はじめまして
Aizu-Wakamatsu

อีกครั้งกับการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ดูเหมือนว่าต้องเหงาแน่ๆ แต่คราวนี้ดูแตกต่าง ผมกลับรู้สึกไม่เหงาเลยเเม้แต่น้อย คงเพราะครั้งนี้ ผมได้พบเจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ สนุกและตื่นเต้นตลอดการเดินทาง ผมขอเรียกสิ่งเหล่านั้นว่า “เพื่อนใหม่” ละกัน ทั้งผู้คน ตึกรามบ้านช่อง ภูเขา ต้นไม้ลำธาร และใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี สิ่งเหล่านี้มันดึงดูดและชวนให้เข้าไปทักทายทำความรู้จัก ว่าแล้วก็ขออนุญาตแนะนำเพื่อนใหม่ของผมสักหน่อย เธอมีชื่อว่า “ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)” ดินแดนของนักรบซามูไรที่มีอะไรมากกว่าเรื่องคมดาบ

 

Day 1 |

Cat Station

สวัสดีเช้าวันแรกที่แสนจะสดใส อากาศช่วงเดือนตุลาคมที่โตเกียวตอนนี้เย็นสบายมากๆ แต่น่าเสียดายที่ผมไม่ได้อยู่ที่นี่นานนักเพราะการผจญภัยครั้งใหม่กำลังรออยู่ ว่าแล้วก็รีบวิ่งขึ้นรถไฟชินคันเซ็น มุ่งหน้าสู่ “ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)” จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) กันเลย!

Ashinomaki-Onsen Station in Aizu-Wakamatsu

ตั๋วรถไฟ cat station Aizu-Wakamatsu

แมวเหมียวที่ Ashinomaki-Onsen Station ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

เดินทางราวๆ 5 ชั่วโมงจากโตเกียว ผมก็มาถึงสถานี “อะชิโนมากิ ออนเซ็น (Ashinomaki-Onsen Station)” ช่างเป็นการเดินทางที่รวดเร็วและสะดวกสบายมากๆ ทันทีที่ผมลงจากรถไฟ ผมสัมผัสได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองมาทางผม เมื่อเงยหน้าสบตาผมรู้สึกเหมือนโดนมนต์สะกดบางอย่างจนอยากจะพูดด้วยเสียงสองออกมาว่า…ฉันอยากเป็นทาสของแก! ใช่ครับสายตาคู่นั้นคือนายสถานีแมวหรือ “เจ้าเลิฟ” แมวผู้ดูแลและคอยต้อนรับแขกประจำสถานีแห่งนี้ นอกจากนี้ภายในสถานียังเป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งเอาใจคนรักแมว รวมถึงมีร้านขายของที่ระลึกมากมายที่บรรดาคนรักเจ้าเลิฟ หรือทาสแมวต้องยอมควักตังค์ซื้อของติดไม้ติดมือกลับไปแน่นอน

บรรยากาศภายในอะชิโนมากิ ออนเซ็น ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

Cat in Ashinomaki-Onsen Station a Aizu-Wakamatsu

อะชิโนมากิ ออนเซ็น Ashinomaki-Onsen ไอสึวากามัตสึ Aizu-Wakamatsu

 

To no Hetsuri

นั่งรถไฟสายไอสึเท็ตสึโด (Aizu Tetsudo) ต่อมาลงที่สถานีโทโนะเฮทสึริ (Tonohetsuri Station) แล้วเดินเท้าต่ออีกราว 5 นาที จะพบกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เหมาะกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีเป็นอย่างยิ่ง “อนุสรณ์ทางธรรมชาติโทโนะเฮทสึริ (To no Hetsuri)” ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะโอคาวะฮาโตริ (Okawa-Hatori Prefectural Nature Park) ไฮไลท์ของที่นี่คือหน้าผาหินริมแม่น้ำโอคาวะที่ถูกน้ำกัดเซาะมาเป็นเวลานานกว่าล้านปีจนสึกกร่อน เกิดเป็นภูมิทัศน์ที่งดงามมากๆ

