Hotels with View of Tokyo Tower : 10 โรงแรมน่าพักวิวโตเกียวทาวเวอร์

10 โรงแรม น่าพักวิว โตเกียวทาวเวอร์

เมื่อพูดถึงญี่ปุ่นไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก โตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นอันเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ร้านค้ามากมาย ผู้คนหลากหลายชนชาติ และความคึกคักทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน แม้ในเมืองหลวงแห่งนี้จะมีแหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่จุดเช็คอินสำคัญและยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงการมาเยือนโตเกียวอย่างแท้จริงจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) หอคอยสื่อสารสีแดงขนาดใหญ่ สัญลักษณ์ของการฟื้นฟูโตเกียวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งอยู่ในเขตมินาโตะ (Minato) กรุงโตเกียว เราเลยรวบรวม 10 โรงแรม ที่มองเห็นวิวสวยๆ ของโตเกียวทาวเวอร์มาให้ลองไปพักกัน

01 Mitsui Garden Hotel Ginza Premier

มาเริ่มกันที่โรงแรมงบไม่แรงแต่คุ้มค่าเกินราคา Mitsui Garden Hotel Ginza Premier โรงแรมหรูสูงระฟ้าที่ขึ้นชื่อว่าเป็น โรงแรม ที่สูงที่สุดในย่านกินซ่า (Ginza) ย่านแหล่งช็อปปิ้งชั้นนำในเขตชูโอ (Chuo Ward) ใช้เวลาเดินแค่ 5 นาที จากสถานีชิมบาชิ สามารถเห็นวิวทิวทัศน์มุมสูงของบ้านเมืองในโตเกียวและมองเห็น โตเกียวทาวเวอร์ ได้จากในห้องพัก นอกจากนี้ก็ยังใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำอย่างโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) และสวนสาธารณะฮามาริคิว (Hamarikyu Gardens) อีกด้วย

ภาพ : agoda.com

เมื่อขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 16 จะเจอกับส่วนของล็อบบี้โรงแรม บริเวณนี้ถูกออกแบบให้ดูเรียบง่ายทว่าทันสมัย เป็นการตกแต่งด้วยโทนสีเทาดำเรียบหรู ทั้งโซฟา, กระเบื้อง, พรมปูพื้น และผ้าม่านแบบโปร่งแสง ตัดด้วยสีขาวของโคมไฟ มีเก้าอี้ให้เราสามารถนั่งชิลล์ๆ ชื่นชมทัศนียภาพของกรุงโตเกียวอันเต็มไปด้วยตึกสูงและภาพของโตเกียวทาวเวอร์ผ่านกระจกใสบานใหญ่ตรงนี้ได้

โรงแรม นี้มีห้องพักทั้งหมด 45 ห้อง ให้บริการตั้งแต่ชั้น 16 เป็นต้นไป ว่ากันด้วยไทป์ของห้องมีทั้งแบบเตียงแฝดและเตียงคู่ โดยห้องพักทุกห้องมาพร้อมกับวิวเมืองอันแสนสวยงาม แต่ที่ว้าวมากๆ ก็คือบางห้องสามารถมองเห็น โตเกียวทาวเวอร์ แบบชัดๆ ได้อีกด้วย

ทุกห้องพร้อมพรั่งไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างโทรทัศน์จอแบนติดผนัง, ตู้เย็น, อุปกรณ์ชงชาและกาแฟ อุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในห้องน้ำ ตลอดจนอ่างอาบน้ําขนาบข้างด้วยกระจกใสให้เราได้เพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับทิวทัศน์ยามค่ําคืนของโตเกียว

ส่วนบริการอื่นๆ ของที่นี่ก็จะมีแผนกต้อนรับตลอด 24 ชั่วโมง สปา บริการรับฝากสัมภาระ มีบริการซักรีดและซักแห้ง บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีทั่วบริเวณโรงแรม และมีคอมพิวเตอร์พร้อมอินเทอร์เน็ตสําหรับใช้งานฟรีที่โซนล็อบบี้

เรื่องอาหารการกินก็มีทั้งบริการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่น ตามด้วยอาหารกลางวัน และปิดท้ายด้วยอาหารเย็นที่เพิ่มอาหารสไตล์อิตาเลียนเข้ามาให้ได้ลิ้มลอง อิ่มอร่อยกับอาหารกลางวันในห้องอาหารพร้อมชมวิวทิวทัศน์มุมสูงของเมืองโตเกียวที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาของวัน นอกจากนี้ก็มีช่วงให้บริการชายามบ่ายและของหวานอีกด้วย

