเวทีของมูมินและเพื่อนๆ ให้ทุกคนได้มาชมกันอย่างใกล้ชิด

Info
Moominvalley Park
Location: เมืองฮันโน จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Hours: 10:00-17:00 น.
Holiday:
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ (ชั้นมัธยมต้นขึ้นไป) 2,500 เยน, เด็ก (อายุ 4 ปีขึ้นไป จนถึงชั้นมัธยมต้น) 1,500 เยน / บัตร One Day Pass ผู้ใหญ่ (ชั้นมัธยมต้นขึ้นไป) 4,200 เยน, เด็ก (อายุ 4 ปีขึ้นไป จนถึงชั้นมัธยมต้น) 2,300 เยน
Nearest Station: สถานีฮันโน (Hanno Station)
Access: ขึ้นรถบัสตรง North Exit ของสถานีฮันโน (Seibu-Ikebukuro Line) ลงที่ป้าย Metsa Bus Stop ใช้เวลาประมาณ 13 นาที

 

หลังจากเที่ยวมูมินวัลเลย์กันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางกลับที่พักกัน สำหรับวันนี้แนะนำให้ไปพักแถวเมือง
จิจิบุ (Chichibu) เพื่อง่ายต่อการเที่ยวเล่นในวันต่อไป

 

วันที่ 3

 

สวนฮิสึจิยามะ (Hitsujiyama Park)

แวะชมดอกไม้ที่ สวนฮิสึจิยามะ (Hitsujiyama Park) เมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ (Saitama)

สวนดอกชิบะซากุระหรือพิงค์มอส 10 ชนิด จำนวนกว่า 4 แสนดอกที่บานสะพรั่งในลานกว้างใหญ่ คล้ายพรมสีชมพู โดยมีภูเขา “บุโคซัง (Mount Buko)” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองจิจิบุ (Chichibu) ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง

เที่ยว Saitama ฤดูใบไม้ผลิที่ สวนฮิสึจิยามะ (Hitsujiyama Park)

Info
Hitsujiyama Park
Location: เมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Hours: 24 ชม.
Holiday:
Entrance Fee: 300 เยน
Nearest Station: สถานีเซบุจิจิบุ (Seibu-Chichibu Station)
Access: เดินเท้าประมาณ 20 นาที จากสถานีเซบุจิจิบุ (Seibu-Chichibu Line) 
Website: www.city.chichibu.lg.jp

 

สวนวาโดโนเอ็น (Wado Noen)

สวนวาโดโนเอ็น (Wado Noen) ในจังหวัดไซตามะ (Saitama)ภาพ: www.facebook.com/saitamajapan.th

สัมผัสประสบการณ์การเก็บสตรอว์เบอร์รี่ไม่อั้นที่สวนวาโดโนเอ็น ที่บอกเลยว่า หอม หวาน อร่อยสุดๆ เพราะผลไม้ปลูกแบบออร์แกนิคธรรมชาติ 100% และยังได้รับการดูแลอย่างดี สะอาดมากๆ ถึงขนาดว่าเด็ดสดๆ จากต้นก็สามารถกินได้โดยไม่ต้องล้าง มีให้เลือกชิมหลากหลายสายพันธุ์ เช่น Amarin (พันธุ์ของจังหวัดไซตามะ), Benihoppe, Tochiotome, Yotsuboshi เป็นต้น

ทริป Saitama : เก็บสตรอว์เบอร์รี่ไม่อั้นที่สวนวาโดโนเอ็นภาพ: www.facebook.com/saitamajapan.thภาพ: www.facebook.com/saitamajapan.th

อย่างในรูปนี้จะเป็นพันธุ์ Amarin

Info
Wado Noen / Wadono Orchards
Location: เมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Hours: 9:00-18:00 น. (ช่วงเวลาเปิดให้เก็บสตรอว์เบอร์รี่ กลางเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนพฤษภาคม)
Holiday: ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับฤดูกาล
Nearest Station: สถานีวาโดคุโรยะ (Wado-Kuroya Station)
Access: เดินเท้าประมาณ 3 นาที จากสถานีวาโดคุโระยะ (Chichibu Main Line) 
Website: www.wado-nouen.jp

 

ศูนย์อาหารและของฝาก (Matsuri no Yu)

ภาพ: travel.watch.impress.co.jp

ก่อนจะกลับเข้าโตเกียวอย่าลืมแวะไปที่ศูนย์อาหารและของฝากห้ามพลาดของไซตามะ ซึ่งอยู่ติดกับสถานีเซบุจิจิบุ (Seibu-Chichibu Station) ของฝากที่พลาดไม่ได้เลยคือ “Chichibu Mochi” โมจิสดไส้ถั่วแดงเป็นขนมยอดฮิตของที่นี่ แป้งเหนียวนุ่มมาก คอนเฟิร์มว่าอร่อยสุดๆ นอกจากจะเป็นศูนย์อาหารแล้วยังมีออนเซ็นให้แช่เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าอีกด้วยนะ

ภาพ: www.facebook.com/saitamajapan.thภาพ: www.facebook.com/saitamajapan.th

Info
Matsuri no Yu
Location: เมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Hours: โซนของฝาก จ.-ศ. 9:00-18:30 น., ส.-อา. 9:00-19:30 น. / โซนอาหาร จ.-ศ. 11:00-18:30 น., ส.-อา. 11:00-19:30 น. / ออนเซ็น 10:00 น.-20:00 น.
Holiday:
Entrance Fee: ค่าใช้บริการออนเซ็น จ.-ศ. ผู้ใหญ่ 990 เยน เด็ก 610 เยน, ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ใหญ่ 1,100 เยน เด็ก 730 เยน
Nearest Station: สถานีเซบุจิจิบุ (Seibu-Chichibu Station) 
Access: ตั้งอยู่ติดกับสถานีเซบุจิจิบุ
Website: www.seibu-leisure.co.jp/matsuri

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