Oyasukyo : เดย์ทริปแช่ออนเซ็น เดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสีในหุบเขาโอยาสุทางตอนใต้ของจ.อาคิตะ
สารบัญ
- 01 สัมผัสควันพวยพุ่งจากน้ำพุร้อนในตำนาน Oyasukyo Daifunto
- 02 เดินเล่นเลาะสะพานแดงสำคัญ Kawarayu Bridge
- 03 กินไอศกรีมกุหลาบหายาก Babahera Ice
- 04 เพลิดเพลินกับบ่อแช่เท้าสาธารณะฟรีระหว่างทาง
- 05 เติมพลังด้วยมื้อเที่ยงสุดโฮมเมดที่ร้าน Kichiemon
- 06 อิ่มคาวต่อด้วยหวาน พร้อมจิบกาแฟหอมกรุ่น ณ Juemon Coffee
- 07 นั่งพักกายปล่อยใจริมน้ำตก Fudou Waterfall
- 08 ปิดท้ายด้วยซอฟต์ครีมเนียนละมุน Kurikoma
- การเดินทางไปหุบเขาโอยาสุ
ก่อนจะเล่าถึงโอยาสุเคียว (Oyasukyo) หรือ หุบเขาโอยาสุ (Oyasu Valley) ประเด็นสำคัญของบทความนี้ ฉันขอแนะนำตัวเล็กน้อยว่าโดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างหลงรักออนเซ็นญี่ปุ่น ชอบชมธรรมชาติ (ที่เดินทางแบบไม่ทุลักทุเลจนรู้สึกเหนื่อย) เอ็นจอยกับการตามหาของอร่อยประจำถิ่น ที่บอกก็เพราะว่าหากมีความชอบใกล้เคียงกัน คุณจะชอบสถานที่ที่ฉันจะเล่าต่อไปนี้แน่นอน
หุบเขาที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “โอยาสุเคียว” ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในเมืองยูซาวะ (Yuzawa) ทางตอนใต้สุดของจังหวัดอาคิตะ หรือหากพอจะมีคนไทยรู้จักบ้างคงเป็นโอยาสุเคียวไดฟุนโตะ (Oyasukyo Daifunto) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวดังของหุบเขาโอยาสุนั่นเอง หุบเขาโอยาสุเป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ มีเรียวกังพร้อมบ่อออนเซ็นในตัวให้เลือกพักอยู่หลายแห่ง มีออนเซ็นกลางแจ้ง และบ่อแช่เท้าสาธารณะให้บริการอยู่เรื่อยๆ แม้กระทั่งแหล่งน้ำธรรมชาติเล็กๆ ตามรายทางก็ยังมีไอควันลอยเป็นสัญลักษณ์บอกให้รู้ว่าฉันคือน้ำพุร้อน นี่มันพื้นที่สำหรับแฟนตัวยงของออนเซ็นญี่ปุ่นจริงแท้แน่นอน
ตั้งต้นที่สถานีรถไฟยูซาวะ (JR Yuzawa Station) การเดินทางมายังหุบเขาต้องโดยสารรถบัสเท่านั้น ซึ่งในหนึ่งวันมีเที่ยวรถให้บริการจำกัดและค่อนข้างห่างกัน สำหรับฉันคิดว่าไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร เพียงแค่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบเท่านั้นเอง เพื่อความชัวร์แนะนำให้แวะสอบถามรอบเดินรถจากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเมืองยูซาวะ
ฉันนั่งรถบัสอุโกะ คตซือ (Ugo Kotsu) จากจุดขึ้นรถหมายเลข 1 ด้านหน้าสถานีรถไฟยูซาวะไปลงที่ป้าย Oyasu Hot Spring Ski Resort (小安温泉スキー場前) ภายในรถบัสถ้านับรวมฉันแล้วมีผู้โดยสารไม่ถึง 5 คนด้วยซ้ำ รถบัสท้องถิ่นกับวิวชนบทธรรมดา ความงามแบบที่ไม่ได้แต่งแต้มช่วยให้รู้สึกสบายใจเป็นพิเศษ ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าฉันชอบมาก
01 สัมผัสควันพวยพุ่งจากน้ำพุร้อนในตำนาน Oyasukyo Daifunto
ฉันเลือกลงที่ป้าย Oyasu Hot Spring Ski Resort เพราะป้ายรถบัสนี้จะอยู่ตรงกับทางลงไปยังโอยาสุเคียวไดฟุนโตะพอดี สถานที่ซึ่งฉันเกริ่นไปก่อนหน้านี้แล้วว่าฮอตสุดในหุบเขา (ไม่เชื่อก็ลองเสิร์ชในกูเกิลดู) โอยาสุเคียวไดฟุนโตะคือแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ผุดขึ้นจนเกิดเป็นไอร้อนปกคลุมไปทั่วหน้าผาขนาบทั้งสองด้านจนได้รับฉาวาว่าเป็น “หม้อต้มนรก” ฟังดูน่ากลัว แต่นี่เป็นความงดงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นมา
ฉันเดินเลาะตามบันไดไม้ลงไปผ่านต้นไม้ใบหญ้าที่ส่งกลิ่นเย็นๆ ผสานกับกลิ่นดินชื้นแสนสดชื่นจนมาถึงชั้นล่างสุด ด้านล่างนี้จะมีทางเดินไล่ระดับจากบ่อน้ำร้อนธรรมดาไปจนถึงจุดที่อุณหภูมิของน้ำสูงมากจนมีไอร้อนพวยพุ่งขึ้นสูงจนอาจบดบังการมองเห็น ระวังกันด้วยล่ะ
เดินไปเรื่อยๆ จะพบกับจุดยอดนิยมในการถ่ายภาพสะพานแดงคาวารายุพาดผ่านช่องเขา ห้อมล้อมไปด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ คนส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาในยามที่ใบไม้เปลี่ยนสี (ช่วงที่เรามานี่แหละ) แต่ได้ยินมาว่าในฤดูหนาวก็สวยงามราวกับภาพในเทพนิยาย
Info
Entrance Fee: ฟรี
02 เดินเล่นเลาะสะพานแดงสำคัญ Kawarayu Bridge
ชมหม้อต้มนรกโอยาสุเคียวไดฟุนโตะจนพอใจแล้ว ฉันเลือกเดินย้อนกลับมาเล็กน้อยประมาณ 150 เมตร เพื่อจะไปเดินเล่นที่สะพานแดงคาวารายุที่มองเห็นจากด้านล่างเมื่อครู่นี้ สะพานแดงคาวารายุเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญซึ่งตั้งพาดข้ามหุบเขาหุบเขาโอยาสุ ถ้าอยากได้ภาพโอยาสุเคียวไดฟุนโตะแบบที่ไม่มีอะไรมาบดบัง จุดด้านบนสะพานนี้ก็เหมาะสมที่สุด
ชมวิวงามจากด้านล่างแล้ว แนะนำให้ลองเดินมาชมภาพหุบเขาและน้ำพุร้อนจากมุมสูงจากด้านบนกันดูบ้างก็เป็นวิวที่ชวนอิ่มใจไปอีกแบบ ฉันที่เดินทางไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ภาพที่เห็นจึงเป็นหุบเขาที่ถูกโอบล้อมไปด้วยใบไม้สีส้มแดงอย่างงดงามกินใจ
Info
Entrance Fee: ฟรี
03 กินไอศกรีมกุหลาบหายาก Babahera Ice