ดูจากระยะไกลไปแล้วแนะนำให้เดินข้ามสะพานไม้ที่พาดข้ามแม่น้ำเพื่อไปชมหน้าผาแบบใกล้ๆ และหินรูปทรงประหลาดมากมาย อีกทั้งด้านในยังมีจุดให้สักการะพระโพธิสัตว์ด้วย นอกจากนี้ในสวนก็มีจุดน่าสนใจอีกหลายจุดให้เดินเล่นชมบรรยากาศได้เพลินๆ เลยครับ

 

Ookawaso Ryokan

และแล้วผมก็มาถึงที่พักที่มีชื่อว่า “โอคาวะโซ (Ookawaso)” ต้องบอกเลยครับว่าเป็นโรงเเรมที่สวยมากๆ ภายในโรงแรมและห้องพักนั้นตกแต่งสไตล์เรียวกัง โอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาและต้นไม้หนาตาที่กำลังเปลี่ยนสีจำนวนมาก และยังมีแม่น้ำ “อากะ (Aka River)” ไหลผ่าน คงต้องขอใช้ประโยคที่ว่า ค่าพักหลักพันแต่วิวและโรงแรมนั้น คุ้มค่าราคาหลักล้าน!

Ookawaso Ryokan

Ookawaso Ryokan at Aizu-Wakamatsu

ดื่มด่ำบรรยากาศยังไม่จุใจแต่ท้องมันดันร้องขึ้นมา งั้นขอพักหาอะไรกันเบาๆ รองท้องกันก่อน กับร้านอาหารภายในโรงแรมที่มีอาหารมากมาย ทั้งเมนูท้องถิ่นและคาวของหวานมีให้กินกันเต็มอิ่มในแบบบุฟเฟ่ต์ เดี๋ยวนะๆ แบบนี้เขาไม่เรียกว่าหาอะไรทานเบาๆ รองท้องเเล้ว งั้นจะรออะไรไปจัดหนักจัดเต็มกันเลย “อิตาดาคิมัส”

Dining Room at Ookawaso , Aizu-Wakamatsu

อาหารภายในที่พัก Ookawaso Aizu-Wakamatsu

หลังจากที่ลิ้มรสอาหารมากมายจนต้องรู้สึกว่าอิ่มได้แล้ว ผมก็ขอตัวไปเดินเล่นย่อยอาหารสักหน่อย ระหว่างทางผมได้ยินเสียงเครื่องดนตรีดังมาจากทางบริเวณห้องโถงของล็อบบี้ ผมเดินตามเสียงเพลงอันไพเราะจนพบว่าบริเวณห้องโถงของล็อบบี้นั้นมีการแสดง Shamisen อยู่ นักดนตรีหญิงในชุดกิโมโนนั้นดีดบรรเลงเพลงด้วยท่วงท่าที่มีเสน่ห์ ดูเรียบง่ายแต่สง่างามมากๆ

ห้องโถงของล็อบบี้ Ookawaso hotel Aizu-Wakamatsu

กิจกรรมต่อไปของทางโรงแรมนั่นก็คือการทำโมจิ ตอนเเรกผมก็แอบคิดนะครับว่าคงเป็นอารมณ์แบบสอนทำโมจิคลาสเล็กๆ ในห้องเรียน แต่เมื่อผมเดินไปยังห้องที่จัดกิจกรรมผมถึงกับต้องตกตะลึง เพราะสถานที่นั้นมันยิ่งใหญ่มากๆ นี่ยังนึกเลยว่าวันนี้จะมีงานบวชนาคใครหรือเปล่า เพราะสถานที่และการตกแต่งมันทำให้ผมรู้สึกว่าผมกำลังอยู่ในงานเทศกาลอย่างแท้จริง ไม่นานนักกิจกรรมการทำโมจิก็ได้เริ่มขึ้น ผมเห็นทุกคนช่วยกันตำแป้งโมจิที่อยู่ในครกยักษ์กันอย่างสนุกสนาน พร้อมตะโกนอย่างสุดเสียงเข้ากับจังหวะการตำแป้งโมจิว่า “อะโซเละ โซเละ โซเละ โยอิโชะ” เดาว่าความหมายก็คงจะคล้ายๆ บ้านเราประมาณว่ารวมพลังกัน เอาฮุยเลฮุย! แน่นอนว่าผมได้ลองทานโมจิที่ทำเสร็จใหม่ๆ รสชาติหวานพอดีๆ เนื้อแป้งโมจิก็นุ่มละมุนลิ้นมากๆ

