NIKKO : ก้าวออกจากเมืองใหญ่ไปสัมผัสทิวทัศน์ที่มีสีสันทุกฤดูในนิกโก้
สารบัญ
นิกโก้ (Nikko) เมืองมากด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ บรรยากาศธรรมชาติสวยงาม และทิวทัศน์สดใส ที่มีทั้งหุบเขา น้ำตก ทะเลสาบ ต้นไม้ใบหญ้าและยังเป็นพื้นที่ ที่รวมมรดกโลกอันเก่าแก่ไว้ด้วยกันอีก เรียกว่าใครมาที่นิกโก้ก็ฟินครบ จบในที่เดียว อ่านบทความอื่นเกี่ยวกับเมืองนิกโก้ได้ที่นี่
นิกโก้เป็นเมืองในจังหวัดโทชิกิ (Tochigi) ห่างจากโตเกียวไปทางเหนือประมาณ 140 กิโลเมตรหรือใช้เวลา 2 ชั่วโมงโดยรถไฟ เมืองนิกโก้มีอุณหภูมิกำลังดีตลอดทั้งปี ยกเว้นตอนช่วงหน้าหนาวก็จะหนาวสักหน่อยประมาณติดลบเลขตัวเดียว พอให้ได้ใส่ชุดกันหนาวน่ารักๆ แต่ก็สามารถเที่ยวได้ไม่มีปัญหาเพราะนิกโก้เที่ยวได้ทั้งปีจริงๆ นะ
Nikko Landmark
มาถึงนิกโก้แล้ว ต้องไปที่ไหนบ้าง!
01 ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine), ศาลเจ้าฟุทาระซัง (Futarasan Shrine), วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)
ที่ต้องเอาทั้งสามที่มารวมกันก็เพราะว่า สามสถานที่นี้เป็นสถานที่ ที่่มีคุณค่าและความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมากของเมืองนิกโก้เพราะทั้งสามที่นั้นตั้งอยู่ในละแวกเดียวกันและล้วนถูกยูเนสโก้ (UNESCO) ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกนั่นเอง
มาถึงที่แรก ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งเมืองนิกโก้ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะ (Edo Period) เป็นการผสมผสานระหว่างศาสนาชินโตของญี่ปุ่นกับอิทธิพลของศาสนาพุทธเข้าด้วยกัน
ภาพ : leonpkg.com
สิ่งก่อสร้างที่สำคัญของศาลเจ้าโทโชกุแห่งนี้ก็คงจะเป็น ซุ้มประตูโยเมมง (Yomeimon Gate) มีสีขาวสลับทอง ซุ้มประตูโยเมมงยังถูกยกให้เป็นหนึ่งในซุ้มประตูที่สวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเลยนะ
ภาพ : japan-guide
ด้วยความวิจิตรสวยงามเฉพาะตัวของการสร้าง ที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมสมัยเอโดะ ทำให้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวที่มากมาย นอกจากซุ้มประตูแล้วที่ศาลเจ้าโทโชกุยังมีพื้นที่บริเวณอื่นพร้อมกับประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกนะ
ภาพ : toshogu.jp
ไม่ว่าจะเป็น ส่วนที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม โดยชั้นหนึ่งของพิพิธภัณฑ์จะเป็นพื้นที่ของร้านกาแฟเรียบๆ น่ารักให้ซื้อและนั่งทานได้ ส่วนชั้นสองจะเป็นพื้นที่จัดแสดง ในปัจุบันเป็นมีธีมหลักเกี่ยวกับโชกุนอิเอยาสึ โทกุงาวะ (Leyasu Tokugawa) ผู้สู้รบเพื่อรวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่ง
ภาพ : gurutabi
หอคอย 5 ชั้น (Gojunoto Pagoda) สีแดงเด่นที่ความสูงกว่า 35 เมตรรอให้คุณเดินทางไปชม
info
Nikko Toshogu Shrine
Open hours: วันที่ 1 เมษายน – 31 ตุลาคม เวลา 8:00 – 5:00 น. /
วันที่ 1 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม เวลา 8:00 – 4:00 น.
