Night at the Aquarium : 10 อควาเรียมกับไฮไลท์ยามค่ำคืนสุดโรแมนติก

อควาเรียมถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ผ่อนคลายยอดฮิตที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และยังเป็นสถานที่ออกเดทของคู่รักหลายคู่ด้วย ซึ่งปกติแล้วเรามักจะไปอควาเรียมตอนกลางวันกันใช่ไหม แต่ที่ญี่ปุ่นมีอควาเรียมหลายแห่งเลยที่เปิดให้เราเข้าชมจนถึงตอนกลางคืน ทั้งยังมีไฮไลท์ที่สุดพิเศษที่เปิดเฉพาะช่วงเย็นเท่านั้น เรียกว่ามีเสน่ห์ไม่แพ้ตอนกลางวันเลยล่ะ ทั้งแสงไฟที่เปลี่ยนไป ทั้งพฤติกรรมของสัตว์ที่ไม่เหมือนเดิม รวมไปถึงบรรยากาศโรแมนติกที่แตกต่างไปจากตอนกลางวัน เหมาะกับการออกเดทสุดๆ และหากคู่รักคู่ไหนสนใจอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเดทที่อควาเรียมตอนกลางคืนล่ะก็ บอกเลยว่า 10 อควาเรียมต่อไปนี้จะต้องทำให้ค่ำคืนแห่งการออกเดทนั้นโรแมนติกขึ้นมากอย่างแน่นอน

01 AOAO SAPPORO

อควาเรียมแห่งแรกที่เราจะพาไปเยี่ยมชมคือ AOAO SAPPORO ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมานี้เอง ที่นี่ตั้งอยู่บนชั้น 4-6 ในห้าง moyuk SAPPORO ใจกลางเมืองซัปโปโร ทำให้เดินทางง่ายสะดวกสบายสุดๆ แต่ละชั้นของอควาเรียมก็จะมีธีมที่แตกต่างกันไป และยังมีนิทรรศการอื่นๆ ให้เราชมอีกเพียบ

ภาพ: https://www.instagram.com/aoao_sapporo

และไฮไลท์ตอนกลางคืนของที่นี่ก็หนีไม่พ้นโซน Moonlight Aquarium ซึ่งตั้งแต่ 17:00 น. เป็นต้นไปไฟด้านในจะค่อยๆ หรี่ลง ทำให้พื้นที่แห่งนี้อบอวลไปด้วยบรรยากาศแสนโรแมนติก และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างนั่นก็คือ “Penguin Area” ชั้น 6 ที่นี่เราจะได้เห็นเพนกวินร็อกฮอปเปอร์ (Rockhopper penguin) ที่มีขนสีเหลืองอันโดดเด่นกระโดดไปมาอย่างร่าเริง บางครั้งเจ้าเพนกวินก็นอนเบียดกัน เกิดเป็นภาพที่น่ารักน่าชังสุดๆ ไปเลย และชั้นนี้ยังมีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มให้เราซื้อทานระหว่างเดินชมอควาเรียมด้วย

ภาพ: https://www.instagram.com/aoao_sapporo

02 Aqua World Ibaraki Oarai Aquarium

ที่ต่อไปเราจะมูฟมาที่จังหวัดอิบารากิกันบ้าง บอกเลยว่าอควาเรียมที่นี่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดเลยล่ะ นั่นก็คือ Aqua World Ibaraki Oarai Aquarium นั่นเอง ที่นี่มีฉลามกว่า 60 สายพันธุ์ และยังมีสัตว์อื่นๆ อีกประมาณ 68,000 ตัว ประมาณ 580 สายพันธุ์ พูดได้คำเดียวว่าอลังการสุดๆ และโซนไฮไลท์อย่าง “Encounter Sea Large Tank” และ “Jellyfish 365” ก็ถือเป็นโซนที่ห้ามพลาดอย่างยิ่ง

