ISHIKARI | ตะลุยเที่ยวฮอกไกโด ในดินแดนอิชิคาริ
::: HELLO ISHIKARI :::
สวัสดีครับ ผมชื่อโย่ง ผมชอบการผจญภัย รักธรรมชาติ และการถ่ายภาพจนหายใจเข้าออกก็นึกถึงแต่การท่องเที่ยวเก็บภาพความประทับใจ แน่นอนครับว่าผมทำงานเป็นช่างภาพ เดินทางถ่ายงานไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ต่างประเทศก็เคยไปบ้างนะ แต่เชื่อไหมครับว่าผมเพิ่งเคยญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกผมเชื่อว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่หลายคนชื่นชอบ ผมเองก็ชอบเหมือนกัน อะไรหลายๆอย่างดึงดูดผมให้ลองไปสัมผัส ณ ที่แห่งนี้สักครั้ง เมื่อโอกาสของผมมาถึง ในแผนที่ของผมจึงมีหมุดปักลงที่ “อิชิคาริ (Ishikari)”
พอพูดถึงอิชิคาริ (Ishikari) หลายคนอาจรู้จัก หลายคนอาจไม่รู้จัก ผมอยู่ในประเภทหลังครับ ผมไม่รู้จักอิชิคาริเพราะญี่ปุ่นแว้บแรกในหัวคือโตเกียว เกียวโต ไม่ก็โอซาก้า หรือก็อตซิลล่าถล่มตึก ระยะหลังนี้ถึงได้เห็นทีวีหรือป้ายโฆษณาเริ่มโปรโมทจังหวัดอื่นๆ โดยเอาแมสคอตมาชักชวนกันอย่างครึกครื้น อย่างเจ้าหมีดำพลังงานล้นที่ชื่อคุมะมง ก็เป็นที่จดจำอยู่ไม่น้อย เอ๊ะ…รู้สึกจะเริ่มนอกเรื่อง กลับมาที่อิชิคาริกันต่อดีกว่าครับ
พอรู้ว่าตัวเองปักหมุดที่ไหนจึงไม่รอช้ารีบคว้าคู่มือท่องเที่ยว มือเดียวคลิกเมาส์หาข้อมูลเรื่องอิชิคาริอ่าน ถ้าพูดแค่คำว่าอิชิคาริ อาจงงว่าอยู่ที่ไหน แต่ถ้าผมพูดถึงซัปโปโร (Sapporo) เชื่อว่าหลายคนน่าจะร้องอ๋อ ครับ…ซัปโปโรคือเมืองหนึ่งที่อยู่ในภูมิภาคอิชิคาริ และภูมิภาคอิชิคาริก็อยู่ในฮอกไกโด ในภูมิภาคอิชิคาริยังมีสนามบินชิโตะเสะ (New Chitose Airport) และสถานที่สำคัญมากมายตั้งอยู่ ถ้าเล่าให้เห็นภาพอีกนิด ติ๊ต่างว่าฮอกไกโดคือเมืองไทย ภูมิภาคอิชิคาริก็คือกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลนั่นละครับ
ก่อนหน้านี้ผมพูดว่าซัปโปโรคือเมืองหนึ่งในภูมิภาคอิชิคาริ นั่นแปลว่าในภูมิภาคนี้ยังมีอีกหลายเมือง ผมรีบหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติมทันที แล้วใจก็เต้นด้วยความลิงโลดเลยครับ ตามเมืองต่างๆ ในภูมิภาคอิชิคารินั้นเต็มไปด้วยธรรมชาติ แน่นอนครับว่าที่ไหนๆ ในญี่ปุ่นก็มีธรรมชาติ แต่ถ้าจะเที่ยวแบบจำกัดเวลา ที่นี่ก็น่าสนใจมากทีเดียว เพราะแต่ละเมืองเดินทางไปถึงได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง เก็บของสิครับ…รออะไร ตอนนี้ใจผมบินไปนอนรอที่สุวรรณภูมิแล้ว
สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น กับกิจกรรมสุดมันส์!
เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโบยบินไปบนท้องฟ้ากับพาราเซลลิง ชมแสงไฟยามราตรีของเมืองซัปโปโรแบบ 360 องศา ผ่อนคลายร่างกายกับออนเซ็นกลางแจ้ง และขี่สโนว์โมบิลตะลุยป่าใหญ่ ไม่ว่ากิจกรรมไหนก็ทำให้คุณสนุกจนลืมความหนาวไปเลย
- Parasailing : เหินเวหาท้าลมหนาวไปกับรถลากร่ม
ท่ามกลางพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ผมว่ามีกิจกรรมหนึ่งน่าสนใจมากนั่นคือ “พาราเซลลิง”
พาราเซลลิง (Parasailing) ที่หลายคนคุ้นเคยนั้นคือการเอาตัวไปผูกกับร่มชูชีพให้เรือลากกลางทะเล แต่พาราเซลลิงที่ผมกำลังจะไปเล่นนี้มันไม่ได้อยู่กลางทะเลน่ะสิครับ แถมยังใช้รถลากร่มชูชีพอีกด้วย ลากกันมันตรงกลางพื้นที่หิมะขาวโพลนนี่ล่ะครับ หลังจากที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ผมก็เดินทางมาถึงฮาโกเนะ ฟาร์ม (Hakone Farm) ซึ่งอยู่ในเมืองชิโตะเสะ ผมไม่รอช้ารีบเปลี่ยนชุดที่ทางฟาร์มจัดเตรียมไว้ให้ก่อนเดินทางไปยังลานกิจกรรมสุดตื่นเต้น พอไปถึง เจ้าหน้าที่จะคอยช่วยติดอุปกรณ์ต่างๆ ที่ตัวผมยุบยับ หลักๆ เลยคือ สายเคเบิลที่มีร่มและผมผูกติดไว้ด้วยกันก่อนที่ปลายด้านหนึ่งจะถูกนำไปคล้องกับรถลาก
3 2 1…พุ่บ! หลังสัญญาณปล่อยตัว ผมเริ่มออกวิ่งตามรถที่ออกตัว วิ่งอยู่ได้ราว 10 ก้าว รู้ตัวอีกทีก็เริ่มพุ่งทะยานไปบนท้องฟ้า ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนตัวเองเป็นนกกระเรียนกำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า
พร้อมหิมะโปรยปราย ความสูงที่ผมมองลงมาราวกับอยู่บนตึกสูง 6 ชั้น วิวข้างบนสวยงามมากจนลืมหนาวไปเลย แล้วเพลง Let it go ก็แวบขึ้นมาในหัว เป็นช่วงเวลาที่ผมขำตัวเองเหลือเกิน
ผมโบยบินอยู่บนพาราเซลลิงราวๆ 5 นาที รู้สึกตื่นเต้นและสนุกมาก เรื่องความปลอดภัยนั้นหายห่วง เพราะจะมีทีมงานขี่รถลากอีกคันคอยตามตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มขึ้นไปบนฟ้าจนกระทั่งลงมาสู่พื้นดินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนุ่มนิ่ม หน้าผมไม่ฟาดน้ำครับ แต่ฟาดหิมะแทน อ้อ…ได้ยินแว่วๆ มาว่ากิจกรรมนี้หาเล่นไม่ได้ง่ายๆ อยากให้คุณมาลองเล่นเป็นเอลซ่าเหมือนผมในตอนนั้นจริงๆ
- BBQ & Snowmobile : ปิ้งบาร์บีคิวกลางหิมะและขี่รถฝ่าลมชมวิวที่ 10 Pound
หากเราให้ความเคารพผู้มีพระคุณฉันใด ก็เหมือนกับคนญี่ปุ่นให้ความเคารพธรรมชาติฉันนั้น เกริ่นมาซะสวย ที่จริงแล้วผมจะพูดเรื่องเนื้อกวางที่เป็นไฮไลต์ยามปิ้ง BBQ ให้ฟังครับ เนื้อกวางของที่นี่เป็นกวางป่า แถมยังอนุญาตให้ล่าได้เฉพาะฤดูหนาว คนญี่ปุ่นเชื่อว่ากวางที่ล่าได้คือสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้ กินแล้วจะได้รับพลังที่ดี เนื้อกวางยังมีธาตุเหล็กสูง แคลอรีต่ำ ไขมันน้อย โหย…เมื่อได้กินกับผักสดๆ อร่อยอย่าบอกใครเลย ผมอยากขอบคุณธรรมชาติจริงๆ เลยกินไม่เหลือสักชิ้นเพื่อไม่ให้ท่านผิดหวัง
หลังจากกินอิ่มพร้อมลุย ผมจึงไปต่อด้วยกิจกรรมขี่สโนว์โมบิล (Snowmobile) ระยะทางไกล ทั้งเข้าป่า ลอดต้นไม้ใหญ่ และขึ้นเขาไปจนถึงจุดชมวิวของ 10 Pound สนุกและตื่นเต้นมาก อ้อ…ไม่ต้องกลัวหลงเลย เพราะมีเจ้าหน้าที่นำทางคอยดูแลความปลอดภัยตลอดการบุกป่าฝ่าหิมะเลยครับ
- Night View at Mt.Moiwa : สั่นระฆังขอพรพร้อมชมวิวยามค่ำแบบ 360 องศา
ถ้าใครมาถึงซัปโปโรแล้วไม่ได้มาที่ภูเขาโมะอิวะ (Moiwa) ผมถือว่าพลาดมาก เพราะสถานที่แห่งนี้ติดอันดับ 1 ใน 3 สถานที่ชมวิวยามราตรีที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 531 เมตร โมริสุคาร์ (Morisu Car) หรือเคเบิลคาร์ที่พาผมไปยังยอดเขาก็มีที่มาของชื่อน่ารักมาก มันมาจากเสียงร้องของกระรอกซึ่งเป็นแมสคอตของที่แห่งนี้ ขณะที่โมริสุคาร์ขับเคลื่อนไปช้าๆ เจ้าหน้าที่ก็คอยบรรยายประวัติภูเขาไปด้วย ระหว่างทางผมได้เห็นเจดีย์สีขาวองค์หนึ่ง นั่นคือเจดีย์สันติภาพ ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย
ทันทีที่ผมขึ้นไปถึงยอดเขา ผมยืนตะลึงไปชั่วขณะ เพราะผมมองเห็นวิวของเมืองซัปโปโรได้ถึง 360 องศา แสงไฟยามค่ำคืนกับหิมะในฤดูหนาวสวยงามมากจนสะกดให้มิอาจละสายตาไปจากภาพตรงหน้าได้เลย ไฮไลต์บนภูเขาโมะอิวะไม่ได้มีแค่นั้น มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนรอต่อคิวถ่ายรูป นั่นคือระฆังเงิน (Lover’s Sanctuary) ที่ตั้งอยู่ใจกลางภูเขา หลายคนอธิษฐานแล้วสั่นระฆังด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข เสียงระฆังดังกังวานไปทั่วภูเขา ผมอยากให้ทุกคนได้มาเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ
บนภูเขาโมะอิวะยังมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย อ้อ…สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคืออย่าทำตั๋วขึ้นลงโมริสุคาร์หายนะ ไม่อย่างนั้นจะต้องเสียเงินซื้อตั๋วใหม่นะคร้าบ
- Onsen : แช่น้ำนั่งชิลท่ามกลางหิมะโปรยปราย
เมื่อมาถึงฮอกไกโดทั้งที สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือ การแช่น้ำร้อน ผมมีโอกาสได้ไปที่ทัปปุโนะยุออนเซ็น (Tappunoyu Onsen) ซึ่งเป็นบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของฮอกไกโด นี่คือการลงออนเซ็นครั้งแรกในชีวิตของผม เมื่อไปถึงผมโล่งใจเพราะที่นี่มีป้ายอธิบายวิธีการแช่น้ำเป็นภาษาไทยด้วย หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ ผมรีบเดินออกไปโซนออนเซ็นกลางแจ้ง พร้อมผ้าผืนเล็กปิดกันโป๊ 1 ผืน ระหว่างที่เดินออกไปก็เห็นหิมะตก อากาศหนาวมาก ผมค่อยๆ ลงแช่ในบ่ออย่างช้าๆ สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือร่างกายรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เป็นการแช่ออนเซ็นท่ามกลางหิมะที่สบายตัวมากครับ บรรยากาศก็เงียบสงบจนได้ยินเสียงลมเบาๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนญี่ปุ่นถึงชอบออนเซ็น
มาแล้วต้องกิน!
อิชิคาริอุดมสมบูรณ์ทั้งธรรมชาติและอาหาร มีที่ท่องเที่ยวมากมายและยังมีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์จนผมต้องยกนิ้วให้ สุโก้ย
- Ishikari Nabe
อิชิคารินาเบะ (Ishikari Nabe) คือเมนูท้องถิ่นที่มีต้นกำเนิดมาจากแม่น้ำอิชิคาริ เมื่อ 100 ปีก่อน นักตกปลาที่แสวงหาแซลมอนตัวโต ต่างพากันมาตกปลาแล้วตั้งหม้อไฟกันข้างริมน้ำอย่างครึกครื้น ประกอบกับร้านคินไดเท (Kindaitei) ที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำในเวลานั้น ได้นำเมนูนี้มาดัดแปลงจนเป็นที่แพร่หลายในเวลาต่อมา เมื่อผมได้มีโอกาสลิ้มรส กลิ่นน้ำซุปหอมๆ จากสาหร่ายคอมบุยั่วน้ำลายผมมาก ในหม้อมีวัตถุดิบที่ประกอบด้วยผักต่างๆ อย่างกะหล่ำปลี หัวหอม ฯลฯ และพระเอกของเมนูนี้คือเนื้อปลาแซลมอนสดชิ้นโต รสชาติน้ำซุปกับความอร่อยของเนื้อปลาแซลมอนนั้นเข้ากันอย่างลงตัว ใครที่ได้ลองกินต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “โออิชี่”