เชื่อว่าคนที่เที่ยวตั้งใจมาอาคิตะต้องรู้จักไอศกรีมกุหลาบ Babahera Ice แน่ๆ เพราะถ้าเสิร์ชในกูเกิลก็ถูกจัดอันดับไว้หลายแห่งว่าเป็นสิ่งที่ต้องลองให้ได้ แฟรนด์ไชส์รถเข็นขายไอศกรีมที่จำหน่ายเฉพาะในจังหวัดอาคิตะเท่านั้น ในภาษาญี่ปุ่น “Baba” แปลว่า ป้า หญิงสูงวัย “Hera” แปลว่า ไม้พายปากแบน กลายเป็นจุดเด่นของร้านคือคุณป้าพนักงานขายในชุดสีชมพูและเหลืองเข้าธีม ที่มีฝีมือในการใช้ไม้พายตักไอศกรีมเป็นรูปดอกกุหลาบสีสดใสรสกล้วยกับสตรอว์เบอร์รีที่เรียกว่า “บาบาเฮระ ไอซุ” นั่นเอง
ฉันเจอร้านนี้ตรงปลายสะพานคาวารายุ หากบังเอิญผ่านไปเจอแนะนำว่าให้ลองชิมสักโคน ส่วนใครที่ไปแล้วไม่เจอรถเข็นคุณป้าของจริง ด้วยเพราะไม่มีกำหนดชัดเจนว่าคุณป้าจะขายที่ไหน ก็สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ได้ตามร้านของของฝากทั่วจังหวัดอาคิตะ เพราะ Babahera Ice โด่งดังจนถูกนำไปประยุกต์เป็นของฝากมากมาย อาทิ ลูกอม ขนมต่างๆ ฯลฯ
Info
Price: 150-300 เยน
04 เพลิดเพลินกับบ่อแช่เท้าสาธารณะฟรีระหว่างทาง
บ่อแช่เท้าสาธารณะด้านหน้า Oyasukyoonsen Total Information Center
จากสะพานฉันตัดสินใจเดินเท้ากลับไปเลยโอยาสุเคียวไดฟุนโตะไปอีกราว 1 กิโลเมตร จะพบกับจุดรวมแหล่งท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร อันที่จริงสามารถนั่งบัสไปลงที่ป้าย Oyasu Onsen (小安温泉) แต่อย่างที่ได้บอกไปว่ามีรอบรถบัสน้อย เดินชมธรรมชาติไปพลาง แวะร้านค้าท้องถิ่นบ้าง ก็ลืมความรู้เหนื่อยไปเลย
บ่อแช่เท้าสาธารณะ Demba no Yu
ที่ฉันชอบมากคือ ระหว่างทางจะพบกับบ่อแช่เท้าสาธารณะให้บริการฟรี ในวันที่ต้องประสบกับอากาศหนาวเย็นของฤดูใบไม้ร่วงและฝนปรอย บ่อแช่เท้าสาธารณะเล็กๆ เหล่านี้ก็ช่วยเติมความสุขให้คนขี้หนาวอย่างฉันได้ดีมากจริงๆ อีกทั้งอาจจะได้พบเพื่อนใหม่ที่ประสบภัยหนาวเหมือนกันก็ได้นะ
05 เติมพลังด้วยมื้อเที่ยงสุดโฮมเมดที่ร้าน Kichiemon
เดินเยอะๆ ท้องก็เริ่มส่งเสียงเตือนให้เติมอาหารเข้าไป แถวนี้มีร้านอาหารให้เห็นบ้างพอสมควร สามารถเลือกได้ตามชอบใจ ส่วนตัวฉันเลือกปักไปที่ Kichiemon ด้วยเพราะเงินในกระเป๋ามีไม่มาก ร้านสไตล์บ้านๆ ก็น่าจะตอบโจทย์ ร้านนี้เสิร์ฟอาหารโฮมเมดที่ตั้งใจทำกันในครอบครัว บรรยากาศเหมือนนั่งกินข้าวที่บ้านคนญี่ปุ่น เสิร์ฟเมนูอาหารกินง่าย อิ่มได้ในจานเดียว อาทิ ราเมน โซบะ ข้าวแกงกะหรี่ ฯลฯ เมนูแนะนำคือ “อินานิวะอุด้ง” เมนูเส้นขึ้นชื่อของอาคิตะ ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 สุดยอดอุด้งของญี่ปุ่น
ฉันว่าน่าจะเป็นรสชาติแบบที่เรียกกันว่า “รสมือแม่” นอกจากจะใช้วัตถุดิบอาคิตะแล้วยังเติมรสมือหนักๆ ของเจ้าของร้านเพื่อเพิ่มรสชาติเข้าไปอีก แอบสังเกตระหว่างที่นั่งกินก็มีผู้คนหมุนเวียนมาจนโต๊ะเต็มตลอด
Info
Hours: 11:00-20:00 น.
Holiday: ไม่แน่นอน
06 อิ่มคาวต่อด้วยหวาน พร้อมจิบกาแฟหอมกรุ่น ณ Juemon Coffee
สายคาเฟ่มาที่นี่ก็ไม่ต้องกังวลไปว่าจะไม่มีร้านดีๆ ให้นั่ง ในโซนท่องเที่ยวนี้ก็มีร้านกาแฟคุณภาพดีอย่าง Juemon Coffee เมล็ดกาแฟของที่นี่ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันและคั่วเองภายในร้าน โดยจะเสิร์ฟเฉพาะกาแฟดริปมือเท่านั้น กว่าจะได้ออกมาแต่ละแก้วอาจต้องใช้เวลา แต่มั่นใจได้เลยว่าจะได้ดื่มด่ำกับกาแฟรสชาติดี ด้านขนมหวานแม้จะมีตัวเลือกไม่มาก แต่ขนมที่มีนั้นก็คัดมาแล้วกินคู่กับกาแฟได้เข้ากันดีเชียว
ภายในร้านใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง เคล้ากับกาแฟร้อนสักแก้วก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจ หากว่าติดอกติดใจขึ้นมา ก็มีเมล็ดกาแฟจำหน่ายให้ซื้อกลับบ้านได้ ทั้งยังจำหน่ายของที่ระลึกอื่นๆ ให้เลือกอีกนับไม่ถ้วน จะลองเผื่อเวลาเดินเล่นก็เป็นความคิดที่ดีนะ
Info
Hours: ทุกวัน 9:00-17:30 น.
Holiday: –
Website: www.juemon.jp
07 นั่งพักกายปล่อยใจริมน้ำตก Fudou Waterfall
ดื่มกาแฟจนตื่นเต็มตา พร้อมไปเดินเล่นต่อที่น้ำตกฟุโดใกล้ๆ กับศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวโอยาสุเคียวออนเซ็น (Oyasukyoonsen Total Information Center) เดินลงบนไดตามทางเดินหินด้านข้างจะพบกับน้ำตกฟุโดซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของ หุบเขาโอยาสุ อาจมีคำถามว่าแล้วทำไมถึงไม่มีไอร้อนพวยพุ่งขึ้นเหมือนโอยาสุเคียวไดฟุนโตะ ก็เพราะว่าบริเวณผาสองฝั่งตรงนี้มีซิลิกาเป็นส่วนประกอบ ทำให้ชั้นดินแข็งและน้ำพุร้อนไม่สามารถแทรกตัวผ่านไปได้ อีกทั้งจากความสูงต่ำไม่เท่ากันเกิดเป็นน้ำตกสวยงาม
บริเวณเดียวกันนี้ยังมีศาลเจ้าเล็กๆ ให้แวะสักการะ ศาลานั่งพัก และเก้าอี้ให้นั่งชิลล์ใต้ต้นไม้ สามารถซื้อขนมไปนั่งกินลมชมบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีได้ แต่อย่าลืมเก็บกลับมาทิ้งด้วยล่ะ
Info
Entrance Fee: ฟรี
08 ปิดท้ายด้วยซอฟต์ครีมเนียนละมุน Kurikoma
ต้องบอกก่อนว่าร้านนี้สตาฟที่ศูนย์นักท่องเที่ยวในสถานีรถไฟแนะนำไว้ตั้งแต่แรกเลยว่าต้องมา ฉันปักหมุดไว้ในใจและตั้งใจเอาไว้ว่าจะไปกินปิดท้ายทริป เดินชมใบไม้เปลี่ยนสีเลียบแม่น้ำมินาเสะ (Minase River) ตามแผนที่มาประมาณ 650 เมตรจะพบกับสะพานข้ามแม่น้ำ ร้านคุริโคมะตั้งอยู่อีกฟากฝั่งของแม่น้ำนั่นเอง
หัวใจหลักของร้านคือ โยเกิร์ตและนม ที่การันตีรสชาติด้วยรางวัล Superior Taste Award 2018 ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายมีทั้งแบบออร์แกนิคและแบบที่ถูกนำมาประยุกต์เป็นเมนูขนมหวาน ฉันเลือกสั่ง Crape Softo ซอฟต์ครีมเนื้อเนียนเสิร์ฟมาพร้อมแผ่นเครป รสชาติก็สมคำร่ำลือ ถูกปากจนสามารถกินได้เรื่อยๆ อยากกินต้องเตรียมใจไว้เพราะคิวค่อนข้างยาว อีกทั้งทางร้านจะทำช้าหน่อยเพราะทำทีละออเดอร์และมีพนักงานเพียงคนเดียว
Info
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: ฤดูหนาว
Website: www.kurikoma.co.jp
Oyasukyoonsen Total Information Center
จบทริปแล้วฉันมานั่งรอรถบัสที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวโอยาสุเคียวออนเซ็น (Oyasukyoonsen Total Information Center) เพราะตรงนี้มีห้องน้ำและบ่อแช่เท้าสาธารณะให้ใช้บริการได้ฟรี อีกทั้งป้ายรถบัสจะอยู่ด้านหน้าศูนย์พอดี โดยถ้าจะกลับไปสถานีรถไฟให้นั่งป้าย Oyasu Onsen (小安温泉) ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนะ อย่าเผลอชิลล์จนลืมเวลา เพราะกว่าบัสจะมาอีกคันก็ต้องรอจนรากงอก
การเดินทางไปหุบเขาโอยาสุ
จากอาคิตะ: ให้นั่งรถไฟสายโออุ (Ou Line) ลงที่สถานียูซาวะ (Yuzawa Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นให้ต่อรถบัสอุโกะ คตซือ (Ugo Kotsu) จากป้ายด้านหน้าสถานีรถไฟไปลงที่ป้าย Oyasu Hot Spring Ski Resort (小安温泉スキー場前) ราคา 1,140 เยนต่อเที่ยว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
จากโมริโอกะ: ให้นั่งอาคิตะชินคันเซ็น (Akita Shinkansen) ลงที่สถานีโอมาการิ (Omagari Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเปลี่ยนไปโดยสารรถไฟท้องถิ่นสายโออุลงที่สถานียูซาวะ (Yuzawa Station) ใช้เวลา 40 นาที จากนั้นให้ต่อรถบัสอุโกะ คตซือ (Ugo Kotsu) จากจุดขึ้นรถหมายเลข 1 (Bus Stop 1) ด้านหน้าสถานีรถไฟไปลงที่ป้าย Oyasu Hot Spring Ski Resort (小安温泉スキー場前) ราคา 1,140 เยนต่อเที่ยว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
หมายเหตุ: ราคาค่าโดยสาร ณ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2562, ในหนึ่งวันมีเที่ยวรถบัสให้บริการจำกัดและค่อนข้างห่างกัน กรุณาสอบถามรอบเดินรถจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเมืองยูซาวะ (Tourist Information Center) และวางแผนอย่างรอบคอบ
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.oyasukyo.jp (ภาษาญี่ปุ่น)