Hokkaido Lavender Field : เที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์เติมความสดใสให้ฤดูร้อนในฮอกไกโด

ชวนไปรับอากาศดีที่ ทุ่งลาเวนเดอร์ สีม่วงสดใสใน ฮอกไกโด 

ทุกครั้งที่คิดถึงฮอกไกโดก็จะนึกถึงหิมะสีขาวอย่างช่วยไม่ได้ ทำให้เราก็ลืมไปว่ายังมีฤดูอื่นๆ ที่ไม่ใช่ฤดูหนาวอยู่อีก และที่สำคัญดีงามไม่แพ้ฤดูหนาวแน่นอน เราขอแนะนำให้รู้จักฮอกไกโดในฤดูร้อน แม้ไม่มีหิมะเหมือนอย่างที่เราชินตา แต่มีสีม่วงสดใสของ ทุ่งลาเวนเดอร์ ฮอกไกโด อากาศดีแถมลมเย็นสบายรอต้อนรับเราอยู่ที่ฟาร์มลาเวนเดอร์ยอดนิยม 4 แห่งต่อไปนี้  

ภาพ : www.nippon.com

01 ฟาร์มโทมิตะ | Farm Tomita

ฟาร์มโทมิตะเราบอกเลยว่าทุกปีในฤดูร้อนที่นี่เป็นโลเคชั่นแรกๆ ที่นักท่องเที่ยวนึกถึง ทุ่งลาเวนเดอร์ของที่นี่อยู่ที่เมืองฟุราโนะ (Furano) ฮอกไกโด ว่ากันว่าเป็นทุ่งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยด้วย

ภาพ : ryokouiko.com

ภาพ : blog.retore.xyz

นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติจำนวนมากต่างเดินทางมาเพื่อจะชื่นชมความสวยงาม พร้อมเก็บภาพประทับใจ ยามที่ดอกลาเวนเดอร์บานเต็มที่ โดยตัวฟาร์มจะมีสองที่ ที่แรกเป็นฟาร์มโทมิตะจะมีดอกไม้หลากหลายชนิดเป็นส่วนใหญ่ และที่ลาเวนเดอร์อีส (Lavender East) ที่นี่เราจะได้พบกับทุ่งลาเวนเดอร์สุดกว้าง สถานที่ตั้งก็อยู่ห่างกันเพียงนิดหน่อยเท่านั้น

ภาพ : farm-tomita.co.jp

ความเก๋คือที่นี่ไม่ได้มีแค่ลาเวนเดอร์สีม่วง มีสีอื่นๆ อีกที่สวยงามไม่แพ้กัน อาทิ ชมพูหรือขาว นอกจากลาเวนเดอร์แล้วยังมีดอกไม้อย่าง ดอกทิวลิป ดอกป๊อปปี้ มาเพิ่มสีสันให้ฟาร์มแห่งนี้อีกหลายชนิด เตรียมกล้องถ่ายรูปไว้ให้พร้อมเลยนะ

ภาพ : www.nippon.com

ภาพ : ushigyu.net

แต่ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงถิ่นทุ่งลาเวนเดอร์ทั้งที ก็อย่าลืมลองชิมไอศกรีมลาเวนเดอร์สีม่วงกันด้วยนะ!

ภาพ : nippon.com

Info
Farm Tomita
Open Hours: 8:30-18:00 น.
Entrance Fee: เข้าฟรี
Access: จากสถานี JR ฟุราโนะ (Furano Station) ขึ้นรถไฟ Furano & Biei Norokko ลงสถานีลาเวนเดอร์ฟาร์ม (Lavender-Farm Station) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ราคา 230 เยน
Best Season: กรกฎาคม

02 ฟลาวเวอร์แลนด์ คามิฟุราโนะ | Flower Land Kamifurano

เรียกว่าเป็นดินแดนแห่งดอกไม้ที่แท้จริง ใครผ่านมาเที่ยวที่ฮอกไกโดไม่ควรพลาด 

ภาพ : yakpaihokkaido.com

ที่นี่ไม่ได้มีแค่กิจกรรมเดินหรือนั่งรถชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์และดอกไม้นานาพันธุ์เท่านั้น ฟาร์มนี้เขาก็มีกิจกรรมน่ารักๆ ให้ได้เลือกทำกันอีก เช่น เวิร์คช็อปของกระจุกกระจิก ตกแต่งปฎิทินทำมือจากดอกไม้ สนใจอันไหนก็เลือกตามความสนใจได้เลย

ภาพ : aumo.jp

เนื่องจากดอกไม้ของที่นี่จะสลับกันบานตามฤดูกาล รับรองความสวยและสีสันตลอดปีแน่นอน เพราะเหตุนี้จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมตลอดทั้งปี เราแนะนำให้ลองชิมเมล่อนหอมๆ ข้าวโพดสดๆ ของอร่อยจากฟาร์มกันด้วยนะ 