- Soup Curry
มาอุ่นร่างกายด้วย Soup Curry กันครับ เมนูนี้คืออาหารขึ้นชื่อของซัปโปโร และมีต้นกำเนิดที่เมืองนี้ ซึ่งไม่เหมือนแกงกะหรี่ทั่วไป เพราะแกงกะหรี่ของที่นี่อัดแน่นไปด้วยผักหลากหลายชนิด อยู่ในน้ำซุปร้อนๆ เกือบล้นชาม
- Sapporo Ramen
อาหารประเภทเส้นคงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย ต้องยกนิ้วให้กับเมนูราเมนฮอกไกโดครับ เมนูยอดนิยมของเมืองนี้คือราเมนซุปมิโซะ เส้นที่เหนียวนุ่มบวกกับซุปมิโซะรสกลมกล่อมนั้น ทำให้อาหารมื้อนี้เป็นช่วงเวลาที่แสนจะมีความสุขกับการกินราเมนในฮอกไกโดเลย
- Hokkaido Vegetable
คนชอบกินผักจะไม่ผิดหวังเพราะที่ฮอกไกโดเลือกใช้ผักปลอดสารพิษมาเป็นวัตถุดิบปรุงอาหารทุกร้าน ผักแต่ละชนิดสดใหม่น่ากินมาก ขนาดผมกัดแครอทกินสดๆ ยังลิ้มรสได้ถึงความหวานกรอบเลย
- Seafood
หนึ่งในอาหารที่ผมเชื่อว่าคนมาฮอกไกโดแล้วต้องกินให้ได้ก็คือ อาหารทะเลสดๆ ไม่ว่าจะเป็นไข่หอยเม่น หอยนางรม ปลาหมึกโซเมนเเละไฮไลต์คือปูทาราบะตัวโตเนื้อแน่น คำแรกที่ผมนำเข้าปากก็สัมผัสได้ถึงรสชาติเนื้อปูหวานฉ่ำ ชุ่มน้ำ ว้าว…อร่อยมากๆ เลยครับ
- Gelato
แม้อากาศเย็น ก็ใช่ว่าจะต้องหาของร้อนกินเสมอไป ผมอยากแนะนำไอศกรีมเจลาโตรสชาติเข้มข้น หวานมัน ซึ่งทำจากนมสดของฮอกไกโด นอกจากนี้ยังมีชูครีมนุ่มลิ้น พร้อมทั้งเบเกอรี่อีกมากมายที่ซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย
ฤดูใบไม้ผลิกำลังเริ่มต้นอีกครั้ง!
หากพูดถึงฤดูใบไม้ผลิ หลายคนอาจนึกถึงดอกซากุระ แต่ฤดูกาลนี้ยังมีดอกไม้อีกหลายชนิดที่พร้อมเบ่งบานต้อนรับความอบอุ่นครั้งใหม่เมื่อฤดูหนาวผ่านพ้นไป พร้อมแบ่งปันความสุขด้วยกิจกรรมหลากหลายที่ฮอกไกโดแห่งนี้
- ปลายเมษา – ต้น พ.ค.
ชมซากุระ ณ ศาลเจ้าฮอกไกโด แทบทุกพื้นที่ในฮอกไกโดเต็มไปด้วยซากุระบานสะพรั่ง หนึ่งในสถานที่ชมดอกไม้ที่ได้รับความนิยมคือ ศาลเจ้าฮอกไกโด นอกจากนี้ยังสามารถชมดอกไม้ที่ฮอกไกโดได้ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
- พ.ค.
ยลทิวลิปหลากสีในสวนกว้าง ทิวลิปกว่าล้านต้นมีทั้งสีเหลือง แดง ขาวชมพู ต่างชูดอกเบ่งบานบนพื้นที่หลายตารางกิโลเมตร ต้อนรับการมาถึงของฤดูกาลใหม่ รวมถึงการมาเยือนของผู้คนที่สวนทาคิโนะ สุซุรัน (Takino Suzuran Park) เพื่อเแจกจ่ายความสดใสไม่รู้เบื่อ
- มิ.ย.
เพลิดเพลินในสวนสตรอว์เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ลูกโตสีแดงสดหวานฉ่ำรอให้คุณมาเด็ดกินกันสดๆ แบบไม่อั้น ณ สวนต่างๆ ในเมืองคิตะฮิโรชิมา (Kitahiro-shima) จะมาเดี่ยว มาคู่ หรือมากันแบบอบอุ่นทั้งครอบครัว ก็พร้อมต้อนรับคุณเสมอ
- ก.ค.
สัมผัสผืนพรมทุ่งลาเวนเดอร์ ทุ่งลาเวนเดอร์เมื่อตัดกับสีท้องฟ้า มองแล้วคล้ายพรมสีม่วงผืนใหญ่สุดลูกหูลูกตา รอให้ทุกคนมาสัมผัสความพิเศษที่สวนโฮโรมิโทเกะ ลาเวนเดอร์ (Horomitoge Lavender Park) ตลอดฤดูใบไม้ผลิ