ภาพ: https://en.aquaworld-oarai.com/2024/03/07/kurage365/

สำหรับไฮไลท์ตอนกลางคืนก็ต้อง “Night Aquaworld” ซึ่งจะจัดขึ้นทุกวันเสาร์ตั้งแต่ 18.00 – 20.00 น. (โปรดตรวจสอบวันที่ในเว็บไซต์) แม้นอกอควาเรียมจะไร้แสงตะวันแล้ว แต่ที่นี่ก็ยังสว่างไสวด้วยสปอตไลท์ซึ่งทำหน้าที่คล้ายแสงจันทร์ ทำให้เรารู้สึกราวกับได้ดำดิ่งลงสู่ทะเลยามค่ำคืนเลยล่ะ และที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือเจ้าฉลามที่ซ่อนตัวอยู่ใต้โขดหินมาค่อนวันจะออกมาหากินและว่ายน้ำอย่างสง่างามตอนกลางคืนนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีโชว์สุดพิเศษจากโลมาและสิงโตทะเลที่แตกต่างจากตอนกลางวันให้เราได้ชมอีกด้วยนะ

ภาพ: https://en.aquaworld-oarai.com/guide/night-aquaworld/

03 Sunshine Aquarium

อควาเรียมต่อไปก็คือ Sunshine Aquarium ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “โอเอซิสแห่งท้องฟ้า” ซึ่งตั้งอยู่บนดาดฟ้าของตึก World Import Mart Building ย่านอิเคะบุคุโระ กรุงโตเกียว และไฮไลท์เด็ดของที่นี่ก็คือ “Penguins in the Sky” ที่เราจะได้เห็นเพนกวินว่ายบินโฉบไปโฉบมาอยู่บนศีรษะของเราโดยมีฉากหลังเป็นอาคารและท้องฟ้าสีสดใส ภาพแบบนี้ถ้าไม่ใช่ที่นี่ก็ไม่รู้จะหาดูได้จากที่ไหนอีกแล้ว เพราะฉะนั้นต้องมาให้ได้!

ภาพ: https://www.taisei-techsolu.jp/solution/cu_aquarium/sunshine_aquarium

ในตอนกลางคืน Marine Garden บนชั้นดาดฟ้าจะกลายเป็นโอเอซิสกลางเมืองใหญ่อันแสนสงบด้วยแสงไฟอันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีการปล่อยไอหมอกทุกๆ 20 นาที จึงทำให้ที่นี่น่าหลงใหลอัศจรรย์ใจมากขึ้นไปอีก เหมาะกับการสร้างช่วงเวลาอันงดงามกับคนที่เรารักมากๆ เลยล่ะ ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป

ภาพ: https://www.trip.com/travel-guide/attraction/tokyo/sunshine-aquarium

นอกจากนี้ยังมี “Kurage Sky” ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งเราจะถูกรายล้อมไปด้วยแมงกะพรุน 360 องศา เลยทีเดียว ระหว่างเดินชมเราก็จะได้ดื่มด่ำกับโลกใต้ท้องทะเลที่มีแมงกะพรุนรายล้อมและรู้สึกตัวเบาหวิวราวกับได้อยู่ใต้น้ำจริงๆ นอกจากนี้ยังมีจุดอื่นๆ รอเราไปชมเพียบ แนะนำให้ไปตามเก็บให้ครบเลย

ภาพ: https://www.trip.com/travel-guide/attraction/tokyo/sunshine-aquarium

04 Maxell Aqua Park Shinagawa

มาต่อกันที่ Maxell Aqua Park Shinagawa ซึ่งใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที จากสถานีชินากาวะเท่านั้น ที่นี่มีสัตว์ต่างๆ ประมาณ 20,000 ตัว จากประมาณ 350 สายพันธุ์ อีกทั้งยังมีดิจิตอลอาร์ตที่สวยงามทั้งแสงและสีให้เราได้ชม ทั้งยังมีจุดถ่ายรูปอีกเพียบ งานนี้คงต้องระวังโทรศัพท์เมมเต็มกันหน่อยนะ

