Enjoy Eating at Nijo Market : ตะลุยตลาดอย่างละเอียด! รวมร้านกินช็อปอาหารทะเลสดๆ จากฮอกไกโด Vol.1

Enjoy Eating at Nijo Market VOL. 1 🦀

เมื่อพูดถึง Hokkaido หรือ Sapporo หลายคนย่อมคิดถึงอาหารทะเลสดๆ ใหม่ๆ แสนอร่อยที่หากินได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น ถ้าใครชอบบรรยากาศตลาดปลาแบบตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Market) ในโตเกียว อยากเดินตะลุยกินข้าวหน้าปลาดิบร้านดัง เราขอแนะนำตลาดนิโจ (Nijo Market) ในเมืองซัปโปโร ตลาดซีฟู้ดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ห้องครัวของเมืองซัปโปโร” กันเลยทีเดียว

ได้ยินคำว่าตลาดปลาอย่าเพิ่งคิดไปว่า “เก๊าเก่า” “กลัวสกปรก” “ไกล” “เดินทางไม่สะดวก” ฯลฯ ขอบอกเลยว่าตลาดแห่งนี้สะอาดแถมเดินสะดวก เดินทางไปก็ง่ายมาก อยู่ใจกลางเมือง ติดกับสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) และถนนช็อปปิ้งทากุนิโคจิ (Tanukikoji Shopping Street) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังประจำเมือง ใช้เวลาเดินเท้าจากสถานีรถไฟ Odori Park สาย Namboku, Toho หรือ Tozai เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น

คิจิจัดเต็มตะลุยทั่วตลาด เก็บข้อมูลของแต่ละร้านมาฝากกันแบบจุใจเหมือนได้ไปเดินดูเอง ใครถูกใจร้านไหนก็ปักหมุดไว้แล้วมาตามรอยได้เลย! โดยเราแบ่งเล่าเนื้อหาของแต่ละร้านกว่า 20 แห่งไว้ทั้งหมด 3 ตอน ใครอยากไปเที่ยวซัปโปโรแล้ว เลื่อนอ่านตอนที่ 1 ได้เลย

ทำความรู้จักตลาดนิโจ

อย่างที่เกริ่นไว้ว่าตลาดนี้เก่าแก่ มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 120 ปี เป็นที่พึ่งพาของชาวเมืองมาตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีซูเปอร์มาร์เก็ตและการซื้อขายออนไลน์แบบในปัจจุบัน คนสมัยก่อนอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ จึงมักมาซื้อวัตถุดิบจำนวนมากสำหรับทำอาหาร คนที่อยู่ต่างจังหวัด เวลาจะจัดเลี้ยง เช่น งานแต่งงานก็มักสั่งของสดจากตลาดแห่งนี้ไปทำอาหารเลี้ยงแขกเช่นกัน

ตลาดนิโจเริ่มต้นด้วยร้านค้าเพียง 13 ร้านเท่านั้นในสมัยเมจิ (ส่วนมากคือร้านที่อยู่ติดริมถนนใหญ่) ปัจจุบันขยับขยายตามความนิยมจนมีร้านค้ามากกว่า 30 แห่ง หลังจากที่มีการจัดการแข่งขันโอลิมปิกที่ซัปโปโร ตลาดนิโจเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากขึ้น จากที่เคยขายแต่ของสดก็เริ่มมีของฝากขึ้นชื่อของฮอกไกโดมาวางขายด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวช็อปชิมของดีทั้งคาวหวานได้เลยในที่เดียว

ที่นี่มีร้าน Kaisen Don หรือข้าวหน้าปลาดิบหลายร้านจนเลือกกันไม่ถูก แต่ละร้านก็มีทีเด็ดเป็นของตัวเอง หลายคนจึงเลือกมาที่นี่แต่เช้าเพื่อกินข้าวหน้าปลาดิบเป็นอาหารเช้าอันไฮโซ เดินเลือกซื้อของอีกสักพักก็ชิมได้อีกร้าน บางร้านขายซีฟู้ดปิ้งย่างแบบไทยๆ เลย เลือกชิมตามจำนวนที่กินไหวได้ หรือจะซื้อปลาดิบไปนั่งกินในสวนโอโดริก็ชิลล์ชิคยิ่ง นอกจากนี้ยังมีร้านขายผลไม้ตามฤดูกาล เช่น เมลอนอันแสนหวานอร่อย!

