One Day Trip near Tokyo : รวมทริปแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจาก 6 จังหวัดใกล้กรุงโตเกียว
สารบัญ
- 📌 6 เดย์ทริปเที่ยวเชิงอนุรักษ์ใน 6 จังหวัด ใกล้โตเกียว
- Trip 01 โทชิกิ : Kinugawa Line Kudari→Tobu World Square→Utsunomiya Zoo→Kirasse
- Trip 02 อิบารากิ : Hitachi Seaside Park→Mondokoro (Mito Station South)→Kodokan→Kamiiso no Torii
- Trip 03 กุมมะ : Shima Potholes→Kashiwaya Cafe→Shimagawa Dam→Takasaki Museum of Art
- Trip 04 ไซตามะ : Kawagoe Hikawa Shrine→Shingashi Riverbank Cherry Blossoms→Kashiya Yokocho→Yuno Udon→The Railway Museum→Omiya Bonsai Art Museum→SPA HERBS
- Trip 05 ชิบะ : Kamogawa Sea World→Hojo Beach→Tomaya→Tateyama Sunset Pier
- Trip 06 คานางาวะ : Owakudani→Lake Ashinoko→Hakone Gora Park→The Hakone Open-Air Museum→Yunessun→Odawara Castle→Odawara Uogashi-den
📌 6 เดย์ทริปเที่ยวเชิงอนุรักษ์ใน 6 จังหวัด ใกล้โตเกียว
กรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากทั่วโลกเป็นจำนวนมากในทุกๆ ปี สำหรับคนไทยเอง กรุงโตเกียวก็เป็นจุดเช็คอินยอดนิยมที่ยังคงได้รับความสนใจเสมอไม่ว่าจะคนที่เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกหรือไปมาหลายครั้งแล้วก็ตาม แต่มีบางคนอาจรู้สึกว่าเที่ยวแสงสีในเมืองหลวงหลายวันแล้ว อยากเปลี่ยนบรรยากาศแต่ก็ไม่รู้จะไปที่ไหนดี ครั้งนี้เราจึงนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ใกล้โตเกียว โดยจุดสตาร์ทของเราจะเริ่มที่สถานีโตเกียว (Tokyo Station) นั่งรถไฟไปยังแหล่งธรรมชาติหรือแหล่งประวัติศาสตร์น่าสนใจจาก 6 จังหวัด ใกล้โตเกียว ได้แก่ โทชิกิ, อิบารากิ, กุมมะ, ไซตามะ, ชิบะ และคานางาวะ ที่สามารถเดินทางไป-กลับได้ใน 1 วัน เลือกทริปที่ถูกใจแล้วออกเดินทางไปพร้อมกันเลย!
Trip 01 โทชิกิ :
Kinugawa Line Kudari→Tobu World Square→Utsunomiya Zoo→Kirasse
เริ่มวันเดย์ทริป ใกล้โตเกียว แรกที่จังหวัดเหนือสุดของภูมิภาคคันโตกันก่อนกับจังหวัดโทชิกิ ซึ่งเราจะโดยสารด้วยรถไฟสายจิโยดะ (Chiyoda Line) จากสถานีนิจูบาชิมาเอะ (Nijubashimae Station) ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีโตเกียว และมาเปลี่ยนเป็นสายนิกโก้-คินุกาวะ (Nikko-Kinugawa) ที่สถานีคิตะเซ็นจู (Kitasenju Station) จากนั้นลงรถไฟที่สถานีคินุกาวะออนเซ็น (Kinugawaonsen Station) เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็จะพบจุดหมายแรกของเรา
ล่องแม่น้ำคินุกาวะ (Kinugawa Line Kudari)
ภาพ: tabi-mag.jpภาพ: www.kinugawaonsenhotel.com
จุดหมาย ใกล้โตเกียว แห่งแรกของเราคือ แม่น้ำคินุกาวะ (Kinugawa River) สายน้ำกลางหุบเขาธรรมชาติในเมืองนิกโก้ (Nikko) ที่เดินจากสถานีรถไฟเพียง 5 นาทีเท่านั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัดโทชิกิที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากันอย่างไม่ขาดสาย เพราะความสวยงามของแม่น้ำคินุกาวะที่ไหลคดเคี้ยวผ่านท่ามกลางหุบเขาจนเกิดเป็นทิวทัศน์อันงดงาม ไม่ว่าจะฤดูร้อนที่ป่าไม้เขียวขจี หรือฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลือง-แดงก็ยิ่งสวยงามน่าดึงดูด
ภาพ: kinugawa-gyoen.ooedoonsen.jp
แน่นอนว่ามาเที่ยวสถานที่สวยงามขนาดนี้ทั้งที เราก็ต้องมาล่องเรือกันสักหน่อย เพื่อสัมผัสและชมธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างใกล้ชิด โดยบริการล่องเรือจะเปิดระหว่างช่วงเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น โดยให้บริการเพียง 12 รอบต่อวัน โดยสารเรือได้สูงสุด 28 คนต่อรอบ โดยล่องไปตามสายน้ำกว่า 40 นาที ในราคา 2,900 เยน (รวมภาษี)
ภาพ: tabiiro.jp
เพื่อความปลอดภัย ผู้โดยสารทุกคนจำเป็นต้องสวมเสื้อชูชีพขณะล่องเรือ ในช่วงแรกที่เรือแล่นออกจากท่ากระแสน้ำจะยังคงนิ่ง นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับนั่งเล่นชิลล์ๆ บนเรือพร้อมกับชมความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบๆ มากที่สุด ก่อนจะไปยังจุดน้ำเชี่ยวที่ทุกคนจะได้สนุกไปพร้อมกัน
ภาพ: tabiiro.jp
หลังจากผ่านจุดที่กระแสน้ำเชี่ยวที่สุดมาได้ก็จะกลับสู่จุดที่กระแสน้ำนิ่งอีกครั้ง หลังจากนั้นคนพายเรือก็จะพาชมทิวทัศน์โดยรอบอย่างช้าๆ พร้อมแนะนำสถานที่ต่างๆ
ภาพ: www.sk28.com
เมื่อล่องเรือจนจบแล้วก็มานั่งรอบริเวณจุดรอรถ เพื่อรอรถบัสมารับกลับ และในขณะที่รอก็สามารถเดินซื้อของกินเล่นฆ่าเวลาได้ก่อนที่รถบัสจะมาถึง จากนั้นรถบัสก็จะพาเราไปส่งยังสถานีคินุกาวะออนเซ็นที่เราเดินทางมา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ภาพ: www.tochigiji.or.jp
ก่อนเดินทางไปที่ถัดไปแวะแช่เท้าฟรีหน้าสถานีกันก่อน ด้วยออนเซ็นจากแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เต็มเปี่ยมทั้งคุณภาพพร้อมสรรพคุณมากมายที่มีส่วนช่วยในการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ โรคข้ออักเสบ โรคประสาท ฯลฯ ได้ดีมาก นั่งแช่ให้หายเหนื่อยจะได้มีแรงฮึดเดินทางไปด้วยกันต่อ
ล่องแม่น้ำคินุกาวะ (Kinugawa Line Kudari)
Location: เมืองนิกโก้ (Nikko) จังหวัดโทชิกิ
Hours: เม.ย.-พ.ย. 9:00-15:45 น.
Holiday: ธ.ค.-มี.ค.
