6 รถจักรไอน้ำท่องเที่ยว ที่ยังเหลืออยู่ในญี่ปุ่น
สารบัญ
รู้หรือไม่? ญี่ปุ่นเป็นชาติแรกๆ ในเอเชียที่มีรถไฟ รถไฟสายแรกในญี่ปุ่นเปิดให้บริการเมื่อ ค.ศ. 1872 หรือ 148 ปีที่แล้ว
สมัยก่อนรถไฟเป็นแบบ รถจักรไอน้ำ คน ญี่ปุ่น เรียกสั้นๆ ว่า “SL” ย่อมาจาก Steam Locomotive วิ่งไปปล่อยควันด้านหน้าขบวนไป ซึ่งเป็นภาพอันแสนคลาสสิกและเป็นยุครุ่งเรืองของ รถจักรไอน้ำ ญี่ปุ่น ก็ว่าได้ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ของเดิม (รวมถึงกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม) ทำให้ปัจจุบันเรามักพบเจอรถจักรไอน้ำได้แต่ในพิพิธภัณฑ์
ภาพ: www.bit.ly
อย่างไรก็ตาม ยังคงหลงเหลือ รถจักรไอน้ำ อยู่บ้างใน ญี่ปุ่น (เยส!) บางขบวนย้อนรอยไปได้ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19! ซึ่งถูกอนุรักษ์ไว้เพื่อการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เพื่อระลึกถึงอดีตอันหอมหวาน (ผ่านการซ่อมแซมทางวิศวกรรมเพื่อความปลอดภัยสูงสุด)
เรามาดูกันดีกว่าว่ามีขบวนไหนน่าสนใจบ้าง!
01 SL Express
ผู้ให้บริการ Oigawa Railway | ชิซูโอกะ (Shizuoka)
ภาพ: www.bit.ly
นี่คือ รถจักรไอน้ำ ซึ่งวิ่งให้บริการเกือบทุกวันที่ยังหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวใน ญี่ปุ่น (ที่อื่นๆ วิ่งเฉพาะบางฤดูกาล) โดยวิ่งวันละ 1-3 รอบเลยทีเดียว ให้บริการระหว่างสถานีชิน-คานายะ (Shin-Kanaya Station) กับสถานีเซนสุ (Senzu Station) ในจังหวัดชิซูโอกะ ในแต่ละรอบใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
SL Express จะแล่นผ่านเลียบแม่น้ำโออิ (Oi River) มอบทัศนียภาพธรรมชาติอันแสนรื่มรมย์ ซึ่งจะเปลี่ยนสีสันไปตามฤดูกาล เช่น ซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ หรือหุบเขาสีส้มเหลืองนวลตาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
ภาพ: www.bit.ly
รถไฟขบวนนี้มีดีไซน์ภายนอกสีดำทะมึนให้ความรู้สึกขลัง คลาสสิก (อารมณ์แฮร์รี่ พอตเตอร์หน่อยๆ) อีกหนึ่งไฮไลท์ของสายนี้คือการตกแต่งภายในขบวนที่แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลยจากของออริจินอลดั้งเดิม ไม่ว่าจะเบาะที่นั่ง กระจก หรือราวจับต่างๆ ซึ่งให้บรรยากาศเหมือนได้ย้อนไปในอดีตยังไงยังงั้น (แต่ความสะอาดยังดีเยี่ยมอยู่เพราะได้รับดูแลรักษาเป็นประจำ ^^)
ภาพ: www.bit.ly
ระหว่างการเดินทางจะมีผู้ควบคุมรถไฟ (Train Conductor) ทำหน้าที่เสมือนเป็นไกด์คอยบรรยาย อำนวยความสะดวก และมอบความเพลิดเพลินแก่ผู้โดยสารตลอดทาง
ผู้โดยสารยังจะได้เอนจอยกับ “เอกิเบ็น” (ข้าวกล่องบนรถไฟ) ที่คัดสรรวัตถุดิบจากท้องถิ่นมาปรุง ซึ่งหาซื้อไม่ได้ทั่วไป พบเจอได้บนรถไฟที่นี่เท่านั้น! รื่นรมย์กับการเดินทางไปรับประทานอาหารอร่อยๆ ไป เปิดกระจกรับลมชมแสงแดด พลางฟังเสียงปู๊นๆ ฉึกฉัก ปู๊นๆ ฉึกฉัก ตลอดเส้นทางอันงดงาม
ผู้โดยสารหลายท่านลงความเห็นว่านี่เป็นประสบการณ์ที่บรรยายไม่ถูก รู้แต่ว่าเป็นสิ่งที่ชินคันเซ็น รถด่วน หรือรถไฟฟ้าสมัยใหม่ให้ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้เลยจริงๆ หากมีโอกาสจะกลับมาอีกอย่างแน่นอน