Making Mochi Together Ookawaso

สนใจจองที่พัก Ookawaso Ryokan คลิกที่นี่

 

Day 2 |

Ookawaso Onsen

อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่สอง ผมยังคงอยู่ที่โรงแรมโอคาวะโซ เช้านี้ผมตื่นมานั่งจิบชาร้อนๆ มองวิวที่เต็มไปด้วยสีสันของต้นไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี เป็นช่วงเวลานึงที่ผมอยากหยุดเอาไว้ตรงนี้ให้นานๆ แต่น่าเสียดายเพราะเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ถึงเวลาที่ผมต้องออกไปค้นหาสิ่งใหม่ๆ อย่างเช่นการแก้ผ้า นั่นเพราะถึงเวลาลงแช่ออนเซ็นกันแล้วครับ

Ookawaso Onsen

ที่โรงแรมโอคาวะโซ มีออนเซ็นกลางแจ้งที่มาพร้อมวิวสวยๆ หลังจากที่ล้างตัวเสร็จเรียบร้อยเตรียมตัวเดินไปยังออนเซ็น ทันทีที่ถึงออนเซ็น (แบบโป๊ๆ) ผมอยากจะบอกเลยครับว่า ออนเซ็นที่นี่วิวสวยมากจริงๆ ระหว่างนอนแช่อย่างสบายใจ คุณสามารถชมวิวได้กว้างถึง 180 องศา จะมีอะไรผ่อนคลายไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว น้ำอุ่นๆ แสงแดดอุ่นๆ ผสมกับสายลมเย็นๆ และวิวใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีละลานตา ขอพักต่ออีกสักสามคืนได้ไหมค๊าบบบ

Ookawaso Onsenin in Aizu-Wakamatsu

Aka River at Aizu-Wakamatsu

 

Ouchi Juku

แช่ออนเซ็นจนหนำใจ ผมก็พร้อมจะไปลุยต่อที่ Ouchi Juku หมู่บ้านโบราณตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ ตั้งเเต่ผมก้าวเข้ามาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ ผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายและได้เรียนรู้วิถีชีวิตวัฒนธรรมของหมู่บ้านแห่งนี้ อย่างเช่นบ้านทุกหลังจะมุงหลังคาด้วยใบของต้นคายาบุกิ แถมบ้านแต่ละหลังจะมีการตั้งชื่อเพื่อเป็นเคล็ดป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้ เช่น บ้านน้ำ บ้านสายฝน อารมณ์เดียวกับที่บ้านเราติดสติ๊กเกอร์หลังรถว่ารถคันนี้สีชมพูเลยครับ

Ouchi Juku หมู่บ้านโบราณตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

Ouchi Juku in Aizu-Wakamatsu

นี้จะมีลำธารไหลผ่านตลอด บอกเลยว่าใสแจ๋วและเย็นมากๆ ระหว่างทางมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร บางร้านนำเครื่องดื่มมาวางแช่ในลำธาร เย็นแบบธรรมชาติไม่ต้องพึ่งตู้เย็นเลย

ร้านขายของที่ระลึกที่ Ouchi Juku ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

ของที่ระลึกที่ Ouchi Juku ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

People wear yukata walking around Ouchi Jukum, Aizu-Wakamatsu

Souvenirs in Ouchi Juku at Aizu-Wakamatsu

บรรยากาศของหมู่บ้าน Ouchi Juku ที่ Aizu-Wakamatsu

Peko Peko! อยู่ญี่ปุ่นทั้งทีจะให้เสียงท้องร้องดังจ๊อกๆ ได้ไง ที่นี่มีร้านโซบะอร่อยๆ กับเมนูพิเศษที่ผมตามหา ใช้เวลาไม่นานผมก็หาจนเจอ กับเมนูที่ชื่อว่า “Negi Soba” ความพิเศษของเมนูนี้คือเราจะใช้เจ้าต้นหอมอันใหญ่อันนี้แหละครับแทนตะเกียบ คีบเส้นโซบะทานพร้อมๆ กับกัดต้นหอมเข้าไปด้วย เส้นโซบะนุ่มๆ กับความกรอบของต้นหอม รสชาติอร่อยเข้ากันมากๆ

Aizu-wakamatsu : Negi Soba

 