Price: ตั๋วล่องเรือราคา 2,900 เยน (รวมภาษี)
Nearest Station: สถานีคินุกาวะออนเซ็น (Kinugawaonsen Station)
Access: จากสถานีคินุกาวะออนเซ็น เดินประมาณ 3 นาที
Website: www.linekudari.com/
โทบุเวิลด์สแควร์ (Tobu World Square)
ภาพ: travel.navitime.com
โทบุเวิลด์สแควร์ (Tobu World Square) พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมจำลองที่สร้างและรวบรวมเอาแลนด์มาร์คชื่อดังจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ที่นี่ที่เดียว เพียงขึ้นรถไฟจากสถานีคินุกาวะออนเซ็นมาเพียง 1 สถานี ลงที่สถานีโทบุเวิลด์สแควร์ (Tobu World Square Station) ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 5 นาทีเท่านั้นเอง
ภาพ: ja.wikipedia.org
เมืองจำลองแห่งนี้สร้างแลนด์มาร์คขนาดจิ๋วโดยอ้างอิงจากสถานที่จริงกว่า 102 แห่งจากทั้งหมด 21 ประเทศ ทำให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้และใกล้ชิดกับวัฒนธรรมจากสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกได้ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ยุโรป หรือเอเชีย ชวนให้รู้สึกสนุกราวกับเป็นทริปเดินทางเที่ยวรอบโลกยังไงยังงั้น
ภาพ: www.airtrip.jpภาพ: ryukyushimpo.jpภาพ: rtrp.jp
โทบุเวิลด์สแควร์ (Tobu World Square)
Location: เมืองนิกโก้ (Nikko) จังหวัดโทชิกิ
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Price: ผู้ใหญ่ 2,800 เยน, เด็ก 1,400 เยน
Nearest Station: สถานีโทบุเวิลด์สแควร์ (Tobu World Square Station)
Access: จากสถานีโทบุเวิลด์สแควร์ เดินประมาณ 4 นาที
Website: www.tobuws.co.jp/
สวนสัตว์อุตสึโนะมิยะ (Utsunomiya Zoo)
ภาพ: @safariyokohama
นั่งรถไฟมาที่สถานีชิโมะอิมะอิจิ (Shimo-Imaichi Station) จากนั้นต่อรถบัสมาที่สวนสัตว์ในเมืองอุสึโนะมิยะใจกลางจังหวัดโทชิกิ โดยจะตั้งอยู่ห่างออกไปทางตอนเหนือของใจกลางเมือง ที่นี่เราจะได้ชมความน่ารักพร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตของสัตว์หลากหลายชนิด และเนื่องด้วยมีสัตว์หลายตัวที่สามารถใกล้ชิด สัมผัสและให้อาหารได้จึงเป็นดั่งสวนสนุกของเหล่าคนรักสัตว์ เหมาะกับการพาเหล่าเด็กๆ มาด้วยอย่างยิ่ง
ภาพ: www.utsunomiya-cvb.orgภาพ: prtimes.jp
ไฮไลท์ของสวนสัตว์อุตสึโนะมิยะก็คงเป็นการให้อาหารยีราฟกับช้าง เป็นประสบการณ์อันดีที่ได้ใกล้ชิดและป้อนอาหารสัตว์ตัวใหญ่ทั้ง 2 ชนิดที่แสนจะใจดีด้วยตัวเอง สำหรับคนที่สนใจก็สามารถซื้ออาหารได้โดยจะมีวางจำหน่ายใกล้ๆ กับกรง นอกจากนี้ก็ยังมีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยอีกมากมายให้เราได้ไปเยี่ยมชมแถมถ่ายรูปน่ารักๆ ได้อีกด้วย
ภาพ: @nabemianimal
สวนสัตว์อุตสึโนะมิยะ (Utsunomiya Zoo)
Location: เมืองอุตสึโนะมิยะ (Utsunomiya) จังหวัดโทชิกิ
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Price: ผู้ใหญ่ 1,400 เยน, เด็ก 700
Nearest Station: สถานีชิโมะอิมะอิจิ (Shimo-Imaichi Station)
Access: จากสถานีชิโมะอิมะอิจิ นั่งรถบัสสาย 1 ประมาณ 37 นาทีมาลงที่ป้าย Kamikanai จากนั้นเดินต่ออีก 10 นาที
Website: www.utsunomiya-zoo.com/
คิรัสเสะ (Kirasse)
ภาพ: www.tochinavi.net
มาเที่ยวจังหวัดโทชิกิทั้งที พลาดไม่ได้กับเมนูชื่อดังอย่าง เกี๊ยวซ่าอุตสึโนะมิยะ (Utsunomiya Gyoza) ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกี๊ยวซ่าอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยรสหวานจากผัก ทั้งกระเทียม กระหล่ำปลี ต้นหอม ฯลฯ จึงดีต่อสุขภาพและนิยมมากในหมู่สาวๆ แนะนำร้าน Kirasse โดยสามารถนั่งรถบัสจากด้านหน้าสวนสัตว์มาที่นี่ได้ในเวลา 40 นาที หรือหากนั่งรถไฟมาลงที่สถานีอุตสึโนะมิยะ (Utsunomiya Station) หรือสถานีโทบุ-อุตสึโนะมิยะ (Tobu-Utsunomiya Station) ก็เดินเพียงไม่ถึง 10 นาที
ภาพ: @utsunomiya_gyozakai
ขากลับมาโตเกียวก็ง่ายๆ สามารถขึ้นรถไฟโทโฮคุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen) จากสถานีอุตสึโนะมิยะมาลงที่สถานีโตเกียวได้ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง
คิรัสเสะ (Kirasse)
Location: ชั้น 1 MEGA Don Quijote เมืองอุตสึโนะมิยะ (Utsunomiya) จังหวัดโทชิกิ
Hours: 11:00-20:00 น.
Holiday: –
Price: ผู้ใหญ่ 1,400 เยน, เด็ก 700
Nearest Station: สถานีชิโมะอิมะอิจิ (Shimo-Imaichi Station)
Access: จากสถานีชิโมะอิมะอิจิ นั่งรถบัสสาย 1 ประมาณ 37 นาทีมาลงที่ป้าย Kamikanai จากนั้นเดินต่ออีก 10 นาที
Website: www.utsunomiya-zoo.com/
Trip 02 อิบารากิ :
Hitachi Seaside Park→Mondokoro (Mito Station South)→Kodokan→Kamiiso no Torii
อีกหนึ่งจังหวัด ใกล้โตเกียว ที่ไม่ควรพลาดก็คือ อิบารากิ จังหวัดนี้เองก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามไม่แพ้กัน มิหนำซ้ำยังมีสถานที่ท่องเที่ยวติดทะเลมากมายอีกด้วย โดยเราจะขึ้นรถไฟด่วนพิเศษฮิตาชิ แอนด์ โทคิวะ (Hitachi and Tokiwa) มาลงที่สถานีคาสึตะ (Katsuta Station) ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง
ฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค (Hitachi Seaside Park)
พุ่มดอกโคเคีย (ฤดูร้อน) ภาพ: Facebook hitachikaihin
นั่งแท็กซี่หรือบัสอีกไม่เกิน 20 นาทีก็จะมาถึงสวนดอกไม้ริมทะเลขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากนั่นก็คือ ฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค (Hitachi Seaside Park) เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คของจังหวัดอิบารากิ เต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชนิดที่แตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาลที่คอยมอบกลิ่นอายและบรรยากาศแสนสดชื่นให้แก่ผู้มาเยือนสวนดอกไม้แห่งนี้
ดอกเนโมฟีลา (ฤดูใบไม้ผลิ) ภาพ: Facebook hitachikaihin
สวนขนาดใหญ่แห่งนี้มีพื้นที่กว้างถึง 215 เฮกตาร์ (1,343.75 ไร่) ซึ่งถ้าต้องการเดินชมให้ทั่วคงต้องใช้เวลาทั้งวันเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับใครที่ต้องการชมให้ทั่วถึงแต่มีเวลาไม่มาก สามารถเช่าจักรยานปั่นหรือนั่ง Seaside Train ที่วิ่งไปรอบๆ ก็ได้เช่นกัน
ดอกทานตะวัน (ฤดูร้อน) ภาพ: Facebook hitachikaihin
ดอกไม้ที่นี่จะเบ่งบานตามฤดูกาล โดยเราจะหยิบยกมาแนะนำบางส่วนที่น่าสนใจ เริ่มจากฤดูใบไม้ผลิที่เพิ่งพ้นอากาศหนาวเย็นก็จะมีดอกเนโมฟีลากว่า 5,300,000 ต้น เป็นดอกไม้สีฟ้าสวยงามเข้ากันกับท้องฟ้าสีครามบนเนินสูงจนเกิดเป็นภาพที่สวยงามหาที่เทียบ จากนั้นพอเข้าสู่ฤดูร้อนแน่นอนว่าต้องเป็นสัญลักษณ์แห่งฤดูร้อนอย่างดอกทานตะวัน โดยมีจำนวนราว 30,000 ต้น ทุ่งทานตะวันสีเหลืองที่หันหน้าไปในทางทิศเดียวกันท่ามกลางแสงแดดก็สวยงามไม่แพ้กัน
ดอกดาวกระจาย (ฤดูใบไม้ร่วง) ภาพ: Facebook hitachikaihinดอกบ๊วย (ฤดูหนาว) ภาพ: gardenstory.jp
ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นจะมีดอกดาวกระจาย หรือ คอสมอสบานมากถึง 2 ล้านต้น ฉายาของดอกคอสมอสคือ “ซากุระในฤดูใบไม้ร่วง” เนื่องด้วยสีสันที่สวยงามชวนให้หลงใหล แถมยังมีลักษณะน่ารักหลากหลายสีจึงมีผู้คนชื่นชอบอยู่ไม่น้อยเลย และสำหรับฤดูหนาวจะเป็นดอกบ๊วย (Winter Sweet) ที่ให้กลิ่นหอมอบอวลในช่วงอากาศเย็นจัด นอกจากที่แนะนำมาข้างต้นแล้ว สวนดอกไม้แห่งนี้ยังมีดอกไม้อีกมากมายนับไม่ถ้วนรอให้ทุกคนได้มาเที่ยวชมความงาม ถ้าอยากรู้ว่ามีดอกไม้อะไรอีกบ้างก็เช็คได้ที่เว็บไซต์ของสวนได้เลย
ที่ Hitachi Seaside Park นอกจากจะมีดอกไม้นานาชนิดให้ได้ชมความสวยงามตลอดทั้งปีกันแล้ว นอกจากนี้ยังมีโซนสวนสนุกที่เรียกว่า เพลเชอร์การ์เดน (Pleasure Garden) ให้เปลี่ยนบรรยากาศมาสนุกสนานกับเครื่องเล่นกว่า 25 ประเภทอีกด้วย
ภาพ: pleasure.hitachikaihin.jpภาพ: pleasure.hitachikaihin.jp
ด้วยเครื่องเล่นที่มีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นชวนตื่นเต้นอย่างรถไฟเหาะเหมาะกับคนชอบความหวาดเสียว หรือจะเป็นเครื่องเล่นชิลล์ๆ อย่างชิงช้าสวรรค์ บ้านหิมะ ฯลฯ ก็มีครบ สามารถเข้าถึงได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารสำหรับซื้อของกินเล่นอย่างไอศกรีมหรือเครปอีกด้วย
★ อ่านรีวิว Hitachi Seaside Park ฉบับเต็มที่ www.kiji.life/hitachi-seaside-park/
ฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค (Hitachi Seaside Park)
Location: เมืองฮิตาชินากะ (Hitachinaka) จังหวัดอิบารากิ
Hours: พ.-จ. 9:30-18:00 น. *แตกต่างกันตามฤดูกาล
Holiday: วันอังคารและวันหยุดอื่นไม่แน่นอน
Price: ผู้ใหญ่และนักเรียนชั้นมัธยมปลาย 450 เยน, ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 210 เยน *ช่วงพีคราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
Nearest Station: สถานีคัตสึตะ (Katsuta Station)
Access: จากสถานีคัตสึตะ นั่งแท็กซี่หรือบัสประมาณ 18 นาที
Website: www.hitachikaihin.jp/
มงโดโคโระ (Mondokoro)
ภาพ: wondertrip.jp
เดินชมดอกไม้แถมต่อด้วยเครื่องเล่นในสวนสนุกมาท้องคงเริ่มร้องกันแล้ว กลับมาที่สถานีคัตสึตะและนั่งมาลงที่สถานีมิโตะ (Mito Station) ที่ถัดมาแค่ป้ายเดียว เดินต่ออีกเล็กน้อยเท่านั้นก็จะพบกับร้านมงโดโคโระ (Mondokoro) สาขาฝั่งใต้สถานีมิโตะ
ภาพ: horiifood-brand.comภาพ: www.horiifood.co.jp
ที่แนะนำร้านนี้เพราะเขาเมนูที่ใช้ของขึ้นชื่อจากจังหวัดอิบารากิอย่างเนื้อฮิตาจิ (Hitachi Beef) มารังสรรค์เป็นเมนู Hitachi Beef Steak สเต็กเนื้อชั้นเยี่ยมที่ชุ่มฉ่ำ สัมผัสนุ่ม และกินหอมน่ากินสนนราคาอยู่ที่ 1,990 เยนเท่านั้น
มงโดโคโระ (Mondokoro) สาขา Mito Station South
Location: เมืองมิโตะ (Mito) จังหวัดอิบารากิ
Hours: จ.-พฤ. 11:30-15:00 ,17:00-24:00 น., ศ. 17:00-01:00 น., ส. 17:00-1:00 น., อา. 17:00-24:00 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีมิโตะ (Mito Station)
Access: จากสถานีมิโตะ เดินประมาณ 7 นาที
Website: www.horiifood-brand.com/mondokoro/shop/mitominami/
โคโดคัง (Kodokan)
ภาพ: www.ibarakiguide.jp
เดินจากสถานีมิโตะไม่ถึง 10 นาที มีอีกหนึ่งสถานที่ชวนให้แวะกับ โคโดคัง (Kodokan) สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเดิมทีเป็นโรงเรียนประจำตระกูลใหญ่ ก่อตั้งในช่วงปีสุดท้ายของสมัยเอโดะ ด้วยอาคารที่เป็นสไตล์ญี่ปุ่น และมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่พร้อมต้นซากุระหน้าบริเวณทางเข้า ในปัจจุบันจึงเปิดให้ผู้คนได้เข้าชมในฐานะสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศย้อนยุค
ภาพ: mitokoumon.com ภาพ: www.ibarakiguide.jp
ที่นี่เปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี และอีกหนึ่งสิ่งน่าดึงดูดก็คงเป็นสวนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามของต้นไม้ในสวนที่เปลี่ยนไปตลอดทุกฤดูกาล ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เดินชมต้นซากุระขนาดใหญ่ แต่ถ้ามาฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีต้นไม้เปลี่ยนสีมากมายที่สวยงามเช่นเดียวกัน
โคโดคัง (Kodokan)
Location: เมืองมิโตะ (Mito) จังหวัดอิบารากิ
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: 29-31 ธ.ค.
Price: ผู้ใหญ่ 400 เยน, เด็ก 200 เยน
Nearest Station: สถานีมิโตะ (Mito Station)
Access: จากสถานีมิโตะ เดินประมาณ 7 นาที
Website: www.mitokoumon.com/facility/historic/kodokan/
คามิอิโสะ โนะ โทริอิ (Kamiiso no Torii)
ภาพ: tsuratan.com
ไหนๆ ก็มาถึงอิบารากิทั้งทีก่อนกลับโตเกียวก็ควรไปจุดชมพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ ริมทะเลกันก่อน เปลี่ยนมาใช้บริการรถไฟคาชิมะรินไค (Kashima Rinkai Railway) จากสถานีมิโตะมาลงที่สถานีโออาไร (Oarai Station) ซึ่งเป็นพื้นที่เมืองชายทะเลที่มีชื่อเสียง
ภาพ: colorpea.com
ฝั่งตรงข้ามศาลเจ้าโออาไร อิโซซากิ (Oarai Isosaki Shrine) มีเส้นทางสำหรับเดินไปยังบริเวณชายฝั่งริมทะเล ก็จะพบกับประตูโทริอิที่บนโขดหินที่ยื่นออกไปยังทะเล ทิวทัศน์ของประตูโทริอิกับคลื่นทะเลในยามอาทิตย์อัสดง ที่นี่จึงกลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น
คามิอิโสะ โนะ โทริอิ (Kamiiso no Torii)
Location: แขวงฮิกาชิอิบารากิ (Higashiibaraki) จังหวัดอิบารากิ
Hours: เปิด 24 ชั่วโมง
Price: ผู้ใหญ่ 400 เยน, เด็ก 200 เยน
Nearest Station: สถานีโออาไร (Oarai Station)
Access: จากสถานีโออาไร นั่งรถบัสประมาณ 9 นาที
Trip 03 กุมมะ :
Shima Potholes→Kashiwaya Cafe→Shimagawa Dam→Takasaki Museum of Art
ทริปเที่ยว ใกล้โตเกียว ถัดมาจะพาไปที่จังหวัดกุมมะ เริ่มที่การจับจองที่นั่งสำหรับโจเอ็ตสึชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen) มาลงที่สถานีทาคาซากิ (Takasaki Station) จากนั้นต่อด้วยรถไฟสายอากัตสึมะ (Akatsuma Line) เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีนากาโนะโจ (Nakanojo Station)
กุมภลักษณ์ชิมะ (Shima Potholes)
ขึ้นรถบัสมาอีกเพียงครึ่งชั่วโมงจะถึงกุมภลักษณ์ชิมะ (Shima Potholes) หลุมน้ำสีฟ้าที่เป็นหนึ่งในจุดชมความสวยงามของแม่น้ำชิมะ (Shima River) เป็นสถานที่ที่แม่น้ำชิมะไหลผ่านจนเกิดการกัดเซาะของหินด้วยกระแสน้ำหลายหมื่นปีจนกลายเป็นหลุมน้ำอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ถือเป็นประติมากรรมสวยงามที่สร้างขึ้นโดยธรรมชาติอย่างแท้จริง
ภาพ: tabi-mag.jpภาพ: loconavi.jp
แม่น้ำชิมะสีฟ้าที่ไหลผ่านป่าไม้และภูเขามากมายมายังบริเวณหลุมน้ำ เกิดเป็นทัศนียภาพสวยงามตระการตา ที่นี่จึงถูกแต่งตั้งให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำจังหวัดกุมมะไปโดยปริยาย