ภาพ: www.bit.ly
SL Express เป็นรถจักรไอน้ำที่ได้รับความนิยมสูงสุดติด Top 5 ในญี่ปุ่นมาโดยตลอด ที่นั่งเป็นแบบสำรวงล่วงหน้าเท่านั้น (Reserved Seat) ผู้โดยสารจำเป็นต้องจองตั๋วล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 2 วัน ผ่านทางโทรศัพท์หรือเว็บไซต์ทางการ
Info
Route: ระหว่างสถานีชิน-คานายะ (Shin-Kanaya Station) กับสถานีเซนสุ (Senzu Station) จังหวัดชิซูโอกะ
Reservation: สามารถสำรองที่นั่งทางโทรศัพท์หรือทางเว็บไซต์ www.daitetsu.jp
Access: การเดินทางมายังสถานีชินคานายะ จากโตเกียวให้นั่งโทไคโดชินคันเซ็น (Tokaido Shinkansen) มาลงสถานีชิซูโอกะ (Shizuoka Station) แล้วต่อรถไฟท้องถิ่นสายโทไคโด (Tokaido Line) มาลงสถานีคานายะ (Kanaya Station) จากนั้นต่อรถไฟท้องถิ่นสายโออิกาวะเรลเวย์ (Oigawa Railway Line) มาลงสถานีชิน-คานายะ (Shin-Kanaya Station)
Website: www.oigawa-railway.co.jp
More Information: www.oigawa-railway.co.jp
Note: ผู้โดยสารจำเป็นต้องจองตั๋วล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 2 วัน ผ่านทางโทรศัพท์หรือเว็บไซต์ทางการ
02 SL Fuyu-no-Shitsugen
ผู้ให้บริการ JR Hokkaido | ฮอกไกโด (Hokkaido)
ภาพ: www.bit.ly
ขึ้นเหนือมุ่งหน้าสู่ดินแดนหิมะขาวโพลนแห่งเกาะฮอกไกโด เพื่อพบกับตำนานที่ยังมีอยู่จริง
SL Fuyu-no-Shitsugen ให้บริการเฉพาะช่วงฤดูหนาวของทุกปี วิ่งระหว่างสถานีคุชิโระ (Kushiro Station) กับสถานีชิเบฉะ (Shibecha Station) ทางฝั่งตะวันออกของเกาะฮอกไกโด ให้บริการวันละ 1 รอบ (ไป-กลับ) ขาไปใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ช่วงเวลาสั้นๆ นี้ขอให้รีบดื่มด่ำกับตำนานที่มีอยู่จริง
ภาพ: www.bit.ly
สภาพแวดล้อมที่ รถจักรไอน้ำ แล่นผ่านเป็นหนึ่งในพื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดใน ญี่ปุ่น พื้นที่โล่งเปิดกว้าง และเมื่ออยู่ในหน้าหนาว มันจึงถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน มอบวิวทิวทัศน์พาโนราม่าสุดอลังการ คอนทราสต์กับดีไซน์ภายนอกสีดำมืดมิด ควันดำที่ถูกปล่อยโขมงออกมาทะลุทะลวงไอหนาวรอบข้าง พร้อมหิมะขาวโพลนตรงหน้าที่ถูกแหวกออก นั่นเป็นภาพที่สุดจะบรรยาย ซึ่งดึงดูดนักเที่ยว นักผจญภัยให้มาเห็นกับตามานักต่อนักแล้ว
ภาพ: www.bit.ly
การตกแต่งภายในก็ยังคงรักษาสภาพได้เหมือนเก่าดั่งยุค 1940s ได้เป็นอย่างดี ที่ดีงามอีกจุดคือตู้หนึ่งเป็น Café Car ที่รวบรวมเอกิเบ็นประจำท้องถิ่น บรรดาอาหาร ขนม หรือของกินเล่น และของที่ระลึกวางจำหน่ายมากมายให้นักท่องเที่ยวได้มาสำรวจกัน
ภาพ: www.bit.ly
ความสะดวกอีกอย่างของนักท่องเที่ยวคือมีกิจกรรมหลากหลายให้เลือกทำเมื่อออกทริปมาแถวเมืองคุชิโระนี้ ไม่ว่าจะเล่นสกี เดินธารน้ำแข็ง หรือไปชมนกกระเรียน ฯลฯ จึงอยู่ในแผนการท่องเที่ยวของหลายคนได้ไม่ยาก
Info
Route: ระหว่างสถานีคุชิโระ (Kushiro Station) กับสถานีชิเบฉะ (Shibecha Station) จังหวัดฮอกไกโด