ภาพ: https://www.aqua-park.jp/th/aqua/index.htmlภาพ: https://www.kkday.com/en/product/18689-tokyo-maxell-aqua-park-shinagawa

ไฮไลท์ตอนกลางคืนของที่นี่ก็คือ “Night Dolphin Performance” ที่บรรดาโลมาทั้งหลายจะมาแสดงโชว์แบบสุดพลังให้เราชม แต่จะไม่มีการแสดงแบบสาดน้ำนะ และถ้าใครอยากชมการแสดงแบบชัดๆ ก็แนะนำให้นั่งแถวหน้าเลย ที่สำคัญคือที่นั่งเต็มเร็วมาก ต้องรีบจับจองกันหน่อย ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ “Jellyfish Ramble” ที่มีแมงกะพรุนหลายสายพันธุ์ลอยอยู่ในตู้โชว์ บอกได้เลยว่าความสวยงามน่าพิศวงของแมงกะพรุนยามต้องไฟหลากสีนั้นจะทำให้เราเพลิดเพลินจนเผลอลืมเวลาไปเลยล่ะ

ภาพ: https://www.kkday.com/en/product/18689-tokyo-maxell-aqua-park-shinagawa

ภาพ: https://www.aqua-park.jp/th/aqua/index.html

05 Sumida Aquarium

มาต่อกันที่ Sumida Aquarium ที่ตั้งอยู่ในแลนมาร์กสำคัญอย่างโตเกียวสกายทรีกันเลย ที่นี่มีการจัดแสดงสัตว์ต่างๆ ให้เราได้ชมอย่างใกล้ชิดและยังจำลองทะเลของหมู่เกาะโอกาซาวาระ (Ogasawara Islands) ขึ้นมาด้วย นอกจากนี้ยังมี Edorium ที่เราจะสามารถเห็นปลาทองได้มากมายและยังมีการประดับตกแต่งไฟปลาทองสุดน่ารักให้เราได้รื่นรมย์

ภาพ: https://www.kkday.com/en/product/

ในตอนกลางคืนตั้งแต่เวลา 18.00 น. แสงไฟในอาคารจะเปลี่ยนไปและให้ความรู้สึกแตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง ส่วนโซนฮิตของที่นี่ก็หนีไม่พ้น “โซนเพนกวิน” นั่นเอง ซึ่งเหล่าเพนกวินจะกลับบ้านไปพักผ่อนในช่วงกลางคืน เราจึงจะได้เห็นภาพน่ารักๆ ของเพนกวินที่กำลังพักผ่อนอยู่ และบางทีคู่รักเพนกวินก็จะนอนอยู่ข้างกัน เกิดเป็นภาพที่ใครเห็นก็ต้องอมยิ้ม

ภาพ: https://www.kkday.com/en/product/

และอีกหนึ่งที่ที่ห้ามพลาดก็คือ “โซนแมงกะพรุน” ซึ่งจะมีแมงกะพรุนว่ายวนอยู่ในสระที่ไม่มีกระจกมากั้น ทำให้เราเห็นแมงกะพรุนได้อย่างเต็มตา และสีของตัวแมงกะพรุนที่เปลี่ยนไปเป็นเฉดสีต่างๆ ก็สวยงามตระการมาก

ภาพ: https://www.booking.com/attractions/jp/prvu5zmdujba-tokyo-skytree-and-sumida-aquarium