เดินประมาณ 15 นาทีจากหลุมน้ำจะมีจุดที่เรียกว่า น้ำตกโมโมทาโร่ (Momotaro Waterfall) ว่ากันว่าน้ำตกที่ไหลมานั้นมีหน้าตาคล้ายลูกพีช ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเหมือนหรือไม่เหมือนกันแน่ แอ่งน้ำตกนี้เองก็มีน้ำสีฟ้าสดใสเช่นเดียวกัน เป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมของแม่น้ำชิมะสำหรับชมธรรมชาติที่สวยงามมากๆ
กุมภลักษณ์ชิมะ (Shima Potholes)
Location: แขวงอากัตสึมะ (Akatsuma) จังหวัดกุมมะ
Hours: เปิด 24 ชั่วโมง
Nearest Station: สถานีนากาโนะโจ (Nakanojo Station)
Access: จากสถานีนากาโนะโจ นั่งรถบัสประมาณ 32 นาที
Website: www.ouketsu.net/annai.html
คาเฟ่คาชิวายะ (Kashiwaya Cafe)
ภาพ: ikukantrip.com
ขึ้นรถบัสที่ป้าย Shima Oketsu mae ที่อยู่ใกล้หลุมน้ำมาลงที่ป้าย Kirinokidaira ราว 8 นาที ก็จะพบกับคาเฟ่น่ารักๆ ชื่อว่า คาเฟ่คาชิวายะ (Kashiwaya Cafe)
ภาพ: communis.jp
จะเลือกจิบกาแฟพร้อมรับประทานของหวาน หรือจะกินอาหารหนักๆ ที่นี่ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว ด้วยบรรยากาศร้านกาแฟในหมู่บ้านน้ำพุร้อน
ภาพ: www.onsen-cafe.com
แม้บรรยากาศร้านจะไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แต่ก็เหมาะกับการพักเหนื่อยพร้อมรับประทานเค้กแฮนด์เมดรสชาติอร่อยที่จะช่วยเติมพลังระหว่างวันได้ดีเลยทีเดียว
ภาพ: nakanojo-kankou.jp
นั่งพักที่คาเฟ่เสร็จแล้วแต่อาจจะยังรู้สึกเหนื่อยอยู่บ้าง ลองเดินมาอีกราว 10 นาทีก็จะเจอศาลาสำหรับนั่งแช่เท้าออนเซ็นให้ได้พักเหนื่อยกันต่อ รอบนี้เรียกว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งแน่นอน
คาเฟ่คาชิวายะ (Kashiwaya Cafe)
Location: แขวงอากัตสึมะ (Akatsuma) จังหวัดกุมมะ
Hours: 10:00-17:00 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีนากาโนะโจ (Nakanojo Station)
Access: จากสถานีนากาโนะโจ นั่งรถบัสประมาณ 37 นาที
Website: www.onsen-cafe.com/
เขื่อนชิมากาวะ (Shimagawa Dam)
ภาพ: thegate12.com
จากคาเฟ่อาจเรียกแท็กซี่หรือเดินมายังเขื่อนชิมากาวะ (Shimagawa Dam) เป้าหมายสุดท้ายสำหรับการชมแม่น้ำชิมะ ที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อควบคุมและดูแลแม่น้ำชิมะ มีพื้นที่ลุ่มน้ำ 28.4 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นเขื่อนที่กว้างพอสมควรเลย แถมน้ำในเขื่อนเองก็สีฟ้าใสสวยงามจนรู้สึกไม่ต่างกับทะเลสาบธรรมชาติเลยก็ว่าได้
ภาพ: jp.zekkeijapan.com
ไม่ว่าจะวิวมุมสูงหรือวิวมุมต่ำทิวทัศน์ของเขื่อนนี้ก็ช่างสวยงามจนน่าหลงใหล น้ำสีฟ้าของแม่น้ำชิมะซึ่งหาชมได้ยากมากรวมกับทัศนียภาพอันสวยงามที่ถูกโอบอุ้มด้วยภูเขามากมาย สื่อให้เห็นว่าเป็นแหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ที่หากได้มาจังหวัดกุมมะจะต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งเลยก็ว่าได้
ภาพ: www.tripadvisor.jpภาพ: nakanojo-kankou.jp
สำหรับการเดินทางกลับนั้นเราสามารถขึ้นรถบัสกลับไปยังสถานีทาคาซากิได้ แต่สำหรับใครที่ยังพอมีเวลาและอยากผ่อนคลายร่างกายสักนิด อาจแวะแช่ออนเซ็นกันสักพักที่ Shima Onsen Public Baths กัน โดยมีออนเซ็นกลางแจ้งสำหรับผู้ชายและออนเซ็นแบบปิดสำหรับผู้หญิงได้แช่น้ำร้อนพร้อมกับชื่นชมธรรมชาติโดยรอบได้อย่างสบายใจ
เขื่อนชิมากาวะ (Shimagawa Dam)
Location: แขวงอากัตสึมะ (Akatsuma) จังหวัดกุมมะ
Hours: 24 ชั่วโมง
Holiday: –
Nearest Station: สถานีนากาโนะโจ (Nakanojo Station)
Access: จากสถานีนากาโนะโจ นั่งรถบัสประมาณ 30 นาที จากนั้นต่อแท็กซี่อีก 15 นาที
Website: www.damnet.or.jp/cgi-bin/binranA/All.cgi?db4=0626
พิพิธภัณฑ์ศิลปะทาคาซากิ (Takasaki Museum of Art)
ภาพ: ja.wikipedia.org
ก่อนกลับโตเกียวแวะพิพิธภัณฑ์ศิลปะทาคาซากิ (Takasaki Museum of Art) ตั้งอยู่ในตัวเมืองทาคาซากิใกล้กับสถานีรถไฟแค่ไม่กี่ก้าว เป็นอีกหนึ่งสถานที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมศิลปะและวัฒนธรรมของเมืองทาคาซากิ (Takasaki) พิพิธภัณฑ์นี้เปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 ได้รวบรวมผลงานทรงคุณค่าทางศิลปะมากมายมาจัดแสดง นอกจากนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัดนิทรรศการต่างๆ มากมายรวมถึงเวิร์คช็อป การบรรยาย และคอนเสิร์ตอีกด้วย
ภาพ: Twitter @shiropanaภาพ: Twitter @rotringer110ภาพ: bijutsutecho.com
เพลิดเพลินไปกับการชมบ้านไม้ติดสวนกออกแบบโดยสถาปนิก Antonin Raymond ซึ่งบรรยากาศของบ้านไม้และสวนนี้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลตลอดทั้งปี จึงมักมีผู้คนให้ความสนใจและเข้ามาชมอยู่บ่อยๆ
ภาพ: Twitter @harold_1234
พิพิธภัณฑ์ศิลปะทาคาซากิ (Takasaki Museum of Art)
Location: เมืองทาคาซากิ (Takasaki) จังหวัดกุมมะ
Hours: อ.-พฤ 10:00-18:00 น., ศ. 10:00-20:00 น., ส.-อา. 10:00-18:00 น.
Holiday: วันจันทร์
Price: ผู้ใหญ่ 100 เยน. นักเรียนชั้นมัธยมปลาย 80 เยน, ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือมาเป็นกลุ่มคณะมากกว่า 20 คนเข้าชมฟรี
Nearest Station: สถานีทาคาซากิ (Takasaki Station)
Access: จากสถานีทาคาซากิ เดินประมาณ 2 นาที
Website: www.city.takasaki.gunma.jp/
Trip 04 ไซตามะ :
Kawagoe Hikawa Shrine→Shingashi Riverbank Cherry Blossoms→Kashiya Yokocho→Yuno Udon→The Railway Museum→Omiya Bonsai Art Museum→SPA HERBS
เขยิบมาที่หนึ่งในจังหวัดติดกับโตเกียวอย่างไซตามะ เต็มไปด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย โดยเราจะขึ้นรถไฟสายยามาโนเตะ (Yamanote Line) ต่อด้วยสายโทบุโทโจ (Tobu-Tojo Line) มาลงที่สถานีคาวาโกเอะ (Kawagoe Station)
ศาลเจ้าคาวาโกเอะ ฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine)
ภาพ: o-sanpo.net
จุดหมายแรกของจังหวัดไซตามะคือศาลเจ้าแห่งการแต่งงานที่มีชื่อว่า ศาลเจ้าคาวาโกเอะ ฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine) นั่งรถบัสจากสถานีคาวาโกเอะเพียง 10 นาทีก็จะมาถึงบริเวณหน้าศาลเจ้า ที่นี่เป็นศาลเจ้าเก่าแก่อายุกว่า 1,500 ปี เป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนในไซตามะมาตั้งแต่อดีต จนในปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดไซตามะ
ภาพ: nihon-kekkon.com
ภายในศาลเจ้าเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าทั้งหมด 5 องค์ด้วยกัน ทั้งหมดล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน จึงเป็นศาลเจ้าที่ผู้คนมักมาขอพรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมงาน ฯลฯ
ภาพ: www.kawagoehikawa.jp
นอกจากนี้ในบรรดาเทพเจ้านั้นมีอยู่ 2 องค์ที่เป็นเทพเจ้าแห่งการแต่งงานชื่อว่า Ashinazuchi กับ Tenazuchi จึงมักจะมีหนุ่มสาว คู่รักที่มีความปราถนาที่จะมีชีวิตแต่งงานที่ดีต่างเดินทางมากราบไหว้ขอพรอยู่เป็นประจำทุกปี