ของที่ขายในตลาดแห่งนี้พรีเมียมมาก คนละแบบกับของที่ส่งขายตามซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารดังหลายเจ้าก็สั่งของจากตลาดแห่งนี้ แม้แต่นักธุรกิจชาวจีนก็ยังมาซื้อของจากที่นี่ไปถึง 3 ล้านเยนเพื่อใช้ในร้านอาหารของตัวเอง! ร้านค้าหลายแห่งในตลาดแห่งนี้เคยส่งปูสดๆ ปลาอร่อยๆ ไปต่างประเทศด้วย น่าเสียดายที่ตอนนี้โควิดทำให้ต้องยกเลิกบริการเหล่านั้นไปก่อน แต่ยังพร้อมส่งในประเทศเหมือนเดิมนะ ราคาเริ่มต้นแค่ 1,200 เยนเท่านั้น แถมส่งไวทันใจ ถึงภายในวันรุ่งขึ้นเลยทีเดียว

หลังจากเล่าความเป็นมาของตลาดให้เราฟังแล้ว Katsuo Sasaki ประธานสมาคมตลาดนิโจผู้ใจดีฝากบอกชาวไทยพร้อมรอยยิ้มว่า 

“ราคาอาจจะแพงหน่อย เพราะพวกเราเลือกแต่ของดีๆ มาขาย แต่ยังไงก็ถูกกว่าซื้อที่โตเกียวนะ”

Miyata Shoten

ขอเริ่มต้นที่ Miyata Shoten ซึ่งเป็นร้านของ Katsuo ประธานสมาคมนั่นเอง ร้านนี้อายุมากพอๆ กับตลาด ดำเนินกิจการมากว่า 100 ปี ท่านประธานเป็นทายาทรุ่นที่ 3 เรียกว่ารู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับตลาด ใครอยากรู้เรื่องราวสนุกๆ ลองไปชวนคุยได้ ตัวอาคารเก่าแก่แต่ได้รับการบูรณะไปแล้วเมื่อปี ค.ศ. 1941 จุดเด่นของร้านนี้คือความครบเครื่อง มีทั้งอาหารทะเลสดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเอกของภูมิภาคอย่างปูสายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงของฝากจากฮอกไกโดหลายประเภท ทั้งขนม ของหวาน ของคาว ซุป แกงกะหรี่ ฯลฯ อะไรที่นักท่องเที่ยวคิดว่าของมันต้องมี ที่นี่มี! 

ดาราเซเล็บของญี่ปุ่นต่างแวะมาที่ร้านนี้ (เช่น วง SMAP -น้องๆ ทันไหม) รวมไปถึงรายการต่างๆ นักท่องเที่ยวอย่างเราก็ต้องแวะไปดูสักหน่อยว่ามันแจ๋วยังไง เท่าที่ได้ลองชิมน้องก้ามปูสดๆ พูดได้แค่ว่า “โออิชี่! พี่คะ มันหวานอร่อยมาก”

Kondo Noboru Shoten / Sushi-dokoro Keiran

ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1922 เก่าแก่พอๆ กับตลาดนิโจ จะบอกว่าเป็น One Stop Service ก็ว่าได้ มีทั้งโซนร้านอาหารชื่อ Sushi-dokoro Keiran และโซนจำหน่ายสินค้าชื่อ Kondo Noboru Shoten ซึ่งอยู่ในร้านเดียวกัน ขอเริ่มจากร้านอาหารก่อน ร้านนี้เราเคยมากินเมื่อ 3-4 ปีก่อน ประทับใจที่มีข้าวรวมมิตรปูหลายพันธุ์ให้ลองในชามเดียว แถมยังมีข้าวแบบ Half Size จะได้ลองกินได้หลายอย่าง นอกจากนี้ยังสามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์เองได้ ขอเพียงแค่บอกพี่เชฟ เขายินดีแนะนำ หรือจะลองถามก็ได้ว่าวันนี้มีอะไรดีๆ แนะนำไหม จะได้กินของเก๋ที่ไม่ได้เขียนในเมนู ข้อดีอีกอย่างของที่นี่ก็คือมีเมนูภาษาอังกฤษ มีรูปกำกับ เข้าใจง่าย ร้านใหญ่พอสมควร รองรับได้ประมาณ 30 คนเลยทีเดียว

โซนร้านขายของมีของฝากฮอกไกโดครบเครื่อง หากมีเวลาน้อยแวะที่นี่ที่เดียวคือจบ ใครกินข้าวหรือซื้อของในร้าน จะได้ถ่ายรูปกับปูยักษ์ที่ตอนมีชีวิตอยู่หนักถึง 4 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 50,000 เยนเป็นที่ระลึกด้วยนะ

Osanai Shoten

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งร้านเก่าแก่ประจำตลาดนิโจ Osanai เริ่มกิจการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1956 สมัยก่อนเปิดเป็นร้านขายผัก และเริ่มขายอาหารทะเลด้วยเมื่อ 30 ปีก่อน ปัจจุบันร้านสืบทอดมาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว มีการปรับตัวตามยุคสมัย จะสั่งของทาง Instagram ก็ได้ ทางร้านคุ้นเคยกับการรับลูกค้าต่างชาติ ถึงจะพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ก็มาได้เลย ที่สำคัญรับบัตรเครดิตด้วย แม้ตอนนี้จะยังส่งของไปไทยไม่ได้ แต่ส่งไปฮ่องกงหรือไต้หวันได้นะ ส่วนคนไทยที่ยังอยากท่องเที่ยว จะให้เขาส่งไปยังโรงแรมที่จังหวัดอื่นก็ได้เช่นกัน ส่งไวทันใจ วันรุ่งขึ้นก็ถึงเลย

