“อิคิไก” เหตุผลที่เราอยากตื่นมาทุกๆ เช้า
เคน โมงิ (Ken Mogi) นักประสาทวิทยาและนักเขียนผู้มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น เรียบเรียงหนังสือเกี่ยวกับหลักการพื้นฐานของ “อิคิไก” (生き甲斐) ศัพท์ที่ฉันเคยได้ยินแต่ไม่เข้าใจดีนัก ซึ่งตอนนี้แปลออกมาเป็นภาษาไทยแล้วในชื่อ อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่ (แปลโดยวุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ) ฉันหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านซ้ำและสำรวจตัวเองไปด้วยอีกครั้งว่าส่วนไหนของชีวิตที่ทำให้เรารู้สึกว่ามีคุณค่าและมีความหมาย ตามธรรมเนียมของการส่ง-ท้ายปีเก่า-ขึ้นต้นปีใหม่
ชื่อหนังสือฉบับภาษาไทย อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่ สรุปความหมายของคำคำนี้ได้สั้นกระชับและได้ใจความดี เพราะคำว่า “อิคิ” ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง “การมีชีวิต” ส่วน “ไก” แปลว่า “เหตุผล” พูดให้เข้าใจง่ายๆ “อิคิไก” คือสิ่งที่ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีความสมดุล มีคุณค่า คือแรงผลักดันที่ทำให้เราอยากลืมตาตื่นในทุกๆ เช้า ถึงแม้ว่า “อิคิไก” จะเป็นคำศัพท์เฉพาะที่พูดถึงลักษณะนิสัยของคนเชื้อชาติญี่ปุ่น แต่ผู้เขียนมีความเห็นว่าคนชาติไหนๆ ก็มีอิคิไกได้ทั้งนั้น เพราะมันคือการแสวงหาความสุขในชีวิตที่ผู้คนทั่วโลกจำนวนมากต้องการในทุกยุคทุกสมัย
ในช่วงต้นของหนังสือ ผู้เขียนเกริ่นสั้นๆ ว่าอิคิไกประกอบด้วยสิ่งสำคัญ 5 ประการ คือ การเริ่มต้นเล็กๆ การปลดปล่อยตัวเอง ความสอดคล้อง และยั่งยืน ความสุขกับสิ่งเล็กๆ และการอยู่ตรงนี้ ตอนนี้ ซึ่งผู้เขียนยังบอกไว้อีกด้วยว่าการมีอิคิไกจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ แม้ว่าเราจะไม่ได้มีสิ่งสำคัญทั้งห้าอย่างครบสมบูรณ์ และการจะเข้าใจเรื่องอิคิไกได้นั้น ผู้อ่านสามารถศึกษาจากตัวอย่างที่แฝงอยู่ในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต กระบวนการทางความคิดของคนญี่ปุ่นที่ผู้เขียนหยิบยกมา ซึ่งมีทั้งในระดับปัจเจกและระดับสังคม
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่า “ไม่มีสูตรสำเร็จในสิ่งที่เรียกว่าความสุข” เพราะแต่ละคนมีรายละเอียดในชีวิตหรือประวัติศาสตร์ความทรงจำที่ไม่เหมือนกัน การสำรวจตัวเองและการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นอย่างซื่อสัตย์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งระหว่างอ่านหนังสือเล่มนี้
สำหรับฉันเองอาจจะยังไม่รู้คำตอบที่ชัดเจนนัก เพราะนอกเหนือจากการได้ทำงานที่ตัวเองชอบ การมีสุขภาพดีทั้งกายและใจแล้ว ฉันมองว่ารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการใช้ชีวิตประจำวันนั้นสำคัญไม่แพ้กัน เช่น พิธีกรรมเล็กๆ ที่ฉันรู้สึกรื่นรมย์เมื่อได้ทำอย่างเป็นกิจวัตร นั่นคือการมีเวลาส่วนตัวเงียบๆ คนเดียวเมื่อตื่นนอนตอนเช้า และได้ทำกิจกรรมช่วงเช้าอย่างไม่รีบเร่ง แม้จะเป็นเพียงกิจกรรมแสนธรรมดา แต่ฉันก็ชอบที่ทุกวันนี้ได้มีช่วงเวลาแบบนั้น
ตื่นมาเปิดมู่ลี่หน้าต่างรับแสงเช้า ออกไปรดน้ำต้นไม้ ชงชา แล้วเก็บจานชามที่ล้างตากทิ้งไว้ในครัวเมื่อคืนเข้าตู้ให้เรียบร้อย อ่านหรือดูอะไรเล็กๆ น้อยๆ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันทำให้ฉันรู้สึกปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย และมีพลังใจ ก่อนที่จะเริ่มต้นสะสางธุระหรือการงานในแต่ละวัน
แม้จะไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แม้จะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่ฉันก็ชอบคำอธิบายเรียบง่ายที่ผู้เขียนบอกไว้ว่า“อิคิไกคือเรื่องเล็กๆ ความอดทน ธรรมดาวิสัย และมองออกไปไกลๆ”เพราะในบางแง่มุมมันเหมือนเป็นคำตอบที่ทำให้หลายๆ คนเชื่อมั่นในสิ่งที่เป็นอยู่แต่อีกด้านก็คล้ายเป็นคำถามว่าสิ่งที่กำลังตามหาอยู่มันคืออะไรกันนะ