Saitama เที่ยวง่ายใกล้โตเกียว แพลนเที่ยวฤดูใบไม้ผลิ 3 วัน 2 คืน ชมดอกชิบะซากุระ พร้อมเช็คอินจุดยอดฮิต
สารบัญ
ไซตามะ (Saitama) จังหวัดทางตอนเหนือของโตเกียวที่เดินทางมาง่ายแสนง่ายใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ใกล้เข้ามา เราได้จัดเตรียมแพลนสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการเที่ยวเล่นในเมืองใหญ่ไว้ให้แล้ว รับรองว่าทุกคนจะได้เพลิดเพลินไปกับแลนมาร์คสำคัญแบบครบถ้วนแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการขอพรที่ศาลเจ้าชื่อดัง ชมดอกไม้ประจำฤดู ลิ้มลองผลไม้แสนอร่อยของไซตามะ
วันที่ 1
ร้าน Acacier (สาขา Kita-Urawa Hon-Ten)
วันแรกเรามีแพลนไปเที่ยวเล่นในเมืองคาวาโกเอะ ก่อนอื่นเราขอเปิดทริปด้วยร้าน Acacier สาขา Kita-Urawa Hon-Ten ร้านขนมหวานที่เป็นที่นิยมทั้งสำหรับชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ด้วยเมนูขนมที่มีให้เลือกทานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตเค้ก มองบลังค์ ทาร์ตผลไม้ บิสกิต และครีมโรลชาเขียว
ฟังดูแล้วอาจดูเหมือนร้านขายขนมหวานทั่วไป แต่ไฮไลท์ที่เด็ดจริงๆ จนทำให้เราอยากแนะนำให้ทุกคนมาที่นี่คือขนมทุกชิ้นของทางร้านจะมีส่วนผสมจากวัตถุดิบที่หาได้ตามแต่ละช่วงฤดูกาล อย่างฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ทางร้านก็จะมีขนมหวานที่ขายเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น
ขนมที่ขายเฉพาะฤดูใบไม้ผลิจะเป็นเมนูที่มีส่วนผสมของดอกซากุระและเต็มไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์ เราได้ยินว่าเชฟของที่นี่จะนำดอกซากุระมาผสมลงในแป้งขนมเค้กหรือนำดอกซากุระมาปั่นให้ละเอียดแล้วนำไปผสมกับครีมสด เพื่อสร้างกลิ่นหอมและสีสันที่สวยงามนั่นเอง ซึ่งหากทุกคนดูจากรูปก็จะเห็นว่าสีสันของขนมน่ารักมาก เป็นสีชมพูซากุระพาสเทลน่ากินสุดๆ
สำหรับเมนูแนะนำช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะมี SAKURA TOKIWA ROLL เค้กโรลซากุระเนื้อนุ่มที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกซากุระ สอดไส้ครีมเนียนสีสวยกับรสหวานกำลังดี รับรองถ้าได้ลองแล้วจะต้องติดใจ
SAKURA ANTOINETTE อีกหนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เป็นการผสมผสานระหว่างเลเยอร์ของขนมทั้ง 3 ส่วน ได้แก่ แป้งพายอบ ชูครีมสด และตกแต่งด้วยครีมสดกลิ่นซากุระ ให้รสสัมผัสนุ่มนวล หอมหวานตามแบบฉบับขนมญี่ปุ่นสมัยใหม่
SAKURA MACARON มาการองลายซากุระ เนื้อมาการองกรอบนอกนุ่มใน รสหวานกลมกล่อม มีกลิ่นหอมจากดอกซากุระ เหมาะสำหรับทานคู่กับชาหรือกาแฟดำ
นอกจากเมนูที่ได้แนะนำไปข้างต้นแล้ว ยังมีเมนูประจำฤดูใบไม้ผลิอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีสีสันและรูปลักษณ์สวยงามไม่เเพ้กัน ซึ่งเราขอแนะนำให้มาสัมผัสความน่ารักและลิ้มลองด้วยตัวเองดูสักครั้ง
Info
ร้าน Acacier (สาขา Kita-Urawa Hon-Ten)
Location: เมืองไซตามะ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Hours: วันพฤหัสบดี-วันจันทร์ 10:00-18:00 น.