Kannon Numa Forest Park

อุทยาน Kannon Numa Forest Park ผมขอเรียกง่ายๆ ว่าเป็นสวนสาธารณะแล้วกันนะครับ สวนที่นี่ห้อมล้อมไปด้วยวิวงามๆ ของภูเขากับสีสันของต้นไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีมากมาย สีแดง ส้ม เหลือง เขียว สลับกันไป ภาพที่ผมเห็นเหมือนภาพวาดมากๆ ครับ เพียงแต่จิตรกรที่เเต่งเเต้มสีสันต่างๆ เหล่านี้ คือฝีมือของธรรมชาตินั่นเอง

อุทยาน Kannon Numa Forest Park ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

รอบๆอุทยาน Kannon Numa Forest Park ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

นอกจากนี้ภายในสวนก็ยังมีทะเลสาบขนาดใหญ่เป็นอีกหนึ่งสถานที่โรแมนติกมากๆ ใครอยากจะพาคนรักมาขอเเต่งงานผมว่าที่นี่ก็โรแมนติกไม่เบานะครับ

บรรยากาศรอบๆ Kannon Numa Forest Park ที่ Aizu-Wakamatsu

 

Yunokami Onsen Station

เดินเที่ยวมาทั้งวันผมขอแวะพักแช่เท้าสักหน่อย ที่สถานนีรถไฟ ยูโนคามิ ออนเซ็น มีออนเซ็นแช่เท้าให้บริการด้วย ผ่อนคลายสบายเท้ามากๆ ครับ อ้อลืมบอกไปออนเซ็นแช่เท้าของที่นี่ให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายนะครับ เห็นแล้วก็แอบอิจฉาคนที่นี่จัง

ยูโนคามิ ออนเซ็น (Yunokami Onsen) ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

Yunokami Onsen

 

Day 3 |

Enzoji Temple

ท่องเที่ยวสถานที่ธรรมชาติมาตั้งหลายวัน วันนี้ผมขอเริ่มต้นทริปแบบสายนักบุญสักหน่อยกับวัดเอ็นโซจิ ที่นี่เป็นวัดชื่อดังของเมืองยาไนซุ (Yanaizu) เพียงนั่งรถไฟสายทาดามิ (Tadami Line) ไปลงที่สถานีไอสึยาไนซุ (Aizu-Yanaizu Station) แล้วเดินขึ้นบันไดต่ออีกหน่อย วัดเอ็นโซจิจะตั้งอยู่บนเนินเขา สวยงามด้วยแม่น้ำทาดามิไหลผ่าน อีกทั้งบริเวณวัดห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่น

Fukuman Kokuzo Bosatsu Enzoji วัดนี้เป็นวัดชื่อดังของเมือง Yanaizu ในไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

 Fukuman Kokuzo Bosatsu Enzoji

Fukuman Kokuzo Bosatsu Enzoji in Aizu-Wakamatsu

บรรยากาศภายในวัด Fukuman Kokuzo Bosatsu Enzoji

ที่นี่เป็นวัดนิกายรินไซอายุ 1,200 ปีชื่อดังประจำหมู่บ้านยาไนซุ ระหว่างที่ผมเดินเข้ามาในบริเวณวัด ผมก็สังเกตเห็นรูปปั้นวัวจำนวนมาก จนเกิดความสงสัยว่าทำไมวัดนี้รูปปั้นวัวเยอะจัง เอ๊ะ! หรือว่าจะเป็นวัดของคนที่เกิดปีฉลู พอผมเข้าไปภายในโบสถ์ของวัดก็แอบขนลุกจนต้องเก็บอาการและสำรวมนิดนึง เพราะว่าภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งประดิษฐานอยู่ไว้ให้เราสักการะและขอพร ด้านในก็มีภาพวาดเสือเยอะมากๆ จนผมสงสัยอีกแล้วว่า เอ๊ะ! หรือจะเป็นวัดของคนเกิดปีขาล ผมสงสัยจนได้คำตอบว่าที่นี่คือวัดประจำปีฉลูและปีขาลจริงๆ ด้วย และวัดนี้ยังเป็นต้นกำเนิดเรื่องราวของเจ้าวัวเเดง อากาเบโกะ มาสคอตประจำไอสึอีกด้วย

