โอคายาม่า (OKAYAMA) แค่วันเดียว ก็แวะเที่ยวได้
Let’s go to OKAYAMA!
เมืองโอคายาม่า (Okayama) ตั้งอยู่ในจังหวัดโอคายาม่า (Okayama) ภูมิภาคชูโกกุ (Chūgoku) ของประเทศญี่ปุ่นค่ะ เป็นเมืองขนาดกลางที่มักจะถูกมองข้าม นักท่องเที่ยวไม่น้อยมักนั่งรถไฟจากโอซาก้า (Osaka) ข้ามเมืองโอคายาม่าไปฮิโรชิม่า (Hiroshima) หรือฟุกุโอกะ (Fukuoka) เลยด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย เพราะเมืองนี้มีอะไรน่าสนใจเยอะมาก แถมคุณยังสามารถแวะเที่ยวโอคายาม่าได้ง่ายๆ โดยใช้เวลาแค่ 1 วัน ยิ่งถ้ามีตั๋ว เช่น คันไซพาส (Kansai Pass) หรือ เจอาพาส (JR Pass) แล้วล่ะก็ คุณไม่ควรพลาดโอคายาม่าด้วยประการทั้งปวง
เกริ่นมาถึงขนาดนี้ จะขอนำทัวร์ 1 วันที่โอคายาม่าให้ค่ะ เผื่อใครจะเอาไว้ใช้เป็นไอเดียได้ในอนาคต
ทัวร์ของเราจะเริ่มต้นที่สถานีรถไฟ JR โอคายาม่า (JR Okayama Station) ใครมีกระเป๋าขนาดเล็กถึงกลาง สามารถฝากไว้ในล็อกเกอร์ที่ตั้งกระจายอยู่หลายแห่งภายในสถานีได้ หรือถ้ากระเป๋าใหญ่เกินกว่าจะยัดเข้าล็อกเกอร์ ก็สามารถนำไปฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ในบริเวณใกล้ๆ ทางออกบนชั้น 2 ได้ค่ะ เขาจัดมุมฝากกระเป๋าเอาไว้บริการนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี เก็บของเสร็จแล้วก็ไปตะลุยเมืองกัน
ที่หน้าสถานี JR มีรูปปั้นของโมโมทาโร่อยู่ โมโมทาโร่คือตัวละครในนิทานปรำปราเรื่องหนึ่งของญี่ปุ่น เรื่องย่อๆ มีอยู่ว่า มีตากับยายคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านห่างไกลในโอคายาม่า วันหนึ่งยายเจอลูกบ๊วยลอยมาตามน้ำจึงเก็บมา พอเอามาผ่าดูก็พบเด็กชายตัวน้อยข้างในลูกบ๊วย เลยเรียกน้องว่า “เด็กชายลูกบ๊วย” และเลี้ยงเขาจนโต พอโตขึ้นโมโมทาโร่ก็ออกไปปราบปีศาจที่เกาะพร้อมผองเพื่อนที่เจอระหว่างทาง ได้แก่ เจ้าไก่ เจ้าลิงและเจ้าสุนัข โมโมทาโร่กลับหมู่บ้านพร้อมชัยชนะและทรัพย์สินของปีศาจ เนื่องจากโมโมทาโร่เกิดที่นี่ จึงไม่แปลกที่จะมีสัญลักษณ์ของหนูน้อยคนนี้อยู่ทั่วเมือง
ถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นโมโมทาโร่สักรูป 2 รูปเป็นที่ระลึกแล้วเดินต่อไปยังสถานีรถรางที่หน้าสถานี JR กันค่ะ รถรางของเมืองโอคายาม่ามีมาตั้งแต่ค.ศ. 1920 โน่นแล้ว แต่ยังคงได้รับการบำรุงรักษาจนสามารถใช้งานได้ถึงปัจจุบัน รถรางมี 2 สายค่ะ สถานีรถรางอยู่หน้าสถานี JR พอดี เราจะนั่งสายฮิงะชิยะมะ (Higashiyama) จากตรงนั้นไปลงที่สถานีชิโระชิตะ (Shiroshita) ค่าเสียหายต่อเที่ยว 100 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 50 เยนสำหรับเด็ก ใช้เวลาเดินทางสั้นๆ แค่ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น
จริงๆ แล้วทางเมืองโอคายาม่าได้กำหนดบริเวณที่เรียกว่า “โอคายาม่า คัลเจอรัล โซน (Okayama Cultural Zone)” ทางตะวันออกของสถานี JR ค่ะ ซึ่งในโซนดังกล่าวมีสถานที่ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทั้งหมด 12 แห่งอยู่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำอะซะฮิ (Asahi River) โดยรอบสถานีชิโรชิตะ (Shiroshita Station) แต่เราจะเจาะกันที่ปราสาทโอคายาม่า (Okayama Castle) และสวนโครากุเอ็ง (Kōraku-en) ก่อน ไม่งั้นไม่นับว่ามาถึงโอคายาม่า
จากสถานีชิโรชิตะ เราจะเดินต่อไปที่ปราสาทโอคายาม่าเป็นอันดับแรก ใช้เวลาราวๆ 10-20 นาที จะเร็วจะช้าขึ้นอยู่กับกล้ามขาของแต่ละคนแล้วล่ะค่ะจุดนี้
ปราสาทโอคายาม่าสร้างขึ้นมาในปีค.ศ. 1597 โดยเจ้าเมืองคนหนึ่งชื่อฮิเดอิเอะ ยูกิตะ (Ukita Hideie) ใช้เวลาสร้าง 8 ปี และมีชื่อเล่นที่ใช้เรียกกันสั้นๆ ว่า “ยูโจ” ที่แปลว่าปราสาทอีกาดำ เพราะว่าตัวปราสาทมีสีดำนั่นเอง ในสมัยก่อนปราสาทจะประกอบไปด้วยอาคารกว่า 35 หลังและประตูทางเข้า 21 บาน แต่เมื่อปราสาทกลายเป็นสมบัติของรัฐในศตวรรษที่ 18 รัฐบาลก็ตัดสินใจทำลายอาคารอื่นๆ เนื่องจากขาดงบประมาณในการบำรุงรักษา เหลือแค่ตัวประสาทหลักเพียง 1 หลัง (Tenshukaku) ป้อม 2 ป้อม ( Tsukimiyagura และ Nishiteyagura) และประตูทางเข้า 1 บาน (Ishiyama-mon) เท่านั้น แต่อาคารทั้งหมดยกเว้นป้อม Tsukimiyagura ถูกทำลายเรียบในสงครามโลกครั้งที่สอง (เกลียดสงครามจริงๆ) ปราสาทหลังปัจจุบันถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในปี 1966 โดยยังคงความอลังการเอาไว้อย่างครบถ้วน
ตัวปราสาทเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปในตัว ภายในมีการแสดงภาพจำลองของปราสาทและข้าวของเครื่องใช้ของบรรดาเจ้านายในสมัยโบราณ สามารถเดินขึ้นไปชมวิวที่ชั้นบนสุดของปราสาทได้ด้วย ค่าเข้าผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 120 เยน ข้างในห้ามถ่ายรูปค่ะ อย่าเผลอเชียว
ชมปราสาทเสร็จแล้วเราออกไปที่หน้าปราสาท ข้ามแม่น้ำอะซะฮิไปอีกฟาก เพื่อเข้าไปชมสวนโครากุเอ็งที่ติดอันดับสวน 1 ใน 3 แห่งที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่นกันต่อ
สวนโครากุเอ็งสร้างขึ้นในปี 1687 โดยเจ้าเมืองชื่อซึนามาสะ อิเคดะ (Ikeda Tsunamasa) ใช้เวลาสร้างทั้งหมดเกือบ 15 ปี นับเป็นสวนที่คงความสมบูรณ์เอาไว้ค่อนข้างมาก แต่ก่อนใช้เป็นที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ทำหน้าที่คล้ายสปาให้กับคนในวังจนกระทั่งสวนตกเป็นของรัฐ จึงเปิดให้สาธารณะเข้าชมได้ สวนถูกระเบิดทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (โอ้ย เกลียดสงครามจริงๆ) แต่เพราะมีผังและรูปถ่ายเก็บไว้เป็นอย่างดี เลยสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ให้เหมือนเดิมได้อีกครั้ง
สวนมีขนาดใหญ่ กว้างขวางมากค่ะ รวมถึงมีหลายมุมชวนใหเช้เดินเล่น มีสวนซากุระ สวนเมเปิล สวนไผ่ ไร่ชา แปลงข้าว บ่อปลา บ่อบัว พื้นที่ก็มีทั้งที่ราบ เนิน ภูเขาลูกย่อมๆ และยังมีอาคารน่าสนใจต่างๆ เช่นเวทีละครโน โรงฝึกยิงธนู ศาลาชมสวน ศาลเจ้า และที่ทำพิธีชงชาเขียว เป็นต้น เรียกว่ามาฤดูไหนก็สวย ในรอบปีมีการจัดเทศกาลต่างๆ ในสวนด้วย เช่น การจัดการแสดงในวันปีใหม่ พิธีชงชา เทศกาลการปลูกข้าว และพิธีการล้อมฟางรอบต้นสน ส่วนค่าเข้าสวนสำหรับผู้ใหญ่ก็ 400 เยน และเด็ก 140 เยน
จริงๆ มีตั๋วที่สามารถใช้เข้าได้ทั้งปราสาทโอคายาม่าและสวนโครากุเอ็ง ราคาอยู่ที่ 560 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 260 เยนสำหรับเด็ก ซื้อแบบนี้ก็ประหยัดไปได้นิดหน่อย
หากใครยังมีแรงเดินต่อ ใกล้ๆ สวนยังมีพิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดโอคายาม่าซึ่งแสดงประวัติความเป็นมาของจังหวัดที่น่าสนใจ (Okayama Prefectural Museum of Art) รวมถึงอีกด้านของปราสาทก็มีพิพิธภัณฑ์ฮายาชิบาร่า (Hayashibara Museum of Art) ที่มีประวัติตระกูลอิเคดะ ผู้สร้างสวนโครากุเอ็งให้ชมด้วย ถ้าเวลา 1 วันยังไม่หมดก็แวะโลดเลยค่ะ
ก่อนกลับ อย่าลืมหาลูกบ๊วยสดชิมด้วย เพราะลูกบ๊วยของโอคายาม่าขึ้นชื่อมาก แต่ถ้าไปไม่ตรงฤดูกาลผลไม้ จะเลือกซื้อขนมต่างๆ ที่มีรูปเจ้าหนูลูกบ๊วยหรือโมโมทาโร่ไปแทนก็เก๋ไม่แพ้กัน
โอคายาม่าสวยและน่าสนใจขนาดนี้ แถมใช้เวลาแค่ 1 วันก็เอาอยู่ แล้วจะรออะไรคะ แวะกันเลย :-.)