ร้านอื่นขายอาหารทะเลเป็นหลัก แต่ Osanai เชี่ยวชาญเรื่องผักผลไม้ด้วย ใครมองหาเมลอน หรือผักผลไม้อร่อยๆ ของฮอกไกโดอื่นๆ ต้องแวะมาให้ได้เลย เพราะมีผลไม้เยอะกว่าร้านอื่นทีเดียวล่ะ

Yamashita Suisan

ข้างๆ ร้านเมื่อกี้คือ Yamashita Suisan ที่เชี่ยวชาญด้านปูฮอกไกโดสดๆ ยกทัพมากทั้งปูทาราบะ ปูซุไว ปูขนฮอกไกโด (Kegani) และปูฮานะซากิ แต่ละตัวใหญ่ๆ สวยๆ จนอดใจไม่ไหวต้องรีบคว้ากล้องมาเก็บภาพเลย เรียกได้ว่ามีเยอะจนละลานตา ด้านในมีอาหารแห้งและอาหารแช่แข็งจำหน่ายอีกด้วย

Hashimoto Shoten

Hashimoto Shoten อีกร้านอาหารทะเลสดๆ ที่เหมือนกับยกทะเลฮอกไกโดมาไว้ในตลาด นอกจากปูฮอกไกโดตัวใหญ่ครบทุกชนิด ยังมีหอยโฮตาเตะที่การันตีความสดขนาดยังมีชีวิตอยู่เลยด้วย

ที่สะดุดตาเราเป็นพิเศษคืออูนิหลากหลายสายพันธุ์จากหลายแหล่งในฮอกไกโดที่ล้วนแต่มีสีสันชวนรับประทานมาก ไม่ว่าจะเป็น Ezo Bafun, Aka Bafun หรือ Murasaki ราคาถือว่าสมเหตุสมผล

Ohiso

เดินผ่านกี่ครั้งก็มีคนนั่งรอคิวอยู่เสมอ Ohiso (อ่านว่า โออิโสะ) คือร้านข้าวหน้าปลาดิบยอดนิยมอันดับต้นๆ ของตลาดนิโจเลยทีเดียว ขายดีจนเปิดสาขา 2 ใกล้ๆ กัน บรรยากาศต่างกันนิดหน่อยแต่อร่อยมากทั้งคู่ เมนูที่นี่หลากหลายมาก ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 เยนก็ได้กินทั้งอูนิหรือปูสดๆ ทางร้านจับคู่อาหารทะเลไว้หลายแบบมากๆ เชื่อว่าต้องเจอที่ถูกใจสักอย่างแน่นอน ที่ประทับใจเป็นพิเศษคือมีข้าวหน้าปลาดิบแบบ Aburi ที่นำไฟมาลนให้หอม มีเซ็ตข้าวปลาแซลมอนย่างด้วย ใครไม่กินของดิบก็มาร้านนี้ได้อย่างสบายใจ 

นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดอีกอย่างคือข้าวแกงกะหรี่ทะเล! อย่าเพิ่งเอ๊ะแล้วคิดว่าจะดีเหรอ บอกได้เลยว่าดีมาก สูตรนี้คิดค้นจากเชฟชาวฝรั่งเศสที่ทำงานในโรงแรมหรู โดยตัวแกงมีความเป็นญี่ปุ่นและความละมุนกลมกล่อมอย่างลงตัว อีกหนึ่งเมนูที่คนไม่กินปลาดิบต้องลอง ราคามิตรภาพมาก 990 เยนเท่านั้น

Butcher Tomari

ปิดด้วยของหวานล้างปากกันดีกว่า เป็นความหวานจากธรรมชาติด้วยนะ เมลอนแสนอร่อยนั่นเอง! Butcher Tomari อยู่เยื้องมาทางฝั่งริมคลอง ขายของสดของแห้งทั่วไป แต่ทีเด็ดช่วงหน้าร้อนคือ มีเมลอนยุบาริอันแสนโด่งดังวางขายแบบแกะแล้วพร้อมกินในราคามิตรภาพเพียง 500 เยนเท่านั้น ปกติเมลอน 500 เยนแน่นกล่องขนาดนี้ก็ถูกจะแย่ แต่ยังเป็นเมลอนยุบาริด้วย ถือว่าสุดคุ้ม

สำหรับตอนที่ 1 ทำความรู้จักความเป็นมาของตลาดและร้านเด็ดๆ ส่วนหนึ่งกันไปแล้ว อย่าลืมติดตามตอนที่ 2 กันนะ ยังมีร้านแจ่มๆ อีกเพียบเลย หรือถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารเกี่ยวกับฮอกไกโดแนะนำให้ติดตามเพจ กู๊ดเดย์ฮอกไกโด – Good day Hokkaido