ภาพ : jalan.net

Info
Flower Land Kamifurano
Open Hours: 9:00-17:00 น. (เดือนธ.ค.-มี.ค. ปิด 16:00 น.)
Entrance Fee: เข้าฟรี
Access: จากสถานีฟุราโนะ (Furano Station) นั่งรถไฟ Local Asahigawa ลงสถานีคามิฟุราโนะ (Kami-Furano Station) ใช้เวลา 30 นาที ราคา 360 เยน แล้วต่อแท็กซี่ 8 นาที
Best Season: ต้นกรกฎาคม ถึง ต้นสิงหาคม

03 คันโนฟาร์ม | Kanno Farm

ห่างออกมาอีกสักนิดจากสองฟาร์มแรก ที่นี่สามารถชมดอกไม้ได้ตั้งแต่ฤดูร้อนไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วงเลย เพราะว่ามีดอกไม้กว่า 30 สายพันธุ์ในบริเวณฟาร์ม

ภาพ : aumo.jp

ภาพ : okatabi.hill-in-biei.com

ชมดอกไม้กันจนเหนื่อยก็แวะพักสักนิด กินของอร่อยๆ จากฟาร์มและช็อปของที่ระลึกได้ที่ร้านขายของที่หน้าฟาร์ม ของต้องกินของที่นี่ก็ต้องเป็นมันฝรั่งเนย และของที่ต้องซื้อติดมือกลับบ้านก็คงต้องเป็นข้าวโพดหวานๆ ที่เราอยากให้ทุกคนได้ลอง

ภาพ : kanno-farm.com

Info
Kanno Farm
Open Hours: 9:00-17:00 น. (เดือนธ.ค.-มี.ค. ปิด 16:00 น.)
Entrance Fee: เข้าฟรี
Access: จากสถานีฟุราโนะ (Furano Station) นั่งรถไฟ Furano & Biei Norokko ลงสถานีบิบะอุชิ (Bibauchi Station) ใช้เวลา 30 นาที ราคา 540 เยน เดินต่อ 20 นาทีหรือนั่งรถแท็กซี่ 3 นาที
Best Season: กลางกรกฎาคม ถึง ปลายสิงหาคม

04 ชิคิไซ โนะ โอกะ | Shikisai-no-oka

อีกหนึ่ง ทุ่งลาเวนเดอร์ ฮอกไกโด ที่สวยไม่แพ้ฟาร์มที่เล่าไปก่อนหน้านี้แน่นอน 

ภาพ : commons.wikimedia.org

ภาพ : thegate12.com/spot/669

เพราะจุดเด่นที่ทำให้ที่นี่ไม้แพ้ใคร คือทุ่งดอกไม้สลับสีสดใสเหมือนปูพรมไว้รอเรานั่นเอง ถูกใจทุกเพศทุกวัยที่ชอบความสดใสและสีสันของดอกไม้สุดๆ

ภาพ : shikisainooka.jp

นอกจากฤดูที่ดอกไม้บานแล้ว ในฤดูหนาวที่ไม่เห็นดอกไม้ ทางฟาร์มก็มีกิจกรรมอย่างอื่นให้ได้เพลิดเพลินกัน อย่างการนั่งรถเลื่อนลุยหิมะ หรือจะขับรถตะลุยหิมะก็เลือกสนุกกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ภาพ : tesyasblog.com

ภาพ : shikisainooka.jp

จุดเด่นที่ขาดไม่ได้ไม่ว่าใครแวะเวียนมาถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้แล้วก็ต้องหลงในความน่ารักของเจ้าแกะอัลปาก้า! ที่เป็นเหมือนมาร์สคอตของที่นี่ ความน่ารักคือทางฟาร์มก็เปิดให้เราได้ให้อาหารเหล่าอัลปาก้าอย่างใกล้ชิด แถมสามารถแวะมาให้อาหารได้ตลอดทั้งปีไปเลย

Info
Shikisai no oka
Open Hours: เดือนเม.ย.-พ.ค. และต.ค. 9:00-17:00 น., มิ.ย.-ก.ย. 8:30-18:00 น., พ.ย.และ มี.ค 9:00-16:30 น., ธ.ค.-ก.พ. 9:00-16:00 น.
Entrance Fee: เข้าฟรี (อาจะมีค่าใช้จ่ายข้างในในแต่ละพื้นที่)
Access:  จากสถานีฟุราโนะ (Furano Station) นั่งรถไฟ Furano & Biei Norokko ลงสถานีบิบะอุชิ (Bibauchi Station) ใช้เวลา 30 นาที ราคา 540 เยน เดินต่อ 25 นาทีหรือนั่งรถแท็กซี่ 5 นาที
Best Season: ปลายมิถุนายน ถึง ต้นสิงหาคม