ภาพ: kidsphoto.infoภาพ: www.fashion-press.net
สำหรับไฮไลท์ของศาลเจ้าที่คอยดึงดูดผู้คนให้มาสักการะก็คงเป็นทางเดินรูปอุโมงค์แห่งนี้ เพื่อให้ผู้คนที่มาสักการะได้เขียนคำอธิษฐานของตนลงในแผ่นไม้ จากนั้นนำมาแขวนไว้ตามทางเดินนี้
ยิ่งกว่านั้นหากคุณเดินทางมาในช่วงฤดูร้อนทางศาลเจ้าก็มีอีเว้นท์สุดพิเศษที่เรียกว่า Enmusubi Wind Chime เป็นเส้นทางเดินที่แขวนกระดิ่งลมเขียนคำอวยพรกว่า 2,000 ชิ้น โดยกระดิ่งลมเหล่านี้ทำขึ้นจากช่างฝีมือที่ใส่ใจในรายละเอียด จึงมีสีสันสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละชิ้น ซึ่งจำหน่ายในราคาเพียง 500 เยนเท่านั้น
ภาพ: www.kawagoehikawa.jp
สำหรับใครที่มาสักการะกับคู่รักของตัวเองทางศาลเจ้ามีจุดถ่ายรูปเช็คอินแสนจะโรแมนติกๆ ให้ด้วยนะ เป็นที่นั่งที่มีฉากหลังเป็นด้ายแดงอยู่ใกล้ๆ กับอุโมงค์แผ่นป้ายเขียนคำอวยพร มาจากความเชื่อของคนญี่ปุ่นที่ว่าชายหญิงที่เกิดมาคู่กันนั้นจะมีด้ายแดงผูกติดไว้ที่นิ้วก้อยของทั้งสองอยู่นั่นเอง
ภาพ: o-sanpo.net
มาลองเสี่ยงเซียมซีสไตล์ใหม่ที่ศาลเจ้านี้กันสักหน่อย เช็คโชคกันด้วยการตกปลากระพงแดงด้วยคันเบ็ดแบบพิเศษที่เรียกว่าโอมิคุจิ (Omikuji) เพื่อเช็คดวงของตัวเองกัน มีทั้งเรื่องความรัก และความสัมพันธ์กับคนต่างๆ แนะนำสำหรับคนที่กำลังมองหาความรักใด้ลองลุ้นดวงของตัวเองกันสักหน่อย
ภาพ: aumo.jp
ซื้อของติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง กับเครื่องรางจากศาลเจ้าที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก มีมากมายให้เลือกสรรกันได้ตามต้องการ ทั้งเพิ่มโชคในเรื่องความรัก เรื่องเรียน หรือป้องกันการเจ็บไข้ได้ป่วย ฯลฯ
ศาลเจ้าคาวาโกเอะ ฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine)
Location: เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) จังหวัดไซตามะ
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีคาวาโกเอะ (Kawagoe Station)
Access: จากสถานีคาวาโกเอะ เดินประมาณ 8 นาที จากนั้นนั่งรถบัสอีกประมาณ 8 นาที
Website: www.kawagoehikawa.jp/
ทิวต้นซากุระริมแม่น้ำชินกาชิ (Shingashi Riverbank Cherry Blossoms)
ภาพ: tabi-mag.jp
บริเวณด้านหลังของศาลเจ้ามีเส้นทางสำหรับชมความสวยงามของดอกซากุระที่เรียกกันว่าทิวต้นซากุระริมแม่น้ำชินกาชิ (Shingashi Riverbank Cherry Blossoms) หลังเต็มอิ่มกับการขอพรที่ศาลเจ้าเสร็จแล้ว ก็แวะมาเดินเล่นชมวิวกันสักนิด ยิ่งมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้วละก็ ที่นี่จะมีต้นซากุระเบ่งบานจนเกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำใสสะอาดที่มีกลีบดอกไม้ของซากุระร่วงโรย
ภาพ: note.com
หากมาเยือนในฤดูอื่น แม้ไม่มีดอกซากุระให้เชยชมแต่ความสวยงามก็ไม่ได้ลดหย่อนไปเลย
ภาพ: mapio.net
ทิวต้นซากุระริมแม่น้ำชินกาชิ (Shingashi Riverbank Cherry Blossoms)
Location: เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) จังหวัดไซตามะ
Hours: เปิด 24 ชั่วโมง
Holiday: –
Nearest Station: สถานีคาวาโกเอะ (Kawagoe Station)
Access: จากสถานีคาวาโกเอะ เดินประมาณ 8 นาที จากนั้นนั่งรถบัสอีกประมาณ 8 นาที
Website: www.kawagoe-yell.com/sightseeing/singasigawa-sakura/
คาชิยะ โยโกะโจ (Kashiya Yokocho)
ภาพ: g.kyoto-art.ac.jp
เดินจากศาลเจ้ามาสัก 15 นาทีก็จะเจอกับแหล่งขนมญี่ปุ่นโบราณที่มีชื่อว่า คาชิยะ โยโกะโจ (Kashiya Yokocho) ย่านการค้าที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีตและยังคงเหลือร่องรอยและกลิ่นอายมาจนถึงทุกวันนี้ เรียงรายไปด้วยร้านขนมกว่า 20 ร้าน โดยร้านขนมมากมายทำขนมรสชาติดั้งเดิมที่ชวนให้นึกถึงญี่ปุ่นสมัยก่อน
ภาพ: www.enjoytokyo.jp
กลิ่นหอมของขนมมากมายที่ส่งกลิ่นยั่วยวนชวนดึงดูดให้เข้าไปยังร้านขนมต่างๆ เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของผู้ใหญ่หลายคน และจะกลายเป็นสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจที่ส่งต่อมายังเด็กๆ ในปัจจุบัน
ภาพ: thegate12.com
มุมที่ควรค่าแก่การไปเก็บภาพนั่นก็คือสัญลักษณ์ของเมืองคาวาโกเอะ Toki no Kane หอระฆังที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะราว 400 ปีที่แล้ว ถึงแม้ในอดีตจะเคยถูกไฟไหม้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึง 4 ครั้ง แต่ก็ยังคงซ่อมแซมและยังใช้ได้มายังปัจจุบัน เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกของญี่ปุ่นที่ยังหลงเหลือในปัจจุบันเลยก็ว่าได้
คาชิยะ โยโกะโจ (Kashiya Yokocho)
Location: เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) จังหวัดไซตามะ
Hours: 10:00-17:00 น. *แตกต่างกันตามร้านค้า
Holiday: แตกต่างกันตามร้านค้า
Nearest Station: สถานีฮอนคาวาโกเอะ (Honkawagoe Station)
Access: จากสถานีฮอนคาวาโกเอะ เดินประมาณ 18 นาที
Website: www.koedo.or.jp/miru-asobu/115/
ยุโนะอุด้ง (Yuno Udon)
ภาพ: www.kawagoehome.com
ในละแวกเดียวกันนี้มีร้านอุด้งน่าซู้ดชื่อว่า ยุโนะอุด้ง (Yuno Udon) ที่มีเมนูประจำท้องถิ่นอย่าง Hiyashiru Udon อยู่ด้วย นี่คืออุด้งเย็นรับประทานคู่กับน้ำซุปใส่น้ำแข็ง ซึ่งจะใส่แตงกวาหั่น น้ำตาล และเมล็ดงาลงในซุปมิโซะ มักจะทานคู่กับผักต่างๆ จึงเป็นเมนูที่กินง่ายและมีคุณทางอาหารมากเพียงพอ
ยุโนะอุด้ง (Yuno Udon)
Location: เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) จังหวัดไซตามะ
Hours: ศ.-พ. 11:00-17:00 น.
Holiday: วันพฤหัสบดี
Nearest Station: สถานีฮอนคาวาโกเอะ (Honkawagoe Station)
Access: จากสถานีฮอนคาวาโกเอะ เดินประมาณ 18 นาที
Website: www.udonsearch.com/yuno/
พิพิธภัณฑ์รถไฟ (The Railway Museum)
ภาพ: www.flickr.com
หลังออกจากย่านขนม กลับมาที่สถานีคาวาโกเอะและนั่งรถไฟมาที่สถานีโอมิยะ (Omiya Station) จากนั้นเดินหรือนั่งรถไฟ New Shuttle ต่อมาลงที่สถานีเท็ตสึโด-ฮาคุบุตสึคัง (Tetsudo-Hakubutsukan Station) ซึ่งติดกับพิพิธภัณฑ์รถไฟ (The Railway Museum) นี่คือสถานที่สำหรับเรียนรู้บทบาทของรถไฟในญี่ปุ่นให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาการของรถไฟตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีล้วนเป็นรถไฟที่ผ่านการใช้งานจริงมาแล้วทั้งสิ้น
ภาพ: kids.rurubu.jp
นอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องราวและภูมิหลังของรถไฟแต่ละยุคสมัย ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการและกลไลของรถไฟฟ้ารุ่นล่าสุด รวมถึงรถไฟที่จะออกมาในอนาคตอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมได้ในราคา 1,330 เยน
ภาพ: kids.rurubu.jp
พิพิธภัณฑ์รถไฟ (The Railway Museum)
Location: เมืองไซตามะ (Saitama) จังหวัดไซตามะ
Hours: พ.-จ. 10:00-17:00 น.