02 The Royal Park Hotel Tokyo Iconic Shiodome

The Royal Park Hotel Tokyo Iconic Shiodome อาคารสีเหลืองเด่นท่ามกลางตึกสูงตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีชิโอโดเมะที่ไม่ว่าใครก็สามารถเดินทางมาที่นี่ได้อย่างสะดวก โดยคำว่า Iconic ที่ระบุอยู่ในชื่อโรงแรมนั้นแสดงถึงความตั้งใจที่ต้องการจะเป็นผู้ที่โดดเด่นในเรื่องของโอโมเตะนาชิหรือการบริการด้วยหัวใจสไตล์ญี่ปุ่น และถึงแม้บริเวณรอบๆ โรงแรมจะเต็มไปด้วยตึกสูงมากมาย แต่เราก็ยังคงมองเห็นวิวของโตเกียวทาวเวอร์จากโรงแรมนี้ได้เช่นกัน

ล็อบบี้ของโรงแรมจะอยู่ที่ชั้น 24 ของอาคาร ภายในแต่งโทนเทาดำสไตล์โมเดิร์น มีลักษณะเป็นห้องโถงเพดานสูงโปร่งไม่อึดอัด มีที่นั่งสำหรับนั่งพักรวมถึงเคาน์เตอร์ต้อนรับที่สามารถให้บริการแขกผู้เข้าพักได้อย่างเต็มที่

โดยห้องพักจะอยู่ตั้งแต่ชั้นที่ 26 เป็นต้นไป มีทั้งห้องไทป์สแตนดาร์ด, ห้องคอนเซ็ปต์ออกแบบโดยนักออกแบบและแบรนด์ที่มีชื่อเสียง อย่าง Eriko Horiki และ BoConcept เพื่อนําเสนอไลฟ์สไตล์ของโรงแรมให้ดูหลากหลายมากยิ่งขึ้น ห้องพักที่หรูหราที่สุดจะอยู่ที่ชั้นบนสุดนั่นก็คือชั้นที่ 38 โดยมีห้องพักสุดหรูแยกย่อยออกมาอีกหลายห้องตามขนาด มีการใช้สีแดงและสีดําเป็นสีหลักในการตกแต่งเพิ่มความพรีเมียม

ซึ่งห้องที่น่าสนใจและอยากให้ลองมาพักกันก็คือห้องที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ เช่นห้องที่มีคอนเซ็ปต์เหมือนบ้านที่สะดวกสบายผ่อนคลายมากๆ กับบรรยากาศที่ไม่ทางการจนเกินไป

นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมีบริการสปาสไตล์บาหลีแบบดั้งเดิม บริการทรีตเมนต์บำรุงผิวเพื่อความสวยงาม ตลอดจนบริการนวดเพื่อผ่อนคลายทั้งสไตล์ไทยและยุโรป อีกทั้งยังมีบริการฟิตเนสสำหรับคนที่อยากจะออกกำลังกายขณะเข้าพักอีกด้วย

ที่ชั้น 1,  ชั้น 24 และชั้น 25 ของโรงแรมจะมีร้านอาหารโรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารตะวันตกและอาหารญี่ปุ่นทั้งในรูปแบบบุฟเฟ่ต์หรือไคเซกิ พร้อมทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของโตเกียวทาวเวอร์และสวนฮามาริคิวบรรยากาศเขียวชอุ่ม สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวที่นี่ก็จะมีบริการห้องอาหารส่วนตัวเช่นกัน นอกจากนี้ก็จะมีคาเฟ่อาหารออร์แกนิกและของหวานตามฤดูกาลอีกด้วย

03 Park Hotel Tokyo

Park Hotel Tokyo คือโรงแรมที่เต็มไปด้วยผลงานศิลปะกว่า 400 ชิ้น ซึ่งแขกผู้เข้าพักจะได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ไปกับการเข้าพักในโรงแรมที่มีบรรยากาศราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์ อีกทั้ง ณ โรงแรมแห่งนี้ยังสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของโตเกียวทาวเวอร์ได้จากบริเวณฝั่งด้านหน้าของโรงแรม แถมพิเศษไม่เหมือนใครสำหรับในช่วงฤดูหนาวในวันที่อากาศแจ่มใส เพราะเราจะเห็นภูเขาไฟฟูจิปรากฏเป็นฉากหลังของโตเกียวทาวเวอร์ได้นั่นเอง แถมยังใกล้กับสถานีชิโอโดเมะช่วยให้เดินทางไปยังโอไดบะและย่านกินซ่าได้อย่างสะดวกอีกด้วย