Holiday: วันอังคารและวันพุธ
Nearest Station: สถานีคิตะอูราวะ (Kita-Urawa Station)
Access: เดินเท้าประมาณ 7 นาที จากสถานีคิตะอูราวะ
Website: www.acacier.co.jp
เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe)
มาถึงเมืองเก่าสไตล์เอโดะที่มีชื่อว่า “คาวาโกเอะ” ที่คนเที่ยวไซตามะต้องห้ามพลาด กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่คือการแต่งชุดกิโมโนแล้วเดินเที่ยวไปตามถนนคาราสึคุริ (Kurazukuri Street) ซึ่งระหว่างทางเราก็จะได้พบกับบ้านเก่าย้อนยุค หอระฆังโบราณ ร้านข้าวหน้าปลาไหลแสนอร่อย และตรอกลูกกวาด คาชิยะ โยโคโช (Kashiya Yokocho) ที่สองข้างทางรายล้อมไปด้วยร้านขนมหวาน แชะภาพไป ช้อปขนมไป ให้ฟีลเดินเล่นชมวิวที่ฟินขั้นสุด
Info
Location: เมืองคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Nearest Station: สถานีคาวาโกเอะ (Kawagoe Station), สถานีฮอนคาวาโกเอะ (Hon-Kawagoe Station) และสถานีคาวาโกเอะชิ (Kawagoeshi Station)
Access: นั่งรถไฟประมาณ 30 นาที จากสถานีอิเคะบุคุโระ (Tobu Tojo Line) ลงที่ สถานีคาวาโกเอะ หรือ สถานีคาวาโกเอะชิ และยังสามารถนั่งรถไฟประมาณ 45 นาที จากสถานีเซบุชินจูกุ ลงที่สถานีฮอนคาวาโกเอะ
หอระฆังโบราณ (Toki no Kane)
จุดเด่นของคาวาโกเอะที่ต้องไปชมให้ได้เลยคือ หอระฆังโทคิโนะคาเนะ (Toki no Kane) กับเสียงก้องกังวานที่ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในสมัยก่อน โดยหอระฆังนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 400 ปีที่แล้ว ใช้สำหรับ
บอกเวลา ใน 1 วัน จะตีถึง 4 ครั้ง คือ เวลา 6.00 น., 12.00 น., 15.00 น. และ 18.00 น.
Info
Toki no Kane
Location: เมืองคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Nearest Station: สถานีคาวาโกเอะ (Kawagoe Station), สถานีคาวาโกเอะชิ (Kawagoeshi Station)
Access: นั่งรถบัสจากสถานีคาวาโกเอะ หรือ สถานีคาวาโกเอะชิ ลงที่ป้าย Ichibanmachi Bus Stop แล้วเดินต่ออีก 1 นาที
หลังจากเที่ยวคาวาโกเอะกันมาทั้งวันแล้ว เราจะกลับที่พักกัน โดยแนะนำให้พักแถวเมืองฮันโน (Hanno) เพื่อจะได้เดินทางสะดวกในการไปเที่ยววันถัดไป : )
วันที่ 2
มูมิน วัลเลย์ (Moominvalley Park)
สาวกมูมินห้ามพลาดที่นี่เลยนะ เพราะทุกคนสามารถเจอกับมูมินและผองเพื่อนตัวเป็นๆ ได้ที่หมู่บ้านแห่งนี้ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมและถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านมูมินที่ถอดแบบมาจากหนังสือการ์ตูนเป๊ะๆ หุบเขามูมิน ห้องออเคสตร้าแห่งท้องทะเล โรงละครเอมม่าที่จะมีละครเวทีของมูมินและเพื่อนๆ ให้ทุกคนได้มาชมกันอย่างใกล้ชิด
Info
Moominvalley Park
Location: เมืองฮันโน จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Hours: 10:00-17:00 น.