Holiday: วันอังคาร
Price: ผู้ใหญ่ 1,330 เยน, เด็ก 620 เยน
Nearest Station: สถานีเท็ตสึโด-ฮาคุบุตสึคัง (Tetsudo-Hakubutsukan Station)
Access: จากสถานีเท็ตสึโด-ฮาคุบุตสึคัง เดินประมาณ 1 นาที
Website: www.railway-museum.jp/
พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซ โอมิยะ (Omiya Bonsai Art Museum)
ภาพ: Facebook OmiyaBonsaiArtMuseum
นั่งแท็กซี่จากพิพิธภัณฑ์รถไฟมาราว 8 นาทีก็จะพบกับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซ โอมิยะ (Omiya Bonsai Art Museum) ที่นำเสนอความสวยงาม รวมถึงประวัติและเรื่องราวต่างๆ ของบอนไซให้ผู้คนทั่วไปได้รู้จักมากยิ่งขึ้น บอนไซอยู่คู่กับญี่ปุ่นมาอย่างช้านาน ถ้าคนที่ชอบบ้านแนวญี่ปุ่นก็คงรู้จักกันอยู่บ้างแน่นอน เพราะนี่เป็นต้นไม้สำหรับแต่งในสวนหรือในห้องรักแขกที่สื่อเสน่ห์ของญี่ปุ่นออกมาได้ดีเลยทีเดียว
ภาพ: Facebook OmiyaBonsaiArtMuseumภาพ: Facebook OmiyaBonsaiArtMuseum
เดิมทีบอนไซเป็นต้นไม้ในกระถางที่มีถิ่นกำเนิดจากจีน ซึ่งญี่ปุ่นก็ได้รับวัฒนธรรมนี้มานั่นเอง ซึ่งในยุคปัจจุบันก็มีการตกแต่งบ้านหรือสวนด้วยบอนเช่นกัน ที่นี่จึงมีต้นบอนไซมากมายที่ประดับในสวน หรือภายในห้องสไตล์ญี่ปุ่นเพื่อให้ทุกคนได้เดินชมเสน่ห์ของต้นไม้ชนิดนี้กันได้อย่างเต็มอิ่มนั่นเอง
พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซ โอมิยะ (Omiya Bonsai Art Museum)
Location: เมืองไซตามะ (Saitama) จังหวัดไซตามะ
Hours: มีนาคมถึงตุลาคม ศ.-พ. 9:00-16:30 น., พฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ศ.-พ. 9:00-16:30 น.
Holiday: วันพฤหัสบดี
Price: 310 เยน
Nearest Station: สถานีโทโระ (Toro Station)
Access: จากสถานีโทโระ เดินประมาณ 5 นาที
Website: www.bonsai-art-museum.jp/ja/
สปาเฮิร์บส์ (SPA HERBS)
ภาพ: asia-jyuhan.jpภาพ: Facebook 美楽温泉 spa-herbs
เดินทางเหนื่อยมาทั้งวันก่อนกลับเรามาแวะแช่ออนเซ็นที่สปาเฮิร์บส์ (SPA HERBS) ออนเซ็นนาโนที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นที่เก็บค่าบริการเพียง 1,045 เยน ผ่อนคลาย ปลดปล่อยความเหนื่อยก่อนเดินทางกลับโตเกียว ด้วยอ่างอาบน้ำแบบเปิดโล่งให้ผ่อนคลายในออนเซ็นขณะชมสวนไปด้วย บรรยากาศดีเหมือนอยู่ในรีสอร์ทติดธรรมชาติ
สปาเฮิร์บส์ (SPA HERBS)
Location: เมืองไซตามะ (Saitama) จังหวัดไซตามะ
Hours: 9:00-1:00 น.
Holiday: ไม่มี
Price: ผู้ใหญ่ 1,045 เยน, เด็ก 550 เยน (รวมภาษี)
Nearest Station: สถานีโทโระ (Toro Station)
Access: จากสถานีโทโระ เดินประมาณ 13 นาที
Website: www.spa-herbs.jp/
ด้วยความที่อยู่ ใกล้โตเกียว การเดินทางกลับจึงแสนง่ายดาย จากสถานีโทโระสามารถนั่งรถไฟสายอุเอโนะ-โตเกียว (Ueno-Tokyo Line) กลับสถานีโตเกียวได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ โดยใช้เวลาเดินทางเพียงราว 38 นาทีเท่านั้น
Trip 05 ชิบะ :
Kamogawa Sea World→Hojo Beach→Tomaya→Tateyama Sunset Pier
สำหรับใครที่ชื่นชอบทะเลเป็นพิเศษอีกหนึ่งจังหวัด ใกล้โตเกียว อย่างชิบะจะไม่ทำให้ผิดหวัง โดยขึ้นรถไฟสายวากาชิโอะ (Wakashio Line) มาลงที่สถานีอาวะ-คาโมกาวะ (Awa-Kamogawa Station) ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง 10 นาที
คาโมกาวะซีเวิลด์ (Kamogawa Sea World)
ภาพ: Facebook kamosea
นั่งรถบัสรับ-ส่งจากสถานีราว 10 นาที ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในเมืองคาโมกาวะ (Kamogawa) ที่มีชื่อว่า คาโมกาวะซีเวิลด์ (Kamogawa Sea World) สถานที่ที่นำเสนอเรื่องราวและความน่ารักของสัตว์น้ำจำนวนมากจากทั้งแม่น้ำและทะเลกว่า 11,000 ตัวจาก 800 สายพันธุ์ เพื่อให้ผู้คนได้สัมผัสกับประสบการณ์โลกใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด
ภาพ: Facebook kamosea
ภายในพื้นที่กว้างขวางนี้เต็มไปด้วยสเตเดียมสำหรับโชว์ความสามารถของสัตว์น้ำต่างๆ มากมายให้ผู้เข้าชมได้มาดูการแสดงโชว์อันน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเริ่มที่การชมโชว์ของวาฬเพชฌฆาต ราชาแห่งท้องทะเล พร้อมด้วยฉากหลังของมหาสมุทรแปซิฟิกอันงดงามบริเวณโอเชี่ยนสเตเดียม
ภาพ: Facebook kamoseaภาพ: Facebook kamosea
นอกจากนี้ก็ยังมีโชว์ของสัตว์น้ำชนิดอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโลมาปากขวดที่มากระโดดโชว์ความน่ารัก กับโลมาขาวแปซิฟิกที่ซุกซนว่องไวบริเวณเซิร์ฟสเตเดียม ในสเตเดียมใกล้ๆ กันก็มีโชว์สุดน่ารักของครอบครัวสิงโตทะเลที่จะมามอบความสดใสและเสียงหัวเราะให้ผู้ชมได้สนุกกันที่รอคกี้สเตเดียม และยังมีโชว์ของวาฬเบลูก้าสีขาวน่ารักในบริเวณโรงละครทางทะเลอีกด้วย ซึ่งการแสดงโชว์ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะจัดแสดงคนละช่วงเวลากัน ถ้าต้องการดูให้ครบทั้งหมดขอแนะนำให้เช็ครอบของแต่ละโชว์
ภาพ: Facebook kamoseaภาพ: Facebook kamoseaภาพ: Facebook kamosea
ภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ล้วนเป็นสถานที่แห่งการเพลิดเพลินไปกับการเรียนรู้ระบบนิเวศของสัตว์น้ำชนิดต่างๆ ด้วยภาพ 3 มิติบนจอขนาดใหญ่ที่สมจริงมากๆ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์สัมผัสโลกใต้ทะเลของปลาหลายชนิดรวมถึงแมงกะพรุนหลายสายพันธุ์ราวกับอยู่ในโลกใต้ทะเล
ภาพ: Facebook kamosea
นิทรรศการจำลองสภาพแวดล้อมของทะเลทางใต้ในกระแสน้ำคุโรชิโอะ มหาสมุทรแปซิฟิก เป็นปะการังเขตร้อนที่มีความลึกกว่า 7.5 ม.
ภาพ: Facebook kamoseaภาพ: Facebook kamosea
หากท้องเริ่มส่งเสียงร้อง ขอแนะนำ Restaurant Ocean ห้องอาหารใต้ทะเลแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่จะพาคุณดื่มด่ำกับอาหารมื้อสุดพิเศษขณะชมวาฬเพชฌฆาตแหวกว่ายอยู่ในน้ำให้ได้เห็นกันแบบเต็มตาผ่านกระจกบานใหญ่ ซึ่งมาพร้อมเมนูตามฤดูกาลอย่าง Shachi Rice ข้าวหน้าเนื้อราดซอสฮายาชิประจำฤดูใบไม้ร่วงในราคา 1,330 เยน
คาโมกาวะซีเวิลด์ (Kamogawa Sea World)
Location: เมืองคาโมกาวะ (Kamogawa) จังหวัดชิบะ
Hours: 9:00-16:00 น.