Entrance fee: ผู้ใหญ่ 1,300 เยน / เด็กประถมและมัธยมต้น 450 เยน (ไม่รวมค่าเข้าส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์)
Location: Sannai, Nikko, Tochigi
More information: toshogu.jp/english
ศาลเจ้าแห่งที่สอง ศาลเจ้าฟุทาระซัง (Futarasan Shrine)
เข้ามาก็จะพบเสาโทริอิ (Torii) เป็นสีเทาเป็นสิ่งแรก
ภาพ : youinjapan.net
ศาลเจ้าฟุทาระซังตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติหุบเขาต้นไม้ใบหญ้าและใกล้แม่น้ำไดยะ (Daiya River) ที่มีสะพานแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่รู้จักกันในชื่อสะพานศักดิ์สิทธิ์ชินเกียว (Shinkyo Bridge) พาดผ่านอยู่
ภาพ : flickr.com
ภาพ : omairi.club
สะพานชินเกียวก็ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสามสะพานญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วยนะ เพราะอย่างนี้ในบางครั้งบางโอกาสถ้าโชคดีก็จะได้เห็นคู่บ่าว-สาว มาจัดงานแต่งงานตามประเพณีญี่ปุ่นแท้ๆ ด้วยนะ พูดมาขนาดนี้ก็ต้องไปชมให้เห็นกับตาตัวเองว่าสวยงามแค่ไหน
info
Futarasan Shrine/Futarasan jinja
Open hours: เดือนเมษายน-ตุลาคม เวลา 8:00-17:00 น. / เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม เวลา 8:00-16:00 น.
Entrance fee: 200 เยน
Location: Sannai, Nikko, Tochigi
More infomation: futarasan.jp
มาถึงที่สุดท้ายของบริเวณนี้นั่นก็คือ วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple) หนึ่งเดียวที่เป็นวัดของศาสนาพุทธ ตัวสถานที่สำคัญของรินโนจิก็คือ ซันบุตสึโด (Sanbutsudo) ภายในมีพระพุทธรูปแกะสลัก, พระพุทธรูปพันมือ (Senju Kannon), พระพุทธรูปที่มีหัวม้าบนศีรษะ (Bato Kannon)
ภาพ : japanbullet.com
แต่ในปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงและซ่อมแซม ใครที่อยากจะไปชมคงต้องรอหน่อยเพราะจะซ่อมแซมเสร็จในเดือนมีนาคมปี 2019 นี้
ภาพ : blogs.yahoo
ตรงข้ามกันกับรินโนจิ ยังมีสวนแบบญี่ปุ่น สวนโชโยเอ็น (Shoyoen Garden) และบ่อน้ำเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยต้นเมเปิ้ลที่จะเปลี่ยนสีเป็นสีส้มแดงสวยงาม ในฤดูใบไม้ร่วง
ภาพ : inakaseikatsu
ในตอนเย็นก็จะมีการเปิดไฟรอบๆ สวนด้วย แถมสวนและวัดรินโนจิบางทีก็มีการจัดงานเทศกาลและอีเว้นท์ต่างๆ ถ้าโอกาสดีก็จะได้ชมนะ
info
Rinnoji Temple (Sanbutsudo)
Open Hours: เมษายน – ตุลาคม 8:00 – 00 – 4:00 น.
พฤศจิกายน – มีนาคม 8:00 – 4:00 น.