ปล.ลองขอพรที่วัดนี้ดูครับ ผมลองมาแล้ว สมปรารถนาจริงๆ

 

Koike Kashiho

ไม่ไกลจากวัด Enzoji มากมีร้านขนมชื่อดังเก่าแก่ตั้งอยู่ สังเกตไม่ยากเพราะหน้าร้านจะมีควันไอน้ำพุ่งขึ้นดึงดูดสายตา ขนมที่ผมกำลังพูดถึงมีชื่อว่า “ขนมอาวะมันจู”

ขนมอาวะมันจู ที่ Koike Kashiho ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

Awa Manju

ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเมื่อกินเเล้วจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป ส่วนเรื่องความอร่อยและความสดใหม่ผมขอรับประกันเพราะที่นี่เขาทำขนมวันต่อวัน แป้งที่ใช้ทำขนมมาจากข้าวฟ่าง กินแล้วให้สัมผัสหนึบๆ บวกกับไส้ของถั่วแดงที่อัดเเน่นแค่เริ่มเคี้ยวผมก็เริ่มรู้สึกว่าสิ่งดีๆ กำลังจะเข้ามาแล้วครับ

 

Tsuruga Castle

อีกหนึ่งที่เที่ยวแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองไอสึนั้นก็คือ ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle) หรือปราสาทนกกะเรียน ปราสาทแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวความกล้าหาญในอดีตของเหล่านักรบซามูไร บริเวณภายในเขตของปราสาทเต็มไปด้วยต้นซากุระมากมายสีสันในฤดูใบไม้ผลิ มาที่นี่ได้ทั้งความรู้เรื่องราวประวัติของปราสาทแถมยังได้เดินชมต้นซากุระอีกด้วย

ปราสาทซึรุงะ (Tsuruga Castle) หรือปราสาทนกกะเรียน ที่ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

วิวที่มองมาจากปราสาทซึรุงะ (Tsuruga Castle) ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu)

ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ว่าถ้าใครไม่มาปราสาทซึรุงะ ก็เหมือนมาไม่ถึงไอสึนะครับ

 

Day 4 |

No.1 Tadami River Bridge Viewpoint

จุดชมวิวที่ถือเป็น UNSEEN ของที่นี่เลยก็ว่าได้ผู้คนมากมายต่างรีบมายืนรอจับจองพื้นที่เพื่อที่จะบันทึกภาพวินาทีสำคัญตอนรถไฟสายทาดามิ (Tadami Line) วิ่งผ่าน โดยจุดชมวิวนี้เราจะสามารถมองเห็นวิวของต้นไม้ภูเขาเเละเเม่น้ำอากะที่ไหลผ่านในมุมกว้างที่สวยงามและสบายตาอีกด้วย

Tadami River in Aizu-Wakamatsu

 

Nisshinkan Samurai School

มาถึงเมืองซามูไรไม่มาที่นี่ไม่ได้ Nisshinkan Samurai School โรงเรียนสอนซามูไรตั้งแต่ในสมัยเอโดะ โรงเรียนเเห่งนี้เป็นโรงเรียนที่ติด 1 ใน 3 ที่มีการยอมรับในเรื่องมาตรฐานในการศึกษาที่สูงมาก วิชาที่สอนเเต่ละวิชาก็จะทำให้เด็กนักเรียนมีระเบียบวินัย มีความรู้รอบตัว เเละรอบรู้ถึงศิลปะการต่อสู้ด้วย วิชาที่เปิดสอนนั้นเช่น วิชาดูดาว วิชาฟันดาบ วิชายิงธนู ฯลฯ

Nisshinkan Samurai School โรงเรียนสอนซามูไรตั้งแต่ในสมัยเอโดะ, Aizu-Wakamatsu
บรรยากาศภายใน Nisshinkan Samurai School

Nisshinkan Samuraiคันธนูเบามาก แต่ต้องใช้เเรงแขนเหนี่ยวศรเยอะ เล่นเอาซะผมแขนสั่นเลย

 

Aizu-Wakamatsu Map

Tokyo to Aizu-Wakamatsu map by Kijiดาวน์โหลดไฟล์แผนที่ฉบับเต็มที่ Tokyo-to-Aizumap

Aizu-Wakamatsu map by Kijiดาวน์โหลดไฟล์แผนที่ฉบับเต็มที่ Aizu-AreaMap

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