Access: การเดินทางมายังสถานีคุชิโระ จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) ให้นั่งรถไฟ Limited Express Ozora มาลงสถานีคุชิโระ (Kushiro Station) ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 15 นาที
Website : www.jrhokkaido.co.jp
Official Website (English): www.jrhokkaido.co.jp
Note: ให้บริการเฉพาะช่วงปลายเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์
03 SL Hitoyoshi
ผู้ให้บริการ JR Kyushu | คุมาโมโตะ (Kumamoto)
ภาพ: www.bit.ly
จากเหนือสุด เราลงเกือบล่างสุด มากันที่เมืองฮิโตโยชิ (Hitoyoshi) ในจังหวัดคุมาโมโตะ เพื่อพบกับเจ้า SL Hitoyoshi “รถจักรไอน้ำ ที่เก่าแก่ที่สุดใน ญี่ปุ่น” อายุ 100 กว่าปี! และเป็นรถจักรไอน้ำเพียงหนึ่งเดียวบนเกาะคิวชู
SL Hitoyoshi ให้บริการทุกวันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน
ให้บริการไป-กลับ วันละ 1 รอบ ระหว่างสถานีคุมาโมโตะ (Kumamoto Station) กับสถานีฮิโตโยชิ (Hitoyoshi Station) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการใช้เวลาวันหยุดที่นิยมมากของชาวเมือง
ภาพ: www.bit.ly
ส่วนการตกแต่งภายในก็มาในสไตล์คลาสสิกเรโทรแบบฉบับสมัยโชวะ ไฮไลท์ก็คือ “ห้องเลานจ์สำหรับชมวิว” ที่มีกระจกบานใหญ่พร้อมที่นั่งทำจากไม้ชิรากิ เสพรับวิวภายนอกที่มองออกไปเห็นแม่น้ำคุมะ (Kuma River) ได้แบบเต็มๆ
ภาพ: www.bit.ly
สำหรับคนท้องถิ่นของเมืองในเกาะแห่งนี้แล้ว SL Hitoyoshi คือความรำลึกถึงอดีตของคนรุ่นพ่อแม่ สมัยพวกเขาเด็กๆ รถจักรไอน้ำพร้อมเสียงปู๊นๆ นั่นคือภาพแห่งความคุ้นเคยในชีวิตประจำวันของเด็กในสมัยโชวะ มันเคยถูกปลดประจำการไปแล้วตามยุคสมัย ก่อนจะถูกบูรณาการกลับมาใหม่ในฐานะรถจักรไอน้ำเพื่อการท่องเที่ยว (เพราะผู้คนอดคิดถึงไม่ไหว)
ภาพ: www.bit.ly
ความรู้สึกจากใจของผู้โดยสารคนหนึ่งที่เป็นชาวเมืองท้องถิ่นคือภูมิใจที่ได้เห็นมันกลับมาวิ่งอีกครั้ง ทั้งเสียง กลิ่น ความรู้สึก ล้วนฉุกให้คิดถึงอดีตวันวานทุกครั้งที่ได้ขึ้นมานั่ง ความปลาบปลื้มปิติไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่รถไฟกำลังแล่นไป แต่กลับเป็นการเดินทางในตัวมันเองต่างหาก…
Info
Route: ระหว่างสถานีคุมาโมโตะ (Kumamoto Station) กับสถานีฮิโตโยชิ (Hitoyoshi Station) จังหวัดคุมาโมโตะ
Access: การเดินทางมาสถานีคุมาโมโตะ จากสถานีฮากาตะ ให้นั่งคิวชูชินคันเซ็น (Kyushu Shinkansen) มาลงที่สถานีคุมาโมโตะ ใช้เวลา 51 นาที
Website: www.jrkyushu.co.jp
Note: ให้บริการทุกวันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน
ให้บริการวันละ 1 รอบ
04 SL Moka
ผู้ให้บริการ MOKA Railway | โทชิกิ (Tochigi)
ภาพ: www.bit.ly
ภูมิภาคนี้ในสมัยเอโดะคือแหล่งผลิตผ้าฝ้าย (Cotton) ชั้นนำของประเทศ ซึ่งในสมัยนั้นถือเป็นยุคสมัยที่อุตสาหกรรมก้าวหน้าของประเทศก็ว่าได้ เส้นทางที่แล่นผ่านนี้จึงได้ฉายาว่า “Cotton Way”
ภาพ: www.bit.ly
SL Moka ให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ตลอดปี วันละ 1 รอบ ระหว่างสถานีชิโมดาเตะ (Shimodate Station) กับสถานีโมเตกิ (Motegi Station) ได้รับความนิยมที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ทัศนียภาพรอบด้านเต็มไปด้วย “ซากุระ” อันสวยงาม เป็นอีกหนึ่งเส้นทางโรแมนติกที่หนุ่มสาวคู่รักชวนกันมาออกเดต
ภาพ: www.bit.ly
ภายในรถไฟมีกิมมิกเล็กๆ ให้เด็กๆ ได้ถ่ายรูปเล่น โดยมีพร็อพเป็นหมวกที่ทำให้เราเสมือนเป็นผู้ควบคุมรถไฟ
Info
SL Moka
Route: ระหว่างสถานีชิโมดาเตะ (Shimodate Station) กับสถานีโมเตกิ (Motegi Station) จังหวัดโทชิกิ (Tochigi)
Access: การเดินทางมาสถานีชิโมดาเตะ (Shimodate Station) จากโตเกียวนั่งโทโฮคุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen) มาลงสถานีโอยามะ (Oyama Station) ใช้เวลาประมาณ 42 นาที แล้วต่อรถไฟท้องถิ่นสายมิโตะ (Mito Line) มายังสถานีชิโมดาเตะ (Shimodate Station) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
Website: www.moka-railway.co.jp
Note: ให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ตลอดปี วันละ 1 รอบ (ไป-กลับ)
05 SL Paleo Express
ผู้ให้บริการ Chichibu Railway | ไซตามะ (Saitama)
ภาพ: www.bit.ly
ขอปิดท้ายด้วยรถจักรไอน้ำที่ได้สมญานามว่า “ใกล้โตเกียวที่สุด” รถไฟสายนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะเพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวนั่นเอง SL Paleo Express ให้บริการระหว่างสถานีคุมากายะ (Kumagaya Station) กับสถานีมิตสึมิเนะกุจิ (Mitsumineguchi Station) ในจังหวัดไซตามะ ระหว่างเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนธันวาคม
SL Paleo Express ให้บริการทุกวันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 1 รอบ แต่ละรอบนั้นใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง 40 นาที เพราะคุณปู่วิ่งด้วยความเร็วเพียง 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อให้ผู้โดยสารชมวิวได้เพลินๆ เรียกว่าอิ่มหนำสำราญกันไป
ภาพ: www.bit.ly
ด้วยเวลาวิ่งที่เนิ่นนาน ทำให้มันผ่านถึง 8 สถานีด้วยกัน ซึ่งแต่ละสถานีก็เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ อาทิ ทุ่งดอกพิงค์มอส (Shibazakura Hill) แถวสถานีโอฮานะบาตาเกะ (Ohanabatake Station) หรือกิจกรรมล่องเรือที่ Nagatoro Line Kudari แถวสถานีนากาโทโระ (Nagatoro Station) เป็นต้น
การตกแต่งภายในเป็นการตกแต่งในแบบสมัยโชวะช่วงปี ค.ศ. 1960 เบาะนั่งเป็นแบบหันหน้าเข้าหากัน สีแดงแปร๊ดตัดด้วยลายไม้ ระหว่างทางจะมี Train Conductor พูดบรรยายผ่านไมโครโฟน ซึ่งจะย้ำถึงฉากสำคัญๆ เช่น ทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสี จังหวะข้ามสะพาน หรือจังหวะที่รถไฟแล่นคู่ขนานกับรถบนท้องถนน เป็นต้น
ภาพ: www.bit.lyภาพ: www.bit.ly
หากเป็นไปได้ เราขอแนะนำให้นั่งที่ท้ายขบวน เพราะจะสามารถมองออกมาเห็นควันพวยพุ่งเวลาเข้าโค้ง ซึ่งเป็นภาพที่เท่และหาชมได้ยากมาก!
อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้คุณจองตั๋วแต่เนิ่นๆ เผื่อไว้เลย เพราะ SL Paleo Express นั้นคนแน่นตลอด! โดยเฉพาะช่วงพีคในเดือนพฤศจิกายนที่คลื่นมวลชนแห่แหนมาชมใบไม้เปลี่ยนสีสองข้างทาง
Info
Route: ระหว่างสถานีคุมากายะ (Kumagaya Station) กับสถานีมิตสึมิเนะกุจิ (Mitsumineguchi Station) จังหวัดไซตามะ (Saitama)
Access: การเดินทางมายังสถานีคุมากายะ จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) นั่งโฮกุริกุชินคันเซ็น (Hokuriku Shinkansen) มาลงสถานีคุมากายะ ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที
Website: www.chichibu-railway.co.jp
Note: ให้บริการเฉพาะช่วงเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนธันวาคม
06 SL Ginga
ผู้ให้บริการ JR EAST | อิวาเตะ (Iwate)
SL Ginga เป็น รถจักรไอน้ำ ท่องเที่ยว Joyful Train ของบริษัท JR East ในเส้นทางระหว่างสถานีฮานามากิ (Hanamaki) กับสถานีคามาอิชิ (Kamaishi) จังหวัดอิวาเตะ หากนั่งจากต้นทางจนสุดปลายทางจะใช้เวลาราว 4 ชั่วโมง โดยจะเปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ที่นั่งก็มีจำกัดจึงมักถูกจับจองจากทั้งคน ญี่ปุ่น เองและนักท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้านานๆ จะอุ่นใจกว่า
คอนเซ็ปต์ของรถไฟขบวนนี้คือการออกแบบและตกแต่งโดยได้แรงบันดาลใจจากรถไฟในวรรณกรรมเรื่อง “รถไฟสายทางช้างเผือก” ของมิยาซาวะ เคนจิ (Kenji Miyazawa) ซึ่งเมืองฮามานากิ จังหวัดอิวาเตะเป็นบ้านเกิดของเขา
©East Japan Railway Company
จุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ มีห้องท้องฟ้าจำลองเล็กๆ อยู่บนขบวนด้วย! นอกจากนี้ภายในยังมีจุดจำหน่ายของที่ระลึก ห้องจัดแสดงผลงานของมิยาซาวะ รวมไปถึงศิลปหัตถกรรมท้องถิ่นตามแบบฉบับของโทโฮคุ
Info
Route: ระหว่างสถานีฮานามากิ (Hanamaki Station) กับสถานีคามาอิชิ (Kamaishi Station) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
Access: การเดินทางมายังสถานีฮานามากิ จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) ให้นั่งอาคิตะคันเซ็น (Akita Shinkansen) มาลงที่สถานีโมริโอกะ (Morioka Station) ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 11 นาที แล้วเปลี่ยนมานั่งรถไฟท้องถิ่นสายโทโฮคุ (Tohoku Line) มาลงที่สถานีฮานามากิ ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที
Website: www.jreast.co.jp
Note: ให้บริการเฉพาะช่วงเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนธันวาคม
ทั้ง 6 ขบวนนี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนจาก รถจักรไอน้ำ ทั่วทั้ง ญี่ปุ่น ที่เหลืออยู่น้อยเต็มทีแล้ว แต่ญี่ปุ่นก็ยังพยายามอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ที่วิ่งได้ให้กลับมามีชีวิตอยู่ มอบบทบาทใหม่ให้กับรถจักรไอน้ำคันเก่าในเชิงการท่องเที่ยว สร้างคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และยลโฉมความเป็นเจ้าแห่งวิศกรรมให้ประจักษ์แก่คนรุ่นหลัง