10 Japan illuminations

ลมหนาวในเดือนสุดท้ายของปีหวนพัดมาพร้อมเทศกาลความสุข อันเป็นสัญญาณให้ละทิ้งความเครียดและความเหนื่อยล้าที่ทุ่มเททำงานมาตลอดปี แล้วมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปลายปีและต้อนรับสิ่งใหม่ที่กำลังจะมาถึง หากใครมีโอกาสไปญี่ปุ่น คงได้สัมผัสบรรยากาศความสุขที่อบอวลไปทั่วทุกที่ในช่วงปลายปีเช่นนี้ เพราะไม่ว่าจะหันมองทางไหน ก็เห็นสถานที่หลายแห่งล้วนตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันถ้วนหน้า ยิ่งหากออกมาเดินกินลมชมวิวยามค่ำคืนด้วยแล้ว คงได้เห็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สวนสาธารณะ และริมถนนถูกประดับประดาด้วยดวงไฟหลากสี

บรรดาแสงไฟเหล่านี้ไม่เพียงเป็นองค์ประกอบของการตกแต่งงานเทศกาล แต่ถือเป็นปรากฏการณ์ประจำปีที่เรียกว่างานประดับไฟหน้าหนาวของญี่ปุ่น โดยงานนี้จะจัดขึ้นประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนธันวาคม ซึ่งตรงกับเทศกาลคริสต์มาสและวันปีใหม่สากล ส่วนบางแห่งอาจเริ่มจัดงานประดับไฟหน้าหนาวตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมและข้ามปีมาจนถึงเทศกาลวาเลนไทน์ ที่สำคัญ งานประดับไฟหน้าหนาวแต่ละแห่งต่างตกแต่งไฟอย่างมีเอกลักษณ์ ช่วยให้ซึมซับบรรยากาศส่งท้ายปลายปีที่แตกต่างกันไปในแต่ละที่ และนี่ก็คืองานประดับไฟหน้าหนาวสุดตระการตาทั่วญี่ปุ่นที่หลายคนควรไปชมให้ได้สักครั้ง

ฮอกไกโด

  • Hakodate

 

photo credit: https://goo.gl/vJhinX

 

ประเดิมชมงานประดับไฟหน้าหนาวที่แรกที่ฮอกไกโดกันเลย เมื่อพูดถึงฮอกไกโด หลายคนมักนึกถึงภูเขาไฟ น้ำพุร้อนออนเซ็น และที่เล่นสกี หากจะยกให้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนช่วงหน้าหนาวก็คงไม่ผิดนัก ยิ่งใครอยากมาเดินเล่นรับลมหนาวส่งท้ายปลายปีด้วยแล้ว การมาชมไฟประดับที่นี่ก็เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ไม่ควรพลาด โดยเทศกาลประดับไฟในฮอกไกโดจะจัดขึ้นที่เมืองฮาโกดาเตะ

 

photo credit: https://goo.gl/8Jkwhd

 

ต้นไม้ริมถนนไล่มาตั้งแต่เนินชมวิวฮาจิมันซากะไปจนถึงนิจุกเคนซากะ ล้วนถูกประดับประดาด้วยดวงไฟทั้งสิ้น 5 หมื่นดวง ซึ่งส่องแสงตกกระทบหิมะขาวบนพื้นถนนจนสะท้อนประกายระยิบระยับ เหมาะแก่การเดินทอดน่อง พักผ่อนสายตา และหาแรงบันดาลใจสำหรับเริ่มต้นสิ่งใหม่ในเทศกาลแห่งความสุขมากๆ  โดยปีนี้ได้จัดงานตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และแต่ละวันจะเริ่มเปิดไฟตอน 5 โมงเย็น จนถึง 4 ทุ่ม

 

photo credit: https://goo.gl/7Y6sAK

โทโฮคุ

  • Sendai

 

photo credit: https://goo.gl/rETAVT

 

หากช่วงนี้มีโอกาสไปเที่ยวที่เมืองเซ็นได จังหวัดมิยางิ ลองตีตั๋วรถไฟไปลงที่สถานี JR Sendai แล้วเดินมาอีกหน่อยประมาณ 20 นาที จะพบว่าตลอดแนวของถนนโจเซ็นจิ โดริอาบไปด้วยแสงสว่างอันอบอุ่นจากไฟประดับ ต้น Keyaki ที่แผ่กิ่งก้านสูงใหญ่ประมาณ 160 ต้น เรียงรายอยู่ริมถนนแห่งนี้ล้วนได้รับการตกแต่งด้วยดวงไฟสีนวล ชวนผู้คนให้ออกมาดูและเก็บภาพความสวยงามในยามค่ำคืนนี้ไว้