เมื่อก้าวเข้ามาในโรงแรมก็จะพบกับล็อบบี้ที่พื้นที่นั้นเปิดโล่งขนาดใหญ่ เพดานสูงโปร่งไปจนถึงหลังคา ตกแต่งด้วยผลงานศิลปะตามจุดต่างๆ และมีชากาแฟให้บริการฟรี แต่จุดที่อยากแนะนำให้ไปพักผ่อนชมวิวสวยๆ จะเป็นบริเวณเลานจ์ชั้น 25 ซึ่งจะเป็นจุดที่เห็นวิวอันสวยงามของบ้านเมืองที่ผสานกับโตเกียวทาวเวอร์อันสวยงามเป็นพิเศษในยามค่ำคืน แถมยังเป็นจุดที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิในฉากหลังแบบไกลๆ ได้อีกด้วย 

ห้องพักของที่นี่จะตั้งอยู่บนชั้นที่ 26 ถึงชั้นที่ 35 มีทั้งห้องแบบสแตนดาร์ด, ห้องแบบดีลักซ์ และห้องแบบพิเศษที่ถูกตกแต่งด้วยงานศิลปะบนกำแพงอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ละห้องจะมีหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงไปถึงเพดาน มีทิวทัศน์เป็นภาพมุมกว้างของกรุงโตเกียว และทุกห้องจะใช้ที่นอนแบบพ็อกเก็ตสปริง (Pocket Spring) ที่ช่วยป้องกันเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนขณะพลิกตัว ช่วยให้เรานอนหลับได้สนิทตลอดคืน มาพร้อมกับสิ่งอํานวยความสะดวกภายในห้องพักที่ครบครัน

ในส่วนของห้องนั้นถูกตกแต่งด้วยภาพวาดบนผนัง นอกจากเราจะได้เพลิดเพลินไปกับสุนทรียภาพของภาพวาดหลากหลายสไตล์แล้ว บางห้องยังสามารถเห็นวิวที่แตกต่างไปจากปกติจากการผสมผสานกันของภาพวาดและวิวนอกหน้าต่าง อย่างเช่นภาพของปราสาทญี่ปุ่นที่อยู่บนหัวเตียงได้ไปสะท้อนเกิดเป็นภาพอยู่บนหน้าต่าง ทำให้เราเห็นทัศนียภาพของโตเกียวทาวเวอร์และกรุงโตเกียวยามค่ำคืนที่พิเศษมากขึ้น

นอกจากบริการสปาที่เห็นบ่อยๆ ในโรงแรมทั่วไป ที่นี่ยังมีหลายสิ่งที่แปลกใหม่กว่าโรงแรมอื่นๆ คือร้านขายผลงานศิลปะ แถมที่นี่ยังมีงานนิทรรศการศิลปะที่จัดแสดงผลงานของศิลปินทั้งในญีปุ่นและต่างประเทศราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

อาหารภายในโรงแรมมีมากมายหลายแบบ ทั้งอาหารไคเซกิที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลและอาหารแบบอะลาคาร์ท มีทั้งห้องอาหารรวม ห้องอาหารแบบส่วนตัว และห้องอาหารที่ประดับตกแต่งด้วยผลงานศิลปะมากมายให้เราได้เลือกใช้บริการตามชอบ เพลิดเพลินกับอาหารพร้อมชมทิวทัศน์สุดพิเศษจากชั้น 26

04 THE BLOSSOM HIBIYA

THE BLOSSOM HIBIYA โรงแรมหรูอีกแห่งที่มีคอนเซ็ปต์เปรียบโรงแรมให้เหมือนกับดอกไม้บานสะพรั่งที่นำพาความสุขสบายใจมาให้ เป็นโรงแรมที่นอกจากจะเห็นทัศนียภาพบ้านเมืองในโตเกียวแล้ว เรายังสามารถมองเห็นวิวของโตเกียวทาวเวอร์และสวนฮิบิยะ (Hibiya Park) จากโรงแรมได้ แถมที่พักยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น ศาลเจ้าคาราสุโมริ (Karasumori Shrine) อีกด้วย

ฟรอนต์และล็อบบี้จะอยู่ ณ ชั้น 18 ของอาคาร โดยจะมีลิฟต์สองตัวที่ชั้น 1 พาขึ้นมายังแผนกต้อนรับอันหรูหรา เต็มไปด้วยที่นั่งพักแบบโซฟาและโต๊ะเล็กๆ สำหรับวางของ พร้อมหน้าต่างกรุกระจกใสบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงมากมายและหอคอยโตเกียวได้

ห้องพักจะมีทั้งห้องเตียงเดี่ยว เตียงคู่ และเตียงแฝด แถมยังมีบริการเตียงเสริมสำหรับสำหรับคนที่มาแบบกลุ่มและแบบครอบครัว สำหรับห้องระดับสแตนดาร์ดและดีลักซ์จะอยู่บนชั้นที่ 19 ถึงชั้น 27 ส่วนห้องพักระดับพรีเมียมจะอยู่ที่ชั้นบนสุดของอาคาร นอกจากการตกแต่งภายในห้องจะเป็นแบบพรีเมียมแล้ว ทัศนียภาพใจกลางเมืองที่มีองค์ประกอบเป็นโตเกียวทาวเวอร์ก็พรีเมียมไม่แพ้กัน

ห้องพักที่นี่จะเป็นโทนสีเอิร์ธโทนและเป็นสีที่สบายตาช่วยผ่อนคลายจิตใจ มีหน้าต่างใสบานใหญ่ทุกห้อง ทำให้ในตอนกลางวันห้องจะสว่างสดใสด้วยแสงแดดธรรมชาติและในตอนกลางคืนก็จะเห็นวิวของไฟตามตึกและบ้านเรือน มาพร้อมกับการตกแต่งด้วยพรมและกระดาษวาชิที่มีลวดลายที่มีแรงบรรดาลใจมาจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลทั้งสี่และประวัติศาสตร์รอบๆ ย่านนี้

ภาพ : jrk-hotels.co.jp

สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีอย่างครบครัน ทั้งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เครื่องทําน้ําแข็ง เครื่องถ่ายเอกสาร บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายบริเวณล็อบบี้และห้องรับแขก หรือหากใครที่ต้องการใช้แบบสายแลนก็มีให้ใช้บริการที่ห้องรับแขก และห้องฟิตเนสให้เราได้เพลิดเพลินไปกับการออกกำลังกายพร้อมกับชมวิว

บนชั้น 18 จะเพียบพร้อมไปด้วยพื้นที่กินอาหารและบริการห้องอาหารส่วนตัวตกแต่งภายในด้วยไม้ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้างหอคอยหรือป้อมสังเกตการณ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น ใช้กระจกใสตกแต่งรอบห้องอาหารช่วยให้เห็นวิวฝั่งสวนฮิบิยะ อิ่มอร่อยไปกับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตกจากครัวแบบเปิด อาหารกลางวันอย่างโซบะโฮมเมด ปิดท้ายด้วยอาหารเย็นสไตล์ญี่ปุ่น 

05 Tokyo Prince Hotel

ถัดมาถึงคิวของ Tokyo Prince Hotel โรงแรมสุดคลาสสิคที่เปิดตัวมาตั้งแต่ ค.ศ. 1964 เป็นโรงแรมที่มีบรรยากาศดั้งเดิมสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน รายล้อมไปด้วยพืชพรรณไม้สีเขียวขจีใจกลางเมือง ความพิเศษและจุดเด่นของโรงแรมแห่งนี้คือ การที่โรงแรมตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวทาวเวอร์เพียงไม่กี่ก้าว ทำให้มองเห็นโตเกียวทาวเวอร์ได้อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษกว่าที่อื่น

บรรยากาศภายในโรงแรมถูกตกแต่งออกไปทางโทนสีแดงดำทำให้ดูหรูหรามากขึ้น แสงไฟจะเป็นสีเหลืองสบายตาทำให้รู้สึกถึงความเก่าแก่ของโรงแรมได้เป็นอย่างดี มีกระถางดอกไม้โทนสีแดงขนาดใหญ่ 1 กระถางตั้งเป็นจุดศูนย์กลาง และมีโคมไฟแบบตั้งพื้นตกแต่งไปตามทาง แต่เพดานในบริเวณล็อบบี้นี้จะไม่สูงโปร่งเท่าใดนัก

ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 11 แบบ ห้องชั้น 4 ถึงชั้น 8 จะเป็นห้องที่มีการตกแต่งแบบสแตนดาร์ด แต่ห้องบนชั้น 9 ถึง 11 จะเป็นห้องที่ตกแต่งด้วยบรรยากาศหรูหราคลาสสิค โดยวิวที่เห็นก็จะขึ้นอยู่กับห้องที่เราเลือก มีทั้งห้องฝั่งมองเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโตเกียวทาวเวอร์ และฝั่งทิวทัศน์ของอาคารบ้านเรือนในเขตชิโอโดเมะ มีทั้งแบบเตียงคู่และเตียงแฝด ขนาดห้องแต่ห้องก็พอเหมาะและมีการตกแต่งที่ทำให้เรารู้สึกสบายๆ ราวกับได้อยู่บ้านของตัวเอง

ภาพ : visit-minato-city.tokyo

นอกจากนี้ก็จะมีสระว่ายน้ำที่จะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูร้อน มีร้านสะดวกซื้อที่ขายของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ขนม และเครื่องดื่ม มีแหล่งช็อปปิ้งแฟชั่น เครื่องประดับ และมีบริการสำหรับแลกเงินตราต่างประเทศ