06 Kawasui Kawasaki Aquarium

ไปต่อกับอควาเรียมที่ 6 กันเลย กับอควาเรียมที่มาพร้อมธีม “น่านน้ำอันสวยงามทั่วทุกมุมโลก” ที่นี่จะพาเราไปท่องโลกใต้น้ำด้วยจอพาโนรามาขนาดใหญ่ อีกทั้งเรายังจะได้โต้ตอบกับเหล่าสัตว์น้ำและรู้สึกราวกับได้แหวกว่ายไปในทะเลพร้อมกับพวกเขา และที่นี่ยังมีกล้องถ่ายใต้น้ำที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อสแกนข้อมูลของสัตว์ต่างๆ และโชว์ชื่อหรือข้อมูลทางชีววิทยาของสัตว์ขึ้นมาบนหน้าจอระบบสัมผัส ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสุดๆ ไปเลย

ภาพ: https://goyokohama.jp/shop/222029

ภาพ: https://www.fashion-press.net/news/45486/2

ไฮไลท์ยามค่ำคืนของที่นี่ก็คือ “Tamagawa Zone” ที่มีการจัดระบบนิเวศของแม่น้ำทามะให้เราได้ชมกัน เริ่มจากตู้ซ้ายไปตู้ขวา จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ โดยพื้นหลังจะเป็นรูปของแม่น้ำทามะในช่วงเวลาต่างๆ ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่บริเวณแม่น้ำทามะจริงๆ

ภาพ: https://www.tripadvisor.com/Attraction

“โซนอเมซอน” ก็เป็นอีกโซนที่ต้องมาชมให้ได้ เพราะแสง สี และเสียงของที่นี่ในช่วงกลางคืนจะเปลี่ยนไปจากตอนกลางวัน ทำให้ที่แห่งนี้คล้ายจะเป็นป่าอเมซอนขึ้นมาจริงๆ! นอกจากปลาแล้วเรายังจะได้เห็นสลอธและตัวนิ่มตัวปุ๊กลุกซึ่งเป็นสัตว์กลางคืนออกมาใช้ชีวิตด้วยนะ และโซน Amazon Night ก็จะจัดขึ้นเวลา 18.00 น. จนถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2567 เท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องรีบไปดูให้ได้เลย

ภาพ: https://www.tripadvisor.com/Attraction

07 Kyoto Aquarium

อควาเรียมแห่งนี้มีคอนเซ็ปต์ว่า “ยิ่งใกล้ก็ยิ่งชอบ” จัดแสดงสัตว์หลายชนิดตั้งแต่สัตว์ประจำถิ่นแม่น้ำคาโมโนกาวะไปจนถึงสัตว์ทะเล และยังมีการใช้น้ำทะเลเทียม 100% ด้วย ส่วนไฮไลท์เด็ดของที่นี่ก็คือ “Jellyfish Wonder” ที่เราจะได้ยืนอยู่ท่ามกลางแมงกะพรุน 360 องศา และตู้โชว์ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ฟอสซิลที่มีชีวิต” เพราะเจ้าซาลาแมนเดอร์ตัวนี้เป็นถึงอนุสรณ์ทางธรรมชาติของญี่ปุ่นเลยล่ะ

ภาพ: https://www.tripadvisor.com/Attraction

มาดูไฮไลท์ตอนกลางคืนกัน ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม – 25 สิงหาคม 2567 ทางพิพิธภัณฑ์จะขยายเวลาทำการและจัดงาน “Night Aquarium” ขึ้น ไฟก็จะค่อยๆ หรี่ลงและมีการประดับไฟไว้ด้านหน้าตู้โชว์ บรรยากาศเป็นใจชวนให้โรแมนติกสุดๆ และก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่เจ้าซาลาแมนเดอร์ยักษ์จะได้ขยับย้ายร่างกายออกมาอวดโฉมให้เราดูนั่นเอง ส่วนเจ้าแมวน้ำขน (Fur Seal) ก็จะขึ้นมานอนหลับบนฝั่งอย่างสบายอุราให้เราชมความน่ารักของมันด้วย

