กินเบียร์ไม่เมาแล้วจะกินเพื่อ?
Non-Alcoholic Beer
ขี้เมาฟังแล้วโวยทันที เบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ กินเบียร์ไม่เมาแล้วจะกินเพื่อ…?
ถึงเทศกาลปีใหม่ทีไร เป็นต้องได้เห็นแคมเปญโฆษณาของทางรัฐบาลทุกปีว่าเมาไม่ขับนะ ทั้งกฎหมายเมาแล้วขับจับติดคุกแถมยังปรับโหดก็มีอยู่ แต่ก็อย่างที่เราเห็น ได้ผลซะที่ไหน มีหรือคนไทยจะกลัว อุบัติเหตุที่มาจากการเมาแล้วขับก็ยังติดอันดับหนึ่งในทุกปี ลองหาไอเดียใหม่ๆ มาใช้กันบ้างไหม
งั้นเราขอนำเสนอหนึ่งไอเดียแล้วกัน ไม่ใช่ไอเดียเราหรอก เป็นไอเดียของคนญี่ปุ่นเขา ซึ่งเราเห็นว่าน่าสนใจ และน่าจะหยิบเอามาใช้ในบ้านเราบ้าง ในเมื่อไม่มีปัญญาห้ามคนไทยกินเบียร์แล้วขับรถ งั้นก็ไม่ต้องห้าม ปล่อยให้กินเต็มที่ไปเลย แต่ต้องเป็นเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์เท่านั้นนะ
ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า Non-Alcoholic Beer มันคือเบียร์ที่ผ่านกระบวนการผลิตเหมือนเบียร์ปกติ เพียงแต่เพิ่มกระบวนการให้ความร้อนเพื่อสลายปริมาณแอลกอฮอล์ออกไปในภายหลัง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเครื่องดื่มที่มีกลิ่นรสเหมือนเบียร์ จะต่างกันก็ตรงที่มันไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์เท่านั้นละ
ขี้เมาฟังแล้วอาจจะโวยขึ้นมาทันทีว่า กินเบียร์ไม่เมาแล้วจะกินเพื่อ…?
เอาเข้าจริงเหตุผลมันก็มีมากมาย เพราะหลายคนที่ดื่มเบียร์ก็ไม่ได้รู้สึกติดใจในรสชาติอันขมปร่าของมันสักเท่าไหร่ แต่บางครั้งมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องดื่ม ก็เบียร์ดันเป็นเครื่องดื่มแห่งการเฉลิมฉลองไปตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้ จนทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่าการดื่มเบียร์คือพิธีกรรมแห่งการเฉลิมฉลองบางอย่างที่ต้องเอาซะหน่อย โอกาสพิเศษทั้งทีนี่นะ ขณะที่บางคนอาจจะไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น แต่เพื่อนเขาดื่มกันหมดนี่ จะให้นั่งกินโค้กอยู่คนเดียวก็กระไร นี่ยังไม่นับรวมไปถึงเหตุผลในเรื่องของการดื่มตามมารยาทที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นไปแล้ว
และด้วยเหตุผลมากมายอย่างที่ได้สาธยายมานั่นเอง Non-Alcoholic Beer จึงถูกผลิตขึ้นในญี่ปุ่นเพื่อการนี้ คือมีไว้เพื่อตอบสนองคนที่ไม่ได้อยากดื่มแต่เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องดื่ม หรืออาจะถูกหมอห้ามดื่ม และคนที่อยากดื่มแต่ต้องไปขับรถต่อ
สำหรับ Non-Alcoholic Beer ของญี่ปุ่นนั้น ในช่วงที่เริ่มวางจำหน่ายใหม่ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมากนอกเหนือไปจากความพยายามในการที่จะเอาแอลกอฮอล์ออกไปจากเบียร์ ทว่าภายหลังจากที่ผู้คนเริ่มจะคุ้นเคย จึงเริ่มมีการพัฒนาจุดขายและเอกลักษณ์ใหม่ๆ ตามมาอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่เรื่องรสชาติที่แตกต่าง บ้างหวานสดชื่น บ้างขมปร่า บ้างก็พัฒนากลิ่นรสของฮอบส์ที่แรงและอ่อนแตกต่างกัน เพื่อตอบสนองรสนิยมที่แตกต่างของนักดื่ม
แน่นอนว่าแค่นั้นยังไม่สมกับที่เป็นญี่ปุ่น วงการ Non-Alcoholic Beer ยังมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เมื่อบรรดาค่ายเบียร์ยักษ์ใหญ่ทั้ง 4 แห่งญี่ปุ่นเล็งเห็นแล้วว่า ตลาดกลุ่มนี้ยังโตไปได้อีกไกลโข จึงพยายามที่จะแก้ไขข้อเสียต่างๆ ของเบียร์ในรูปแบบปกติ เพื่อสร้างจุดเด่นที่แตกต่าง
ตั้งแต่การลดปริมาณกรดคาร์บอนิกเพื่อให้ดื่มได้ง่ายขึ้นอย่าง Asahi Dry Zero ของค่ายอาซาฮี การลดปริมาณแคลอรีลงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นศูนย์ไปในที่สุดอย่าง Suntory All Free ของค่ายซันโตรี ขณะที่บางตัวสามารถยับยั้งการดูดซึมน้ำตาลและไขมันในอาหารได้อย่าง Kirin Perfect Free ของค่ายคิริน และล่าสุด Non-Alcoholic Beer ตัวใหม่จากค่ายอาซาฮีอย่าง Asahi Style Balance ถึงกับเพิ่มปริมาณเส้นใยชนิดที่สามารถละลายน้ำได้เข้ามาด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้เข้ากับการดื่มคู่มื้ออาหารหนักๆ ได้ ขณะที่ Sapporo Plus ของค่ายซัปโปโรนี่ก็เคลมตัวเองว่าเป็น Non-Alcoholic Beer ที่ดีต่อสุขภาพอย่างเต็มตัว การันตีด้วยเครื่องหมายโทคุโฮที่แปะอยู่ที่ข้างกระป๋อง (เครื่องหมายที่บ่งบอกว่านี่เป็นสินค้าที่ผ่านการตรวจสอบดีต่อสุขภาพโดยสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของญี่ปุ่น)
ดูเหมือนว่ายิ่งพัฒนาก็ยิ่งจะกลายเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเข้าไปทุกทีแล้วสิเนี่ย
แต่ไม่ว่า Non-Alcoholic Beer จะพัฒนาไปถึงไหนก็ตาม สิ่งที่เราควรใส่ใจนั้น ไม่ใช่เรื่องของรสชาติไม่ใช่เรื่องการเป็นเบียร์ที่กินแล้วไม่อ้วน หรือการเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
ทว่าประเด็นสำคัญที่สุดของ Non-Alcoholic Beer ที่น่าสนใจในญี่ปุ่นนั้น คือบทบาทของการเป็นเครื่องดื่มของคนที่รู้จักรับผิดชอบต่อสังคมต่างหาก