อาหารของที่นี่จะมีทั้งอาหารบุฟเฟ่ต์ อาหารจีน และอาหารญี่ปุ่นหลากหลายอย่าง และมีล็อบบี้บาร์จิบชายามบ่าย แถมยังมีคาเฟ่กลางแจ้งที่เห็นวิวของโตเกียวทาวเวอร์ได้แบบใกล้ชิด ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับอาหารและเครื่องดื่มในขณะที่สัมผัสกับสายลมเย็นๆ ในมื้อกลาง และอิ่มอร่อยกับมื้ออาหารเย็นสุดโรแมนติกขณะชมโตเกียวทาวเวอร์ที่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟยามค่ำคืน

06 Oakwood Hotel & Apartments Azabu

ถัดมาจะเป็นโรงแรมหรูอีกแห่ง Oakwood Hotel & Apartments Azabu ใจกลางเมืองโตเกียว ในย่านอาซาบุจูบัง (Azabu-juban) เขตมินาโตะ ย่านที่อยู่อาศัยที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวและเป็นที่ตั้งของสถานทูตจากหลายประเทศ การออกแบบภายนอกของโรงแรมแห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์มาก เพราะเป็นการใช้ศิลปะลวดลายเลขาคณิตจากลายใบป่าน ซึ่งเป็นลายที่พบมากในการพิมพ์ผ้าและใช้ในลายชุดกิโมโนญี่ปุ่นมาออกแบบเป็นรูปทรงอาคาร เป็นโรงแรมที่มองเห็นวิวของโตเกียวทาวเวอร์จากโรงแรมได้โดยไม่มีตึกสูงตึกไหนมาบดบัง

ภาพ : storyweb.jp

เมื่อเดินเข้ามาในแผนกต้อนรับชั้น 1 จะเจอกับงานศิลปะบนกำแพงขนาดใหญ่ที่ดูแปลกตาแต่สวยงาม ตกแต่งบริเวณนี้ด้วยโทนสีน้ำตาลให้บรรยากาศที่ดูเงียบสงบ ส่วนเคาน์เตอร์จะมีอยู่ 2 เคาน์เตอร์และถูกออกแบบให้ดูคล้ายกับไม้จักสาน

มีห้องพักทั้งหมด 171 ห้อง มีทั้งห้องแบบสตูดิโอที่มีห้องนอน, ห้องครัว, เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้ารวมในห้องเดียว และห้องแบบอพาร์ทเมนต์ที่แยกสัดส่วนห้อง จะมีแบบ 1 ห้องนอน 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอน ตกแต่งภายในด้วยสไตล์โมเดิร์นทั้งหมด ของใช้ภายในห้องแต่ละอย่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นของคุณภาพสูง มาพร้อม​​สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อย่างเช่นทีวี, ตู้เย็น, ไมโครเวฟ, หม้อหุงข้าว, เครื่องครัวและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร 

เตียงที่ใช้จะเป็นแบรนด์ Serta ซึ่งเป็นผู้ผลิตที่นอนคุณภาพรายใหญ่ที่สุดของอเมริกา และทุกห้องจะมีระเบียงขนาดใหญ่และกว้าง ในบางห้องจะสามารถชมวิวโตเกียวทาวเวอร์ได้โดยไม่มีตึกไหนมาขวาง สามารถชื่นชมโตเกียวทาวเวอร์ที่ส่องแสงระยิบระยับได้อย่างชัดเจน

บริการอื่นๆ นอกเหนือไปจากอุปกรณ์เครื่องใช้ในห้อง ก็จะมีห้องฟิตเนสฟรี แต่ที่นี่จะไม่มีบริการร้านอาหารหรือห้องอาหารในโรงแรม แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีอะไรกิน เพราะทางโรงแรมก็จะมีโซนสำหรับกินกาแฟและขนมปังเล็กๆ น้อยๆ รองท้องในยามเช้า และบริเวณด้านล่างของโรงแรมจะมีร้านอาหารทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตก และคาเฟ่เรียงรายอยู่

07 Hilton Tokyo Odaiba

ต่อมาขอแนะนำโรงแรมสุดหรูรูปทรงอาคารโค้งแปลกตา Hilton Tokyo Odaiba ริมอ่าวโตเกียว (Tokyo Bay) ตั้งอยู่ในย่านโอไดบะ (Odaiba) ซึ่งเป็นศูนย์รวมความบันเทิงแบบไฮเทคบนเกาะเทียม มาพร้อมกับวิวสะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge) ที่ทอดตัวผ่านอ่าวโตเกียว มีแสงสีสวยงามเป็นพิเศษโดยเฉพาะในเวลากลางคืน อีกทั้งยังมองเห็นแลนด์มาร์กสำคัญอย่างโตเกียวทาวเวอร์ได้อีกด้วย แถมยังใกล้กับ DECKS Tokyo Beach แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของย่านนี้ในระยะที่สามารถเดินไปถึงได้