 

photo credit: https://goo.gl/4JvRGK
photo credit: https://goo.gl/v3VRp1

 

โดยงานนี้มีชื่อว่า Sendai Pageant of Starlight เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม-31 ธันวาคม นอกจากจะได้ชมไฟประดับสวย ๆ แล้ว ผู้ที่มาชมงานยังมีโอกาสเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ท่ามกลางลานสเก็ตน้ำแข็งและอุโมงค์ไฟประดับที่จัดขึ้น ณ Kotodai Park อีกด้วย

 

คันโต

  • Tokyo Midtown

 

photo credit: https://goo.gl/i4UHBf

 

หากใครอยากจูงมือเพื่อนหรือคนรักมาชมดาวกลางเมืองช่วงนี้ โตเกียวมิดทาวน์ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ควรไปที่สุด โดยงานนี้จัดขึ้นที่โตเกียวมิดทาวน์ แขวงมินะโตะ ไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดินรปปงงิ ความพิเศษของงานประดับไฟที่นี่คือการเนรมิตดวงดาวระยิบระยับจากดวงไฟจำนวน 1 แสน 8 หมื่นดวง เสริมด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนท้องฟ้ายามราตรีในมหานครใหญ่ให้เจิดจรัสไปด้วยดาวนับล้าน

 

photo credit: https://goo.gl/N49bfq
photo credit: https://goo.gl/pWLWrb

 

นอกจากนี้ โตเกียวมิดทาวน์ยังได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ชมงานประดับไฟฤดูหนาวที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เห็นได้จากบรรดาคู่รักที่ควงแขนกันมาชมดาวและดื่มแชมเปญฉลองกันมากมาย โดยเฉพาะในคืนวันคริสต์มาสอีฟ ซึ่งปีนี้เริ่มจัดงานตั้งแต่ 15 พฤศจิกายนไปจนถึงวันคริสต์มาสเท่านั้น

  • Tokyo German Village

 

photo credit: https://goo.gl/23fuoZ

 

หากเบื่อผู้คนหนาแน่นในเมืองหลวง ลองหลบมาดูไฟประดับบรรยากาศสบาย ๆ แต่ไม่ไกลโตเกียวที่ Tokyo German Village ซึ่งอยู่ในเมืองโซเดะงาอุระ จังหวัดชิบะกันดีกว่า แม้จะเดินทางลำบากไปบ้าง หารถโดยสารยากไปหน่อย แต่รับรองว่าการมาชมไฟประดับที่นี่คุ้มค่ามากทีเดียว เพราะ Tokyo German Village ได้รังสรรค์อุโมงค์ไฟหลากสีด้วยไฟ LED กว่า 2 แสน 5 หมื่นดวงภายใต้ธีมงานที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี

 

photo credit: https://goo.gl/QjYNAR
photo credit: https://goo.gl/oB74eE
photo credit: https://goo.gl/d6sRdK

 

อีกทั้งยังมีมาสคอตสัตว์และตัวการ์ตูนอีกมากมายที่ช่วยสร้างสีสันให้การชมไฟประดับหน้าหนาวแต่ละคืนพิเศษไม่ซ้ำใคร จนได้รับความนิยมจากผู้คนที่แห่แหนมาทั่วสารทิศและได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งงานประดับไฟหน้าหนาวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเขตคันโต

 

  • Ashikaga Flower Park

 

photo credit: https://goo.gl/aZ8Y3k

 

เปลี่ยนบรรยากาศชมความงามของธรรมชาติในฤดูใบไม้ผลิ มาเดินเล่นดูไฟประดับหน้าหนาวยามค่ำคืนที่สวนดอกไม้อาชิคางะ ณ เมืองอาชิคางะ จังหวัดโทจิงิ ก็ได้ความรู้สึกใหม่ในการชมดอกไม้บานไปอีกแบบ โดยที่นี่ได้รังสรรค์ทุ่งดอกไม้ให้บานสะพรั่งรับหน้าหนาวด้วยไฟ LED มากกว่า 3 แสน 5 หมื่นดวง เหมาะแก่การมาเดินเล่นผ่อนคลายกับกลุ่มเพื่อน  คนรัก หรือครอบครัวเป็นที่สุด ที่สำคัญ งานประดับไฟฤดูหนาวของที่นี่ยังติด 1 ใน 3 ของสถานที่ชมงานประดับไฟหน้าหนาวที่ดีที่สุดในเขตคันโตอีกด้วย

 

photo credit: https://goo.gl/z5m1ni
photo credit: https://goo.gl/LCG7XA

 

 

ชูบุ

  • Lake Yamanaka

 

photo credit: https://goo.gl/4tu7Zd

 

บางครั้งอะไรที่ไม่ปรุงแต่งมากเกินไป อาจสร้างความประทับใจได้อย่างลึกซึ้ง เหมือนกับงานประดับไฟฤดูหนาว “Fantaseum” ณ ทะเลสาบยามานาคาหรือที่เรียกอีกชื่อว่าทะเลสาบยามานาคาโกะ โดยงานนี้จัดขึ้นบริเวณสวนสาธารณะยามานาคาโกะ ฮานาโมะมิยาโกะ จังหวัดยามานาชิ

 

photo credit: https://goo.gl/3fM4Xt
photo credit: https://goo.gl/9F1Xyq

 

ซุ้มดวงไฟหลากสีที่ส่องสว่างยามค่ำคืนและภูเขาไฟฟูจิซึ่งทอดยาวตระหง่านอยู่ด้านหลังนั้น คือภาพอันงดงามที่หาดูได้ยาก เหมาะแก่การพาคนสำคัญมาใช้เวลาร่วมกันเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญ การแสดงพลุดอกไม้ไฟซึ่งเป็นไฮไลต์ของงานก็ทำให้การชมไฟประดับฤดูหนาวของที่นี่น่าจดจำไม่รู้ลืม

 

คันไซ

  • Kobe Luminarie

 

photo credit: https://goo.gl/LafzvE

 

เมื่อกล่าวถึงงานประดับไฟฤดูหนาวแล้ว หลายคนคงนึกถึงงานประดับไฟ “Kobe Luminarie” ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ โดยงานนี้ถือเป็นงานประดับไฟฤดูหนาวที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น เดิมทีเทศกาลนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อปี 1995 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ณ ฮันชิน นอกจากจะได้ชมความสวยงามอลังการของไฟ LED ที่ผสมผสานศิลปะตะวันตกและตะวันออกจากฝีมือศิลปินชาวอิตาเลียนและชาวญี่ปุ่นแล้ว ยังนับเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้มาเยือนงานนี้จะได้ร่วมรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการจุดประกายความหวังและกำลังใจของผู้คนให้กลับคืนมา แม้ปีนี้จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 8-17 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงสั้น ๆ เหมือนทุกปี แต่งานประดับไฟที่นี่กลับมีผู้คนแห่แหนมาชมไม่ต่ำกว่าปีละ 3 ล้านคน’

 

photo credit: https://goo.gl/whvkCv
photo credit: https://goo.gl/FL1ALB
photo credit: https://goo.gl/kJfbwf

 

  • Midosuji

 

photo credit: https://goo.gl/Upo1CG

 

เมื่อพูดถึงการเดินเล่นชมไฟประดับตอนกลางคืนท่ามกลางอากาศเย็นสบาย คงไม่มีที่ไหนที่เข้ากับนิยามนี้มากไปกว่างานประดับไฟฤดูหนาวที่ถนนมิโดสุจิ ณ โอซาก้า เส้นทางเกือบ 4 กิโลเมตรบนถนนสายนี้นับตั้งแต่ย่านอูเมดะไปจนถึงนัมบะอันเป็นใจกลางของโอซาก้า ล้วนสว่างไสวไปด้วยไฟประดับระยิบระยับ ซึ่งถูกนำมาตกแต่งต้นไม้ อาคาร ห้างร้านต่าง ๆ ที่ตั้งเรียงรายตลอดแนวริมถนน ดึงดูดผู้คนให้มาเที่ยวชมไฟประดับหน้าหนาวในเทศกาลแห่งความสุข ที่สำคัญ งานประดับไฟของถนนมิโดสุจิยังได้รับการขนานนามให้เป็นถนนที่มีการไฟประดับยาวที่สุดในโลกอีกด้วย

 

photo credit: https://goo.gl/Rh9hb7

 