Holiday: –
Entrance Fee: ผู้ใหญ่ (ชั้นมัธยมต้นขึ้นไป) 2,500 เยน, เด็ก (อายุ 4 ปีขึ้นไป จนถึงชั้นมัธยมต้น) 1,500 เยน / บัตร One Day Pass ผู้ใหญ่ (ชั้นมัธยมต้นขึ้นไป) 4,200 เยน, เด็ก (อายุ 4 ปีขึ้นไป จนถึงชั้นมัธยมต้น) 2,300 เยน
Nearest Station: สถานีฮันโน (Hanno Station)
Access: ขึ้นรถบัสตรง North Exit ของสถานีฮันโน (Seibu-Ikebukuro Line) ลงที่ป้าย Metsa Bus Stop ใช้เวลาประมาณ 13 นาที
หลังจากเที่ยวมูมินวัลเลย์กันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางกลับที่พักกัน สำหรับวันนี้แนะนำให้ไปพักแถวเมือง
จิจิบุ (Chichibu) เพื่อง่ายต่อการเที่ยวเล่นในวันต่อไป
วันที่ 3
สวนฮิสึจิยามะ (Hitsujiyama Park)
สวนดอกชิบะซากุระหรือพิงค์มอส 10 ชนิด จำนวนกว่า 4 แสนดอกที่บานสะพรั่งในลานกว้างใหญ่ คล้ายพรมสีชมพู โดยมีภูเขา “บุโคซัง (Mount Buko)” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองจิจิบุ (Chichibu) ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง
Info
Hitsujiyama Park
Location: เมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Hours: 24 ชม.
Holiday: –
Entrance Fee: 300 เยน
Nearest Station: สถานีเซบุจิจิบุ (Seibu-Chichibu Station)
Access: เดินเท้าประมาณ 20 นาที จากสถานีเซบุจิจิบุ (Seibu-Chichibu Line)
Website: www.city.chichibu.lg.jp
สวนวาโดโนเอ็น (Wado Noen)
ภาพ: www.facebook.com/saitamajapan.th
สัมผัสประสบการณ์การเก็บสตรอว์เบอร์รี่ไม่อั้นที่สวนวาโดโนเอ็น ที่บอกเลยว่า หอม หวาน อร่อยสุดๆ เพราะผลไม้ปลูกแบบออร์แกนิคธรรมชาติ 100% และยังได้รับการดูแลอย่างดี สะอาดมากๆ ถึงขนาดว่าเด็ดสดๆ จากต้นก็สามารถกินได้โดยไม่ต้องล้าง มีให้เลือกชิมหลากหลายสายพันธุ์ เช่น Amarin (พันธุ์ของจังหวัดไซตามะ), Benihoppe, Tochiotome, Yotsuboshi เป็นต้น
ภาพ: www.facebook.com/saitamajapan.thภาพ: www.facebook.com/saitamajapan.th
อย่างในรูปนี้จะเป็นพันธุ์ Amarin
Info
Wado Noen / Wadono Orchards
Location: เมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Hours: 9:00-18:00 น. (ช่วงเวลาเปิดให้เก็บสตรอว์เบอร์รี่ กลางเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนพฤษภาคม)
Holiday: ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับฤดูกาล
Nearest Station: สถานีวาโดคุโรยะ (Wado-Kuroya Station)
Access: เดินเท้าประมาณ 3 นาที จากสถานีวาโดคุโระยะ (Chichibu Main Line)
Website: www.wado-nouen.jp
ศูนย์อาหารและของฝาก (Matsuri no Yu)
ภาพ: travel.watch.impress.co.jp
ก่อนจะกลับเข้าโตเกียวอย่าลืมแวะไปที่ศูนย์อาหารและของฝากห้ามพลาดของไซตามะ ซึ่งอยู่ติดกับสถานีเซบุจิจิบุ (Seibu-Chichibu Station) ของฝากที่พลาดไม่ได้เลยคือ “Chichibu Mochi” โมจิสดไส้ถั่วแดงเป็นขนมยอดฮิตของที่นี่ แป้งเหนียวนุ่มมาก คอนเฟิร์มว่าอร่อยสุดๆ นอกจากจะเป็นศูนย์อาหารแล้วยังมีออนเซ็นให้แช่เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าอีกด้วยนะ
ภาพ: www.facebook.com/saitamajapan.thภาพ: www.facebook.com/saitamajapan.th
Info
Matsuri no Yu
Location: เมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Hours: โซนของฝาก จ.-ศ. 9:00-18:30 น., ส.-อา. 9:00-19:30 น. / โซนอาหาร จ.-ศ. 11:00-18:30 น., ส.-อา. 11:00-19:30 น. / ออนเซ็น 10:00 น.-20:00 น.
Holiday: –
Entrance Fee: ค่าใช้บริการออนเซ็น จ.-ศ. ผู้ใหญ่ 990 เยน เด็ก 610 เยน, ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ใหญ่ 1,100 เยน เด็ก 730 เยน
Nearest Station: สถานีเซบุจิจิบุ (Seibu-Chichibu Station)
Access: ตั้งอยู่ติดกับสถานีเซบุจิจิบุ
Website: www.seibu-leisure.co.jp/matsuri