ภาพ: https://www.kkday.com/th/product/149556-kyoto-aquarium

ภาพ: https://experiences.travel.rakuten.com

08 Osaka Aquarium Kaiyukan

ออกจากเกียวโตมาโอซาก้ากันบ้าง ที่ Osaka Aquarium Kaiyukan แห่งนี้ได้มีการจำลองทะเลและพื้นที่ลุ่มน้ำต่างๆ อย่างสมจริง เราจะถูกต้อนรับด้วยปลาหลากสีสันที่ “Aqua Gate” และยังจะได้ดูฉลามวาฬซึ่งอยู่ในตู้โชว์ธีมแปซิฟิก และในตู้โชว์ธีมอาร์กติกเซอร์เคิลยังมีแมวน้ำวงแหวน (Ringed seal) รอให้เราไปชมอยู่ด้วย

ภาพ: https://www.kkday.com/en/product

สำหรับไฮไลท์ตอนกลางคืน ตั้งแต่เวลา 17:00 น. ของทุกวัน ไฟในอควาเรียมจะเปลี่ยนไปคล้ายกับทะเลยามค่ำคืน และเป็นเวลาที่ KAIYUKAN Night Aquarium จะได้เฉิดฉาย! แน่นอนว่าเหล่าสัตว์ทั้งหลายก็จะเข้าสู่โหมดของการพักผ่อน ถือว่าเป็นเสน่ห์ของช่วงเวลาแบบนี้เลยก็ว่าได้ และแสงไฟที่มีไม่มากนักก็จะทำให้เกิดบรรยากาศน่าอัศจรรย์ใจอย่างหาได้ยากในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งพอเป็นกลางคืนแล้วผู้คนก็จะน้อยหน่อย บรรยากาศรอบข้างก็จะสงบมากขึ้นไปอีก ยิ่งถ้าได้อยู่กับคนรักด้วยแล้วยิ่งโรแมนติกเลยล่ะ

ภาพ: https://www.kkday.com/en/product

และในช่วงฤดูร้อนนี้ก็จะมีพื้นที่ใหม่เพิ่มขึ้นมาบริเวณทางเข้าอควาเรียม เรียกว่า “Namima” ที่ไม่ว่าใครก็สามารถมาพักผ่อนที่นี่ได้ทุกช่วงเวลา พอตกกลางคืนของจัดแสดงต่างๆ ก็จะสว่างไสวขึ้นมา มอบความอบอุ่นให้ยามราตรีได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

ภาพ: https://www.kaiyukan.com/connect/news

09 AQUARIUM×ART atoa

เดินทางมาถึงอควาเรียมที่ 9 กันแล้ว กับ AQUARIUM×ART atoa ที่ไม่ได้มีแค่สัตว์แต่ยังมีการผสมผสานดิจิตอลอาร์ตเข้ากับแสง สี เสียง ซึ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับที่นี่ได้มากเลยทีเดียว ซึ่งโซนแนะนำของที่นี่ก็คือ PLANETS ที่จะมีลำแสงสาดปกคลุมเหนือตู้โชว์ปลาทรงกลม พอสีสันอันสดใสของปลาผสานเข้ากับแสงไฟก็จะเกิดภาพที่สวยงามน่าทึ่งมาก อีกทั้งที่นี่ยังมีนากและคาปิบาร่ารอเราอยู่ด้วยนะ

ภาพ: https://www.kkday.com/th/product/138162-hyogo-kobe-aquarium-art-atoa

ไฮไลท์ยามค่ำคืนของที่นี่ก็จะเป็น “ถ้ำฮาจิมาริ (The Cave of Beginnings)” ที่อยู่บนชั้น 2 นั่นเอง ซึ่งที่นี่ถูกออกแบบมาให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าไปในถ้ำและได้มีการจัดแสดงปลาน้ำจืดมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือปลาหางนกยูงนั่นเอง ทันทีที่เข้ามาเราจะต้องตระการตากับไฟรูปปลาหลากสีที่ห้อยอยู่บนเพดานก่อนเลย และยิ่งสะท้อนเข้ากับผนังที่เป็นกระจกด้วยแล้วยิ่งสร้างความมหัศจรรย์น่าหลงใหลให้กับเราได้อย่างมากเลยทีเดียว

 ภาพ: https://www.kkday.com/th/product/138162-hyogo-kobe-aquarium-art-atoa

และอีกโซนที่อยากแนะนำก็คือ “MIYABI: Japanese Style and Light” ที่มีสวนญี่ปุ่นและปลาคาร์ฟว่ายวนอย่างสวยงามอยู่ใต้ผนังกระจก และยังมีปลาทองโทซากิน (Tosakin) และปลาทองรันชู (Ranchu) ให้เราได้ชมอีกด้วย และโซน “Light Papercutting” ก็เป็นโซนที่ฮิตในโซเชียลมีเดียมาก เพราะเป็นโซนที่สวยงามลึกลับซึ่งเกิดจากแสงไฟและสีสันของปลานั่นเอง

ภาพ: https://www.kkday.com/th/product/138162-hyogo-kobe-aquarium-art-atoa

10 DMM Kariyushi Aquarium

ตอนนี้เราได้เดินทางมาถึงอควาเรียมแห่งสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งเป็นอควาเรียมที่ตั้งอยู่ที่โอกินาว่า และอยู่ห่างจากสนามบินนาฮะเพียงนั่งรถแค่ 20 นาทีเท่านั้น นั่นก็คือ DMM Kariyushi Aquarium ที่นี่มีสิ่งที่น่าสนใจรอเราอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็นฉลามตัวใหญ่ กระเบน และสัตว์อื่นๆ ที่พบในน่านน้ำรอบโอกินาว่า และยังมีแนวปะการังชูระซัง (Churasan rifu) ที่เราสามารถชมแนวปะการังหลากสีสันและปลาเขตร้อนได้จากใต้อุโมงค์

ภาพ: https://experiences.travel.rakuten.com/experiences/23703

ในตอนกลางคืน ตู้โชว์ปลาน้ำจืดธีม Yanbaru Forest นั้นถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากป่ายันบารุทางตอนเหนือของโอกินาว่านั่นเอง พอถึงเวลากลางคืนแสงไฟของที่นี่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ทำให้เกิดบรรยากาศที่เงียบสงบแตกต่างจากตอนกลางวัน และยังมีเสียง Background เป็นเสียงนกและเสียงแมลงจากป่ายันบารุเปิดคลอเพื่อให้เกิดความสมจริงอีกด้วย

ภาพ: https://experiences.travel.rakuten.com/experiences/23703

นอกจากนี้ยังมี อุมิคาจิโดม (Umi kaji Dome) ที่ได้จัดแสดงท้องฟ้าและทะเลของโอกินาว่าเอาไว้ ซึ่งพอช่วงเวลาของวันเปลี่ยนไป บรรยากาศของที่นี่ก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน โดยในตอนกลางคืนเราจะได้เห็นประภาคารส่องแสงสว่างไสวและท้องทะเลอันมหัศจรรย์ของโอกินาว่า และบนท้องฟ้ายังมีดวงดาวส่องแสงสุกสกาวปรากฏสู่สายตา ในส่วนของด้านหน้านั้นได้จัดให้เป็นพื้นที่น้ำตื้นจัดและมีปลาท้องถิ่นหลากสีสันแหวกว่ายอยู่ในนั้น และเรายังสามารถให้อาหารปลาในราคา 200 เยน ภายใน 30 นาทีได้ด้วย เมื่อใกล้รุ่งสาง ชายทะเลแห่งนี้ก็จะถูกย้อมเป็นสีส้มด้วยแสงแรกของวันใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่โรแมนติกไม่น้อยเลยทีเดียว
*ราคาให้อาหารปลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดดูรายละเอียดที่เว็บไซต์

ภาพ: https://filmoffice.ocvb.or.jp/en/location-en/nanbu-en/tomigusuku-en/26330/