ชูโกกุ

  • Tottori Sand Dunes

 

photo credit: https://goo.gl/jTXJxk

 

หากกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในจังหวัดทตโตริ แน่นอนว่าต้องปรากฏชื่อของเนินทรายทตโตริขึ้นมาเป็นอันดับแรก โดยที่นี่ยังได้รับการขนานนามให้เป็นเนินทรายที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ผืนทรายที่ทอดยาว 16 กิโลเมตร ตลอดแนวชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น ผนวกกับเนินทรายสูง 50 เมตรนี้ได้ก่อเกิดทัศนียภาพซึ่งดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศให้มาเยี่ยมชมไม่ขาดสาย

 

photo credit: https://goo.gl/H1jrnw

 

นอกจากจะได้ขี่อูฐ เล่นแซนด์บอร์ดและพาราไกลดิ้ง ชมวิวเนินทรายทตโตริทั่วทุกมุมครบ 360 องศา และดูรูปปั้นทรายในพิพิธภัณฑ์ The Sand Museum แล้ว ที่นี่ยังจัดงานประดับไฟฤดูหนาวที่มีชื่อว่า “Tottori Sakyu Illusion” ส่งท้ายฤดูหนาวปลายปีด้วยเช่นกัน โดยผู้ที่มาเยี่ยมชมจะได้ยลความงดงามของประติกรรมทรายที่มีไฟประดับในยามค่ำคืน ดวงไฟหลากสีที่ตกแต่งทั่วงานจำนวน 3 แสนดวง รวมทั้งการแสดงภาพฉายโปรเจ็กเตอร์แสนอลังการบนเนินทรายที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา

 

photo credit: https://goo.gl/YDvury

 

คิวชูและโอกินาวา

  • Huis Ten Bosch

 

photo credit: https://goo.gl/LmCQoP

 

หากอยากสัมผัสวิถีชีวิตชาวตะวันตกในญี่ปุ่น ต้องหาโอกาสไปเยือน Huis Ten Bosch ณ เมืองซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิ ดูสักครั้ง เพราะที่นี่คือสวนสนุกธีมปาร์ที่จำลองวิถีชีวิต สถาปัตยกรรม และเครื่องเล่นของชาวดัตช์ดั้งเดิมไว้อย่างครบครัน จนได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านฮอลแลนด์ และแน่นอนว่างานประดับไฟของที่นี่ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว

 

photo credit: https://goo.gl/oDWSBY
photo credit: https://goo.gl/jMBLzJ
photo credit: https://goo.gl/QFV5aP
photo credit: https://goo.gl/PNqwYK

 

หลายคนมักรู้จักงานประดับไฟของ Huis Ten Bosch ในชื่อของงาน “Kingdom of Ligh” โดย Huis Ten Bosch จะถูกตกแต่งด้วยไฟหลากสีประมาณ 13 ล้านดวง พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมกรรมดวงไฟประดับน้ำตกที่สูงถึง 66 เมตร และไฮไลต์เด็ดอย่างการล่องเรือชมน้ำพุและแสงสีสุดตระการตาที่ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศการชมไฟประดับหน้าหนาวไปอย่างสิ้นเชิง

 

photo credit: https://goo.gl/7Wieay

 

แม้สถานที่ชมไฟประดับแต่ละแห่งจะมีแนวคิดและรูปแบบการตกแต่งจัดงานเฉพาะตัว แต่งานประดับไฟฤดูหนาวแต่ละที่กลับสะท้อนให้เห็นการใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกับคนสำคัญ แสงสว่างจากดวงไฟเล็ก ๆ นับล้านดวงที่มารวมกันล้วนเชื่อมสัมพันธ์ผู้คนให้แน่นแฟ้นมากขึ้นท่ามกลางการเฉลิมฉลองเทศกาลในช่วงสั้น ๆ

นอกจากสถานที่ 10 แห่งที่ยกมานี้ ยังมีงานประดับไฟฤดูหนาวอีกหลายแห่งในญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาดและเหมาะแก่การพาคนพิเศษไปร่วมชมความสวยงามด้วยกัน

_

ที่มา:
https://goo.gl/gdHmhH
https://goo.gl/LVh8dN
https://goo.gl/cwmNAD
https://goo.gl/HkhrCE
https://goo.gl/qnCXqd
https://goo.gl/wbb2XU
https://goo.gl/VRcJT2
https://goo.gl/4Jo4LJ

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