Holiday: –
Price: ผู้ใหญ่ 3,000 เยน, เด็ก 1,800 เยน
Nearest Station:สถานีอาวะ-คาโมกาวะ (Awa-Kamogawa Station)
Access: จากสถานีอาวะ-คาโมกาวะ นั่งรถบัสประมาณ 10 นาที
Website: www.kamogawa-seaworld.jp/
หาดโฮโจ (Hojo Beach)
ภาพ: tateyamacity.com
นั่งรถไฟสายอุจิโบะ (Uchibo Line) มาที่สถานีทาเทยามะ (Tateyama) ราว 42 นาทีก็จะถึงหาดโฮโจ (Hojo Beach) หนึ่งในสถานที่ที่มีวิวทะเลสวยงามมาก บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ น้ำค่อนข้างตื้น อีกทั้งคลื่นทะเลไม่แรงมากนัก จึงเหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจเป็นที่สุดโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน ในทุกปีมีการจัดอีเว้นท์ใหญ่ๆ อย่างเทศกาลดอกไม้ไฟ เป็นต้น
ภาพ: commons.wikimedia.orgภาพ: tateyamacity.comภาพ: www.jalan.net
อีกหนึ่งเหตุผลที่ชายหาดโฮโจค่อนข้างเป็นที่นิยมก็คือทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ทั้งๆ ที่อยู่ห่างไกลมากแต่ในวันที่อากาศแจ่มใสช่วงฤดูร้อนก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้นั่นเอง และที่นี่ก็ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย มีบริการเช่าเรือ เช่าบอลชายหาด หรือเช่าจักรยานสำหรับปั่นชมวิวทั่วรอบชายหาด เรียกว่ามีความสนุกให้เต็มอิ่มทุกรูปแบบเลยก็ว่าได้
หาดโฮโจ (Hojo Beach)
Location: เมืองทาเทยามะ (Tateyama) จังหวัดชิบะ
Hours: เปิด 24 ชั่วโมง
Nearest Station:สถานีทาเทยามะ (Tateyama Station)
Access: จากสถานีทาเทยามะ เดินประมาณ 14 นาที
โทมายะ (Tomaya)
ภาพ: tomaya.jp
ตากแดดตากลมทะเลมาทั้งวัน ตกเย็นแล้วก็แวะมารับประทานอาหารขึ้นชื่อประจำจังหวัดกับเมนูนาเมโร หรือปลาย่าง ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นที่สืบทอดกันทั่วชายฝั่งคาบสมุทรโบโซ (Boso Peninsula) ใช้ปลาซัมมะ ปลาโอ และปลาหมึกแทนการใช้ปลาทู จากนั้นราดด้วยมิโซะจึงมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์
ภาพ: tomaya.jp
โทมายะ (Tomaya)
Location: เมืองทาเทยามะ (Tateyama) จังหวัดชิบะ
Hours: ศ.-พ. 11:00-21:00 น.
Holiday: วันพฤหัสบดี (ยกเว้นตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์), วันพุธในสัปดาห์ที่ 1 กับ 3 ของเดือน
Nearest Station:สถานีทาเทยามะ (Tateyama Station)
Access: จากสถานีทาเทยามะ เดินประมาณ 5 นาที
Website: www.tomaya.jp/
สะพานปลาชมพระอาทิตย์ตกดินที่ทาเทยามะ (Tateyama Sunset Pier)
ภาพ: Twitter @chiba_umi1
และแล้วก็ถึงช่วงเวลาไฮไลท์ของชายหาดโฮโจที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 100 จุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะบริเวณ สะพานปลาชมพระอาทิตย์ตกดินที่ทาเทยามะ (Tateyama Sunset Pier) ยิ่งเหมาะมากกับการรอชมอาทิตย์ลับขอบฟ้า ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมและต้นเดือนสิงหาคมเมื่ออากาศเป็นใจก็จะเห็นภูเขาไฟฟูจิย้อมด้วยแสงสีแดงที่ถูกเรียกว่า “ไดมอนด์ฟูจิ” อีกด้วย
ภาพ: landscape-photo.seesaa.netภาพ: tokyo-bay.biz
สะพานปลาชมพระอาทิตย์ตกดินที่ทาเทยามะ (Tateyama Sunset Pier)
Location: เมืองทาเทยามะ (Tateyama) จังหวัดชิบะ
Hours: เปิด 24 ชั่วโมง
Nearest Station:สถานีทาเทยามะ (Tateyama Station)
Access: จากสถานีทาเทยามะ เดินประมาณ 14 นาที
Website: www.bosotown.com/archives/2016
สำหรับวิธีกลับโตเกียวที่แนะนำคือนั่ง JR บัสที่ด้านหน้าสถานีทาเทยามะ โดยจะตรงไปที่สถานีโตเกียวเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที
Trip 06 คานางาวะ :
Owakudani→Lake Ashinoko→Hakone Gora Park→The Hakone Open-Air Museum→Yunessun→Odawara Castle→Odawara Uogashi-den
วันเดย์ทริป ใกล้โตเกียว จังหวัดสุดท้ายอยู่ทางทิศตะวันตกของโตเกียว นั่นก็คือคานางาวะ โดยขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโดซันโย (Tokaido-Sanyo Shinkansen) มาลงที่สถานีโอดะวาระ (Odawara Station) จากนั้นเปลี่ยนเป็นสายฮาโกเน่โทซัน (Hakonetozan Line) มาลงที่สถานีโกระ (Gora Station)
ภาพ: tabi-mag.jpภาพ: zh.wikipedia.orgภาพ: www.pixpot.net
จากสถานีโกระนั่ง Hakone Tozan Cable Car ต่อด้วย Hakone Ropeway ประมาณ 20 นาทีมาลงที่สถานีโอวาคุดานิ (Owakudani Station) ระหว่างทางที่ขึ้นไปก็จะพบกับความงามของธรรมชาติที่คอยต้อนรับเราไปตลอดทั้งเส้นทาง หากเดินทางมาในฤดูใบไม้ร่วงก็จะเห็นต้นไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามตระการตาได้ทั่วทั้งภูเขา
โอวาคุดานิ (Owakudani)
ภาพ: wantubizhi.com
โอวาคุดานิ (Owakudani) ภูเขาไฟลูกใหญ่ที่มีความสูงจากพื้นดินประมาณ 1,050 เมตร ทุกวันจะมีไอน้ำสีขาวพวยพุ่งออกมาจากทั่วทั้งภูเขา ซึ่งเคยเกิดการปะทุเมื่อ 3,000 ปีก่อน จนเป็นที่รู้จักในนาม “หุบเขานรก” นั่งเอง แต่ปัจจุบันที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามที่มีชื่อเสียงของฮาโกเน่ (Hakone)
ภาพ: Twitter @layla_MMVภาพ: nickhow.tw
พอขึ้นมาถึงด้านบนจะพบกับจุดถ่ายรูปเช็คอินด้วยกัน 2 จุดระหว่างป้ายโอวาคุดานิที่มีฉากหลังเป็นทิวทัศน์ภูเขาไฟที่มีควันพวยพุ่งออกมาตลอดเวลา ซึ่งวิวที่ได้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดู ส่วนอีกจุดคือไข่ดำก้อนใหญ่ที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ประจำที่แห่งนี้ เพราะไข่ต้มที่นี่ใช้น้ำร้อนออนเซ็นในการต้มไข่ เปลือกไข่จึงมีสีดำแล้วกลายเป็นของชื่อดังสำหรับที่นี่ไปในที่สุด
ภาพ: weathernews.jp
“ไข่ดำ” ที่ว่านี้คือไข่ต้มที่มีเปลือกเป็นสีดำเนื่องจากนำไข่มาต้มด้วยน้ำพุร้อนของโอวาคุดานิ แร่ธาตุต่างๆ นั้นเกาะติดกับเปลือกไข่ขณะต้ม เปลืองไข่จึงกลายเป็นสีดำอย่างที่เห็น และว่ากันว่าหากได้รับประทานไข่ดำนี้จะมีอายุยืนยาวไปอีก 7 ปี นับเป็นของฝากยอดนิยม
ภาพ: wantubizhi.com
เดินชมทิวทัศน์ของภูเขาไฟโอวาดาคุนิอันเป็นเอกลักษณ์อย่างใกล้ชิดอีกด้วย ซึ่งมีเส้นทางสำหรับเดินชมได้อย่างสบายใจ แนะนำให้มาในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูใบไม้ร่วงที่มองเห็นธรรมชาติได้อย่างสวยงาม
★ อ่านรีวิว Owakudani ฉบับเต็มที่ www.kiji.life/owakudani-hakone/
โอวาคุดานิ (Owakudani)
Location: แขวงอาชิการะชิโมะ (Ashigarashimo) จังหวัดคานางาวะ
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีโกระ (Gora Station)
Access: จากสถานีโกระ นั่งรถไฟฟ้าประมาณ 10 นาที และต่อด้วยกระเช้าลอยฟ้าอีก 10 นาที
Website: www.owakudani.com/
ทะเลสาบอาชิ (Lake Ashinoko)
ภาพ: www.flickr.com
หากนั่งกระเช้าต่อมาอีกสักนิดก็จะมาโผล่ที่ทะเลสาบอาชิ (Lake Ashinoko) ซึ่งเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟในฮาโกเน่ ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 724 เมตร น้ำใสบริสุทธิ์ที่มองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก ซึ่งน้ำในทะเลสาบอาชิจะไหลออกไปยังฝั่งจังหวัดชิซูโอกะ
ภาพ: www.flickr.comภาพ: zh-tw.zekkeijapan.com
ถ้ามาโอวาคุดานิแล้วมาไม่ถึงที่นี่ก็คงพลาดอย่างยิ่ง เพราะบริเวณรอบทะเลสาบอาชินั้นล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เป็นทำเลชมวิวที่ยอดเยี่ยมของฮาโกเน่ แถมยังอยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิมาก จึงมองเห็นได้ชัดแจ๋วตลอดทั้งปี
ทะเลสาบอาชิ (Lake Ashinoko)
Location: แขวงอาชิการะชิโมะ (Ashigarashimo) จังหวัดคานางาวะ
Hours: เปิด 24 ชั่วโมง
Holiday: –
Nearest Station: สถานีโกระ (Gora Station)
Access: จากสถานีโกระ นั่งรถไฟฟ้าประมาณ 10 นาที และต่อด้วยกระเช้าลอยฟ้าอีก 20 นาที
Website: www.hakone-ashinoko.net/
สวนฮาโกเน่ โกระ (Hakone Gora Park)
กลับมาที่ข้างๆ สถานีโกระกับสวนฮาโกเน่ โกระ (Hakone Gora Park) เป็นสวนที่เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนหลังจากขึ้นไปชมทิวทัศน์มุมสูงของฮาโกน่ามาแล้วเรียบร้อย ด้วยพื้นที่มากกว่า 26,500 ตารางเมตร มีพืชพรรณและดอกไม้ต่างๆ ให้ชื่นชมตลอดทั้งสี่ฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นจะสวยงามเป็นที่สุด ให้ทุกคนได้เดินสูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้มากมายหรือนั่งพักในสวนกันก่อนจะเดินทางต่อ
สวนฮาโกเน่ โกระ (Hakone Gora Park)
Location: แขวงอาชิการะชิโมะ (Ashigarashimo) จังหวัดคานางาวะ
Hours:9:00-17:00 น.