Price: ผู้ใหญ่ 400 เยน / เด็ก 200 เยน
Location: Sannai, Nikko, Tochigi
02 ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji)
ทะเลสาบที่สวยงามในทุกฤดู เป็นสถานที่ชมธรรมชาติและใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อของนิกโก้
ภาพ : blog.sina.com
ชูเซ็นจิตั้งอยู่ที่ตีนของภูเขาไฟนันไต (Mount Nantai) ที่ในฤดูใบไม้ร่วงภูเขาลูกนี้จะเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มรวมถึงต้นไม้รอบๆ ทะเลสาบก็เช่นกัน คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวก็นิยมมาดูใบไม้เปลี่ยนสี (Momiji) อันสวยงาม ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย
ภาพ : pixabay.com
และในฤดูใบไม้ร่วงเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ก็มีการจัดทัวร์นั่งเรือ เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีกันให้จุใจอีกด้วย โดยจะให้บริการในวันที่ 14 เมษายน – 30 พฤศจิกายนเท่านั้น
ภาพ : tobujapantrip.com
info
Lake Chuzenji Cruise
Duration: ประมาณ 55 นาที
Price: 1,250 เยน
ภาพ : rickiekwong
ถ้าไปเที่ยวในฤดูอื่นที่ไม่ใช่ฤดูใบไม้ร่วง ก็สามารถเดินเล่นที่หมู่บ้านออนเซ็น กินอาหารอร่อยๆ และยังรับอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติโดยการถีบเรือเป็ดก็ชิลๆ ไปอีกแบบ
info
Lake Chuzenji
Entrance fee: Free
Location: Chugushi, Nikko, Tochigi
03 น้ำตกเคกอน (Kegon Falls)
ภาพ : Mynewsdesk.com
น้ำตกที่มีชื่อเสียงของเมืองนิกโก้ เกิดจากน้ำจากทะเลสาบชูเซ็นจิไหลลงมานั่นเอง ด้วยความสูงกว่า 97 เมตร ทำให้น้ำที่ตกลงมาไหลแรงตลอดทั้งปี ยกเว้นในช่วงฤดูหนาว น้ำตกจะกลายเป็นธารน้ำแข็งปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน
ภาพ : japanbyjapan.com
ในช่วงที่คนนิยมมาท่องเที่ยวที่น้ำตกก็ไม่พ้นช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณเดือนตุลาคมเพราะสายน้ำที่ไหลลงประกอบกับทิวทัศน์สีส้มแดงของใบไม้ทำให้สวยงามกว่าเคย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในฤดูอื่นๆ จะไม่สวยนะ ในฤดูอื่นๆ ต้นไม้ใบหญ้าก็จะมีสีเขียวชอุ่ม ชุ่นชื่น ไม่แพ้สีแดงส้มของใบเมเปิ้ลเลย
ภาพ : jpninfo.com
ภาพ : tokyo-line.jimdo
การลงไปชมวิวที่น้ำตกเคกอนนั้นต้องลงผ่านลิฟต์เพื่อไปยังจุดชมวิวที่อยู่ด้านล่าง โดยก็จะมีช่วงเวลาในการให้บริการนะ
info
Kegon Falls Elevator
Open Hours: ธันวาคม – กุมภาพันธ์ เวลา 9:00 – 16:30 น.
มีนาคม – เมษายนและพฤศจิกายน 8:00 – 17:00 น.
พฤษภาคม – กันยายน 7:30 – 18:00 น.
ตุลาคม 7:30 – 17:00 น.
Price: ผู้ใหญ่ 550 เยน, เด็ก (ต่ำกว่ามัธยมต้น) 330 เยน
Location: Chugushi, Nikko, Tochigi
More information: kegon.jp
04 ขึ้นกระเช้า อะเคชิไดระ (Akechidaira Plateau)
อีกสถานที่หนึ่งซึ่งไม่ไกลจากน้ำตกเคกอนและทะเลสาบชูเซ็นจิ
ภาพ : fastjapan.com
ภาพ : tokyoweekender
แต่ที่นี่เราจะพาคุณมาขึ้นกระเช้าท้าความสูงเพื่อชมทิวทัศน์แบบพาโนราม่าของเขานันไต (Mt.Nantai) และถนนอิโรฮะซากะ ( Irohazaka Slope) ที่ขึ้นชื่อเรื่อวทางคดเคี้ยวเพราะถนนเส้นนี้นั้นมีทางโค้งเป็นรูปตัวยูกว่า 48 โค้งด้วยกัน แต่สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวก็ยังเดินทางมาชม มาขับรถผ่านถนนเส้นนี้ก็ด้วยความสวยงามของสองข้างทางนั่นเอง ทำเอาลืมความโค้งของถนนไปเลยล่ะ
ภาพ : japaninsides.com
นอกจากนี้ยังมองเห็นทะเลสาบชูเซ็นจิและน้ำตกเคกอนอีกด้วย จะนั่งกระเช้าชมหรือเข้าไปชมใกล้ๆ ก็ทำได้ตามชอบเลยนะ
ภาพ : nikko-kotsu
info
Akechidaira Plateau
Open Hours: เมษายน – พฤศจิกายน 8:40 – 16:00 น., ธันวาคม – มีนาคม 9:00 – 15:00 น., *24 กุมภาพันธ์ – 15 มีนาคม ปิดปรับปรุง *ช่วงเวลาการให้บริการอาจเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลนะ เช็คให้ดีๆ ก่อนเดินทางไปนะ
Price: เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 400 เยน / เด็ก 200 เยน ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 730 เยน / เด็ก 370 เยน
Location: Hosoomachi, Nikko, Tochigi
05 ยูโมโตะ ออนเซ็น (Yumoto onsen)
สถานที่แช่ออนเซ็นที่ขึ้นชื่อมาอย่างยาวนานของนิกโก้
ภาพ : e.blog.xuite
ชื่อของยูโมโตะแปลว่าแหล่งกำเนิดของน้ำพุร้อนหรือก็คืออนเซ็นนั่นเอง ยูโมโตะตั้งอยู่ที่ด้านหลังของอุทยานแห่งชาตินิกโก้ (Nikko National Park) ถัดออกไปยังมีวัดออนเซ็นจิ (Onsenji) วัดที่มีบ่อแช่ออนเซ็นขนาดเล็กๆ เปิดให้เข้าไปใช้บริการกันได้ฟรี เพราะชาวบ้านแถบนี้เขาก็นิยมไปใช้บ่อนี้กันนะ
ภาพ : s.webry.info
ตามเสียงเล่าลือแล้ว ออนเซ็นสีขาวของที่นี่ยังช่วยรักษาอาการปวดและไขข้อได้ดีด้วยนะ
ภาพ : spa.or.jp
ถัดมาจากวัดออนเซ็นจิ ก็จะมีบึงที่เรียกว่าบึงยูโนะไดระ (Yunodaira Marsh) แหล่งของออนเซ็นที่เดือนปุดๆ จนได้กลิ่นกำมะถันได้ชัดเจนเลยล่ะ
ภาพ : iwiz-dhotel
รอบๆ ก็ยังมีเรียวกัง (Ryokan) โรงแรมกลิ่นอายญี่ปุ่นที่มีออนเซ็นในตัวอีกด้วย ถ้าไม่อยากไปแช่ที่กลางแจ้งก็สามารถแช่ข้างในแบบส่วนตัวได้เลย
ภาพ : qkamura.or.jpinfo
Okunikko Yumoto Onsen
Location: Yumoto, Nikko, Tochigi
นิกโก้ไปอย่างไร?
จากโตเกียว – นิกโก้
▶ นั่งรถไฟ JR จากสถานีอุเอโนะ (Ueno Station) สายอุสึโนะมิยะ (Utsunomiya Line) ลงที่สถานีอุสึโนะมิยะ (Utsunomiya Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที แล้วนั่งรถไฟ JR จากสถานีอุสึโนมิยะ (Utsunomiya Station) สายนิกโก้ (Nikko Line) มายังสถานีนิกโก้ (Nikko Station) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
▶ นั่งชินคันเซ็น (Shinkansen) จากสถานีอุเอโนะ (Ueno Station) มาลงที่สถานีอุสึโนะมินะ (Utsunomiya Station) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที แล้วต่อรถไฟ JR จากสถานีอุสึโนะมิยะ (Utsunomiya Station) สายนิกโก้ (Nikko Line) มาลงที่สถานีนิกโก้ (Nikko Station) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที