ทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) คือทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัดชิกะของภูมิภาคคันไซ ซึ่งนับว่าอยู่ใกล้เมืองเกียวโตพอสมควร จริงๆ แล้วมีที่สถานที่ท่องเที่ยวสวยงามอยู่บริเวณรอบๆ ทะเลสาบเต็มไปหมด แต่ก็แปลกที่ทะเลสาบบิวะกลับไม่ได้เป็นทะเลสาบแห่งแรกๆ ที่นักเดินทางนึกถึงเมื่อพูดถึงประเทศญี่ปุ่น เรียกว่าแพ้ทะเลสาบคาวากุจิโกะและฮาโกเน่อยู่ อาจเป็นเพราะความกว้างของมันนี่ล่ะที่ทำให้ปวดหัวตั้งแต่เริ่มวางแผนเที่ยว เพราะว่าไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดี ถ้าใครรู้ตัวว่าเป็นหนึ่งในนั้นก็มาทางนี้ เราจะปักหมุด พาคุณไปเที่ยวเมืองน่ารักๆ ที่ชื่อว่า “โอมิฮาจิมัง (Omihachiman)” เมืองนี้อยู่ริมฝั่งทะเลสาบบิวะพอดิบพอดี อีกทั้งสามารถนั่งรถไฟหนีความวุ่นวายจากเมืองเกียวโตมาได้ง่ายๆ แค่ 45 นาทีก็ถึงแล้ว

 

ภาพ: n1-q.mafengwo.net

 

โอมิฮาจิมัง เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่ยังคงความสวยงามแบบญี่ปุ่นเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม อดีตเคยเป็นเมืองที่เป็นที่พำนักของ “พ่อค้าโอมิ” ผู้มั่งคั่งเพราะมีคลอง “ฮาจิมังโบริ” (คลองที่ขุดขึ้นมีความยาว 5 กิโลเมตร) เชื่อมเมืองกับทะเลสาบบิวะเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ง่ายต่อการทำการค้าทางเรือ ภายในเมืองจึงมีบ้านเรือนและโกดังสินค้ามากมาย ซึ่งชาวเมืองได้ช่วยกันอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนริมคลองเอาไว้ให้อยู่ในสภาพเดิม จึงทำให้ไม่ว่าใครที่ได้ไปเยือนก็บอกเล่าเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนหลุดเข้าไปในหนังซามุไรไม่มีผิด เพราะฉะนั้นมาถึงโอมิฮาจิมังแล้ว ใครไม่นั่งเรือล่องคลองถือว่ายังมาไม่ถึง

เรือที่ให้บริการมีอยู่หลายเจ้า ส่วนการล่องเรือก็มี 2 แบบ คือการล่องเรือในคลอง เพื่อชมบ้านเมืองโบราณสองฝั่งคลองโดยเฉพาะ และการล่องเรือเพื่อล่องเรือจริงๆ ซึ่งแบบหลังบางเจ้าจะพาล่องเรือออกไปถึงปากอ่าวด้านตะวันตกของทะเลสาบบิวะ เน้นธรรมชาติเต็มๆ ตัวเรือเองก็มีให้เลือกนั่ง 2 แบบ คือแบบเรือพายและเรือยนต์ 

 

ภาพ: omihachiman.info

 

บนเรือจะมีคุณลุงท่าทางใจดี คุยเก่ง และมีกล้ามแขนแข็งแรงเป็นฝีพาย ซึ่งคุณสมบัติข้อสามนี้น่าจะสำคัญมากเพราะคุณลุงต้องพายเรือที่จุคนได้ 6-8 คนเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง คิดเอาเถอะว่าต้องแข็งแรงขนาดไหน แต่บางเจ้าจะเปิดเสียงจากลำโพงในเรือเพื่อเล่าประวัติของเมืองและอาคาร 2 ฝั่งคลองให้นักท่องเที่ยวฟัง ใครฟังภาษาญี่ปุ่นได้ก็ฟินไป แต่ถึงฟังไม่ออกก็พอฟินได้กล้อมแกล้มเพราะวิวสวยมาก รอบตัวมีแต่ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ได้ยินเสียงนกร้อง เสียงลมพัด บางทีถ้าคุณโชคดีเจอฝีพายที่ชอบร้องเพลง ก็อาจมีโอกาสได้ฟังเพลงพื้นบ้านของญี่ปุ่นจากปากคุณลุงด้วย

 

Omihachiman คลองฮะจิมังในฤดูใบไม้ผลิ                                 คลองฮะจิมังในฤดูใบไม้ผลิ ภาพ: omihachiman.info

 

ระยะเวลานั่งเรือปกติอยู่ที่ 30-60 นาที ตั๋วเรือของผู้ใหญ่ 1,000-2,000 เยน ของเด็ก 500-1,000 เยน บางเจ้าให้นั่งเรือนานกว่านั้น ช่วงที่ดอกซากุระบานบางคนก็นั่งเรือออกไปชมดอกไม้กันยาวๆ 80-120 นาที ราคาก็มากขึ้นตามท้องเรื่อง ท่าเรือของเจ้าที่ฮอตฮิตที่สุดอยู่ใกล้ๆ กับพิพิธภัณฑ์คาวาระ จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ หาเจอแน่นอน 

 

 

ศาลเจ้า Himure Hachiman-gu Shrine ที่ Omihachiman                                           ศาลเจ้าฮิมุเระฮาจิมังงุ ภาพ: blog-imgs-62.fc2.com

 

หลังจากนั้นอย่าลืมแวะไปไหว้พระที่ศาลเจ้าฮิมุเระ ฮาจิมังงุ (Himure Hachimangu Shrine) ด้วย เดินไปได้ไม่ไกล ความจริงสถานที่เที่ยวสวยๆ ก็กระจุกตัวอยู่บริเวณศาลเจ้านี่ล่ะ ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บนตีนเขาฮาจิมัง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 131 ตัวศาลเจ้าเคยถูกย้ายขึ้นไปบนยอดเขาฮาจิมังแต่จักรพรรดิฮิเดโยริ โทโยโทมิ สั่งให้ย้ายกลับลงมาที่เก่า เพราะจะสร้างปราสาทฮาจิมังด้านบนเขาแทน 

 

พิพิธภัณฑ์คาวาระที่ Omihachimanพิพิธภัณฑ์คาวาระ ภาพ: omihachiman.info

 

ใกล้ๆ กันยังมีพิพิธภัณฑ์คาวาระ (Kawara Museum) ที่รวบรวมเอาประวัติของเมืองฮาจิมังเอาไว้ ตัวอาคารสวยมากเพราะแต่ก่อนเคยเป็นโรงงานทำกระเบื้องที่มีชื่อเสียงของเมือง คำว่า “คาวาระ” คือชื่อกระเบื้องที่ว่านี่ล่ะ มีเปิดสอนให้ทำกระเบื้องแบบโบราณด้วย แต่ต้องจองล่วงหน้า ตั๋วเข้าชมราคาเป็นมิตรมาก ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 200 เยน 

ใครมีแรง แนะนำให้เดินไปที่ถนนชินมาจิ ซึ่งมีบ้านสมัยเก่าสวยๆ ตั้งอยู่สองข้างทาง หรือจะเดินเล่นริมคลองชมบ้านเมืองหรือหาร้านอาหารหรือร้านกาแฟอร่อยๆ กินก็ได้ เสร็จแล้วค่อยจบทริปด้วยการขึ้นเคเบิลคาร์ไปบนยอดเขาฮาจิมัง จุดขึ้นเคเบิลคาร์อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าและใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที คุณๆ ก็จะได้ขึ้นไปยังจุดสูงสุดของเขาฮาจิมังและได้มองเห็นความสวยงามของเมืองและทะเลสาบบิวะเต็มสองตา ด้านบนเขามีวัดด้วย ไปไหว้พระขอพรกันได้อีก ค่าเสียหายผู้ใหญ่ 880 เยน เด็ก 440 เยน (ไป-กลับ) ถ้าเที่ยวเดียวก็ผู้ใหญ่ 490 เยน เด็ก 250 เยน (งงเล็กๆ ว่าทำไมมีคนซื้อเที่ยวเดียวด้วยหนอ)

 

Omihachiman เคเบิลคาร์ไปบนยอดเขาฮาจิมัง

ชานชาลาขึ้นเคเบิลคาร์ในราคาหลักร้อยเยนและวิวบนเขาหลักแสนเย็น ภาพ: omihachiman.info

 

หมด 1 วันชิลๆ ในตัวเมืองโอมิฮาจิมังแล้ว ได้พลังกลับไปเยอะแน่ๆ รับรอง แผนที่ฉบับย่อสุดขีด แวะไปสอยฉบับจริงกันได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในอาคาร “Hakuunkan” หมายเลข 21

 

สถานที่สำคัญในกรอบสีแดง

    1. คลองฮาจิมังเริ่มต้นตรงนี้
    2. วัดมุราคุโมะโกโชซุยเรียวจิ อยู่บนเขาฮาจิมัง ต้องนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไป
    3. ศาลเจ้าฮิมาเระฮาจิมังงุ
    4. ฮาคุอุงกัง อาคารโรงเรียนเก่า แต่ปัจจุบันเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ตรงสามแยกทางเข้าศาลเจ้าฮิมุเระฮาจิมังงุพอดี แวะไปเอาแผนที่ตัวจริงกันได้ก่อนเริ่มเที่ยว
    5. พิพิธภัณฑ์คาวาระ

 

การเดินทาง

จากเกียวโต นั่งรถไฟสาย Tokaido Sanyo Line จากสถานีเกียวโตมาลงที่สถานี Omi-Hachiman Station ใช้เวลาเดินทาง 40-45 นาที หลังจากนั้นนั่งรถเมล์จากสถานีรถไฟและลงที่ป้ายด้านหน้าศาลเจ้าฮิมุเระฮาจิมังงุอีกประมาณ 10 นาที ใครชอบเดินก็เดินโลด ประมาณครึ่งชั่วโมงถึง

บริการล่องเรือ

ท่าเรือที่ใกล้ที่สุดอยู่ใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์คาวาระ ส่วนรายละเอียดผู้ให้บริการเรือพายและเรือยนต์ทั้งหมดสามารถเข้าไปดูได้ที่นี่ เผื่อใครมีเวลาอยากล่องเรือออกไปไกลถึงทะเลสาบบิวาโกะ 

Website: www.omi8.com/waterway_cruise

 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