ภาพ : hiltonhotels.jp

พอเดินเข้ามาในโรงแรมก็จะเจอกับห้องโถงเพดานสูง มีเสา โคมไฟติดเพดาน และบันไดขนาดใหญ่สุดหรูหรา แค่ก้าวเข้ามาก็รู้สึกราวกับได้มาเยือนพระราชวังสักแห่งเลยทีเดียว แถมยังตกแต่งภายในด้วยโทนสีทองเพิ่มความลัคชัวรีเข้าไปอีกขั้น ฉากหลังของแผนกต้อนรับก็เป็นกระจกใสทำให้มองเห็นอ่าวโตเกียว สะพานสายรุ้งและโตเกียวทาวเวอร์อันสวยงามได้อย่างชัดเจน

ที่นี่จะมีห้องพักทั้งหมดกว่า 450 ห้องมีระเบียงส่วนตัว พร้อมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของโตเกียวโตเกียวทาวเวอร์และสะพานสายรุ้ง มีทั้งห้องเตียงเดี่ยว เตียงคู่ และเตียงแฝด ทิวทัศน์ของห้องพักจะแตกต่างกันออกไปหลายแบบ ทั้งแบบที่มองเห็นสวนสาธารณะชิโอะคาเซะ (Shiokaze Park) แบบที่มองเห็นอ่าวโตเกียวจากระเบียง รวมไปถึงห้องที่มีอ่างน้ํากลางแจ้งส่วนตัวและเห็นทั้งสะพานสายรุ้งและโตเกียวทาวเวอร์ 

ภาพ : hiltonodaiba.jp

สิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่ก็จะมีทั้งบริการสปา ฟิตเนส สระว่ายน้ำในร่ม อ่างอาบน้ำกลางแจ้ง ให้เราได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมพร้อมชมวิวสวยๆ นอกจากนี้ภายในโรงแรมก็จะมีมุมขนมหวานและกาแฟ รูมเซอร์วิสเซิร์ฟส่งอาหารถึงห้องสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขณะกินอาหาร 

ห้องอาหารของโรงแรมให้บริการอาหารหลากหลายประเภททั้งอาหารญี่ปุ่นตามฤดูกาล อาหารตะวันตก และอาหารจีน ส่วนอาหารที่เป็นที่นิยมที่สุดจะเป็นบาร์บีคิวบนระเบียงกลางแจ้งที่เปิดให้บริการในช่วงเวลาต้นฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง เป็นจุดที่มองเห็นบ้านเมืองในโตเกียว รวมไปถึงสะพานสายรุ้งและโตเกียวทาวเวอร์อันสวยงามได้

08 The Prince Sakura Tower Tokyo

ต่อมา Prince Sakura Tower Tokyo โรงแรมที่ได้รับรางวัลโรงแรมสี่ดาวท็อปคลาสบริการเยี่ยมติดต่อกันเป็นปีที่สี่จาก Forbes Travel Guide 2022 หรือองค์กรอิสระที่กำหนดมาตรฐานการให้คะแนนโรงแรมสุดหรู ร้านอาหาร และสปา นอกจากวิวของโตเกียวทาวเวอร์ที่มองเห็นได้จากโรงแรมแล้ว บริเวณรอบนอกโรงแรมก็เต็มไปด้วยพืชพรรณเขียวขจีนานาชนิด ทำให้โรงแรมแห่งนี้มีบรรยากาศรอบๆ เปลี่ยนไปตามฤดูกาล และที่ขาดไปไม่ได้ก็คือต้นซากุระที่ปรากฎอยู่ในชื่อของโรงแรม จะมีสีสันชมพูสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ช่วยให้โรงแรมดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

เมื่อเข้ามาในโรงแรมก็จะเจอกับล็อบบี้ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ บริเวณตรงกลางของล็อบบี้ถูกตกแต่งด้วยสิ่งที่ดูคล้ายกับกำแพงหนาสีทองหรูหราเว้าเข้าไปตรงกลาง โดยมีการจัดเหมือนสวนหินขนาดย่อม มีอ่างน้ำหินและต้นไม้กระถางเล็กๆ ตกแต่งอยู่ มีการใช้โทนสีและแสงทำให้บรรยากาศดูเงียบสงบมากขึ้น

ที่นี่จะมีห้องพักหลากหลายประเภท ทั้งห้องแบบเอ็กเซ็กคิวทีฟที่มีพื้นที่จำจ่ายใช้สอยที่กว้างเป็นพิเศษและมีการจัดสัดส่วนห้องแบบชัดเจน และห้องเตียงคู่และเตียงแฝดแบบดีลักซ์ แต่ละห้องจะตกแต่งโดยเน้นโทนสีน้ำตาล แสดงออกถึงความเป็นญี่ปุ่นที่ดูทันสมัยสอดคล้องกับทิวทัศน์ตามฤดูกาลของสวนญี่ปุ่นรอบโรงแรมที่มองเห็นจากหน้าต่าง นอกจากนั้นก็ยังมองเห็นวิวของโตเกียวทาวเวอร์ที่มาผสมผสานกับวิวของต้นไม้เขียวขจีของโรงแรมได้อีก แต่ถ้าหากเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิวิวที่เห็นก็จะพิเศษไปอีกขึ้นด้วยดอกซากุระสีชมพูสวยงาม

สิ่งอํานวยความสะดวกจะมีตั้งแต่สปาทรีตเมนต์สไตล์ญี่ปุ่นโดยใช้วัสดุธรรมชาติซาวน่าและสระว่ายน้ำกลางแจ้งพร้อมชมวิวท้องฟ้าเปลี่ยนสีที่เปิดให้ใช้บริการฟรี แถมยังมีห้องรับรองพิเศษที่จะให้บริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม และฟิตเนสฟรี

อาหารของที่นี่จะเน้นไปที่เมนูอาหารอิตาเลียนจากวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติของสวนญี่ปุ่น เป็นการรับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่มื้ออาหารเช้า กลางวัน กาแฟยามบ่าย ไปจนถึงอาหารเย็น แต่อย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็ยังคงมีห้องอาหารที่เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับด้วยเช่นกัน

09 The Westin Tokyo

The Westin Tokyo โรงแรมที่หรูหราและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการตกแต่งภายในแบบคลาสสิกสไตล์ยุโรป รายล้อมไปด้วยพันธ์ไม้เขียวขจีให้ความรู้สึกร่มรื่นตั้งแต่เห็นภายนอกโรงแรม เป็นโรงแรมที่มองเห็นโตเกียวทาวเวอร์ได้อย่างชัดเจนทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปที่ย่านชิบูย่าและรปปงงิอันเต็มไปด้วยแหล่งช็อปปิ้งและความบันเทิงจากโรงแรมได้อย่างสะดวกอีกด้วย

เมื่อเดินเข้ามาในโรงแรมก็จะเจอกับห้องโถงหรูหราขนาดใหญ่ที่เห็นครั้งแรกก็สัมผัสได้ถึงความคลาสสิคสไตล์ยุโรป เป็นสไตล์การตกแต่งภายในที่ได้รับความนิยมในฝรั่งเศสในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ล็อบบี้ที่ชั้นหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ส่วนมากจะเป็นหินแกรนิตสีดําและเป็นหินอ่อน เพิ่มความพิเศษด้วยรูปปั้นม้าสีดำ อีกทั้งบริเวณยังเต็มไปด้วยกลิ่นหอมฟุ้งของชาขาวที่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นด้วยกลิ่นความเป็นยุโรปตั้งแต่ก้าวเข้ามา

เป็นห้องพักสไตล์ยุโรปทั้งหมดกว่า 438 ห้อง เพดานสูงโปร่งและหน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นตัวเมืองโตเกียวและโตเกียวทาวเวอร์ได้อย่างชัดเจน ห้องพักทุกห้องจะมีเตียงนอนออริจินอลที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเตียงที่ทำให้นอนสบายราวกับอยู่ในสวรรค์ที่ทาง Westin ได้ดีไซน์ขึ้นเอง การตกแต่งภายในห้องพักเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สามารถบ่งบอกถึงความเป็นยุโรปได้เป็นอย่าราวกับไม่ใช่โรงแรมในญี่ปุ่น ที่พื้นก็มีการปูพรมลวดลายต่างๆ สไตล์ยุโรป แตกต่างกันไปในห้องแต่ละประเภท

นอกจากนั้นก็จะมีบริการสปาสไตล์ฝรั่งเศสอย่างแท้จริง โดยใช้อุปกรณ์และน้ำมันแบรนด์ยุโรปที่คัดสรรมาอย่างดีด้วยเทคนิคการนวดที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นทรีตเมนต์ที่ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายรวมไปถึงสร้างความอ่อนเยาว์ให้ผิว และมีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายและฟิตเนสฟรีอีกด้วย