Holiday: –
Price: 550 เยน (รวมภาษี)
Nearest Station: สถานีโกระ (Gora Station)
Access: จากสถานีโกระ เดินประมาณ 5 นาที
Website: www.hakone-tozan.co.jp/gorapark/
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่ (The Hakone Open-Air Museum)
ภาพ: prtimes.jp
นั่งรถไฟเพียงสถานีเดียวมาลงที่สถานีโจโคคุโนโมริ (Chokokunomori Station) ก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่ (The Hakone Open-Air Museum) สถานที่จัดแสดงผลงานประติมากรรมสมัยใหม่และร่วมสมัยกว่า 120 ชิ้น บนพื้นที่สวนโล่งแจ้งขนาดใหญ่กว่า 70,000 ตร.ม. ซึ่งมองเห็นภูเขาฮาโกเน่ได้ เป็นสถานที่เดินเล่นในสวนธรรมชาติพร้อมๆ ไปกับชมงานศิลปะไปในตัว
ภาพ: prtimes.jp
นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมสุดอาร์ตที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจกับความงามที่ไม่อาจบรรยายได้ กับผลงาน Symphony หอคอยสูง 18 เมตรที่เพียงย่างเท้าเข้ามาก็พบแสงสะท้อนของแผ่นกระจกหลากสีสันที่สวยงามจนราวกับหลุดมาในโลกแห่งศิลปะ มีบันไดสำหรับเดินขึ้นไปชมความงามจากมุมสูงได้อีกด้วยและยังมีผลงานอื่นๆ อีกมากมายให้ได้ชมกัน
ภาพ: www.hakone-oam.or.jpภาพ: Facebook chokokunomoriภาพ: Facebook chokokunomori
★ อ่านรีวิว The Hakone Open-Air Museum ฉบับเต็มที่ www.kiji.life/the-hakone-open-air-museum/
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่ (The Hakone Open-Air Museum)
Location: แขวงอาชิการะชิโมะ (Ashigarashimo) จังหวัดคานางาวะ
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Price: ผู้ใหญ่ 1,600 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมปลาย 1,200 เยน, นักเรียนชั้นประถม 800 เยน
Nearest Station: สถานีโจโคคุโนโมริ (Chokokunomori Station)
Access: จากสถานีโจโคคุโนโมริ เดินประมาณ 2 นาที
Website: www.hakone-oam.or.jp/
ยุเนสซัน (Yunessun)
ภาพ: Facebook yunessun
สำหรับแหล่งแช่ออนเซ็นธรรมชาติในฮาโกเน่ก็ต้อง ยุเนสซัน (Yunessun) โรงอาบน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่ควรพลาด หนีความวุ่นวายในเมืองมานอนแช่ออนเซ็นเพลินๆ พร้อมกับชมทิวทัศน์ของฮาโกเน่อย่างสบายใจ ก็คงไม่มีที่ไหนเหมาะเท่าที่นี่อีกแล้ว เดินจากพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่ราวๆ 25 นาที หรือจะนั่งแท็กซี่มาก็ได้
ภาพ: Facebook yunessun
ด้านในมีออนเซ็นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นออนเซ็นกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่เปิดโล่งให้สัมผัสกับวิวธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม รวมถึงบ่อออนเซ็นคอลลาเจนสำหรับสุภาพสตรีที่จะช่วยดูแลผิวพรรณให้สวยใส เปล่งปลั่ง นอกจากนี้ยังมีห้องอาบน้ำในร่มด้วยเช่นกัน
ภาพ: Facebook yunessunภาพ: Facebook yunessun
ยุเนสซัน (Yunessun)
Location: แขวงอาชิการะชิโมะ (Ashigarashimo) จังหวัดคานางาวะ
Hours: 10:00-19:00 น.
Holiday: –
Price: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, เด็ก 1,000 เยน
Nearest Station: สถานีโควะคิดานิ (Kowakidani Station)
Access: จากสถานีโควะคิดานิ นั่งรถบัสประมาณ 4 นาที
Website: www.yunessun.com/
ปราสาทโอดาวาระ (Odawara Castle)
ภาพ: Twitter @J_Flybird
นั่งรถไฟไปยังที่สุดท้ายของทริปนี้กันที่สถานีโอดาวาระ (Odawara) ซึ่งอยู่ใกล้กับปราสาทโอดาวาระ (Odawara Castle) ปราสาทเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 และในปัจจุบันได้ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เพื่ออนุรักษ์ให้คงอยู่ต่อไปถึงรุ่นลูกหลาน
ตัวปราสาทมีทางขึ้นสำหรับเข้าไปชมยังด้านในปราสาท ซึ่งแต่ละชั้นก็มีการจัดนิทรรศการแนะนำโครงสร้าง บทบาท และประวัติศาสตร์ต่างๆ ของปราสาทที่เคยเป็นปราสาทที่คอยปกป้องเมืองเอโดะในสมัยเอโดะ นอกจากปราสาทแล้ว รอบๆ ก็มีอาคารสำหรับแนะนำมุมต่างๆ ภายในปราสาทอีกเช่นกัน รวมถึงมีการจัดแสดงชุดเกราะและดาบซามูไรอีกด้วย
ภาพ: Twitter @J_Flybird ภาพ: Twitter @Keikie
บริเวณสวนในพื้นที่ปราสาทยังมีจุดชมดอกไม้ที่ไม่ควรพลาด ดอกฟูจิหรือดอกวิสทีเรียสีม่วงจะออกดอกในทุกฤดูใบไม้ผลิ และยังมีทิวทัศน์ริมคลองที่เต็มไปด้วยพรรณไม้สวยๆ ถึงแม้จะมาในช่วงฤดูอื่นที่ไม่ใช่ฤดูใบไม้ผลิก็ยังมีดอกไม้อีกหลายชนิดให้ชมกันอยู่เสมอ
ปราสาทโอดาวาระ (Odawara Castle)
Location: เมืองโอดะวาระ (Odawara) จังหวัดคานางาวะ
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Price: ผู้ใหญ่ 510 เยน, นักเรียนชั้นประถมถึงมัธยมต้น 200 เยน
Nearest Station: สถานีโอดาวาระ (Odawara Station)
Access: จากสถานีโอดาวาระ เดินประมาณ 4 นาที
Website: www.odawaracastle.com/
โอดาวาระ อุโอกาชิ-เด็น (Odawara Uogashi-den)
ภาพ: Facebook odawara.den
ปิดท้ายทริป ใกล้โตเกียว สุดท้ายด้วยของอร่อยประจำเมือง ติดกับสถานีโอดาวาระมีร้านโอดาวาระ อุโอกาชิ-เด็น (Odawara Uogashi-den) ที่เสิร์ฟเมนูข้าวหน้าปลาชิราสึ (Shirasu Don) อาหารประจำจังหวัดคานางาวะซึ่งมีการประมงปลาชิราสึได้เป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี ปลาสีขาวตัวเล็กๆ มากมายนี้จึงถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักของข้าวหน้าปลาชิราสึที่นิยมไปทั่วทั้งญี่ปุ่น ราคาอยู่ที่ 1,680 เยน
ภาพ: Twitter @JSFOOD
โอดาวาระ อุโอกาชิ-เด็น (Odawara Uogashi-den)
Location: เมืองโอดะวาระ (Odawara) จังหวัดคานางาวะ
Hours: 11:00-20:30 น.
Holiday: –
Nearest Station: สถานีโอดาวาระ (Odawara Station)
Access: จากสถานีโอดาวาระ เดินประมาณ 1 นาที
Website: www.uogashi-den.com/
จากสถานีโอดาวาระสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโดะซันโยกลับมาที่สถานีโตเกียวได้ในระยะเวลาราว 35 นาทีเท่านั้น ด้วยระยะทางที่เดินทางไม่นาน ร่างกายไม่เหนื่อยมาก คานางาวะจึงเป็นอีกจังหวัด ใกล้โตเกียว ที่เหมาะแก่การเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับมากๆ