ในยุคที่เรายังต้องพึ่งพาข่าวสารและเรื่องราวน่าสนใจจากการอ่านนิตยสาร เชื่อว่าหลายคนคงจะมีคอลัมน์ในดวงใจที่เมื่อได้นิตยสารมาอยู่ในมือแล้วต้องรีบเปิดอ่านก่อนเป็นอันดับแรก หรือไม่ก็อาจเก็บคอลัมน์โปรดนั้นไว้อ่านตอนว่างๆ ในเวลาสบายๆ ที่ได้อยู่กับตัวเอง ขณะนั่งจิบกาแฟ นั่งเล่นในสวนหรือก่อนเข้านอน ว่าแต่ในปัจจุบันนี้ที่เราแทบไม่อ่านนิตยสาร แต่บริโภคข้อมูลข่าวสารทุกอย่างผ่านสื่อออนไลน์ พวกคุณยังมีคอลัมน์โปรดกันอยู่ไหม (อย่าบอกว่าคอลัมน์ญี่ปุ่นแบบบ้านบ้าน) ฉันมีค่ะ

คอลัมน์ที่ว่านี้ที่จริงก็เป็นบทความออนไลน์ที่แฝงมากับการขายสินค้านั่นล่ะ แต่ด้วยวิธีการเขียนและคอนเซ็ปต์ที่คิดมาดีมาก ทำให้เวลาที่ฉันต้องการบริโภคเรื่องเล่าดีๆ สักเรื่อง ฉันก็พร้อมจะตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาและเปิดคอลัมน์นี้ขึ้นมาอ่านด้วยความรู้สึกตื่นเต้นกับตอนต่อไปทุกที

 

ภาพ: adaymagazine.com

 

คอลัมน์มีชื่อว่า LifeWear Story 100 ของแบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติญี่ปุ่นที่มีสาขามากมายในหลายประเทศ ฉันไม่ได้คลั่งไคล้เสื้อผ้าแบรนด์นี้เป็นพิเศษ แต่ดันมาเจอคอลัมน์นี้โดยบังเอิญ เพราะเป็นแฟนคลับของคุณยาทาโร่ มัตสึอุระ (Yataro Matsuura) ผู้เป็นไดเร็คเตอร์ของคอลัมน์ คุณมัตสึอุระเป็นอดีตบรรณาธิการนิตยสาร Kurashi no Techo (นิตยสารตั้งแต่ยุคหลังสงครามที่ฉันเคยเขียนเล่าไว้ในตอนก่อนนู้น) ทุกวันนี้เขาทำงานหลายอย่าง เป็นทั้งนักเขียน เจ้าของร้านหนังสือ Cow Books และผู้ก่อตั้งสื่อออนไลน์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ Kurashi no Kihon โดยรวมๆ แล้วเขาเป็นที่รู้จักในฐานะของผู้ที่มีรสนิยมดี ซึ่งมักนำเสนอแนวคิดการมีคุณภาพชีวิตที่ดีผ่านสิ่งเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน คอลัมน์ที่เขาเขียนให้กับเสื้อผ้าแบรนด์นี้ คือการเล่าเรื่องราวความทรงจำในอดีตของเขาที่นำมาผูกโยงกับสินค้าแต่ละชิ้น ตอนละหนึ่งชิ้นหนึ่งความทรงจำ เช่น เสื้อเชิ้ตสีขาว ถุงเท้า กางเกงยีนส์ เป็นต้น

 

 

ขอยกตัวอย่างมาเล่าสักตอนนะคะ ตอนนี้มีชื่อว่า “เมื่อการเดินทางเริ่มต้น”

ผู้เขียนได้เล่าถึงการเดินทางจากประเทศญี่ปุ่น ออกจากบ้านของพ่อแม่ในประเทศญี่ปุ่น ไปยังเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อค้นหาตัวเองและเพื่อจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาไปโดยปราศจากจุดหมาย ระหว่างที่เดินหาโรงแรมที่พัก ฝนตกหนัก เขาต้องอาศัยหลบฝนในร้านกาแฟที่เปิด 24 ชั่วโมง สั่งกาแฟและโดนัทชินนาม่อน พร้อมถือโอกาสขอพนักงานเสิร์ฟช่วยแนะนำโรงแรมราคาถูกให้ ทันใดนั้นก็มีตำรวจนายหนึ่งเข้ามาในร้าน พนักงานเสิร์ฟจึงขอความช่วยเหลือจากเขา แล้วนายตำรวจก็พาผู้-เขียนขึ้นรถไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งอนุญาตให้เขาใช้โซฟาต่างฟูกนอนเพื่อรอเช็คอินในวันรุ่งขึ้น คุณตำรวจกล่าวราตรีสวัสดิ์และจากไปโดยทิ้งโดนัทหนึ่งถุงไว้ จากนั้นชายเจ้าของโรงแรมนำเสื้อยืดสีขาวมายื่นให้เพราะเห็นว่าที่เขาสวมอยู่นั้นเปียกเกินไป ผู้เขียนรับไว้เปลี่ยนใส่เสื้อตัวใหม่แล้วห่มผ้านอนคุดคู้บนโซฟา สัมผัสเนียนๆ ของเสื้อที่แห้งและอุ่นนั้นช่างดีเหลือเกิน ทันใดนั้นเองเขาก็อดคิดถึงหน้าแม่ไม่ได้ เขาหลับไปพร้อมน้ำตา ในคืนแรกที่การเดินทางไกลของชีวิตได้เริ่มต้น

 

 

สาบานได้ว่านี่คือบทความขายเสื้อยืดที่ดีที่สุดที่ฉันเคยอ่าน ย่อหน้าข้างบนนั้นฉันเขียนแบบสรุปเพื่อไม่ให้บทความนี้ยาวเกินไป แต่ในเรื่องเล่าของคุณมัตสุอุระนั้น มีท่าทีการเล่าที่ละเมียดละไม ไม่เยิ่นเย้อ ไม่ฟูมฟาย ไม่จำเป็นต้องขยี้ เหมือนแค่เล่าออกมาจากความทรงจำ เหมือนเพื่อนคนหนึ่งเล่าเหตุการณ์ที่เขาเคยเจอให้เราฟัง เป็นเรื่องเล่าที่แสนจะเรียบง่าย ทว่าอ่านแล้วเราสามารถนึกภาพและรู้สึกตามไปด้วยได้ ที่สำคัญเศษความทรงจำที่เขาหยิบยกมาถ่ายทอดนั้น ทำให้เราตระหนักถึงประโยชน์ที่แท้ของเสื้อยืดผ้านุ่มๆ สะอาดๆ สักตัว ซึ่งแม้ว่าจะเป็นบทความเพื่อขายเสื้อผ้า แต่มันไม่เกี่ยวกับคำว่าแฟชั่นเลย มันคือเสื้อผ้าในฐานะที่เป็นเครื่องนุ่งห่ม คือสิ่งที่อยู่ติดตัวเรา อยู่กับเราในทุกๆ เหตุการณ์ ทุกๆ ขณะของชีวิต

 

 

ณ วันที่ฉันเขียนต้นฉบับ เรื่องราวของคุณมัตสึอุระในคอลัมน์นี้มีให้อ่านได้ถึงตอนที่ 68 แล้ว แต่ฉันยังอ่านไม่ครบ เพราะบางทีก็ลืมๆ ไปบ้าง นึกถึงขึ้นมาค่อยเข้าเว็บไซต์มาอ่าน แต่ที่แน่ๆ คือไม่อยากรีบร้อนอ่าน เพราะกลัวว่าถ้าอ่านไปถึงเรื่องลำดับที่หนึ่งร้อยแล้ว จะไม่มีตอนต่อไปให้เราตั้งตารออีกต่อไป

 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