แม้ว่าโรงแรมแห่งนี้จะเป็นโรงแรมที่เน้นไปที่สไตล์ยุโรปแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีเพียงแค่อาหารยุโรปเพียงเท่านั้น มีทั้งอาหารไคเซกิที่ถ่ายทอดถึงสี่ฤดูกาลของญี่ปุ่น มีห้องอาหารฝรั่งเศสอยู่ชั้นบนสุดโดยจะเป็นจุดที่มองเห็นโตเกียวทาวเวอร์อันงดงามขณะกินอาหารได้ นอกจากนี้ก็จะมีอาหารจีน ล็อบบี้สำหรับนั่งจิบชาย่ามบ่าย และบุฟเฟ่ต์ขนมหวานอีกด้วย

10 The Tokyo EDITION, Toranomon

ภาพ : happy-mi-life.net

โรงแรมสุดท้ายที่อยากแนะนำจะเป็น The Tokyo EDITION, Toranomon โรงแรมไลฟ์สไตล์สุดหรูแบรนด์ EDITION จาก Marriott International ในย่านธุรกิจโทราโนมง (Toranomon) เป็นโรงแรมที่เหล่าคนดังมารวมตัวกันมากมายจากหลายประเทศ ว่ากันว่าเป็นโรงแรมที่ให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว แถมมีวิวทิวทัศน์เป็นโตเกียวทาวเวอร์สุดพรีเมียมอีกด้วย โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่รวบรวมพื้นที่ผ่อนคลายหลากหลายสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยความประหลาดใจที่แปลกใหม่และคาดเดาไม่ได้ 

ที่ชั้นแรกเป็นเพียงห้องโถงและลิฟต์ที่เอาไว้สำหรับขึ้นไปที่ชั้นล็อบบี้ พอขึ้นมาถึงล็อบบี้บนชั้น 31 จะพบกับความเขียวขจีล้อมรอบด้วยกระถางต้นไม้จํานวนมากดูเหมือนอุโมงค์ไม้ที่ดูลึกลับ มีล็อบบี้บาร์สำหรับลิ้มรสกาแฟและเครื่องดื่มเย็นๆ ได้บริเวณนี้ เฟอร์นิเจอร์ก็จะเป็นไม้ซะส่วนใหญ่ เพดานสูง และมีที่นั่งแบบโซฟาสีขาวสำหรับนั่งพักพร้อมวิวของโตเกียวทาวเวอร์อันสวยงามผ่านกระจกใสบานใหญ่ มาพร้อมกับกลิ่นหอมดั้งเดิมจากแบรนด์น้ำหอม Le Labo ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

ห้องพักของที่นี่จะมีห้องพักทั้งหมด 206 ห้อง ออกแบบโดย Kengo Kuma สถาปนิกชื่อดังระดับโลกของญี่ปุ่น มีห้องพัก 15 ห้องที่จะมีระเบียงส่วนตัวเริ่มตั้งแต่ชั้น 31 ขึ้นไป นำเสนอทัศนียภาพอันน่าทึ่งของกรุงโตเกียว รวมถึงทิวทัศน์ของโตเกียวทาวเวอร์และอ่าวโตเกียว แต่ละห้องจะมีการตกแต่งที่เรียบง่ายแต่ดูทันสมัย ให้ความรู้สึกเงียบสงบและอบอุ่น โดยจะมีทั้งห้องแบบดีลักซ์ สตูดิโอ แบบพรีเมียร์ และห้องสวีท

สิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆ ของที่นี่ก็จะมีสปาสำหรับสุขภาพและความงาม สระว่ายน้ำส่วนตัวในร่ม และยิมสำหรับออกกำลังกายที่เต็มไปด้วยเครื่องออกกำลังกายจาก Technogym แบรนด์อุปกรณ์และเทคโนโลยีดิจิตอลสำหรับฟิตเนส กีฬา และสุขภาพจากอิตาลีตลอด 24 ชั่วโมง

ที่โรงแรมแห่งนี้สามารถเพลิดเพลินไปกับล็อบบี้หลากหลายสไตล์ที่ทำให้เราได้เพลิดเพลิน มาพร้อมกับอาหารหลากหลายแบบด้วยเมนูสุดคลาสสิกจากทั่วทุกมุมโลกภายใต้การดูแลของเชฟระดับมิชลินสตาร์ อิ่มอร่อยกับอาหารจากวัตถุดิบธรรมชาติที่สดใหม่ทั้งมื้อเช้า กลางวันและเย็นได้ที่นี่ตลอดทั้งวัน สามารถกินได้ทั้งในห้องอาหารและแบบกลางแจ้งบริเวณระเบียงของโรงแรมที่มองเห็นวิวของโตเกียวทาวเวอร์ได้ชัดเจนตรงหน้า